พี่หรอย
อึ้ง! เด็กญี่ปุ่นสุดฮิต เลียลูกตา เผยเป็นการแสดงความรัก
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก pileup, japancrush
ตีแผ่เทรนด์พิลึก เลียลูกตาที่กำลังระบาดในหมู่เด็กนักเรียนญี่ปุ่น จนให้เด็กหลายคนต้องแปะผ้าปิดตามาโรงเรียนเพราะเป็นโรคตาแดง
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2556 เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ รายงานว่า เด็กวัยรุ่นญี่ปุ่นสุดคะนอง ผุดเทรนด์เลียลูกตาเพื่อแสดงความรัก แถมฮิตกันอย่างแพร่หลาย จนเป็นตาแดงกันเกลื่อน เพราะติดเชื้อจากลิ้น
รายงานระบุว่า เทรนด์การเลียลูกตานี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในญี่ปุ่นขณะนี้ หลังคุณครูชั้นประถมปลายรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความเล่าเรื่องราวที่เธอได้บังเอิญพบลูกศิษย์ชั้นประถม 6 สองคนเลียลูกตากัน ลงในบล็อกของตัวเอง และข้อความดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกไปอย่างรวดเร็วจนเป็นที่ตื่นตระหนกกันไม่น้อย ทั้งยังสอดคล้องกับปรากฏการณ์ที่มักเห็นเด็กนักเรียนที่อายุอยู่ในวัยแรกรุ่น มีผ้าปิดตาแปะไว้ที่ตาข้างใดข้างหนึ่ง ราวกับเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังฮิตในหมู่ของพวกเขา
จากการสอบถามนักเรียนทั้งสองคน จึงได้พบว่าทั้งคู่มองว่ามันเป็นวิธีแสดงความรักที่ลึกซึ้งมากกว่าการจูบ และเมื่อเธอได้กลับไปถามนักเรียนที่เป็นเพื่อนร่วมห้องของทั้งสองคน ก็ได้พบว่า 1 ใน 3 ของนักเรียนทั้งชั้นต่างเคยทำแบบนี้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเลียหรือถูกเลียก็ตาม นับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่น่าตระหนกตกใจเป็นอย่างยิ่ง โดยพฤติกรรมเลียลูกตา (eyeball licking หรือ oculolinctus หรือ worming) จัดว่าเป็นพฤติกรรมกามวิปริตรูปแบบหนึ่ง มันเป็นฉากที่พบเห็นได้ในหนังโป๊ การ์ตูนลามก หรือการ์ตูนที่มีเนื้อหาทางเพศรุนแรงบางเรื่อง
ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ฮัฟฟิงตันโพสต์ได้ติดตามปรากฏการณ์สุดแขยงที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น และก็ได้พบว่าแม้แต่ในอเมริกาก็มีคนที่ชื่นชอบการเลียและถูกเลียลูกตาด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น อิเล็กทริก้า อีเนอร์เจียส นักศึกษาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมวัย 29 ปี ที่ยอมรับเธอชื่นชอบการเลียลูกตา โดยการถูกเลียทำให้เธอรู้สึกเกิดอารมณ์ และคิดว่ามันเป็นการแสดงความรักใคร่ใกล้ชิดระหว่างคนสองคนวิธีหนึ่ง
แน่นอนว่าพฤติกรรมเช่นนี้ไม่ส่งผลดีต่อดวงตา ดอกเตอร์เดวิด แกรเน็ต นักจักษุวิทยาจากซานดิเอโก้ กล่าวว่า กระจกตาอาจเป็นรอยหรือได้รับบาดเจ็บเนื่องจากแรงกดของสันลิ้น หรืออาจปวดแสบปวดจากรสชาติของอาหารที่เปรี้ยวหรือเผ็ดร้อนที่ยังค้างอยู่ในปาก ขณะที่นักจักษุวิทยาอีกรายจากแคลิฟอร์เนีย ดอกเตอร์เดวิด นาจาฟี่ บอกว่า หากฝ่ายหนึ่งมีเชื้อโรคเริมแฝงอยู่ คนที่ถูกเลียก็สามารถติดเชื้อเริมที่ลูกตาได้ด้วย นอกจากนี้เชื้อแบคทีเรียในช่องปากยังมีส่วนเป็นอย่างมากที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อที่เยื่อหุ้มลูกตาและเยื่อบุเปลือกตาด้านใน อันเป็นสาเหตุของโรคตาแดงนั่นเอง
ไม่รู้ว่าพฤติกรรมสุดอี๋และน่าขยาดแขยงแบบนี้กลายเป็นเทรนด์ฮิตขึ้นมาได้อย่างไร หวังว่าคงไม่มีใครไปลองทำตามกันหรอกนะ ต้องเอาลูกตาไปเปียกน้ำลายแถมยังเสี่ยงตาแดงอีกต่างหาก ไม่เห็นจะดีตรงไหนเลยจริง ๆ ค่ะ
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM01URTBOelEzT0E9PQ==§ionid=