คือ ไอ้ลิงตัวสุดท้ายนี่ ตัวมันเป็นลิงฮะ แต่ปากมันเป็นหมา....
อีกอย่าง ลิงตัวนี้ เคยอยู่ในห้ามนุษย์ไฟฟ้านั้นก็จริง แต่ไม่ได้อยู่ในแบ็คโบน.... มันอยู่ในระบบไร้สาย
เพียงแต่ความสาระแนของมัน ทำให้มันรู้ทุกเรื่องในแบ็คโบน
ความขี้เกียจอยู่จำเจในสำนักงาน ทำให้มันไปอบรมนู่นนี่นั่นมาตลอด จนได้ใบเซอร์ฯมาจากหลายค่าย
แต่เพราะความรู้อย่างเป็ด คือรู้แมร่งไปหมดทุกเรื่อง แต่เอาดีไม่ได้สักเรื่อง ก็เลยถูกแขวนอยู่นอกชายคาของแบ็คโบนมาตลอด
มีอีกเยอะครับหลายองค์กรที่เอาคนรุ่นใหม่มาเป็นผู้บริหาร เด็กพวกนี้หาได้มีแก่นแกนอะไรไม่
บางคนสร้างชื่อเสียงจากการไปชุบตัวในองค์กรใหญ่ๆเท่านั้น พอเอามาเป็นข้ออ้างเข้าหน่อย มาบอกว่า
ตัวเองเป็นนักบริหารมืออาชีพ พอองค์กรไหนรับเข้าทำงานก็บริหารแบบจับแพะชนแกะ พอองค์กรทำท่าไปไม่ไหว
ใกล้เจ๋งพวกนี้ก็นกรู้ลาออกไป ทิ้งความฉิบหายไว้เบื้อหลัง บินปร๋อ ไปแจ๋เสนอหน้าที่ใหม่อีก
พวกนี้แหละที่ชอบใช้คำว่าผ่าตัดองค์กร คำว่า ผ่าตัดของมันก็คือ เขี่ยคนเก่าๆ ที่มีความสามารถมากออกไป
เพราะคนพวกนี้รู้ดี และมันก็รู้ว่าคนพวกนี้จะเป็นก้างขวางคอมัน ทีนี้พอคนมีความสามารถออกไป องค์กรก็อ่อนแอลง
ทีนี้มัน แสดงฝีมือหน่อยๆ ด้วยการเอาสิ่งที่มันเรียกกันเองว่า อินโนเวชั่นใหม่ๆ เข้ามาแล้วเที่ยวพรีเซนท์บอกใครต่อใครว่า
นี่ไง เป็นฝีมือการผ่าตัดองค์กรของมันช่วยปรับปรุงระบบเก่าๆให้ดีขึ้น
ดีขึ้นกะผีอะไร ของเก่ามันดีอยู่แล้ว แค่มันมาทำให้แย่ลง แล้วตัวเองมาทำใหม่ ดีเท่าเก่าหรือเปล่าก็ไม่รู้ (ไม่งั้นใครจะเห็นว่ามันมีฝีมือเล่า)
ทีนี้มันก็ลาออกทิ้งขี้กองใหญ่ไว้กับองค์กร ใครมาทีหลังก็เละ ถ้าใครถามมันก็เอาหน้าอีกว่า เห็นไม๊พอมืออาชีพอย่างมันไม่อยู่องค์กรก็เละเทะลง
ทั้งที่ไอ้หอกนี่เองแหละที่ทำเละ
ทีนี้คนใหม่ก็รับขี้เต็มๆครับ คนเก่าก็หายหมดแล้วเพราะโดนกดดันลาออกไปหมดแล้ว
คนเก่าพอลาออกแล้วใช่ว่าจะดึงตัวกลับมาได้หมดนะครับเพราะลาออกไปนานๆ ใครๆ ก็หาแนวทางอาชีพตนเองใหม่แล้วครับถ้าเกิดดี
แล้วเรื่องอะไรเขาจะหวนกลับองค์กรเดิมๆ ที่เตะก้นเขาออกมาอีกล่ะครับ
เวรไม๊ไอ้นักบริหารรุ่นใหม่