ผมเคยสื่อสารกับคนที่มีคำกล่าวถึงอย่างประชดประชัน ว่า "สมองประมวลผลเร็วกว่าปากพูด"
เด็กนักเรียน ทุน พสวท. ที่ใดก็ได้ในโลก จนจบ ป.เอก ใน ๑๒ ปี จ่ายเหลือเท่าไหร่ให้หมดเลย
เพื่อน ๆ เขาให้คำจำกัดความนี้มา ด้วยว่าคุยกับเขาแล้ว....ไม่รู้เรื่อง..!!
ผมประจำชั้นห้องเขา คุยกันตัวตัวหลายครั้ง ทุกครั้งที่คุย ผมถึงกับมึนตึ๊บ....
ปัจจุบันเรียนฟิสิกส์ที่ ม.เกษตร ปี ๒
มหาลัยแห่งหนึ่งตอนนี้เริ่มปรับเปลี่ยนการหล่อหลอมแม่พิมพ์ให้เด็กแล้ว
เพราะจากความล้มเหลวของการเรียนการสอนในอดีตที่ผ่านมาหลายๆสถาบันผลิตเด็กออกมาที่มีแต่ความฉลาดทางสมอง (IQ)
แต่ขาดความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ปฏิสัมพันธ์กับคนในสังคม ไม่ได้
อันนี้เห็นจากพระจอมเกล้าพระนครเหนือครับ คณะวิศวะฯ ทั้งหมด มีวิชาเรียน Human relation (มนุษยสัมพันธ์) จริงๆที่ไหนก็มีมานานแล้ว
แต่ไม่ค่อยให้ความสำคัญแต่ที่นี่คงเน้นมากเห็นได้จากการที่ให้หน่วยกิจวิชานี้ถึง ๓ หน่วยกิจ
ย้ำครับว่า ๓ หน่วยกิจ เท่ากับวิชา แคลคูลัส และ ฟิสิกส์
สมัยผมเรียนวิชานี้แค่ ๐.๕ หรือ ๑ หน่วยกิจเท่านั้นเอง
และ ฟิสิกส์ ของที่นี่ประกันได้ว่า ยาก เขี้ยวเด็ด สุดยอดยิ่งกว่าหลักสูตรฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัยปิดใดๆ
เพราะสอนโดย ดร.อัมรินทร์ ซึ่งจบ ดร.จากมหาวิทยาลัยจากอเมริกา และ ดร.อัมรินทร์ คนนี้ก็ เรียนกับ
ดร.ฝรั่ง ที่เป็นศิษย์ โดยตรงของ ไอสไตน์ (อย่าแปลกใจ ไอสไตน์เพิ่งเท่งทึงไปไม่ถึงร้อยปีลูกศิษย์ลูกหาตำรายังมีมากมายไม่หายไปไหน)
ผลการสอบปลากดว่า เจ้าอีฟ ได้ ๑คะแนนจาก คะแนนสอบกลางภาคเต็ม ๔๕
โทรมาร้องให้กับผมใหญ่ กลัวโดนไทร์ถ้าติดวิชานี้ มาลุ้นกันปลายภาคว่าจะผ่านหรือไม่
ส่วนแคลคูลัส ทำได้ ๑๔ข้อ จาก ๙๐ ข้อ สองข้อต่อหนึ่งคะแนน เท่ากับได้ ๗ คะแนน
แต่ไม่น่าห่วงเพราะอยู่ระดับกลางๆ คนท็อปทำได้แค่ ๒๖ ข้อ เท่ากับ ๑๓ คะแนน
ปล ผมเลยออกทุนให้ไปเรียนพิเศษกับรุ่นพี่ที่ได้ เอ วิชานี้ครั้งละพัน สี่ครั้ง จนถึงสอบปลายภาคสิ้นเดือนนี้
เอ่อ ยากไปแรงหม้ายละนั้นครับ
