....พวกในซอยลงไปในน้ำตก เรานั่งกันตรงทางลง
พวกนั้นไม่มีใครรู้จักเรา ก็เลยไม่รู้ตัว...
มันขอร้องผม ให้ช่วยทำอันธพาลกับมันหน่อยได้ไหม
ผมบอก ไอ้บ้า กรูไม่สู้คนเว้ย....ไม่ต้องมาชวน
ขาลุยทั้งสี่คน พร้อมสู้ แล้วแต่เพื่อนว่ายังไง
แต่ไอ้เจ้าตัวการ ยังคิดไม่ออก ว่าคนห้าคน จะไปสู้คนสิบคนได้ยังไง ถึงจะไม่จมกองตีนซะก่อน
ผีอะไรไม่รู้ ดลใจผมให้เห็นใจไอ้พวกบ้านี่.....
..ก็เลยแนะนำไปว่า ชัยภูมิมึงได้เปรียบเห็น ๆ แค่ไปดักรอตรงทางชันที่ขึ้นมาจากน้ำตก
พอขึ้นมาคนนึงก็ยำมันคนนึง ขึ้นมาสองก็ยำสอง
ธรรมดาของคนถูกยัน มันต้องวิ่งเอาตัวรอดก่อน เพราะคนเดียวสองคน ยังไงก็สู้ห้าคนไม่ได้
ส่วนพวกที่เหลือข้างล่าง พอได้ยินเสียงโวยวาย ก็ต้องรีบวิ่งขึ้นมาดู
แน่นอน วิ่งมาพร้อมกันทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะทางชันและแคบ
อีกอย่าง พวกนั้นยังไม่รู้ตัว นั่งกระจัดกระจายกันคนละมุม
....
ส่วนถ้าเมื่อพอถูกยันครบคนแล้ว จะรวมขบวนมาตีโต้เอาคืน ตอนนั้นคงทำไม่ได้แล้ว
เพราะผู้ใหญ่บ้าน กรรมการชมรมอนุรักษ์ฯ และผู้ใหญ่ชาย ๆ ร่วมยี่สิบคนที่อยู่ในที่ทำการชมรม คงออกมาระงับเหตุ
....พวกสิ้นคิดห้าคนนั้น ดันเห็นดีเห็นงามกับแผนผม
สองคนเตร่ไปนั่งสูบยาอยู่ทางซ้าย อีกสามคนทำเป็นนั่งปอกกวยจี๊กินทางขวา....
พอสองคนแรกโผลขึ้นมา เดินเลยไปได้สองสามก้าว นักเลงก็ลงมือ....
หมัดลุ่น ๆ ตีนเนื้อ ๆ ใส่กันหลายดอก กว่าสองคนนั้นจะหนีเอาตัวรอดทันก็โดนไปหลาย
อีกคนที่ตามหลังมาเดี่ยว ๆ รีบวิ่งขึ้นมาจะเข้าช่วย เจอตีนเจ้าต้นเหตุหวดเต็ม ๆ ยอดหน้า ถึงกับร่วงกอง
สองคนที่วิ่งขึ้นมาระลอกสาม รอดมือรอดตีนไปได้คนนึง เพราะอันธพาลกำลังยุ่ง....
แต่มันวิ่งไม่ใส่เบรค เผ่นไปไกลลิบเดี๋ยวนั้นเลย (จนเรื่องซา ราวงแล้วมันยังไม่กลับมา)
อีกสามคนที่มาทีหลังเป็นระลอกสี่ เริ่มจะรู้ตัว คนหนึ่งคว้าไม้อะไรแถวนั้นมาเป็นอาวุธ
ไม้หวดปั๊กเข้ากลางหลังทีมดักรอ แต่กลายเป็นว่า ไม้ผุ.... หักเป็นสามสี่ท่อนโดยคนโดนตีไม่ร่วง
พวกดักรอ เลือดเข้าตาเสียแล้ว สามคนนั้นโดนยำหนักกว่าระลอกอื่น
โดยเฉพาะไอ้คนใช้ไม้พุกทุบเพื่อน โดนหนักถึงเลือดเปรอะหน้า.....
อีกสองคนที่เหลือ รู้แกว ไม่ยอมขึ้นมา....เป็นเวลาเดียวกับกลุ่มผู้ใหญ่แถวนั้นเข้ามาระงับเหตุ
ไอ้เจ้าต้นเหตุ กับเพื่อนอีกคน โดนผู้ใหญ่บ้านตบเอาคนละที
แล้วก็ใล่พวกในซอยกลับไปก่อน ไม่ลืมไปรับสองคนในน้ำตกมาด้วย.....
...โดนหนัก ๆ สองคน คนที่ใช้ไม่ทุบนั้น สงสัยว่าดั้งจะหัก แถมหน้าตาแหกเลือดเปรอะ....
ส่วนคนที่กะเร่อกะร่ามาเข้าแข้งนั้น จนเขาจะกลับกันแล้ว จึงได้รู้สึกตัวฟื้นขึ้น
ผม..ผู้ซึ่งนั่งมองเหตุการณ์ทั้งหมดมาจากร้านส้มตำ ก็เริ่มรู้สึก ว่า ควรจะหายตัวไปได้แล้ว ก็เลยแอบย่องออกมา
ไม่ทันได้สตาร์ทรถหรอก.... ผู้ใหญ่บ้านเห็นเสียก่อน
แกรู้เรื่องราวได้ไงไม่รู้ รู้แต่ ผมถูกด่าเสียหมาเลย ค่าที่ยุให้เด็กตีกัน แถมวางแผนให้อีกต่างหาก
โฮ้ย หลังจากวันนั้นร่วมเดือน ผมโดนประณามหนักหนากว่านี้เยอะ
จนไปทหารนั่นแหละ กลับมาเรื่องก็ซา ๆ ไป มีมั่งเหมือนกัน ที่สนิทมากพอ
ผ่าเรียกผมกลางร้านน้ำชาด้วยเสียงดัง ว่า ไอ้จอมวางแผน
ที่มันเจ็บใจก็คือ ไอ้ตัวต้นเหตุ ไม่ได้โดนเอฟเฟคอะไรเท่าไหร่เลย เทียบกับเรื่องที่มันก่อ
ผมสิ รับเละ...
อืม ตามอ่านต่อไปครับ