แข่งกันรวยเห็น ๆ
เสี่ยฉ็อง เสี่ยเบิ้ม เสี่ยเอ๋....
อย่าเอาผมไปรวมกับตัวจริงเค้าเลยครับ.... มันกระดาก...!!
นี่พูดจริง แหลงเจ้าเมืองกันนะ ไอ้กิจการอะไรต่าง ๆ ที่ผมทำ ๆ มา ทุกท่านก็รู้ ว่าผม...ลุยเดี่ยวอย่างเดียวดายเสมอ
ผมไม่มีแบ็คอัพ ไม่มีรีดันแดนช์ใด ๆ ทั้งสิ้น ทำเองคนเดียว ลุยเองคนเดียวเสมอมา
สวนยาง เป็นอย่างเดียวที่ผมพอจะฝากใครเขาได้บ้าง แม้ว่ามันจะควนเขาก็รับฝากเพราะแบ่งครึ่ง ๆ
รถรับส่ง ไม่เคยมีใครวิ่งแทนผมแม้แต่วันเดียว หรือแม้แต่ขาเดียว มาเป็นเวลา แปดปีเต็ม....
ขาหมู ผมทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มจนจบพร้อมขาย.....
....คนอื่นเคยมาช่วยเหมือนกัน แต่ช่วยสองหน ก็เละทั้งสองหน....
ช่วยทอดขาหมู ปล่อยให้หนังหมูสัมผัสท้องหม้อนานเกินไป จนไหม้ดำเกรียมไปแถบนึง
ครั้นช่วยเฝ้าหม้อเคี่ยว ก็ปล่อยให้ไฟมอด จนดับ ....
นั่นเป็นปลีกย่อย ว่าทำไม ผมจึงต้องทำเอง คนเดียว .....และคนเดียวมานานแล้วในทุกกิจกรรม
แพะนี่ก็เหมือนกัน พี่สาวคนโตพลอยทำพลอยช่วยอยู่ ก็เพราะผมช่วยเหลือเค้าไว้มาก
รายได้ที่ได้มา ก็ต้องสมนาคุณให้เค้าตามสมควรแก่แรงกายแรงใจ
.......
จึงเป็นสาเหตุ ว่าทำไม ผมซึ่งทำกิจกรรมหลาย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ หลายอย่าง จึงยังคงจน....
ไม่ใช่เพราะคิดไม่เป็น แต่คิดเป็นมากเกินไป เหมือนไม้สอยมะพร้าวที่สูงกว่ายอดมะพร้าว
......มันสอยไม่ได้....
ก็เลยกลายเป็น จับจด ทำงานโน้นสักพัก ก็หยุด ทำงานนี้สักเดี๋ยว ก็เลิก....
แน่นอน การเลิกทำอะไรสักอย่าง ต้องมีทุนรอนที่ทิ้งรอยทิ้งซาก บางงานปาเข้าไปหลักแสน....
อย่าเรียกเสี่ยนำร่องให้ผมเลยครับ ผมรู้ ว่าเป็นเพียงการหยอกการอำ
แต่มันเจ็บลึกเวลาผมทำมันพัง....แล้วหันกลับไปมองซาก
อย่าเอาไปเทียบกับเสี่ยของจริงเลยครับ มันอายเค้า....
.....เสี่ยของจริง เค้าใส่แว่นกันแดดคันละหกเจ็ดพัน แต่ผม ร้อยห้าสิบที่เกาะจำนั่น น่าจะแพงสุดที่เคยซื้อ
ดราม่าแทนข้าวสวยราดแกงส้มซะแล้วตรู มื้อค่ำนี้