สิ่งที่ประมาทคือคิดว่า ชั้นเลิกทำงานเมื่อไหร่ ชั้นก็มีหลวงเลี้ยงจนตายรึเปล่าครับ เลยไม่ต้องวางแผนชีวิตมาก แต่ผมก็ไม่ค่อยรู้ไรมากนะ การมีสังคมแบบไทยๆรายจ่ายมันเยอะ(ได้ข่าวครูนี่ละดุเดือด สังคมเยอะ คนรุ้จักเยอะ) แถมมีเวลาเยอะ คนเรามีเวลา มีหน้าตา ทำไรอ่ะ...ก็ไปหาที่ใช้เงินดิ
น่าจะมากกว่านั้นครับ
เพราะยัยคนนี้ ต่อให้ไม่เป็นข้าราชการ ก็คงทำตัวอย่างนี้
แน่นอน ล่มจมกว่านี้เยอะ....
ก่อนนี้ เขาโดนอัปเปหิมาจากที่เก่า เพราะโดนประท้วงเรื่องบังคับเด็กกินข้าวกล่องทำท่าจะเสีย
จนเด็กท้องเสียเข้าโรงพยาบาลครึ่งโรงเรียน...
ตอนนั้น มาแบบ หมดสภาพ ที่ทางเกลี้ยง เงินเดือนเหลือคนละสองสามพัน
วงเงินกู้ บัตรต่าง ๆ เต็มเอี๊ยด เครดิตติดลบทุกที่....
ยังอุตส่าหาโครงการช่วยครูของธนาคาร กู้มาซื้อบ้านพร้อมที่ดินราคาแปดแสนได้
แล้วก็ทำตัวดีอยู่พักใหญ่ ราวสี่ห้าปี...
..ขนาดมีแผงรับซื้อผลไม้ มีรถรั้วสองสามคัน ซื้อที่ดินได้อีกแปลง....
พอโงหัวได้ก็ออกลาย ผัวเล่นเมียเล่น ไปงานศพนั่งคนละวง....
ตอนนี้ ก็กลับอีหรอบเดิม เหลือแต่บ้านหลังนั้นแล้ว ที่แปลงนั้นคงไปในอีกไม่ช้า
เพราะข่าวว่า ไม่ส่งดอกเลยมาเกือบปีแล้ว
....วันก่อน ช่วงฝนชุก มาโม้ที่ร้านค้าข้างบ้าน ว่า วันนี้เขาตัดยางได้(พักหลังเห็นตัดยางเองมาพักใหญ่แล้ว)
หน้ายางเปียกไปหน่อย แต่ก็พอตัดได้ เสร็จแล้วรีบเก็บได้ทันก่อนฝนมา....
......
คนฟังก็ชาวสวนยางแหละ ต่อหน้าเขาก็ยอว่าขยันยังงั้นยังงี้
แต่คนสวนยางรู้ดี ว่าทำแบบนั้น เท่ากับฟ้องเพื่อน ว่าตัวเองเข้าตาจนถึงขนาดต่างหาก
ตัดยางเสี่ยงฝนแบบนั้น ได้ไม่คุ้มเสียกับหน้ายางเสียหาย เสี่ยงติดโรค