สุดแต่ใจจะไขว้คว้าครับ
.........
.......
.......
จานปราชคิดไรผมไม่รู้ แต่ผมเป็นห่วงเหลือเกิน ขับสี่ล้อเถอะครับ
อีกเรื่อง ที่ผมน่าจะบอกไม่หมด....
...ผมเลือกไปลงระนอง ก็ด้วยเหตุผลต้องการระยะเดินทางครับ
อาจจะฟังดูพิกลอยู่บ้าง แต่มันเป็นความฝันลึก ๆ อยู่ตลอดมา ช่วงที่โหมทำงานหลายปีก่อนนี้
ผมจำได้ ว่าก่อนนี้ ผมทำงานกี่ชั่วโมง พักกี่ชั่วโมงต่อวัน....
ตอนนี้ ถึงเวลาที่ผมจะพักสัก สามสี่ปี หลังจากนี้ ก็จะลุยต่อเหมือนเดิม
การพักของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ของผม การพัก จะไม่อยู่กับที่...
..แต่จะออกแนว เที่ยว...เดินทาง...ไปในที่ที่อยากไป....
แต่การเดินทางของผม ไม่เสียเที่ยวเปล่า เพราะได้ทำงานด้วย....สมหวัง วินวินทั้งสองทาง
ได้เดินทางทัวร์ริ่งด้วยสองล้อ ในแบบที่แอบฝันมานาน....
ได้ทำงานที่ มีหน้าตาพอไปอวดคนอื่นได้บ้าง....
....ถ้าอยู่ ๆ ผมจะซื้อรถมา ติดกระเป๋าข้าง ทิ้งงานการไว้ข้างหลัง แล้วท่องไปตามใจฝัน....
ก็คงได้แต่ฝันจริง ๆ เพราะในความเป็นจริงมันทำไม่ได้....
เราไม่ได้หาเก็บหาสะสมไว้มากมายพอที่จะทำอย่างนั้นได้.....แล้วก็ไม่ใช่พวกมรดกเงินถุงเงินถังด้วย
ยังคงต้องทำมาหากินตลอดเวลาเหมือนเดิม เพียงแต่ดีกว่าเดิมที่ไม่ใช่หาเช้ากินค่ำเหมือนสมัยสร้างตัวใหม่ ๆ
พอจะมีบัฟเฟอร์เอาไว้ หากต้องขาดรายได้สักสามสี่ปีก็ยังพอสำรองประทังไปได้
...แล้วความฝันไร้สาระ การเดินทางด้วยสองล้อ... หากไม่ไปตอนที่ยังพอมีสมรรถนะ.... ก็คงหมดโอกาสได้ไปอีกแล้ว
ผมพอเข้าใจความคิดของน้าเบิ้ม.... ว่าตัวเรา มีราคาสูงเกินกว่าจะไปผจญความเสี่ยง
ไหนจะลูกเมียข้างหลังอีก ....
.... ความฝัน ก็จะยังคงเป็นแค่ฝันต่อไป
อายุอานามปูนนี้แล้ว....สติสัมปชัญญะและวุฒิภาวะ น่าจะสูงพอสำหรับรับมือกับทุกเรื่อง
ทำได้ก็ทำ ก่อนที่สมรรถนะ จะหดหายจนทำไม่ได้....