ตามนั้นครับ....
..ฮอนด้าตัวนี้ และอีกหลายตัว ผลิตจากญี่ปุ่น แต่กลุ่มตลาดแบ่งไปตามขนาดรถ
ญี่ปุ่นผลิตรถคันเท่าควายออกมามากมาย แต่คนญี่ปุ่นใช้รถ โชอิ-โนริ ๕๐ ซีซี คันเท่าจักรยาน
ไม่ก็สกูตเตอร์ ๕๐ ซีซี ใช้สองสามปีก็ขายทิ้ง เพราะภาษีเพิ่มขึ้นทุกปีตามมลพิษจากความเก่า
เวลาทิ้ง ก็อาจจะขายให้โกดังในราคาถูกปานขี้ หรืออาจต้องจ่ายให้โกดังค่าพาไปเก็บให้
ก็จะมีชาติอื่นในเอเชีย ไปประมูลออกมาส่งกลับประเทศตัวเอง เป็นวิธีทิ้งขยะในประเทศอื่นอย่างแยบยล
ค่าขนส่งก็ไม่ได้ถูกนักหรอก อย่างใครแปลกปลอมเข้าไปสั่งของส่งกลับ เจอค่าขนส่งกิโลละสามสี่ร้อยก็หงายหลัง
พวกประมูลขาประจำ เขาเช่าทั้งตู้ รวมกันส่งของกลับประเทศตัวเอง สนนราคาราวกิโลละร้อย หรืออาจจะไม่ถึง
ประมูลสกูตเตอร์คันละพันเยน(สามสี่ร้อยบาท) ค่าขนส่งราวห้าหกพัน ค่าศุลกากรสามสิบเปอร์เซ็นต์(ของราคาประเมินบ้านเรา)
รวมต้นทุนราวเก้าพัน ขายหมื่นห้าหมื่นหก.... ก็พออยู่ได้ นั่นหมายถึงสภาพดี ๆ ขับได้แน่ ๆ
ถ้าเป็นอะหลั่ยก็ถูกลงอีก
......
ส่วนบิ๊กไบค์บ้านเขา ๒๕๐ - ๔๐๐ นี่ ถือว่าใหญ่แล้วนะ นาน ๆ ทีจะมีพวกหนึ่งลิตร
แล้วก็เหมือนกัน พอเก่าหน่อย สองปี สามปี ภาษีก็สูงขึ้นจนไม่ไหวจะเอาไว้
ก็จะไปทางเดียวกับพวกอีติ๋วอีแต๋วเล็ก ๆ อาจจะขั้นตอนต่างกันนิดหน่อย
.....
พวก ๖๐๐ อัพ เป็นรถสำหรับส่งออก ปลายทางยุโรปและมะริกา
ภาษีส่งออกก็พอท้วม ๆ เพราะเป็นรถทั้งคัน ส่งออกในสภาพพร้อมขับ
ไม่เหมือนที่ส่งเป็นชิ้นมาประกอบในไทย โดยกำกับของบริษัทแม่ในญี่ปุ่น
แบบหลังนี่ ภาษีต่ำกว่ามาก ทั้งขาออกบ้านเขาและขาเข้าบ้านเรา
ตอนส่งเข้ามา เป็นชิ้น ๆ เหมือนกัน แต่แบบแรก ฟิกมาเลยโครงไหนคู่กับเครื่องไหน
....ยังมีแบรนด์นำเข้าอีกประเภท อย่าง CAN-AM รถซาเล้งนั่นน่ะ อันนั้น ตีลังไม้นำเข้าทั้งคัน
ภาษีหนักกว่าสองแบบแรกอีก เพราะเขาไม่มีแฟคทอรี่ลูกข่ายที่ประเทศปลายทาง
ราคารถใหญ่บ้านเรา ก็เลยมีสามแบบ....
..แบบแรก ซื้อชิ้นส่วนมาเป็นพันเป็นหมื่นชิ้น เอามาประกอบขายบ้านเรา เช่น CBR300
..แบบสอง นำเข้าทั้งคัน มาประกอบบ้านเรา เช่นบิ๊กวิงและผองเพื่อน (เอสอาร์๔๐๐ ก็ด้วย)
..แบบสาม ตีลังไม้มาเลย แบบนี้แพงสะใจดี