ผมก็แปลกใจในหลักสูตรการสอน ไม่ได้เน้นเรื่องภาษาสากลมากนัก
ไปเน้นแต่การพาณิชย์หาตังค์โรงเรียนกวดวิชากัน
สอนในห้องเรียนอีกแบบนึง...ไปสอนที่กวดวิชาอีกแนวนึง
พอออกข้อสอบ ก็เอาเนื้อหาในที่กวดวิชามาออกข้อสอบกัน
เด็กจึงจำเป็นต้องแห่กันไปเรียนกวดวิชานอกห้องเรียน..

ตราบใดที่ครูยังเข้มงวดเรื่องกระโปรงไม่ให้ขึ้นมาเลยเข่า
ผมยาวไม่ให้ยาวเกินติ่งหู ของนักเรียนหญิง ชายทรงผมรองหวี ว่าเป็นเรื่องใหญ่โต
ผมว่าน่าหนักใจในการเปลี่ยนแปลง

แถวบ้านผม โรงเรียนของรัฐหลายทีี่ จ้างครูชาวต่างชาติมาสอนภาษาอังกฤษกันเลยนะครับ อ๊อสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย
และ จีน(ขาวหมวย สวยน่ารักดีด้วย) แต่ก็ตามหลักสูตรที่พวกหอคอยงาช้างบอกว่า ไม่ต้องให้เด็กท่องจำ

ภาษาอังกฤษ ถ้าไม่ท่องจำคำศัพท์ เด็กมันจะทำอะไรได้บ้างครับ ได้แค่ออกเสียงตามครู กลายเป็นนกแก้ว นกขุนทองไปเลย
ให้อ่านหนังสือ หรือ ถามคำถามให้ตอบ มันก็ตอบกันไม่ได้แล้ว หนังสือที่ให้อ่าน หรือ คำถามที่ถาม ผมก็เอาจากหนังสือเรียนเค้า
นี่แหละครับ แต่ก็อ่านไม่ออก ตอบกันไม่ได้

ที่เล่าไปก่อนหน้านี้ว่า เด็กม.4 ยังเขียนชื่อ - นามสกุลตัวเองเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็มาจากโรงเรียนที่กล่าวถึงนี้แหละครับ

กินข้าวกันเมื่อตอนเย็น ก็ยังคุยกันเรื่องนี้ หลานสะใภ้ก็เล่าให้ฟังถึงตอนไปสมัครงาน เจ้าหน้าที่ที่สัมภาษณ์ ถามมาว่า คุณจะบอก
เล่าประวัติส่วนตัวคุณเป็นภาษาอังกฤษได้มั๊ย หลานบอกได้ค่ะ แต่พอจะเริ่มต้น คนสัมภาษณ์บอกว่า ไม่ต้องพูดก็ได้ครับ เพราะเท่าที่
ผ่านมา ผมเจอเด็กไทยจะพูดกันได้เป็นนกแก้วนกขุนทอง ว่าแล้วเค้าก็ส่งกระดาษปากกามาให้ แล้วบอกว่า ลองเขียนเล่ามาดีกว่าครับ
จะได้รู้ว่าคุณอ่าน และ เขียนได้ดีแค่ไหน
หลานสะใภ้เล่าบอกว่าหวานเลย เพราะหนูอ่านและเขียนดีกว่าพูด เสร็จแล้วก็ได้งานทำ จนกระทั่งออกมาแต่งงานกับหลานชาย จนมี
หลานสาวปู่คนใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้แหละครับ