นายระ หรือครูระ ปัจจุบันนี้ แกเกษียณแล้ว หลายปีแล้วด้วย
แต่วีรกรรมสมัยยังเป็นครูของแก ฮาดี เลยเอาเกร็ดเล็ก ๆ มาเล่าสู่กันฟัง
ผมรู้จักแกเผิน ๆ เป็นคนแก่ที่ ฮาใช้ได้ แต่กลิ่นละมุดนี่ หึ่งตลอดเวลา
เพราะแกเป็นครูขี้เหล้า เรียนจบ ป.กศ. สมัยนั้น เป็นครูระดับหนึ่ง....
ไม่ได้ตั้งใจไปสอบครูหรอก แกจะสอบเข้าโรงเรียนพลตำรวจโน่น แต่พลอยรถคนอื่นเขาไปผิดคัน
รถคันนั้นเขาเหมาไปสอบงานหลวงเหมือนกัน ที่สุราษฎร์เหมือนกัน แต่ไปสอบครู
แกมึน ๆ ไปสมัครเรียบร้อย ถึงเวลาพวกก็มาตามไปสอบแกก็ได้สอบ
และสอบได้ที่หนึ่งเสียด้วย....
จนผลสอบออกมา แกถึงได้รู้ว่า ไอ้ที่แกสอบไม่ใช่ตำรวจ แต่เป็นครู....
เอ้า ครูก็ครู ... เริ่มสอนครั้งแรกที่โรงเรียนตะกุกใต้ อยู่ในดงในป่าของ อ.วิภาวดีโน่น
แกสอนหมดทุกวิชา เพราะทั้งโรงมีครูสี่คน เป็นครูผู้สอนสอง ครูใหญ่หนึ่ง
และภารโรง+ยาม+พลาธิการ+ทายาทผู้บริจาคที่ดิน+ฯลฯ อีกหนึ่งคน
ครูระแกก็เริ่มชีวิตครูขี้เมามาแต่นั้น เพราะค่ำลงไปไหนไม่ได้ เพราะห่างไกลเมือง ถนนหนทางสุดกันดาร
สมัยก่อนก็โจรปล้น ยุคคอมมิวนิสต์ที่นั่นก็ขึ้นชื่อ
ครูใหญ่ออกไปรับเงินเดือนมาจ่าย พกเงินมาก ๆ โดนปล้นสองสามหน
แต่พอรู้ว่าเป็นครู โจรก็คืนเงินให้กลับ ก็เป็นที่รู้ว่า กับครู กับหมอ และพระ โจรไม่ปล้น....
วันดีคืนดี ครูใหญ่ให้ครูระไปรับเงินแทน...เขียนจดหมายให้บัตรพร้อมเซ็นชื่อไปด้วย
ครูระเอารถเครื่องของภารโรงออกไปรับเงิน
สองวันแล้วก็ยังไม่กลับ
จนทางโรงเรียนร้อนใจ เกณฑ์คนออกตาม เพราะอนุมานว่า... โจรไม่รู้จักครูระ....
และนิสัยครูระ คำพูดคำจาชวนให้น่ายิงทิ้ง....
...หาไม่เจอก็แจ้งตำรวจ ตำรวจบอกว่า มีคนถูกปล้นรถเครื่องถูกยิงไส้ทะลักไปตายที่อนามัยอยู่คนนึง
ครู ๆ กับชาวบ้านก็แห่ไปดูกัน ศพนั่นขึ้นอืดและหน้าตายับเยินจนจำเค้าเดิมไม่ได้
ก็ขอศพกลับมาด้วยเข้าใจว่าเป็นครูระ
และเพราะการเดินทางและการสื่อสารทำได้ลำบาก ก็เลยกะจะบำเพ็ญกุศลศพกันที่วัดตะกุกเลย
งานศพผ่านไปได้สามวัน ญาติพี่น้องของครูระจากวัดป่าโมคลาน อ.ท่าศาลาก็มากันเต็ม
จู่ ๆ ครูระก็ปรากฎตัวกลางงาน ผู้คนแตกตื่น บ้างวิ่งหนี บ้างก็เป็นลม ....
.......
ครูระ ไปรับเงินเดือน แล้วเลยไปกินเหล้าที่ไชยา .....
...นอนวันฝันคืนเลี้ยงหมดร้านที่นั่นอยู่ จนเงินเดือนของครูทุกคนที่ไปรับมา หมดเกลี้ยง
สิบวัน ถึงนึกได้ว่าตัวเองเป็นใคร ก็เลยขับรถกลับมา....
ทีนี้ เมื่อทุกคนรู้ ก่นด่าจนพอใจ แล้วก็มาถึงปัญหาใหม่สองปัญหา....
รายชื่อครูระที่แจ้งตายไปแล้วจะทำยังไง ?? และศพในโลงนี่คือใคร....??
ตรงนี้ ออกตัวก่อนว่า เขาไม่ได้เล่าไว้ว่าสุดท้ายจบยังไงกับสองปัญหานั้น
ครูระ ย้ายกลับภูมิลำเนาเอาเมื่อวัยกลางคน ริมผมด้านหน้าค่อนไปกลางกระบาลพอสมควรแล้ว
มาสอนอยู่โรงเรียนวัดชัยธารามประดิษฐ์ หรือวัดปากโหมฺระ
แกยังคงเป็นครูขี้เมาอยู่ยังงั้น และเรียนเพิ่มเติมจนจบปริญญาโททั้งที่ขี้เมาอยู่อย่างนั้น ??!?!!
ช่วงนั้นแกสอบครูใหญ่ได้ แต่เมื่อรู้ว่าต้องไปประจำที่อื่นห่างบ้าน แกก็สละสิทธิ์เสียง่าย ๆ
วีรกรรมเล็ก ๆ ชวนเล่าขานอีกเรื่องของแก คือเรื่องเมาแล้วขับรถเครื่อง
รถฮอนด้าคัสต้อม ตอนนั้นใหม่เฉียบเลยมั๊ง ของแกรุ่นพิเศษมีสตาร์ทมือด้วย
ก่อนไปเมาที่ไหน ตอนที่สติสตังยังมีอยู่ แกจะ"กลับหัวรถไว้เสร็จสรรพ..."
คือ พอเมาได้ที่แล้ว แกก็ขึ้นคร่อมรถ ขับกลับบ้านได้เลย
โดยจำไว้ว่า ขับไล่ไหล่ทางมาเรื่อย ๆ ไม่ว่าไกลแค่ไหน
เมื่อเจอป้ายบอกระยะทางสามป้ายในเสาเดียวกัน แกก็เลี้ยวซ้ายหลังป้ายเลย จะตรงเข้าบ้านแกพอดี....
แกไปกินเหล้าบ้านลุงดำ ซึ่งขานั้นก็พอกัน คือเมาด้วยระดับดีกรีเดียวกันตลอด
วันนั้น แกก็กลับหัวรถไว้อย่างเก่า แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ เณรโชคอยู่ด้วย
เณรโชคลูกชายลุงดำ บางทีแกก็เล่นแผลง ๆ
แกแอบมากลับหัวรถครูระ หันหัวไปทาง อ.เมืองนครศรี ซึ่งห่างไปเกือบสามสิบกิโล
แล้วก็รอดูตอนครูระเลิกวงกลับบ้าน แต่ขาใหญ่กินกันนานไป เณรโชคเลยเข้านอนไปก่อน
รุ่งขึ้นก็เกิดเรื่อง เมื่อเมียกับลูกครูระมาตาม ด้วยว่าครูระไม่ได้กลับบ้าน...
ต่อให้เมาจนสิ้นสภาพยังไง ครูระก็กลับบ้านได้ จนคนที่บ้านเลิกห่วง
พอเมาแล้วไม่กลับบ้าน ก็มาตามหากัน... หากันจนเริ่มร้องให้....
ต่อไดได้นั่งล้อมวงฟังน้าฉ๊องเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังสักทีหล่าวนิครับ ปิดเทอมเดือนไหนครับ ว่างวันไหนบอกที จัดกันสักทีหล่าวดีไหมครับ