เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 20, 2024, 06:06:20 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 35477 35478 35479 [35480] 35481 35482 35483 ... 35779
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อนคอปืน...ด้ามขวาน  (อ่าน 25859670 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 167 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #532185 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2016, 08:59:55 AM »

เกร็ดเกี่ยวกับกระจง..(ชื่อเพื่อน สมช.นายกระจง)
-เป็นสัตว์กีบคู่ที่เล็กมาก(อาจเล็กที่สุดในโลก)ตัวโตกว่าแมวเล็กน้อย กีบเท้าคม สามารถเหยียบใบบอนทะลุ ชนะพนันช้าง(คงเคยได้ยินนิทานนะคับที่ช้างกับกระจงท้าพนันกัน) มีเขี้ยวยาวพอใช้เป็นอาวุธได้เล็กน้อย
-เมืองไทยมี 2 ชนิด คือ กระจงหนู และ กระจงควาย ที่วัดธารน้ำไหล(สวนโมกข์)มีหลายตัวไม่แน่ว่าชนิดไหน
-จมูกกระจงมีคุณสมบัติเป็นยาไทย เอามาฝนกับน้ำมะนาวให้ผู้ป่วยกินบำบัดอาการเบื่อเมา..เช่นเมาเห็ด,เมาหัวมันสำปะหลัง..ฯลฯ ที่บ้านผมเคยมีจมูกกระจงตากแห้ง รูปร่างแหลมคล้ายจมูกหนู มีหนวดสีดำแข็ง ๆ
-นักล่ากระจงเล่าว่า วิธียิงกระจง เขาจะพากันไปในป่าที่มีกระจงอยู่แล้วก็เริ่มเคาะไม้เป็นจังหวะ กระจงได้ยินจะคึกคะนองอยากผสมพันธุ์ก็จะพากันมาเล่นเสียงเคาะ การเข้ามาตามเสียงเคาะของกระจง มันจะระวังตัวอย่างมากจึงเดินถอยหลังเข้ามาด้วยท่าทางที่น่าขบขันอย่างยิ่ง ถ้าคนหัวเราะขึ้นมันก็จะเปิดหนีไปทันที กลุ่มนักล่าต้องกลั้นหัวเราะให้ได้ พอมันเข้ามาได้ระยะก็เป็นอัน..ปัง..เสร็จนายพราน..น่า่สงสารมากนะคับ     






ขอบคุณครับ ความรู้ทั้งนั้นครับพี่   



มาพร้อมกับคำถาม



ถ้างัวกินใบปาล์มเราที่ต้นปาล์มๆจะเป็นไหรไม่ครับ เช่นว่าตาย เหี่ยว อะไรประมาณนั้นนะครับ  ผมโดนงัวเล็มยอดไปหลายต้นครับ เพราะยังไม่ล้อมรั้วสวนปาล์มครับ

ยอดที่ว่าหมายถึง ทางปาล์มตรงปลายมัน หรือว่าใบยอดที่ต้นครับ จำได้ว่าปาล์มพี่ 4 ปีแล้ว  คิดว่าน่าจะเล็มทางมากกว่า ตรงยอดวัวไม่น่าเล็มถึง  ถ้าที่ทางก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าที่

ต้นแบบนี้ไม่ค่อยดี  ก็ไม่ถึงกับตายแต่ปาล์มจะโตช้าหน่อยครับ บางทีมันดึงด้วยระบบรากก็จะเสียหาย กรณีที่ปาล์มเริ่มโตมากแล้วก็ไม่ต้องไปทำอะไรกับปาล์ม รดน้ำใส่ปุ๋ย

เดี๋ยวก็ดีเอง แต่หาทางอย่าให้วัวมากินอีก ถ้าเสียหายมาก แล้วปาล์มยังเล็ก จะขุดทิ้งเอาต้นใหม่มาซ่อมก็ได้เหมือนกันครับ  ไหว้







ปาล์มสี่ปีแล้วครับ ออกลูกแล้ว กินทางมันนะครับ เนี่ยว่ากลับไปรอบหน้าต้องล้อมลวดหนามแล้วครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #532186 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2016, 09:03:24 AM »

ส่วนจุลินทรีย์ในกองปุ๋ยนั้น วิธีอื่นใช้การเติมอีเอ็มบ้าง จุลินทรีย์ขุยไผ่บ้าง สารเร่งซุปเปอร์ พด.1 บ้าง ... ของผมใช้จุลินทรีย์ที่มีในมูลสัตว์ครับ

จุลินทรีย์ในมูลสัตว์มีหลายชนิดที่ชอบความร้อนจัด ขนาดที่ว่าอุณหภูมิสูงขนาด 70 - 75 องศาเซลเซียส มันก็ยังไม่ตายเลยครับ (เรียกว่าจุลินทรีย์ชอบความร้อนสูง หรือ Thermophiles) ช่วง 5 วันแรกของกองปุ๋ยใหญ่ ๆ แบบไม่พลิกกลับกองที่อุณหภูมิขึ้นสูงมาก กองปุ๋ยจะยุบตัวทุกวันเห็นได้ชัดเจน เราจึงไม่ต้องเป็นห่วงว่าจุลินทรีย์จะตายครับ ... น้องจุลชอบ น้องจุลทนได้

หลายท่านบ่นว่าไม่มีมูลสัตว์ ขอใช้แต่อีเอ็มหรือน้ำหมักชีวภาพได้หรือไม่ ..... อีเอ็มหรือน้ำหมักชีวภาพอาจจะมีจุลินทรีย์ก็จริง แต่ไม่มีไนโตรเจนครับ ก็จำเป็นต้องหาไนโตรเจนใส่ในกองปุ๋ยเพื่อเป็นอาหารของจุลินทรีย์ ..... สูตรการทำปุ๋ยหมักของกรมพัฒนาที่ดินใช้สารเร่ง พด.1 เป็นจุลินทรีย์ ใส่ปุ๋ยยูเรียเป็นไนโตรเจน แต่ก็ยังต้องใส่มูลสัตว์ 200 กก.ในการทำปุ๋ยหมัก 1 ตันอยู่ดี ..... แสดงว่ามูลสัตว์ยังไง ๆ ก็ต้องใช้ครับในการทำปุ๋ยหมัก ขาดไม่ได้

ส่วนกากน้ำตาลก็อย่าเอาใส่ในกองปุ๋ยหมักนะครับ ถ้าไม่อยากให้ต้นพืชของเราเป็นเชื้อรา เพราะกระบวนการย่อยสลายในกองปุ๋ยหมักไม่เหมือนกับการทำน้ำหมักชีวภาพครับ ..... ในกองปุ๋ยหมักไม่สามารถเปลี่ยนกากน้ำตาลให้หมดได้ทัน ถ้าเอาปุ๋ยหมักนี้ไปใช้จะเหลือกากน้ำตาลเข้าไปในการเพาะปลูก กลายเป็นอาหารของเชื้อราได้ครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
lex
Hero Member
*****

คะแนน 2112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 15118



« ตอบ #532187 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2016, 02:12:06 PM »

😊
บันทึกการเข้า

GUNRUNNER
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13331



« ตอบ #532188 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2016, 04:25:49 PM »

ได้รูปธนบัตรไทยมาครับ







ไปอาบน้าให้ต้นไม้ ออกกำลังกายละครับ

บันทึกการเข้า

ปืน...ดีทุกกระบอก...ขอให้คนยิงยิงให้ดีก็แล้วกัน...
          ...พวกอินเดียนแดงเค้าบอกไว้นานแล้วครับ...
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #532189 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2016, 07:04:31 PM »

😊


ใครหลาวล่ะเหวย...??
บันทึกการเข้า
ckanoon
Full Member
***

คะแนน 41
ออฟไลน์

กระทู้: 270


« ตอบ #532190 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2016, 07:39:13 PM »

 ไหว้ และแล้วผมก็เดาสุ่มพาสเวิร์ด ตัวเองเข้ามาเยี่ยมเยือนพี่น้องได้แล้วครับ.
       
 
บันทึกการเข้า

ด้วยพระเมตตาบารมี  ชุมพรวันนี้สุขร่มเย็น
             สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงของเรา
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #532191 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2016, 07:56:59 PM »

ปรึกษาเรื่องโรงเรือนสักหีดครับ ว่าอี้ปลูกผักกางมุ้ง ทำพรือให้ต้นทุนโรงเรือนถูกลงได้บ้างครับ ตัวพลาสติคคลุมหลังคา กับ ตาข่ายกันแมลงด้านข้าง พี่ๆคนไหนพอจะรู้แหล่งซื้อขายบ้างไหมครับ ตัวโครงหลังคาถ้าเราทำกับไม้ เราจะยึดพลาสติคคลุมหลังคาได้อย่างไรครับ รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับ







ทำโรงเรือนแบบในรูปนะครับ ไหว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 05, 2016, 08:01:47 PM โดย นายกระจง » บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #532192 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2016, 08:54:37 PM »

ไหว้ และแล้วผมก็เดาสุ่มพาสเวิร์ด ตัวเองเข้ามาเยี่ยมเยือนพี่น้องได้แล้วครับ.
       
 

เอ๊อวววววว   หมอขนุน... !! ไปไงมาไงล่ะครับเนี่ย....??
บันทึกการเข้า
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #532193 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2016, 08:56:23 PM »

ย้อนหลังไปสักสามสี่หน้าสิหมอ มีเรื่องเพื่อนนำเสนออยู่เรื่องนึง   Grin
บันทึกการเข้า
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #532194 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2016, 09:21:37 PM »

มีเกร็ดเล็ก ๆ มานำเสนอ เรื่องการเมืองท้องถิ่นยุค คสช.

ประกาศ คสช. เรื่องสภาท้องถิ่น

เดิม ... กะจะให้ ซีเจ็ด ซีแปด ในท้องที่ มานั่งในสภาฯแทนสมาชิกสภาฯ กรณีที่สภาฯหมดวาระ

ใหม่ ... ให้สมาชิกสภาฯ นั่งต่อไปจนกว่าจะมีประกาศ พรฎ. เลือกตั้ง ...... ทั้งนี้ มีวรรคย่อย......

วรรคย่อย ความว่า ถ้าสภาฯถูกยุบ(โดยอำนาจผู้ว่าฯ) ให้ผู้ว่าฯ แต่งตั้งบุคคลที่ผู้ว่าฯเห็นชอบ มานั่งเป็นสมาชิกสภาฯแทน

ข้อความข้างต้นนั้น .... เข้าใจนะครับ

....ทีนี้ มาว่าเรื่องเมืองสาระประเทศแห่งหนึ่ง ที่ครั้งหนึ่ง เคยมีปัญหานายกสองคนในเวลาเดียวกัน....

นายกทั้งสอง มีที่มาถูกต้องตามกฏหมายทั้งคู่ แต่โดยคำสั่งศาล นายกคนที่สองคือนายกที่ต้องอยู่ในตำแหน่ง

หลังจากฟาดฟันกันพักใหญ่ สุดท้ายก็กำลังจะตกตะกอน โดยสรุปว่า"นายกคนที่สอง"ได้ตำแหน่งไปในที่สุด......

เรื่องมากวนตะกอนให้ขุ่นอีกรอบ เมื่อประธานสภาฯ ขออำนาจจากผู้ว่า เรียกประชุมสภา....

หนังสือจากประธานสภา เรียกนายกมาร่วมประชุม ผ่าส่งหนังสือเรียก"นายกคนที่หนึ่ง".......




งานนี้ ขอให้ย้อนกลับไปดูวรรคย่อย ที่อยู่ในบรรทัดที่ห้า ด้านบนครับ   ยิ้มีเลศนัย



ผู้ว่าฯ ทำตามคำสั่งศาล ให้นายกฯคนที่สองเข้าสู่ตำแหน่งจนได้  และได้มาพักหนึ่งแล้วด้วย

 แต่สภาฯ ดันกระทำการเช่นนั้น..... ผู้ว่าฯ จะทำยังไงกับสภาฯดีนะ อยากรู้จัง  Grin


แถมผู้ว่าฯ ก็กำลังจะเกษียณไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้วด้วย
บันทึกการเข้า
GUNRUNNER
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13331



« ตอบ #532195 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2016, 09:26:52 PM »




บันทึกการเข้า

ปืน...ดีทุกกระบอก...ขอให้คนยิงยิงให้ดีก็แล้วกัน...
          ...พวกอินเดียนแดงเค้าบอกไว้นานแล้วครับ...
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #532196 เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2016, 07:24:16 AM »

มีเกร็ดเล็ก ๆ มานำเสนอ เรื่องการเมืองท้องถิ่นยุค คสช.

ประกาศ คสช. เรื่องสภาท้องถิ่น

เดิม ... กะจะให้ ซีเจ็ด ซีแปด ในท้องที่ มานั่งในสภาฯแทนสมาชิกสภาฯ กรณีที่สภาฯหมดวาระ

ใหม่ ... ให้สมาชิกสภาฯ นั่งต่อไปจนกว่าจะมีประกาศ พรฎ. เลือกตั้ง ...... ทั้งนี้ มีวรรคย่อย......

วรรคย่อย ความว่า ถ้าสภาฯถูกยุบ(โดยอำนาจผู้ว่าฯ) ให้ผู้ว่าฯ แต่งตั้งบุคคลที่ผู้ว่าฯเห็นชอบ มานั่งเป็นสมาชิกสภาฯแทน

ข้อความข้างต้นนั้น .... เข้าใจนะครับ

....ทีนี้ มาว่าเรื่องเมืองสาระประเทศแห่งหนึ่ง ที่ครั้งหนึ่ง เคยมีปัญหานายกสองคนในเวลาเดียวกัน....

นายกทั้งสอง มีที่มาถูกต้องตามกฏหมายทั้งคู่ แต่โดยคำสั่งศาล นายกคนที่สองคือนายกที่ต้องอยู่ในตำแหน่ง

หลังจากฟาดฟันกันพักใหญ่ สุดท้ายก็กำลังจะตกตะกอน โดยสรุปว่า"นายกคนที่สอง"ได้ตำแหน่งไปในที่สุด......

เรื่องมากวนตะกอนให้ขุ่นอีกรอบ เมื่อประธานสภาฯ ขออำนาจจากผู้ว่า เรียกประชุมสภา....

หนังสือจากประธานสภา เรียกนายกมาร่วมประชุม ผ่าส่งหนังสือเรียก"นายกคนที่หนึ่ง".......




งานนี้ ขอให้ย้อนกลับไปดูวรรคย่อย ที่อยู่ในบรรทัดที่ห้า ด้านบนครับ   ยิ้มีเลศนัย



ผู้ว่าฯ ทำตามคำสั่งศาล ให้นายกฯคนที่สองเข้าสู่ตำแหน่งจนได้  และได้มาพักหนึ่งแล้วด้วย

 แต่สภาฯ ดันกระทำการเช่นนั้น..... ผู้ว่าฯ จะทำยังไงกับสภาฯดีนะ อยากรู้จัง  Grin


แถมผู้ว่าฯ ก็กำลังจะเกษียณไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้วด้วย






แลๆน่าว่าได้ถูกยุบหมดรอบนี้ แล้วล้างไพ่โดยผู้ว่าแต่งตั้งใหม่แน่นอนครับ

ตอน คสช. เข้ามาใหม่ๆเลย เทศบาลเมืองพังงาถูกผู้ว่าเสนอ คสช. ให้ยุบสภาครับ เหลือไว้แต่นายกคนเดียวแล้วให้สรรหาสมาชิกเข้ามาเองครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #532197 เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2016, 08:00:53 AM »

การทำปุ๋ยหมักตามวิธีของห้องเรียนนี้เน้นความขี้เกียจและต้องการให้ได้ปุ๋ยหมักทีละมาก ๆ ให้พอใช้ .... ต่างจากวิธีอื่นที่ขยันพลิกและได้ทีละน้อย ๆ .... ดังนั้น วิธีการและขั้นตอนการทำปุ๋ยหมักจะต่างกันอย่างมาก ใครขืนเอาหลาย ๆ วิธีมารวมกับวิธีของห้องเรียนนี้ก็อาจจะผิดหวังและหน้าแตกได้ครับ เพราะครบกำหนดแล้วก็จะยังไม่เป็นปุ๋ยหมัก .... มีอะไรบ้างที่แตกต่างกัน ลองอ่านดูนะครับ

วิธีอื่นเขาให้ขึ้นเหยียบกองให้แน่น ๆ ในขณะที่วิธีของห้องเรียนปุ๋ยหมักห้ามขึ้นเหยียบ ..... เนื่องจากวิธีอื่นเขามีการพลิกกอง ดังนั้น การเหยียบให้แน่นจึงไม่ส่งผลเท่าไร เพราะจะมีการพลิกเพื่อนำอากาศให้กับจุลินทรีย์ในกองปุ๋ยตามเวลาที่เขากำหนดอยู่แล้ว เช่น พลิกทุกอาทิตย์หรือพลิกทุกเดือน ..... ส่วนวิธีของห้องเรียนมุ่งเน้นให้มีอากาศไหลเข้ากองปุ๋ยเองตามหลักการทางวิศวกรรม เพื่อนำออกซิเจนให้กับจุลินทรีย์ในกองปุ๋ย .... ใครที่ทำกองปุ๋ยให้แน่นก็แสดงว่าเป็นพวกขยันครับ ชอบพลิกกองปุ๋ย .... ส่วนใครขี้เกียจแบบจารย์ลุงก็ต้องไม่ทำให้กองปุ๋ยแน่นเกินไป

ศัตรูตัวฉกาจของการทำกองปุ๋ยหมักแบบของจารย์ลุงคือคนงานครับ เพราะชอบขึ้นเหยียบกองปุ๋ย ชอบเสนอให้เติมนู่นนี่นั่น แต่ไม่ชอบดูแลน้ำกองปุ๋ย 5555

ในเรื่องการพลิกกองปุ๋ยเพื่อนำออกซิเจนให้กับจุลินทรีย์ ตอนหลังก็เพี้ยนไปมากครับ กลายเป็นสอนต่อ ๆ กันว่าการพลิกกองก็เพื่อระบายความร้อน กลัวจุลินทรีย์จะตายไปเสียนี่ .... ในขณะที่กองปุ๋ยของห้องเรียนนี้ยิ่งร้อนยิ่งดี เพราะถือว่ามีจุลินทรีย์ในกองปุ๋ยที่เป็นกลุ่มชอบความร้อนสูง ไม่ตายง่าย ๆ ยิ่งร้อนยิ่งย่อยเก่งและเร็ว (จุลินทรีย์กลุ่ม Themophiles และ Mesophiles)

วิธีอื่นให้เอาดินวางข้างบนกอง .... วิธีของห้องเรียนปุ๋ยหมักนี้ห้ามเอาดินวางข้างบนครับ เพราะต้องการให้อากาศร้อนในกองปุ๋ยลอยตัวสูงขึ้นออกไปจากกอง ซึ่งจะทำให้มีอากาศเย็นภายนอกกองไหลเข้าไปแทนที่ในกองปุ๋ย ตามหลักการของการพาความร้อน .... กองปุ๋ยรูปสามเหลี่ยมจะช่วยลดจุดอับอากาศในกองปุ๋ยได้ ทำให้มีอากาศไหลเวียนทั่วกอง และนำออกซิเจนไปให้จุลินทรีย์ โดยเราไม่ต้องพลิกกองเลย .... ขี้เกียจผุด ๆ

ใครทำกองสี่เหลี่ยมก็ตัวใครตัวมันนะครับ เพราะอากาศจะไม่เข้าไปถึงตรงกลางกอง อากาศมันจะลัดวงจรออกไปเสียก่อน ...... ยกเว้นการทำแบบกองเล็กรูปสี่เหลี่ยม ที่มีฐานกว้างแค่ 1 เมตร อย่างนี้ทำเป็นสี่เหลี่ยมได้ครับ

วิธีอื่นให้ใส่กากน้ำตาลเพื่อให้มีไนโตรเจนที่เป็นสารอาหารของจุลินทรีย์ ..... วิธีของห้องเรียนปุ๋ยหมักนี้ไม่ใช้กากน้ำตาลครับ เพราะถือว่าในมูลสัตว์มีไนโตรเจนมากพอแล้ว และถือว่าการใช้กากน้ำตาลจะส่งผลเสียต่อพืชได้ เพราะกากน้ำตาลไม่มีวันเปลี่ยนสถานะได้ทันในกองปุ๋ยภายในเวลา 2 เดือน เมื่อนำปุ๋ยหมักไปใช้ก็อาจส่งผลให้เกิดเชื้อราในแปลงปลูกและพืชได้ ..... กากน้ำตาลน่าจะเหมาะกับการทำน้ำหมักชีวภาพมากกว่าซึ่งเป็นการย่อยสลายแบบไม่ใช้ออกซิเจน ไม่เหมาะกับการทำปุ๋ยหมักซึ่งเป็นการย่อยสลายแบบใช้ออกซิเจนครับ

วิธีอื่นให้ใส่จุลินทรีย์พวกอีเอ็ม สารเร่ง .... วิธีนี้ใช้จุลินทรีย์ในมูลสัตว์ครับ เพราะถือว่าจุลินทรีย์ในมูลสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นขี้วัว ขี้หมู ขี้ไก่ ขี้ช้าง (ได้ทุกขี้ ยกเว้นขี้เกียจ) มีจุลินทรีย์ที่หลากหลายและมีมาก บางชนิดชอบความร้อนในกองปุ๋ยด้วย ก็เลยไม่ต้องไปหาจุลินทรีย์ที่ไหนมาใส่อีก

วิธีอื่นให้ใส่แกลบและรำข้าว .... วิธีนี้ไม่ใส่ครับ แกลบและรำข้าวเป็นคาร์บอนซึ่งเป็นสารอาหารของจุลินทรีย์ด้วยเช่นกัน วิธีนี้ถือว่าคาร์บอนมีในเศษพืชอยู่แล้ว ไม่ว่าจะสดหรือแห้ง ไม่ว่าจะป็นฟาง ผักตบ หญ้า ใบไม้ เพราะฉะนั้น แค่มูลสัตว์และเศษพืชเพียงสองอย่างก็ครบปัจจัยสำหรับการทำปุ๋ยหมักแล้วครับ ไม่จำเป็นต้องเพิ่มอะไรอีก ..... ถ้าถามว่าไม่ใส่อะไรเพิ่มแล้วปุ๋ยหมักจะแรงได้อย่างไร ก็ต้องขอบอกว่าปุ๋ยหมักวิธีของห้องเรียนนี้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานปุ๋ยอินทรีย์ของประเทศทุกครั้ง เพื่อน ๆ ที่เอาไปทำที่บ้านแล้วเอาไปวิเคราะห์ก็ผ่านทุกครั้งตลอดเหมือนกันครับ

เพื่อให้มีสารอาหารของจุลินทรีย์พวกไนโตรเจนและคาร์บอนในสัดส่วนที่ดีที่สุด จึงเป็นที่มาของสัดส่วน ใบไม้ 3 มูลสัตว์ 1 และถ้าเป็นฟาง ผักตบ หญ้า ก็ 4 ต่อ 1 ครับ .... เป็นการตวงด้วยเข่ง ไม่ใช่โดยน้ำหนักหรือการชั่ง ..... เพราะเคยสอนเกษตรกรเป็นสัดส่วนโดยน้ำหนัก แล้วโดนชาวบ้านบ่นว่าเขาไม่มีตาชั่งที่บ้านอ่ะครับ ..... ตวงด้วยเข่งนะครับ ถ้าอยากให้จุลินทรีย์มีอาหารที่อร่อยถูกใจ

วิธีอื่นไม่สอนเรื่องการดูแลน้ำกองปุ๋ย .... วิธีของห้องเรียนปุ๋ยหมักจะเข้มงวดมากกับเรื่องน้ำครับ เพราะถ้าข้างในกองปุ๋ยแห้ง จุลินทรีย์ก็จะยุติการทำงาน การเป็นปุ๋ยหมักก็จะไม่สมบูรณ์ คุณภาพก็จะต่ำ .... แต่ถ้าดูแลน้ำได้ดี 3 ขั้นตอนตามที่จารย์ลุงกำหนด เมื่อครบ 2 เดือนก็จะได้ปุ๋ยหมักคุณภาพแรง ๆ เนื้อปุ๋ยสวย ๆ เอาไว้อวดเพื่อน ๆ ให้ตาร้อนเล่นไงครับ

การดูแลน้ำกองปุ๋ย 3 ขั้นตอนมีอะไรบ้าง ก็ลองอ่านที่ลิ้งค์ข้างท้ายโพสต์นี้นะครับ

ถ้าทำปุ๋ยหมักไม่มาก วิธีอื่นอาจสอนให้ทำในถังวง หรือในคอกซีเมนต์บล็อก .... วิธีของห้องเรียนนี้ห้ามครับ เพราะถือว่าอากาศไม่สามารถไหลเวียนได้ในถังวงและคอกซีเมนต์บล็อกได้ การเป็นปุ๋ยจะแย่เพราะจุลินทรีย์ไม่ได้รับออกซิเจน .... ถ้าทำไม่มาก ก็ควรทำในวงตาข่ายหรือเข่งที่มีรูด้านข้างจะดีกว่า ..... ไม่ว่าจะทำในวงตาข่ายหรือเข่งหรือตะกร้า คุณภาพปุ๋ยหมักก็ไม่ต่างจากแบบกองใหญ่รูปสามเหลี่ยมครับ

ทำปุ๋ยหมักในถังวง เหยียบให้แน่น เอาดินคลุมข้างบน แล้วไม่มีใครสอนให้ดูแลความชื้น ..... พอจะเดาได้ไหมครับว่าอีกกี่เดือนจึงจะเป็นปุ๋ยหมัก

วิธีอื่นทำปุ๋ยหมักได้ครั้งละไม่เกิน 1-2 ตัน เพราะติดปัญหาแรงงานที่ใช้ในการพลิกกลับ .... แต่ดูในรูปสิครับ สวนส้มเขาทำทีละ 500 ตันอ่ะครับ ..... จะทำ 2 ตันก็เสร็จใน 2 เดือน จะทำ 500 ตัน ก็เสร็จใน 2 เดือนเหมือนกัน ..... ขี้เกียจผุด ๆ เลยนะครับ

ไม่ต้องพลิก ทำได้ครั้งละมาก ๆ .... ถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำวิธีของห้องเรียนนี้ไปปรับใช้ ให้เป็นวิธีการทำปุ๋ยหมักของประเทศ จารย์ลุงคิดว่าผืนแผ่นดินไทยจะต้องกลับมาเป็นด้ามขวานทองอีกครั้งหนึ่ง ดินจะมีความอุดมสมบูรณ์ทั้งประเทศ เศษพืชจะกลายเป็นมีค่า ชาวประชาหมดหนี้ คนอีสานพากันกลับบ้านทำนา กลับไปหาพ่อแม่ .... เป็นประเทศที่ผลิตผักอินทรีย์ ข้าวอินทรีย์ ที่ดีที่สุดในโลก ....... น่าจะดีไม่น้อยนะครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
lugkrod
Hero Member
*****

คะแนน 2419
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12590



« ตอบ #532198 เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2016, 11:18:47 AM »

ถามพี่ติ๋มยัง ว่าให้ทำหม้าย.
บันทึกการเข้า

มีเพื่อนดี มีหนึ่ง ถึงจะน้อย ดีกว่าร้อย เพื่อนคิด ริษยา
เหมือนเกลือดี มีนิดหน่อย น้อยราคา ยังมีค่า กว่าน้ำเค็ม เต็มทะเล..
lugkrod
Hero Member
*****

คะแนน 2419
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12590



« ตอบ #532199 เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2016, 11:22:46 AM »

ไอ้อิฐ ก้อนแดงๆนั่นแกเอามาทำไหร๋สักทีว๋า..
บันทึกการเข้า

มีเพื่อนดี มีหนึ่ง ถึงจะน้อย ดีกว่าร้อย เพื่อนคิด ริษยา
เหมือนเกลือดี มีนิดหน่อย น้อยราคา ยังมีค่า กว่าน้ำเค็ม เต็มทะเล..
หน้า: 1 ... 35477 35478 35479 [35480] 35481 35482 35483 ... 35779
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.396 วินาที กับ 22 คำสั่ง