เจอข่าวแพะทีไรก็มีแต่ว่าตลาด ตปท.ยังกว้างเขาต้องการแพะเป็น ๆ เยอะแยะ
แต่พอหันมาดูบ้านเราเลี้ยงขึ้นมาแล้วแต่ไม่รู้จะขายใคร
ผมเลยสงสัยอีกแว้วว่า..แล้วเราจะมีรัฐบาลไปเพื่ออะไร..?
อันนี้ ผมไม่โทษรัฐบาล.... ไม่ใช่จะเข้าข้างรัฐบาล
เพราะปกติไม่ว่าหน้าไหนมาครองอำนาจ ผมก็ยังตัดยางทำขี้เหมือนเดิม
แต่ การปศุสัตว์หรือการเกษตรกรรมใด ๆ ก็ตาม ที่เป็นการผลิตสินค้าออกสู่ตลาด
ตลาดมันมีหลายระดับ สมมุติปลูก"ถั่วฝักยาว"เอ้า
ผลผลิตออกมา ใส่ตะกร้าเร่ขายตามบ้าน ถั่วฝักยาวจะลีบไปบ้าง ฝักพองไปบ้าง หักนิดๆหน่อย ๆ ขายปนแถม ...ขายได้
ถ้าหวังจะเอาออกไปขายตลาดนัด หักได้อย่ามาก และต้องทำใจว่าฝักที่หักนั่นขายได้หลังสุด ฝักอ่อนฝักพองนี่อย่าเอาไป
ถ้าหวังถึงขั้นเข้าไปอยู่ในซุปเปอร์มาเก็ต ถั่วฝักยาวของคุณต้องสวย ต้องกรอบ ต้องรสชาติดี และสดปิ๊ง ๆ
ถ้าหวังถึงตลาดพรีเมี่ยม ตลาดออร์แกนิกส์ หรือส่งออก ผู้ผลิตต้องผ่านมาตรฐาน จีเอพี. (Good Agricultural Practice)
นั่นคือ ถัวฝักยาว
แน่นอน แต่ละระดับที่ว่ามานั้น มีขั้นตอน ระยะเวลา และค่าใช้จ่าย
การเลี้ยงแพะก็เช่นกัน
ถ้าเลี้ยงสักแต่ว่า เอาไว้แก้บน ปล่อย ๆ ให้กินผ้าตากที่ราวชาวบ้าน ล่ามไว้ให้กินกระดาษห่อข้าวหมกไก่ ฯลฯ
ถ้าจะเลี้ยงไว้ทำบุญ หรือเลี้ยงไว้ขายเขียงในตลาด ก็ล่ามหรือขังคอก ตัดใบกระถิน หญ้าเนเปียร์ให้กินบ้าง
ถ้าจะเลี้ยงประสงค์จะขาย ก็ไปแจ้งปศุสัตว์อำเภอ ขึ้นทะเบียนฟาร์ม ทำคอกให้ถูกสุขลักษณะสักหน่อย
พ่อพันธ์ก็อย่าใช้ซ้ำเกินสองปี เดี๋ยวเลือดจะชิดเกิดเป็นยีนด้อย หญ้าหมักกากปาล์ม หรือหญ้าสดก็หั่นผสมให้กินบ้าง
ถ้าจะเอาใบผ่านทางส่งไปขายแบบสะดวก ๆ ไม่ต้องกักที่ด่านกักสัตว์
ก็เสนอขอมาตรฐานฟาร์มจากปศุสัตว์เขต(ระดับจังหวัดไม่มีอำนาจอนุมัติ) ซึ่งต้องผ่านมาตรฐานต่าง ๆ ของปศุสัตว์
และมาตรฐาน good farming management (gfm) แล้วยังมีมาตรฐานเฉพาะชนิดสัตว์
ในกรณีแพะจะต้องผ่านหลักเกณฑ์การรับรองและรักษาสถานภาพฟาร์มปลอดโรค"บรูเซลลา"
หรือโรคแท้งติดต่อ ซึ้งเป็นโรคร้ายแรงของแพะ ถ้าไม่มีเอกสารเหล่านี้ ก็จะมีปัญหาในการผ่านทาง
จะไปโทษรัฐบาลนั้นไม่ถูกต้อง เพราะรัฐมีแนวทางให้ปฎิบัติอยู่แล้ว แต่มักง่ายไม่ศึกษาและปฎิบัติกัน
สำนักงานปศุสัตว์ทุกที่ แสนจะยินดีถ้าผู้เลี้ยงจะเข้าไปติดต่อ เพราะมันหมายถึงผลงานของเขา
และแต่ละมาตรฐาน เอาเข้าจริงไม่ได้ผ่านยากเย็นอะไรเลย
และปศุสัตว์เป็นหน่วยงานที่ไม่ค่อยได้ยินข่าวเรื่องการเรียกรับด้วย