PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3692
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 62457
|
|
« ตอบ #17415 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2007, 07:05:52 PM » |
|
สอบถามระยะทางระหว่างจังหวัดหรืออำเภอ ---------------> http://map-server.doh.go.th/
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3692
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 62457
|
|
« ตอบ #17416 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2007, 07:26:03 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3692
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 62457
|
|
« ตอบ #17417 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2007, 07:28:17 PM » |
|
สถานที่น่าสนใจ ในเขตอำเภอทุ่งหว้า
หาดราไว
ตั้งอยู่ที่บ้านราไวใต้ และบ้านราไวเหนือ ตำบลขอนคลาน ห่างจากที่ทำการทุ่งหว้าประมาณ 26 กิโลเมตร ไปตามถนนสายละงู-ทุ่งหว้า ให้แยกที่บ้านวังตง ต.นาทอน โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 416
ถ้ำเขาทะนาน
ลักษณะถ้ำเป็นถ้ำเขาหินปูน ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม มีทางเดินเข้าถ้ำได้สะดวก และเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ด้วย การเดินทางใช้เส้นทางสายสตูล-ละงู-ทุ่งหว้า จากตัวเมืองสตูลไปสามแยกบ้านฉลุง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 406 เป็นระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร จากนั้นให้ใช้เส้นทาง 416 ละงู-ทุ่งหว้า ประมาณกิโลเมตรที่ 10 ก็จะถึงถ้ำเขาทะนาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 2947
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 40236
|
|
« ตอบ #17418 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2007, 07:36:34 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
speed_event
Full Member
คะแนน 31
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 199
|
|
« ตอบ #17419 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2007, 08:02:46 PM » |
|
ขอเชิญสาธุชนร่วมงานบุญผ้าป่ากับวัดชัยชนะสงครามหาดใหญ่เพื่อสนับสนุนสถานีวิทยุพระพุทธศาสนาและการเผยแผ่เพื่อความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา5จังหวัดชายแดนใต้วันอาทิตย์ที่22นี้เวลา13.00นสอบถามที่โทร074-240148,087-4088722.สถานีที่รับฟังได้FM.97.75,103.5,95.75,105.0,91.25,106.50.MHz ทางวัดฝากมาบอก ต่อครับ สถานีที่เป็นที่พึ่งทางใจของ3จังหวัดชายแดนใต้เลยนะครับกระจายเสียงแบบไม่มีโฆษณาขาดงบประมาณอยู่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3692
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 62457
|
|
« ตอบ #17420 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2007, 08:14:58 PM » |
|
ถ้วย จาน ชาม ช้อน ทะ หม้อ ไห ล้างเสร็จแล้วจ้า แหม่.......ถ้าลุงแพะไม่เตือนละก็บ้านพังแน่ๆเร้ยยยยยย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 2947
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 40236
|
|
« ตอบ #17421 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2007, 08:25:12 PM » |
|
ขอเชิญสาธุชนร่วมงานบุญผ้าป่ากับวัดชัยชนะสงครามหาดใหญ่เพื่อสนับสนุนสถานีวิทยุพระพุทธศาสนาและการเผยแผ่เพื่อความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา5จังหวัดชายแดนใต้วันอาทิตย์ที่22นี้เวลา13.00นสอบถามที่โทร074-240148,087-4088722.สถานีที่รับฟังได้FM.97.75,103.5,95.75,105.0,91.25,106.50.MHz ทางวัดฝากมาบอก ต่อครับ สถานีที่เป็นที่พึ่งทางใจของ3จังหวัดชายแดนใต้เลยนะครับกระจายเสียงแบบไม่มีโฆษณาขาดงบประมาณอยู่ ขอบคุณมากครับที่แจ้งข่าว ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
speed_event
Full Member
คะแนน 31
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 199
|
|
« ตอบ #17422 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2007, 08:25:31 PM » |
|
อิอิ...อ๊บอ๊บอย่าพึ่งไป.ทําบุญก่ อน ถูกทุกงวด ต้องทำบุญเยาะๆแฮะๆ (การพนันไม่ดีเห็นด้วยพี่ทำบุญดีกว่าอิอิ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3692
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 62457
|
|
« ตอบ #17423 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2007, 08:26:09 PM » |
|
ก่อนเดินทาง
ในช่วงสายฝนโปรยปรายอย่างต่อเนื่องแบบนี้ หลายคนมักเตรียมตัวก่อนออกเดินทางกันเป็นพิเศษ (ทั้งที่จริงแล้วควรเตรียมตัวอย่างดีตลอดเวลา) รวมถึงหลายคนที่ออกตัวว่า ปรับตัวเป็นคนดีไม่ดื่มสุรายาดองขณะเดินทาง อันเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ
- ตรวจสอบแรงดันลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง รวมถึงยางอะไหล่ด้วย - เติมลมยางให้ตรงตามสเปคที่ผู้ผลิตยางหรือผู้ผลิตรถยนต์กำหนดไว้ - เปลี่ยนยางใหม่ เมื่อดอกยางสึกจนถึงระดับที่กำหนดไว้ - ตรวจสอบแรงดันลมยางก่อนออกเดินทางไกล - อย่าบรรทุกหนักเกินระดับที่ผู้ผลิตยางกำหนดไว้ โดยสามารถศึกษาข้อมูลได้จากสมุดคู่มือประจำรถ - หลีกเลี่ยงการจอดแบบปีน หรือเบียดขอบฟุตบาท - เมื่อเกิดความเสียหายกับยางควรรีบซ่อมแซม แต่ถ้ายางเสียหายหนักบริเวณแก้มยาง ควรเปลี่ยนเส้นใหม่ทันที
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3692
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 62457
|
|
« ตอบ #17424 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2007, 08:30:18 PM » |
|
การตรวจเช็ค + ดูแลสภาพยาง
การตรวจเช็คสภาพยางนั้น
ส่วนใหญ่ก็ต้องเริ่มต้นตามที่บอกมาคือ ตรวจสอบสภาพแรงดันลมภายในยาง ไม่ว่าจะตำราหรือคู่มือไหนก็มักจะบอกตรงกันว่า ให้เปิดดูบริเวณเสาประตูรถ จะพบสติกเกอร์สีเหลืองติดอยู่ ซึ่งที่สติกเกอร์จะบอกเอาไว้ว่ารถคันนั้นๆ ควรใช้ลมยางที่ล้อหน้าและล้อหลังเท่าใด แต่สำหรับผม ขอนอกสูตรคนอื่นตามประสาศิษย์นอกคอกของอาจารย์ว่า แรงดันลมที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนดนั้น หลายครั้งพบว่าเป็นการกำหนดสำหรับยางคนละขนาดกับที่ติดรถอยู่ หรือแม้แต่ยางมีขนาดเดียวกันแต่เมื่อใช้งานจริงกลับพบปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากหากผู้ผลิตรถยนต์ต้องการให้ผู้ซื้อรถเห็นว่ารถของเขามีความนุ่มนวล ก็อาจจะกำหนดลมยางให้อ่อนกว่าที่ควรเล็กน้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเขาเห็นว่ารถยนต์ของเขาเป็นรถยนต์สำหรับใช้งานเมือง ซึ่งความเห็นของผู้ผลิตกับการใช้งานจริงของผู้ซื้อ อาจจะต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ อีกทั้งการกำหนดค่าแรงดันลมยางเป็นการกำหนดค่าชนิดที่เรียกว่า ค่าแนะนำ ไม่ใช่กำหนดแบบ ค่าบังคับ ซึ่งหมายถึงสามารถปรับค่าได้ตามความพึงพอใจของผู้ใช้งาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3692
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 62457
|
|
« ตอบ #17425 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2007, 08:30:58 PM » |
|
ผมจึงขอแนะนำว่าสำหรับรถยนต์เก๋งนั่งทั่วไปที่ใช้ยางมาตรฐาน มีขนาดยางตั้งแต่ 14 นิ้ว, 15 นิ้ว และ 16 นิ้ว มีความสูงของแก้มยางตั้งแต่ซีรีส์ 55, 60, 65 และ 70 ให้เจ้าของรถเริ่มต้นเติมลมยางที่แรงดัน 30 ปอนด์/ตารางนิ้ว จากนั้นให้สังเกตดูขณะขับใช้งานโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ผ่านถนนขรุขระ ดูว่าระดับการกระเทือนที่เกิดขึ้นคุณสามารถรับได้หรือไม่ หากพบว่าการกระเทือนอยู่ในเกณฑ์รับได้ไม่ทำให้หัวสั่นหัวคลอนเกินไป ก็ลองเพิ่มแรงดันลมยางอีกสัก 2 ปอนด์/ตารางนิ้ว ทดลองทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ แต่อย่าให้แรงดันลมยางเกินกว่า 37 ปอนด์/ตารางนิ้ว
เมื่อไปถึงระดับที่รู้สึกว่ารถกระเทือนมากจนเกิดความรู้สึกไม่สบาย จึงลดแรงดันลมยางสัก 1 หรือ 2 ปอนด์ ให้กลับมาอยู่ระดับที่รู้สึกกระเทือนน้อยลงและนุ่มนวลจนคุณพึงพอใจ และเมื่อจะต้องเดินทางไกลหรือเมื่อคุณคิดว่าต้องขับรถด้วยความเร็วสูงต่อเนื่อง จึงเพิ่มแรงดันลมยางเข้าไปอีก 2 ปอนด์/ตารางนิ้วทุกล้อ สูตรของผมที่บอกมานั้น เป็นสูตรสำหรับรถเก๋ง และใช้แรงดันลมยางเท่ากันทั้ง 4 ล้อ เพื่อง่ายต่อการจำ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3692
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 62457
|
|
« ตอบ #17426 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2007, 08:31:43 PM » |
|
สำหรับการดูแลรักษายาง
ประการแรกควรตรวจดูสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปติดยัดอยู่ตามร่องดอกยาง ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกเศษหินก้อนเล็กๆหรือเศษกรวดต่างๆ หากพบว่ามีการติดอยู่ตามร่องดอกยางก็ให้ใช้ไขควงหรือเครื่องมืออื่นๆ มาแคะออกไปเสียให้หมด เพราะหากปล่อยคาไว้อย่างนั้น เมื่อล้อหมุนกลิ้งไปตามจังหวะการวิ่งของรถ หินหรือของแข็งที่ติดอยู่กับร่องดอกยางจะถูกน้ำหนักของรถกดอัดไปจนทำให้เนื้อยางช้ำหรือฉีกขาดได้
แต่ถ้าหากพบว่าสิ่งแปลกปลอมที่ติดอยู่กับร่องดอกยางนั้นเป็นโลหะ หรือสงสัยว่าจะเป็นตะปูหรือโลหะอื่นใดที่คิดว่าฝังจนแทงทะลุเข้าไปในเนื้อยาง จงอย่ารีบร้อนแคะหรือใช้คีมดึงออกมา เพราะส่วนใหญ่เมื่อดึงหรือถอนโลหะหรือตะปูนั้นออกมา ลมภายในยางก็จะรั่วออกมาตามรอยที่ถูกแทงจนทะลุนั้นด้วย
วิธีการที่ถูกต้องที่สุดก็คือให้พยายามขับรถไปจนถึงร้านที่จำหน่ายและรับปะยาง แล้วจึงให้ช่างจัดการถอนเอาตะปูนั้นออกมาและปะยางให้เรียบร้อย หรือหากที่รถมียางอะไหล่และท่านมีขีดความสามารถในการเปลี่ยนยางได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ต้องมีเครื่องมือเช่นแม่แรง ประแจถอดล้อ พร้อมใช้งาน และต้องไม่อยู่ในที่เปลี่ยวจนอาจจะเกิดอันตรายด้านอื่นๆ ด้วย ก็ให้ท่านจัดการเปลี่ยนยางเส้นดังกล่าวแล้วใช้ยางอะไหล่ให้ทำหน้าที่แทน และต้องรีบนำยางเส้นดังกล่าวไปให้ช่างทำการปะอุดรูรั่วทันทีที่สามารถทำได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3692
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 62457
|
|
« ตอบ #17427 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2007, 08:32:22 PM » |
|
สำหรับคนที่รักรถและต้องการให้รถดูสวยงามอยู่ตลอดเวลา อาจจะทำการล้างรถด้วยตนเองหรือนำรถไปให้สถานีบริการล้างรถให้บ่อยๆ มักจะพบว่ามี การนำเอาน้ำยาบางชนิดมาเสนอขายให้ใช้ขัดถูกแก้มยางเพื่อทำให้แก้มยางดูดำเงางามมากขึ้น ขอแนะนำว่าไม่จำเป็นจริงๆ จงหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาประเภทดังกล่าว เพราะหลายครั้งที่พบว่าน้ำยาประเภทดังกล่าวนั้นทำให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนลดน้อยลง
ซึ่งแม้ว่าท่านจะใช้ทาถูไปที่บริเวณแก้มยางเท่านั้นก็ตาม แต่เมื่อรถเลี้ยวด้วยความเร็วนั้น แก้มยางจะโย้ตัวลงมาจนไหล่ยางส่วนที่เป็นรอยต่อของแก้มยางจะเป็นส่วนที่สัมผัสกับพื้นถนนด้วย ถ้าพื้นถนนช่วงนั้นเปียกหรือบวกกับลมยางของท่านไม่แข็งพอ จะยิ่งส่งผลให้การยึดเกาะถนนลดน้อยลงจนอาจจะเกิดอันตรายได้ ยางรถยนต์นั้นเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในแง่ของความปลอดภัย ความประหยัด และ ความนุ่มนวล ดังนั้นผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคนจึงควรทำความรู้จักกับยางเอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3692
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 62457
|
|
« ตอบ #17428 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2007, 08:34:03 PM » |
|
16 คำเตือน ................
1.เมื่อได้รถคันใหม่แม้จะเป็นรถมือสอง จะต้องอ่านหนังสือคู่มือประจำรถให้เข้าใจทั้งหมดก่อนนำรถออกใช้งาน เรียนรู้ปุ่ม สวิตช์ควบคุมคันบังคับทุกอย่าง ใช้ให้คล่อง โดยใช้สายตาน้อยที่สุดกับอุปกรณ์ที่จะใช้ทุกครั้ง อย่าเรียนรู้ด้วยการขับไปลองไป
2. เมื่อเข้านั่งประจำที่คนขับ ก่อนติดเครื่องยนต์ต้องรัดเข็มขัด ตรวจสอบ หรือปรับเบาะนั่งกระจกส่องหลัง กระจกมองข้าง ให้เรียบร้อยก่อนที่จะติดเครื่องหรือออกรถทุกครั้ง
3.ต้องจำไว้ว่าหมอนรองศีรษะ เป็นอุปกรณ์ช่วยป้องกันกระดูกคอเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ต้องปรับตำแหน่งสูงสุดของหมอนรองศีรษะให้อยู่ในตำแหน่งที่ตรงกับตำแหน่งสูงสุดของใบหูด้านบนของผู้ขับ หมอนรองศีรษะไม่ใช่มีไว้สำหรับรองรับต้นคอเพื่อความสบาย
4.ห้ามอุ้มเด็กเล็กที่เบาะนั่งด้านหน้า แม้ว่าที่นั่งด้านนั้นจะมีระบบถุงลมนิรภัย ถึงแม้คนนั่งจะคาดเข็มขัดไว้แล้วก็ตาม และไม่ยกเว้นแม้กระทั่งในกรณีที่รถรุ่นนั้นมีสวิตช์ตัดการทำงาน (ยกเลิกการทำงาน) ของถุงลม
5.ในกรณีที่ใช้เบาะนั่งสำหรับเด็กเล็ก (Child seat) ที่จะต้องติดตั้งในตำแหน่งที่หันหน้าเด็กไปทางท้ายรถ ห้ามนำไปติดตั้งที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้าที่ติดตั้งระบบถุงลมนิรภัย ต้องเลือกใช้เบาะนั่งเด็กเล็กให้ได้ตามขนาดของอายุหรือส่วนสูง และอ่านคู่มือการติดตั้งให้เข้าใจชัดเจน
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 16, 2007, 08:37:20 PM โดย PU45 »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3692
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 62457
|
|
« ตอบ #17429 เมื่อ: กรกฎาคม 16, 2007, 08:34:33 PM » |
|
6.สตรีที่ตั้งครรภ์ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับหรือผู้โดยสาร นอกจากจะปฏิบัติตามคู่มือประจำรถในการคาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรึกษาแพทย์ประจำตัวในเรื่องของการคาดเข็มขัดนิรภัยที่ถูกต้องอีกด้วย
7.อย่าปล่อยให้เด็กนั่งตามลำพัง โดยไม่กดปุ่มล็อกประตูที่ห้ามเปิดจากภายใน แม้ว่ารถคันนั้นจะใช้ระบบเซ็นทรัล ล็อก อยู่แล้วก็ตาม
8.ก่อนบิดกุญแจสตาร์ท เหยียบเบรก เหยียบคลัตช์ คันเกียร์อยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง (ในรถที่ใช้เกียร์ธรรมดา) เบรกมือหรือเบรกจอด (Parking brake) ยังอยู่ในตำแหน่งทำงานเช่นเดียวกัน ถ้าเป็นเกียร์ออโตเมติก ตำแหน่งคันเกียร์จะต้องอยู่ที่ตำแหน่ง P หรือ N เท่านั้น
9.เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้ว ตรวจสอบดูไฟเตือนทุกดวงหรือสัญลักษณ์เตือนต่างๆ ต้องไม่โชว์ให้เห็นที่หน้าปัด ถ้ามีไฟเตือนดวงใดดวงหนึ่งแสดงเตือนขึ้นมา ให้ขับรถเข้าอู่หรือศูนย์บริการตรวจสอบก่อนนำไปใช้งาน และไม่จำเป็นที่จะต้องอุ่นเครื่องไว้นานๆ เพราะในการทำงานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา เมื่อเครื่องเย็นนั้นประสิทธิภาพในการกรองไอเสียของแคตตาไลติกยังไม่ทำงานเต็มที่ นอกจากจะเกิดมลพิษแล้ว ยังบั่นทอนอายุการทำงานของตัวกรองไอเสีย และเป็นการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็น
10.เมื่อต้องจอดรถทุกครั้งอย่าลืมใช้เบรกมือ แม้ว่ารถที่คุณขับจะเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ออโตเมติก และคุณเข้าเกียร์ในตำแหน่งจอด (P) ไว้แล้วก็ตาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|