เรื่องวัสดุที่ใช้ทำใบมีด อ่านกระทู้นี้ ตามที่คุณยอดแนะนำได้เลยครับ
http://www.thaiblades.com/forums/showthread.php?t=10457&highlight=aus-8 ส่วนเรื่องใบหยักกับเรียบใช้งานต่างกันอย่างไร ผมเอามาให้อ่านเล่นๆนะครับ
ผู้แต่ง: โจ ทาลมาดจ์ แปลโดย: thaPIXIE แห่งเวปไทยเบรดSerrated vs. Plain
Author: Joe Talmadge
Source: rec.knives Newsgroup
December 1998
I. Introductions
1. เกริ่นนำ
There's been a jump in recent years in the popularity of serrated edges, and there's often confusion as to when a serrated edge is advantageous, versus when a plain edge is advantageous. The question comes up often in rec.knives.
ในเวลาเพียงไม่กี่ปีมีดใบหยักก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และก็มักจะมีข้อสับสนว่า เมื่อไรที่มีดใบหยักจะมีแต้มต่อที่ดีกว่า และเช่นกันว่า เมื่อไหร่ที่มีดใบเรียบจะมีแต้มต่อที่ดีกว่า คำถามนี้มักเกิดขึ้นบ่อยๆใน rec.knive (ชื่อของ News group เจ้าของบทความ: ผู้แปล)
For our discussion, we'll need to talk about what we're doing with the knife. Think about what you can do with a knife: you can shave, slice, slash, saw, hack, chop, etc. For our purposes, we'll divide all knife uses into two very broad categories:
สำหรับการถกประเด็นของเรานี้ เราจำต้องพูดถึงจุดประสงที่เราจะนำมีดไปใช้ก่อน ลองนึกดูว่า เราสามารถใช้มีดทำอะไรได้บ้าง ใช้โกนหนวดโกนขน ใช้แล่ ใช้ฟัน ใช้เลื่อย ใช้ถากถาง ใช้สับ ฯลฯ หากมองจากจุดประสงค์ของการใช้งานแล้ว เราจะแบ่งการใช้มีดทั้งหลายออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
Push cuts: The main cutting is done by pushing the edge through the thing-to-be-cut. For example, when you shave, you push the edge of the knife through your beard. When peeling an apple, you push the edge under the skin of the apple. When chopping wood, you try to push the edge into and through the wood.
การตัดแบบผลักหรือดัน: การตัดจะใช้การผลักใบมีดให้ผ่านสิ่งที่ต้องการจะตัดเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น เมื่อเราโกนหนวด เราจะดันให้ใบมีดตัดผ่านเส้นหนวดของเราไป หรือเวลาเราปอกเปลือกผลไม้ เราก็จะดันใบมีดให้ฝานผ่านใต้เปลือกของมันไป หรือแม้กระทั่งการผ่าไม้ผ่าฟืน เราก็จะพยายามออกแรงจามขวานลงไปในเนื้อไม้ และออกแรงกดผ่ามันออกตลอดแนว
Slicing cuts: The cutting action is substantially done by dragging the edge across the thing-to-be-cut. When you slice meat or a tomato, you drag the edge across the tomato as you cut through it. Slicing and sawing are examples of slicing cuts.
การตัดเฉือน: การตัดแบบเฉือนจะใช้การลากใบมีด ขวางกับสิ่งที่ต้องการจะตัด เช่นเมื่อเราเฉือนชิ้นเนื้อ หรือเมื่อฝานมะเขือเทศ เราใช้การออกแรงลากใบมีดขวางไปกับลูกมะเขือเทศเมื่อเราจะฝานมัน การเฉือนและการเลื่อยนี้ เป็นตัวอย่างของการตัดแบบเฉือน
II. Plain vs. Serrated: The Conventional View
2. ใบเรียบ และใบหยัก ว่ากันตามตำรา
In general, the plain edge is better than the serrated when the application involves push cuts. Also, the plain edge is superior when extreme control, accuracy, and clean cuts are necessary, regardless of whether or not the job is push cuts or slices.
โดยทั่วไปแล้ว มีดใบเรียบจะดีกว่ามีดใบหยักเมื่อใช้งานเกี่ยวข้องกับการตัดแบบออกแรงผลัก(ผ่า: ผู้แปล) อีกทั้งมีดใบเรียบจะใช้ได้ดีเยี่ยมเมื่อการตัดนั้น ต้องการความปราณีต และต้องการรอยตัดที่เรียบร้อย โดยไม่สนใจว่าการตัดนั้นจะเป็นการผ่าหรือการเฉือนก็ตาม
In general, the serrated edge will work better than the plain edge for slicing cuts, especially through hard or tough surfaces, where the serrations tend to grab and cut the surface easily. Some of the cutting power of the serrated edge is due to its format alone; thus, even a dull serrated edge knife will often perform competently at slicing jobs. The serrated edge gets its slicing ability from a number of factors. The high points on the serrations will touch the material first, and this gives those points higher pressure per area than if the same pressure was applied to a plain blade; this allows the serration to puncture more easily. In addition, serrations are normally chisel-ground into the blade, which means they are thinner (and thus cut better) than the comparable plain blade.
โดยทั่วไปแล้ว มีดใบหยักนั้นจะทำงานได้ดีกว่าใบเรียบในการตัดเฉือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัดของที่มีผิวแข็ง หรือมีผิวที่หยาบกระด้าง โดยหยักของใบจะจิกและตัดเฉือนพื้นผิวเข้าไปโดยง่าย ส่วนหนึ่งของความสามารถในการตัดของมีดใบหยักนั้น ขึ้นกับลักษณะของฟันเลื่อยของมัน ดังนั้น แม้มีดใบหยักทื่อๆก็สามรถเถือผ่านของต่างๆได้ มีดใบหยักนั้นได้ความสามารถในการตัดมาจากปลายแหลมจำนวนมากของมัน ยอดแหลมบนใบหยักจะสัมผัสวัตถุก่อน และนี่เองที่ทำให้ปลายแหลมที่สัมผัสผิววัตถุนั้นมีแรงกดต่อพื้นที่มากกว่า ที่ปลายคมของมีดใบเรียบกระทำต้อผิววัตถุ เมื่อออกแรงตัดเท่ากัน(ดังที่เคยอธิบายในกระทู้ก่อนๆว่ามิใช่เหตุผลของการเพิ่มพื้นที่คมอย่างที่เข้าใจกันแต่อย่างใด: ผู้แปล) สิ่งนี้ทำให้มีดใบหยักทิ่มทะลุผิววัตถุลงไปอย่างง่ายดาย อีกทั้ง โดยปกติ บริเวณร่องหยักของใบมีดจะกินลงในเนื้อมีด ทำให้คมบริเวณร่องหยักนั้นบางกว่ามีดใบเรียบโดยทั่วไป
The plain edge will work better for applications like shaving, skinning an apple, skinning a deer. All those applications involve either mostly push cuts, or the need for extreme control. Serrations work really well on things like tough rope or wood, where the serrations bite through quickly.
มีดใบเรียบจะใช้งานได้ดีกว่าเมื่อใช้งานประเภท โกน ปอกเปลือกแอปเปิ้ล หรือแล่หนังกวาง รวมถึงการใช้งานที่เกี่ยวกับการตัดแบบผลักหรือผ่า หรือการใช้งานที่เน้นความเที่ยงตรง ปราณีต
มีดใบหยักใช้งานได้ดีมากๆกับของประเภทเชือกควั่น หรือไม้ เพราะใบหยักจะกินเนื้อลงไปได้เร็วกว่า
Generally, the more push cuts are used, the more necessary it is for the plain edge to have a "razor polished" edge. A knife edge becomes more polished when you move to higher and higher grit stones. Generally, 1200-grit is considered polished; a 6000+ grit Japanese water stone would polish the edge further.
โดยทั่วไป ยิ่งการตัดผ่าเกิดขึ้นบ่อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งจำเป็นต้องทำ"การลับคม(ให้เรียบและมันวาว)แบบมีดโกน" กับมีดใบเรียบมากเท่านั้น คมมีดนั้นจะยิ่งเรียบขึ้นเมื่อเราลับกับหินที่มีความละเอียดสูงขึ้น โดยทั่วไป หิน 1200 grit ก็จัดว่าเป็นหินลับที่ลับคมได้อย่างดีแล้ว หินญี่ปุ่นลับด้วยน้ำความละเอียด 6000+grit จะลับมีดได้ดีเยี่ยมขึ้นไปอีก
One interesting case is cutting a tomato. In theory, you can just push a blade through a tomato, so a razor polished plain edge would work fine. However, the tomato is soft, and unless your plain edge knife is very sharp, the tomato will simply squish when you start pushing. You can (and many people do) use a slicing motion with your plain blade, but if it's even a little dull it won't cut well and it may not even break the skin. Use a sawing motion with a serrated knife (even a dull one), and your tomato will slice fine.
เรื่องทีน่าสนใจเรื่องหนึ่งของการฝานมะเขือเทศนั้น ตามทฤษฎี คุณน่าจะกดมีดผ่าลงไปตลอดลูกมะเขือได้ อย่างที่มีดใบเรียบที่ลับจนคมแบบมีดโกนสมควรจะทำได้ อย่างไรก็ดี มะเขือเทศนั้นนิ่ม และถึงมัดใบเรียบของคุณจะคมแค่ไหนก็ตาม มะเขือเทศก็พาลจะแตกทะลักเสียทุกทีที่คุณออกแรงตัด เรา(และอีกหลายๆคนที่เขาทำกันอยู่แล้ว)สามารถแก้ไขได้โดยออกแรงเฉือนแทนการกดผ่าด้วยมีดใบเรียบ แต่ถ้ามีดใบเรียบของเรานั้นเกิดไม่คมขึ้นมาเพียงนิด มันก็อาจไม่สามารถเฉือนผ่านเปลือกมะเขือเทศลงไปได้ด้วยซ้ำ การใช้การเคลื่อนไหวแบบเลื่อยด้วยมีดแบบใบหยักนั้นถึงแม้มีดใบหยักของเราจะทื่อก็ตาม เราก็จะสามารถฝานมะเขือเทศได้อย่างง่ายดาย
You will read about test after test where the above view is confirmed. That is, the plain edge excels in push cuts, and the serrated excels in slicing cuts. This confirms the conventional view... to an extent.
ที่จะได้อ่านต่อไปนี้คือการทดสอบเพื่อยืนยันสิ่งที่ได้อ่านมาข้างต้นที่ว่า มีดใบเรียบ เป็นเอกในการตัดแบบออกแรงกด ผลัก และมีดใบหยักเป็นเอกในการตัดเฉือน การทดสอบเพื่อยืนยันนี้จะนำสิ่งที่ว่าไว้ตามตำรา สู่ภาคขยายต่อไป