เคยมีประสบการณ์ทำโครงการฯ สมัยเรียนโรงเรียนเหล่าทัพ หลายปีมาแล้ว อาจมีคลาดเคลื่อนบ้าง
ต้องทำโครงการเสนอผ่านต้นสังกัด ในที่นี้คือโรงเรียนฯ ไปยังนายทะเบียนท้องที่ ซึ่งโรงเรียนเหล่าจะให้นักเรียนทุกคนย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่ที่โรงเรียน กรณีนี้จึงทำง่ายทุกคนอยู่ท้องที่เดียวกันทั้งหมด จากนั้นนายทะเบียนท้องที่จะเสนอเรื่องตามลำดับชั้นไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อขออนุญาตนำเข้าปืนโดยไม่รวมเป็นโควต้าของร้านปืนที่จะเป็นผู้สั่งปืนเข้ามาให้เรา (ระบุยี่ห้อปืนและขนาดกระสุนของแต่ละคนมาให้เรียบร้อย) และขอยกเว้นภาษี (ภาษีนำเข้าปืนแพงมาก) เพื่อได้ปืนราคาถูก ต้องตามเรื่องทุกขั้นตอนกว่าจะไปถึงรัฐมนตรีฯได้ก็เหนื่อยพอสมควร จากนั้นก็รอลุ้นว่าท่านจะอนุมัติหรือไม่
ยี่สิบปีที่ผ่านมานี้ ปืนสวัสดิการยกเว้นภาษี (อากรนำเข้า) ไม่ได้แล้วครับ
เนื่องจากไม่ใช่สิ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในภารกิจปกติของส่วนราชการ
เรียนท่านผู้การครับ...แบบว่าผมก็เป็นคนเคยทำโครงการแบบนี้อยู่เหมือนกันเพิ่งทำไปเมื่อปีที่แล้วนี้เองครับ
การที่จะนำอาวุธปืนเข้าโดยไม่เสียภาษีนี้ ผมจะทำการแนบคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยที่ ...../2535 (ผมจำเลขไม่ได้แล้ว)
วันหลังจะลองค้นมาให้ดูนะครับ ซึ่งรายละเอียดในคำสั่งนี้หลักๆก็คือ ให้สามารถนำเข้าอาวุธปืนโดยไม่ต้องเสียภาษีและทางร้านจะไม่นับรวมโควต้า
นี้เข้ากับของทางร้านด้วย เท่าๆที่ผมสอบถามมารู้สึกว่าจะทำกันมาหลายสิบปีแล้วนะครับ ตั้งแต่ รร.นี้ตั้งมานะครับ เบ็ดเสร็จราคาปืนจะตำ่กว่าท้อง
ตลาดมาก ยกตัวอย่างเช่น กล็อค ก็อยู่ประมาณ 27 k ครับ โดยการเสนอราคาก็จะทำการเปิดซองประกวดราคากัน ร้านไหนให้ข้อเสนอที่ดี
ก็จะได้รับการเลือกไป โดยกรรมการที่เลือกก็จะเป็นนักเรียนที่จะเป็นผู้ซื้อเท่านั้นนะครับ แต่พักหลังๆร้านค้าเริ่มมีการยัดซองใต้โต๊ะ ทำให้โครงการแบบนี้เกือบยกเลิกไป อ้อ...ผมลืมบอกไปว่าคนที่จะซื้อได้ต้องเป็นนักเรียน รร.นี้เท่านั้น และซื้อได้เพียงคนละ 1 กระบอกเท่านั้น
ในชีวิตนี้ ซื้อแล้วซื้ออีกไม่ได้ครับ การดำเนินการขั้นตอนก็ต้องไปติดต่อทางอำเภอ(ซึ่งทางอำเภอนี้เค้าจะรู้งานดีครับและให้คำแนะนำดีมากๆ)
จากนั้นก็ทำการร่างหนังสือจากทาง รร.ให้ผู้บังคับบัญชา ลงชื่อแล้วเสนอออกไปยังอำเภอ จากนั้นทางอำเภอจะทำหนังสือส่งไปทางจังหวัดเพื่อขอ
อนุมัติ เมื่อเรื่องถึงจังหวัดก็จะส่งไปยังมหาดไทยเพื่อขออนุมัติอีกที จากนั้นก็จะส่งหนังสือกลับมายังอำเถออีกครั้ง ซึ่งขั้นตอนนี้จะไปช้าเกือบไปประมาณเกือบห้าเดือนเลยนะครับ เมื่อหนังสือกลับมาอำเภอจึงจะสามารถออกใบ ป 2 ได้นะครับ ซึ่งตรงนี้ผมขอบอกว่า
ที่มีโครงการนี้ก้เพื่อให้ นักเรียนที่จะจบออกไปปฏิบัติหน้าที่มีอาวุธปืนไว้ใช้ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลความสงบของสังคมนะครับ ไม่มีเจตนาที่จะเอาเปรียบประชาชนแต่อย่างใด และสิ่งสำคัญก็คือ พวกผมไม่ค่อยมีตังค์กันมากมายเท่าไรครับเป็นแค่ข้าราชการธรรมดาเท่่านั้นเอง
ราคาปืนจริงๆที่ทางร้านบอกผมก็คืออยู่ราวๆ เกือบสองหมื่นเท่านั้นแต่ยังไม่รวมค่าขนส่ง ค่าอื่นๆอีก ตกทางร้านจะได้กำไรเพียงกระบอกละประมาณเกือบๆสามพันเท่านั้นเองครับ แต่เน้นการขายที่ปริมาณนะครับ
ที่ผมรู้ก็มีเท่านี้ละครับผิดถูกอย่างไรก็ขออภัยไว้ด้วยนะครับ