ที่มา :
http://www.thairath.co.th/news.php?section=society03&content=51245ปีที่ 58 ฉบับที่ 18049 วันศุกร์ ที่ 22 มิถุนายน 2550
ความจริงที่ปักษ์ใต้
ความจริงที่ปักษ์ใต้ [21 มิ.ย. 50 - 17:24]
ผมเคยเขียนในคอลัมน์นี้มาหลายครั้งแล้ว โดยชี้ให้เห็นว่าต้นตอปัญหาที่แท้จริงใน 3 จังหวัดภาคใต้ เกิดจากความบกพร่องในเรื่องการศึกษาของกระทรวงศึกษาฯ ปล่อยให้เด็กมุสลิมเรียนแต่ศาสนา โดยไม่บังคับเรียนตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาฯ และชี้ให้เห็นถึงวิธีการต่อสู้ของผู้ก่อการร้ายว่า ใช้วิธีเดียวกับพรรคคอมมิวนิสต์
สองวันก่อน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช. ก็ออกมายืนยันในเรื่องนี้ รับว่าปัญหาใน 3 จังหวัดภาคใต้ เกิดจากความบกพร่องของกระทรวงศึกษาฯ และผู้ก่อการร้ายใช้โครงสร้างแบบพรรคคอมมิวนิสต์
เมื่อฝ่ายความมั่นคงรู้เขารู้เราอย่างนี้ ผมก็รู้สึกโล่งใจ เมื่อรู้เขา รู้ยุทธศาสตร์ของฝ่ายตรงข้าม การจัดทัพและยุทธศาสตร์รับมือก็ง่ายขึ้น
การเปิดเผยข้อเท็จจริงเชิงลึกใน 3 จังหวัดภาคใต้ของ พล.อ.สนธิ ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรก ผมขออนุญาตนำส่วนสำคัญมาลงให้อ่านกันอีกครั้ง ให้ประชาชนทั่วประเทศรับรู้กันให้ทั่วถึง จะได้เข้าใจปัญหา คนในพื้นที่จะได้ร่วมมือกับรัฐบาลมากขึ้น
พล.อ.สนธิเล่าว่า ปกติพ่อแม่ที่เป็นมุสลิมจะได้รับการปลูกฝังให้ส่งลูกเรียนศาสนา ก่อนที่ตาดีกาหรือปอเนาะ ในระยะหลัง อุสตาซ ที่ไปเรียนในตะวันออกกลางจะเข้ามาสอน พวกนี้จะรู้ว่าเด็กคนไหนเก่งหรือไม่เก่ง ครูพวกนี้จะปลุกระดมเด็กไปก่อความไม่สงบ โดยเขาจะทำเช่นนี้ในทุกโรงเรียน สิ่งเหล่านี้เขาทำมาตั้งแต่ปี 2519 ทำกับเด็กเล็กๆใช้เวลา 30-40 ปี ปัจจุบันเด็กที่มีอายุ 20 ปีกว่า จะเป็นเด็กที่ได้รับการถ่ายทอดจากครูพวกนี้ และทำงานอยู่ในขณะนี้
ตอนนี้เราพยายามสกัดกั้นไม่ให้เด็กไปอยู่ในโรงเรียนเหล่านี้ และกระทรวงศึกษาฯก็เริ่มเข้าใจ ขณะนี้เราใช้หลัก 3 เกาะ เกาะติดเข้าไปในทุกโรงเรียน เขาจะไปปลุกระดมตามโรงเรียนต่างๆทำไม่ได้ แต่คนที่เขาเก็บไปหมดแล้วเป็นพวกเจนเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งอยู่ในมหาวิทยาลัยทั้งหมด ขอ ประทานโทษที่ต้องเอ่ยชื่อสถาบันรามคำแหง ที่มีคนไปร่วมปลุกม็อบ ที่ปัตตานี เป็นเด็กรามฯที่แฝงตัวไป และเด็กในมหาวิทยาลัยต่างๆในกรุงเทพฯพอสมควรที่ลงไป ที่ มอ.ปัตตานีก็มีส่วน ที่เรียนหนังสืออยู่บ้านแล้วไปเป็นโจรผู้ก่อความไม่สงบ
พล.อ.สนธิพูดถึงขบวนการผู้ก่อการร้ายว่า มีโครงสร้างเป็นลักษณะของพรรคคอมมิวนิสต์ โดยใช้หลักการขบวนการข่าวลับหรือซีเอไอเอเข้าไปเกี่ยวข้อง ขบวนการที่ทำมีอยู่ 2 อย่าง โดยใช้ทฤษฎีใหม่เข้าไปทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นทุกหมู่บ้าน ที่มีแนวร่วมและปิดลับ คนในหมู่บ้านก็ไม่รู้ว่าใครเป็นแนวร่วม พ่อแม่ก็ไม่รู้ว่าลูกไปก่อความไม่สงบ เพราะเขาสอนวิธีการ compartment need to know ในการรักษาความลับ มันก็ฝังตัวอยู่อย่างนี้
ถ้าใครมือดี ก็จะเอาไปเป็นกองกำลังอาร์เคเค ในตำบลหนึ่งจะมีประมาณ 7-8 คน ภาระหน้าที่คือแบ่งแยกดินแดนแน่นอน ถ้าแบ่งไม่ได้ ก็จะทำให้เป็นเขตพื้นที่ปกครองตนเอง (เหมือนที่ใครเคยเสนอก็ไม่รู้) การใช้กำลังเข้ายึด คงทำไม่ได้ เพราะกำลังไม่พอ แต่เขาจะใช้วิธีการสร้างสถานการณ์และความรุนแรง นำไปสู่การต่อสู้ ทำให้สถานการณ์ไปสู่ต่างประเทศ ให้โอไอซี ยูเอ็น เอ็นจีโอ ขบวนการต่างๆเหล่านี้เข้ามา เพื่อทำให้เกิดความชอบธรรม ให้ขบวนการเหล่านี้เข้ามาสร้างสันติภาพ เหมือนอาเจะห์และติมอร์ ผู้ก่อความไม่สงบมีกำลังแค่ 4,000-5,000 คนเท่านั้น เรามีชื่อในมือหมดแล้ว
ฟังข้อมูลจาก พล.อ.สนธิ แล้วก็หูตาสว่างขึ้นอีกเป็นกอง
พล.อ.สนธิยังพูดถึงปัญหาสภาพครอบครัวใน 3 จังหวัดภาคใต้อีกว่า พ่อจะขี้เกียจมาก นั่งกินกาแฟ เลี้ยงนก (เขา) ส่วนแม่นั่งทำงานเช้าถึงเย็น ผู้ชายพูดไม่รู้เรื่อง แต่ผู้หญิงพูดมีหลักเกณฑ์ ดังนั้น ตนจึงเสนอให้แม่ทัพภาค 4 ใช้ยุทธศาสตร์ผู้หญิงนำผู้ชายในการแก้ปัญหา ใช้กลุ่มแม่บ้านไปดึงผู้ชายให้กลับมา เพื่อสร้างสังคมใหม่ในภาคใต้
ผมเห็นด้วยครับ การแก้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ต้องใช้เวลาอีกนาน ขอเพียงทุกฝ่ายต้องทุ่มเทกำลังลงไปแก้ปัญหาอย่างจริงจังและจริงใจ
รัฐบาลทอดทิ้ง 3 จังหวัดภาคใต้มานานถึง 30 กว่าปี จะใช้เวลาสัก 5 ปี 10 ปีในการแก้ปัญหา ผมก็ถือว่าไม่นานเกินไปนัก ขอเพียงแก้ให้ถูกจุดเท่านั้น.
ลม เปลี่ยนทิศ