ทำมาหาอะไรก็ได้ แต่รับประทานน้อยๆ ครับ
เห็นด้วยพันเปอร์เซ็นครับ ....
ผมยังไม่มีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพส่วนตัวครับ แต่ขอเล่าเรื่องของคนอื่นครับ ....
เพื่อนผมคนหนึ่งเรียนคณะเดียวกันตั้งแต่ปริญญาตรี ตอนเรียนโทก็เจอกันอีก แต่ท่านคงขึ้เกียจทำวิทยานิพนธ์ จึงทิ้งปริญญากลับไปอยู่บ้านครับ ...
บ้านเขามีที่ดินครับ (ต่างจังหวัด) และกำลังจะพัฒนาขึ้นมาเพื่อจัดสรร ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงปลาย ๆ ของยุคเศรษฐกิจฟองสบู่ครับ ... เรื่องโครงการ เขาเขียนแผนธุรกิจมาให้แม่ผมดูครับ แต่ดูเหมือนกู้ไม่ผ่าน ทำให้โครงการต้องชะงักไป ....
ต่อมาเขาก็เข้ากรุงเทพ ไม่ใช่เพื่อทำงาน แต่เพื่ออบรม SME ต่าง ๆ ที่ช่วงนั้นรัฐฯจัดให้มีขึ้น เขายังมาชวนผมไปเลย และในที่สุด เขาก็วาดโครงการโรงน้ำแข็งครับ เป็นน้ำแข็งหลอดนิวตัน ... ซึ่งแม่ผมได้แนะนำไปว่า เครื่องทำน้ำแข็งมันก็ดีอยู่ แต่ต้องดูต้นทุนการบำรุงรักษาด้วย ถ้าเลิกทำแล้ว จะเอาเครื่องไปขายใคร ... ที่สำคัญ คนที่จะมาซื้อของเราเป็นใครบ้าง เดิมเขาก็คงใช้น้ำแข็งอยู่แล้ว จะไปแย่งลูกค้ามาทำอย่างไร ....
แม่ผมว่า ให้ดูว่าเรามีอะไรบ้าง ค่อย ๆ ทำไปทีละเล็กละน้อย ....
มันก็ไปนั่งดู พบว่ามีเครื่องถ่ายเอกสารเก่าอยู่เครื่องหนึ่ง อีกทั้งทำเลบ้านเขาอยู่หน้าวิทยาลัย คอมฯก็มี เลยเปิดร้านถ่ายเอกสารแทนครับ .... รับถ่ายเอกสาร และรับพิมพ์รายงานครับ .... ซึ่งก็ดีขึ้นมาเรื่อย ๆ เพราะไม่ไปแย่งตลาดใคร ตั้งราคาเหมือน ๆ กัน และรับงานจากร้านใหญ่มาทำด้วย (ร้านใหญ่ต้องการเก็บลูกค้าไว้ จึงรับงานมาก แล้วซับให้ร้านเล็ก)
ปัจจุบัน ร้านนี้ให้น้องเขาดู ส่วนตัวเขาไปเป็น อ. พิเศษสอนคอมฯ ในโรงเรียนประจำจังหวัด
โดยสรุปคือ ลื่นไหลตามสถานะการณ์ครับ