ขอส่งกำลังใจให้ทั้งสองท่านคว้าเหรียญทองกลับประเทศให้ได้นะครับ
คัดลอกข้อความจาก
http://www.posttoday.com/sport/sport.html?id=1990009เส้นทางสู่เอเธนส์ เทวฤทธิ์ มัจฉาชีพ เป็นนักกีฬาไทยคนแรก ที่ได้สิทธิไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 28 ตั้งแต่จบศึกเวิลด์ แชมเปียนชิพ ที่ประเทศฟินแลนด์ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และสมาคมยิงปืน ก็ปิดท้ายทัพนักกีฬาไทย 42 คนในครั้งนี้ ด้วยการส่ง เจ้าเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม คว้า ไวลด์การ์ด เข้าร่วมทัพเป็นคนสุดท้ายพอดี
ถือเป็นเรื่องดี ที่ความกดดันจะได้ไม่ตกไปให้ เทวฤทธิ์ แบกรับเพียงคนเดียว แต่น้ำหนักจะสมดุลมากขึ้น เมื่อมี จักรกฤษณ์ ร่วมทีมไปด้วย พันตำรวจโท คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองเลขาธิการสมาคม ในฐานะผู้จัดการทีม กล่าวถึง 2 ตัวแทนกีฬาแม่นปืน
พร้อมกันนี้ยังย้ำว่า ทีมชุดโอลิมปิกครั้งนี้ มีความพร้อมดีที่สุด นับตั้งแต่ก่อตั้งสมาคมขึ้นมาเมื่อปี 2501 เลยทีเดียว ซึ่งไม่ว่าใครจะได้เหรียญอะไรกลับมา ก็จะกลายเป็นประวัติ-ศาสตร์ครั้งแรกในกีฬายิงปืนทันที จากที่ผ่านๆ มานั้น ไม่เคยแม้แต่เข้ารอบ ไฟนั่ล ด้วยซ้ำ
สำหรับสมาคมยิงปืนแห่งประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งสมาคมกีฬาที่มีเป้าหมายสู่ โอลิมปิก อย่างชัดเจน นับตั้งแต่เตรียมทีมก่อนสู้ศึกซีเกมส์ครั้งที่ 22 เมื่อปีที่แล้วด้วยซ้ำ เริ่มตั้งแต่การส่งนักกีฬาตระเวนแข่งทัวร์นาเมนต์ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง กระทั่งการรับจัดงานยักษ์เป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรก คือ เป็นเจ้าภาพการแข่งขันยิงปืน ไอเอสเอสเอฟ เวิลด์คัพ ที่ กรุงเทพฯ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ผู้จัดการทีมแม่นปืนของไทย แสดงความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม หลังจากเห็นฟอร์มของนักกีฬาในช่วง 2 เดือนหลังสุดก่อนไปร่วมชิงชัย โดยเฉพาะเรื่องของสภาพจิตใจสำคัญยิ่ง ในกีฬาที่ต้องอาศัยสมาธิเข้มข้นอย่าง ยิงปืน ทำให้สมาคมได้จัด นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาดูแลเป็นพิเศษ
อุปกรณ์การแข่งขัน รวมทั้งการซ้อมทุกอย่าง อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ เพราะทั้ง สองคนมีวินัยในตัวเองมาก ขยันฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ จะเหลือก็แต่สภาพจิตใจเท่านั้น นักกีฬาต้องรักษาความคิดของตัวเองให้ได้ โดยไม่ปล่อยให้เรื่องจิปาถะมารบกวนจิตใจ อาทิ เรื่องเงินรางวัล
สิ่งที่เป็นข้อได้เปรียบสำหรับนักกีฬาไทยอีกประการหนึ่ง ได้แก่ ได้รู้จักสนามจริงที่จะใช้ในการแข่งขันมาแล้ว หลังจากที่ได้ไปแข่ง ปรีโอลิมปิก เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ในส่วนของโอกาสการหยิบเหรียญใดเหรียญหนึ่งกลับประเทศไทยนั้น จุดสำคัญก็คือ ต้องเข้ารอบไฟนั่ล 8 คน ตามที่ตั้งเป้าไว้ให้ได้เสียก่อน เพราะหลังจากนั้นแล้ว อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจและบุญวาสนาของนักกีฬาเอง ว่าจะพาตัวเองไปได้ไกลแค่ไหน แต่สิ่งแน่นอนที่ผู้จัดการทีมหวังไว้ก็คือ ไม่ได้ต้องการให้นักกีฬาไปเพื่อแพ้ เท่านั้น
นอกจากนั้น ที่สมาคมให้ความสำคัญ ไม่ใช่เฉพาะ เอเธนส์เกมส์ ครั้งนี้เท่านั้น แต่อยู่ ที่การพัฒนากีฬานี้ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นระดับ ซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ หรือ โอลิมปิก 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งสมาคมตั้งเป้าไว้เรียบร้อยแล้วว่า น่าจะผ่านเข้ารอบเพิ่มเป็น 5 คนได้
สิ่งที่น่ากังวลก็คือ คู่แข่งที่จะพัฒนาขึ้นมา วันนี้ไทยเรารู้ว่า เวียดนาม เริ่มส่งนักกีฬาไปเก็บตัวที่ประเทศจีนแล้ว เพื่อหวังรักษาความเป็นเจ้าเหรียญทอง ซีเกมส์ ให้ได้ ซึ่งหากไปแข่งที่ประเทศเป็นกลางอย่าง ฟิลิปปินส์ ในปีหน้าแล้ว เวียดนาม ยังทำผลงานได้ดีกว่า ก็ไม่มีข้ออ้างในความพ่ายแพ้อีกแล้ว รองเลขาธิการสมาคมฯ กล่าว
ดังนั้น เพื่อไม่ให้การเตรียมทีมขาดตอน สมาคมจึงมองถึงแผนการระยะยาว ที่จะช่วย ปูทางสู่การชิงชัยรายการต่างๆ อาทิ การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดแข่ง เวิลด์คัพ ไฟนั่ล ที่ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 25-31 ตุลาคมนี้ ทั้งๆ ที่ปรกติมีเพียง เยอรมนี กับ อิตาลี ที่เวียนกันจัดอยู่เพียง 2 ประเทศ นอกจากนั้นยังถือเป็นรายการใหญ่ครั้งที่ 2 ภายในปีเดียว ที่ไทยได้รับความไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพอีกด้วย
รองเลขาธิการฯ เผยด้วยว่า สมาคมต้องจัดแข่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักกีฬามีความพร้อมอยู่ตลอด การจะมารอให้ทางการเรียกเก็บตัวก่อนแข่งระยะเวลาสั้นๆ ไม่พอเพียงแน่นอน โดยเฉพาะเส้นทางสู่โอลิมปิก 2008 ที่ปักกิ่ง ที่จะเริ่มมีทัวร์นาเมนต์คัดตัวกันตั้งแต่ปี 2006 โอลิมปิกครั้งหน้า คาดว่าต้องเตรียมให้ดีเพื่อสู้กับ จีน ที่เป็นทั้งเจ้าภาพ และยังหมายมั่นจะโค่นนักแม่นปืนจากยุโรปและสหรัฐไว้อย่างเต็มที่แล้ว
ส่วนเป้าหมายของทีมไทยใน ปักกิ่งเกมส์ ปี 2008 นั้น บอกสั้นๆ แต่ได้ใจความเพียงแค่ว่า ต้องมีเหรียญได้แล้ว