...ผลแห่งคดีนี้ทำให้นายทะเบียนต้องคิดให้ดีก่อนออกระเบียบหรือคำสั่งเพื่อมาบังคับใช้กับประชาชน....ในหน้าสุดท้ายของคำพิพากษา เขียนไว้ว่า...
......สาระสำคัญของประกาศนายทะเบียนอาวุธปืนกรุงเทพมหานครดังกล่าว จึงมีลักษณะเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ในการขอและการออกใบอนุญาต ซึ่งต้องกระทำเป็นกฎกระทรวงอันเป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง(๒)เท่านั้น ดังนั้น ข้อ๑ ของประกาศนายทะเบียนอาวุธปืนกรุงเทพมหานคร ที่ ๓๐/๒๕๔๖ ลงวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๔๖ เรื่องขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน จึงเป็นการกระทำโดยไม่มีอำนาจ
อาศัยเหตุผลดังที่วินิจฉัยมาแล้วข้างต้น จึงพิพากษาว่าความในข้อ๑ ประกาศนายทะเบียนอาวุธปืนกรุงเทพมหานคร ที่ ๓๐/๒๕๔๖ ลงวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๔๖ เรื่อง ขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน เฉพาะข้อ ๑ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และให้เพิกถอนประกาศเฉพาะส่วนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวเสีย ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่คดีถึงที่สุด.....
สรุปคำพิพากษา
๑ ข้อเท็จจริง คุณเสกขอ ป.๓ ซื้อปืน.๔๕ เพื่อป้องกันตัวตั้งแต่สมัยยังอยู่กับกองทะเบียน แต่นายทะเบียนไม่อนุญาต อ้างว่าขัดต่อประกาศของนายทะเบียนอาวุธปืนกรุงเทพมหานคร ที่ ๓๐/๒๕๔๖ ลงวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๔๖ (ให้ซื้อเพื่อการกีฬา และต้องเป็นสมาชิกสนามยิงปืน ๖ เดือน) คุณเสกจึงยื่นอุทธรณ์ และเมื่ออุทธรณ์ครบ ๙๐ วัน มท.๑ ยังไม่ได้วินิจฉัยอุทธรณ์ ก็ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ขอให้ศาลออกคำบังคับให้นายทะเบียนออก ป.๓ กับให้เพิกถอนประกาศของนายทะเบียนอาวุธปืนกรุงเทพมหานคร ที่ ๓๐/๒๕๔๖
๒ มท.๑ ซึ่งป็นรองประธานศาลปกครองสูงสุดมาก่อน เห็นคำฟ้องแล้วจึงวินิจฉัยอุทธรณ์ให้ออก ป.๓ ให้คุณเสก สพป.ก็ถอนฟ้องเฉพาะเรื่อง ป.๓ แต่ยังขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนประกาศของนายทะเบียนอาวุธปืนกรุงเทพมหานคร ที่ ๓๐/๒๕๔๖
๓ ศาลพิพากษาว่าประกาศของนายทะเบียนอาวุธปืนกรุงเทพมหานคร ที่ ๓๐/๒๕๔๖ ที่ให้ซื้อปืน.๔๕ เพื่อการกีฬา และต้องเป็นสมาชิกสนามยิงปืน ๖ เดือน มีลักษณะเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การขอและการออกใบอนุญาต ซึ่ง พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา ๖ วรรคหนึ่ง (๒) กำหนดให้เป็นอำนาจของ มท.๑ ที่จะออกระเบียบขึ้นมา และจะต้องเป็นกฎกระทรวงด้วย จึงให้เพิกถอนประกาศของนายทะเบียนอาวุธปืนกรุงเทพมหานคร ที่ ๓๐/๒๕๔๖ ในส่วนที่ผิดกฎหมาย ซึ่งได้แก่เรื่องที่ให้ซื้อปืน.๔๕ เพื่อการกีฬา และต้องเป็นสมาชิกสนามยิงปืน ๖ เดือน
ต้องขอแสดงความยินดีกับคุณเสกสรร ผู้การสุพินท์ และทีมงาน สพป. ทุกคนด้วยครับ
ที่สามารถสร้างบรรทัดฐานการออกป.๓ ของปืนขนาด .๔๕ ได้ และน่าจะเป็นบรรทัดฐาน
รวมไปถึงขนาด .๓๕๗ และ .๔๔ ได้อีกด้วย
และขอแสดงความยินดีกับ พวกเรา คอปืน .. ทุกๆคนด้วยเช่นกัน ขอให้คดีไม่มีการอุทธรณ์
ถึงที่สุดไป
ศาลท่านคงเล็งเห็นถึงหลักความเป็นจริงด้วยว่า คนมีปืนไม่ว่าจะขนาดอะไร คงไม่มีใครอยากคิด
เอาปืนไปก่อเหตุกระทำผิดหรอก เพราะมีทะเบียนคุมอยู่ อย่างไรก็ไม่รอด
การออกป.๓ ป.๔ ให้ก็น่าจะเป็นการคุ้มครอง ป้องกันได้ดีกว่า ที่จะไม่ออกให้
ผมเคยสอบถามเจ้าหน้าที่กองปราบที่ออกป.๑๒ ใบพกให้แก่ประชาชนไป
เขาบอกว่า ยังไม่เคยเห็นคนไหนที่ได้ใบพก ไปก่อเหตุยิงคน หรือก่ออาชญากรรมใดๆเลยแม้แต่คนเดียว
...
ขอร่วมไชโย .. ด้วยครับ ...