ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ
การห้ามสั่งหรือนำเข้าเป็นคนละอย่างกับการมีไว้
ในครอบครองนะครับ
ทำไมถึงต้องบอกว่าเป็นความเห็นส่วนตัว หรือว่าตัวท่านเองสามารถแสดงความเห็นในฐานะผู้แทนองค์กรได้ด้วย
การอ้างแบบนั้น ยิ่งทำให้พบจุดจบเร็วขึ้น
ใบอนุญาตต่าง ๆ มีความเป็นมาเป็นไปที่ต่อเนื่อง เกี่ยวพันกัน
ป.4 มาจาก ป.3 และ ป.3 ก็มาจาก ป.2
นายทะเบียน เขาก็จะบอกว่าออก ป.4 ไปเพราะตรวจสอบแล้วพบว่าซองกระสุนถูกต้องตามกฎกระทรวง
ความซวย ก็ไปตกกับเจ้าของปืนว่าดัดแปลง
ยกเว้นเป็นปืนสวัสดิการ ที่โบรชัวร์เขียนไว้ว่าซองกระสุนบรรจุเกิน 10 นัด ซึ่งเจ้าของปืน พอจะจูงมือ หน.ส่วนราชการผู้อนุมัติโครงการ, นายทะเบียนอาวุธปืนผู้ออก ป.2 และ ป.4, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยผู้อนุมัติให้ผ่อนผันคำสั่ง มท.108/35 และศุลการผู้ตรวจปล่อยปืน เข้าคุกไปด้วยกันได้
ความเห็นของท่านผู้การสุพินท์ ก็มีเหตุผลฝ่ายหนึ่ง
เราไม่ได้หลงประเด็น
การโต้แย้งทางข้อกฎหมาย เราเปิดใจอยู่แล้ว
ประเด็นที่ว่า "มีส่วนของอาวุธปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตไม่ได้" นั้น
เกี่ยวกับซองกระสุนเกิน 10 นัด ตามกฎกระทรวง ฯ ฉบับที่ ๓ (พ.ศ.๒๔๙๑)
ข้อ ๒ (๑๒) เป็นการห้ามออกใบอนุญาตสำหรับให้ทำ หรือสั่ง หรือ นำเข้า...
กลับไปดู พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ มาตรา ๔ (๗) (๘) คำนิยาม การสั่ง และการนำเข้าคือ
การส่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักร
ดังนั้น ซองกระสุนเกิน 10 นัด จึงถูกห้ามเฉพาะการทำ การสั่งหรือการนำเข้ามา
ในราชอาณาจักร เท่านั้น อ่านทุกตัวอักษร(โดยไม่ต้องเปิดพจนานุกรมแล้ว)
ไม่เห็นข้อห้ามการมีไว้ในครอบครอง
ส่วนการที่ห้ามออกใบอนุญาตครอบครอง หรืออาวุธปืน (รวมถึงชิ้นส่วน หรือส่วนประกอบ
ตามกฎกระทรวง ฯ ฉบับที่ ๓ ) เครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตไม่ได้
กำหนดไว้ ในกฎกระทรวง ฯ ฉบับ ที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๒) อ่านทุกตัวอักษรแล้ว เช่นเดียวกัน
ไม่มีห้าม ซองกระสุนเกิน 10 นัดเลย
ผมจึงยกตัวอย่างเกี่ยวกับสิ่งเทียมอาวุธ ตาม ๕๒ ของ พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯ ว่าห้ามเฉพาะการนำเข้า เว้นแต่ได้รับอนุญาต แต่ไม่เห็นมีการห้ามครอบครองไว้ตรงไหนเลย จึงเป็นลักษณะเดียวกันกับซองกระสุน เกิน 10 นัด ที่คุยกันอยู่
ขอประทานโทษนะครับ ผมไม่ได้เถียงท่านใด ผมออกความเห็นไปตามหลักวิชาการ
ส่วนฎีกานั้น ผมอ่าน มาตั้งแต่ ปี 30 ถึงจะจำไม่ได้หมด แต่สามารถค้นคว้าได้
ในเวลาไม่นานนัก แต่หลักการที่ผมใช้อยู่คือ แม่นตัวบท เข้าใจฏีกา อ่านตำราประกอบและ
ฝึกทำข้อสอบเป็นประจำ
ขอบคุณครับ
ความเห็นของคุณ phofah ก็มีเหตุผลอีกฝ่ายหนึ่ง
น่ารับฟังทั้งสองฝ่ายครับ ข้อเท็จจริงนี้ถ้าขึ้นศาลอยู่ที่ว่าศาลจะฟังเข้าทางฝ่ายไหน
ยังมีเรื่องเจตนา ตามปอ.มาตรา 59 อีก ว่าการกระทำนี้ถ้าไม่รู้ ไปซื้อต่อจากเขามาก็แบบนี้ 15 นัด
นำสืบได้แบบนั้น ไม่ได้มีการดัดแปลงใดๆเลย ศาลจะฟังว่าขาดเจตนาได้ไหม
แต่ผมกลัวว่าศาลจะมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องมาตั้งแต่เบื้องต้นนะสิครับ
เพราะลองไปเปิดดู พรบ.อาวุธปืนฯ มาตรา 55 บอกว่า
ประเภท ชนิดและขนาดของอาวุธปืน
เครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้ตาม มาตรา 7 มาตรา 24
หรือมาตรา 38 ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวงก็เลยต้องมาดูกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 ( พ.ศ. 2522 ) ในข้อที่ 2 บอกว่า
อาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้ ตาม มาตรา 7 หรือมาตรา 24 ต้องเป็นอาวุธปืน ชนิดและขนาดดังต่อไปนี้
(1 ) อาวุธปืนชนิดลำกล้องมีเกลียว ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางปากลำกล้องไม่เกิน 11.44 มม.
(2)อาวุธปืนชนิดลำกล้องไม่มีเกลียว ดังต่อไปนี้
(ก) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางปากลำกล้องไม่ถึง 20 มม.
(ข) ปืนบรรจุปากกา ปืนลูกซอง และปืนพลุสัญญาณ
(3) อาวุธปืนชนิดที่มีเครื่องกลไกสำหรับบรรจุกระสุนเอง ให้สามารถยิงซ้ำได้ดังนี้
( ก) ขนาดความยาวของลำกล้องไม่ถึง 160 มม.
(ข) ปืนลูกซอง
(ค) ปืนลูกกรดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางปากลำกล้องไม่เกิน 5.6 มม.
(4) อาวุธปืนชนิดไม่มีเครื่องบังคับเสียงให้เบาผิดปกติ
(5) อาวุธปืนชนิดที่ไม่ใช้กระสุนเป็นที่บรรจุวัตถุเคมีทำให้เกิดอันตรายหรือเป็นพิษหรือไม่ใช้เครื่อง
กระสุนปืนที่บรรจุเชื้อโรค เชื้อเพลิง หรือวัตถุกัมมันตภาพรังสี.........................
**** จะเห็นว่าอันนี้เป็นเรื่องของตัวอาวุธปืน ว่าด้วยพวก ตัวปืน ลำกล้อง ที่นายทะเบียนจะต้อง
พิจารณาจากตรงนี้ก่อนจะออกใบอนุญาต ป.4 ให้ใคร ( ตามพรบ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 55 )
โดยอาศัยกฎกระทรวงตัวนี้ว่าจะออกให้ได้ไหม
แต่ซองกระสุนไม่ได้พูดถึงไว้ ว่าให้ดูยังไง ทั้งๆที่ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 3 ( พศ.2491 )
ในข้อที่ 1 ( 4 ) ให้ถือว่า ซองกระสุนเป็น อาวุธปืน
แล้วทีนี้นายทะเบียนจะออกป.4 สำหรับซองกระสุน จะไปดูตรงไหน
ก็อาจจะต้องย้อนกลับไปดูบทเฉพาะเรื่องซองกระสุน ซึ่งมีอยู่ใน กฎกระทรวงฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2491 )
ในข้อที่ 2 ( 12 ) ที่ห้ามนำเข้าซองพวกนี้ แสดงไปถึงว่าห้ามเอาเข้ามาขาย คือเจตนาที่ห้ามเอามาขาย
ก็เพราะไม่อยากให้ใครซื้อมาใช้และมีไว้ในครอบครองนั่นเอง เลยห้ามสั่งเข้ามาขายเอาไว้
แม้กระทั่งการดัดแปลงไว้ใช้ส่วนตัวก็ยังห้าม ดูในข้อ 2 ของกฎกระทรวงฉบับนี้
เมื่อนายทะเบียนจะออกป.4 ซองกระสุน จึงต้องพิจารณาจากบทเฉพาะเรื่องซองกระสุนตรงนี้
ถ้าเห็นว่าฝ่าฝืนกฎกระทรวงฉบับนี้ ก็ต้องไม่ออกป.4 ซองกระสุนให้ (ออกให้เฉพาะตัวปืนและส่วนประกอบอื่น )
ถ้าฝ่าฝืนไปออกให้ ก็อาจจะทำให้ไม่ชอบมาตั้งแต่ต้นได้
ยกตัวอย่าง เหมือนกรณี นาย ก. ไม่จบปริญญาตรี แต่มาสมัครสอบจนได้เป็นนายร้อยตำรวจ
มาตรวจสอบเจอภายหลัง ก็ต้องโดนถอดยศ เพราะถือขั้นตอนการเข้ามาไม่ถูกตั้งแต่เบื้องต้นแล้ว
หรือคนต่างด้าวมาลอบเข้าเมือง ทำเอกสารสมัครสอบจนได้รับราชการ ตรวจสอบพบก็โมฆะตั้งแต่ต้น
ผมกลัวตรงนี้เหมือนกันครับ
ใจ จึงอยากจะให้รีบแก้ไขกฎกระทรวงฉบับนี้ให้โดยเร็วดีกว่า จะมั่นใจได้มากว่ายังไงก็ไม่โดนข้อหานี้