เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 11, 2024, 06:17:39 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 4 5 6 [7] 8 9 10 ... 28
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ซองกระสุนเกิน 10 นัดโดนยึด??? (ขึ้นศาลแล้ว.. หน้า17)  (อ่าน 94705 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 47 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
tamakik
เสียงปลอกลูกปืนที่ตกลงพื้นทุกครั้ง..คือกะตังค์ของเราที่บินไป..แว้ว..
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 2
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 63


ความสุขอยู่ให้ใกล้ ความทุกข์เอาไปทิ้งไกลๆ


« ตอบ #90 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2007, 04:57:37 AM »

ได้อ่านมาตั้งแต่ต้นผมได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากเลยครับ..ทำให้ผมได้ทราบว่าการแสดงความเห็นในลักษณะเอาความรู้เข้าแลกเปลี่ยนกัน..คนได้รับผลประโยชน์ก็คือผู้ติดตามอย่างผมๆนี่แหละ..ติดตามมาจนถึงตรงนี้..ผมก็เกิดความรู้สึกขึ้นมาว่า
1.คนสูบบุหรี่เจอความพยายามจำกัดวง..ทำซองทุเรศๆ..ป้ายห้ามสูบบุหรี่มีอยู่ทั่วไปแต่ก็เฉพาะจุดที่สำคัญๆ..ก็เลือกที่จะไม่เลิกสูบโดนจับเปรียบเทียบปรับก็เยอะ..กระทรวงฯออกมารณรงค์ให้เลิกสูบแต่ไม่ยั๊กก่ะเลิกหรือลดการผลิต..
2.คนใช้รถ..ป้ายห้ามจอดก็มี..ขาวแดงก็เห็น..จอดซ้อนคันก็เป็นนิสัย..เจอใบสั่งตัดแต้มก็ไม่เห็นจะรู้สึก..
ในสองข้อตัวอย่างที่ผมยกมาอาจมีใครหลายๆคนเคยกระทำ..จะตั้งใจหรือเปล่าไม่รู้ล่ะแต่ถามนิดตอนที่ทำผิดคิดอะไรอยู่..
เสียตังค์ซื้อน๊ะบุหรี่น่ะ..หรือรถของฉันถนนของฉันเสียภาษีเหมือนกันเฟ้ย..หรือไม่รู้นี่หว่า..
3.ปืน..ก่อนจะมีจะซื้อเราๆได้ศึกษาข้อกฏหมายประกอบแบบพื้นฐานกันมาบ้างมากน้อยแค่ไหน..ผมว่าอันตรายเอาการอยู่นะ..หากใครคิดจะมีจะใช้แล้วไม่ได้รับความรู้เกี่ยวกับกฏหมายพื้นฐานและกฏข้อบังคับเกี่ยวกับความปลอดภัย..โอยเหมือนออกรถป้ายแดงใบขับขี่ก็ไม่มีแถมยังขับรถไม่เป็นเอาเสียอีก..คิดอย่างเดียว..เอาน่า..เดี๊ยวก็ได้เดี๊ยวก็เป็น..แล้วไงคราวเคราะห์ก็เกิดกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง..เฮ้อ....ร้านจำหน่ายปืนกระบอกนึงราคาเท่ารถปิ๊คอัพมือสอง..น่าจะทำคู่มือแจกบ้างเน่อะโรเนียวเอาพออ่านออกก็ได้ใส่มาในกล่องปืนที่จำหน่ายทุกกล่องเลย..จะเป็นประโยชน์อย่างที่สุดของที่สุด
ครับพี่ๆครับที่ร่ายยาวมาก็เพียงแค่สะท้อนความรู้สึกออกมาว่า..เราคือผู้ที่ได้รับสิทธิ์พิเศษกว่าชาวบ้านธรรมดาๆอีกหลายๆคนในการให้มีและใช้อาวุธปืนอยู่แล้ว..คนอื่นเขาใช้มีดใช้ขวาน..เราล่ะ..?
กฏหมายมีมาอย่างไรเราก็พร้อมใจปฏิบัติตาม..อย่าไปคิดย้อนหลังให้เสียอารมณ์..อย่าให้เสียงแห่งความเสียดายที่บอกเราว่าซื้อมาแล้วนี่นามาดังหลอกในจิตใจเราจนกลายเป็นทิฐิอยากเอาชนะ..วันนึงกฏหมายได้รับการแก้ไขอย่างที่ตรงหรือพ้องกับความต้องการของเราขึ้นมาจริงๆ..ก็ค่อยจัดงานมโหรสพสมโภชกันให้อลังการณ์ไปเลย..ผมเห็นพี่ๆที่เป็นผู้ใหญ่ในเวปนี้หลายๆท่านย้ำสอนเสมอๆในเรื่องของการเคารพต่อกฏหมาย..แม้บางบทตอบกระทู้ของท่านอาผู้การฯจะดูเหมือนมีอารมณ์ร่วมแต่ตีความให้ดีๆผมก็รู้สึกได้ว่าท่านกำลังปรามๆเราอยู่อย่างมีศิลป์..ความถึงที่สุดไม่ต้องโทษจำคุก..ไม่ต้องเสียค่าปรับเต็มเพดาน..ได้รับปืนคืนแต่ซองกระสุนถูกยึด..ก็ขอให้เป็นโชคที่ดีที่สุดน๊ะครับ..ซองกระสุนซื้อใหม่ได้..กฏหมายคือที่สุด..ผมขอคาราวะท่าน จขกท.ที่ได้กรุณานำเรื่องของท่านมานำเสนอ..เป็นประโยชน์มากๆครับเห็นใจท่านอย่างสุดๆด้วย..ยังไงๆก็ยังอลุ่มอล่วยกันอยู่หรอกครับ..เคยเห็นที่โดนตรวจค้นเจอแล้วปล่อยไปอย่างสมเหตุสมผลก็เยอะอ่ะครับ..หากเขี้ยวกันจริงๆไปคอยยืนจับที่สนามบินขอบอกวันๆนึงคงจับได้เป็นเข่งๆ..พี่ๆว่าป่ะผิดจนไม่รู้จะอ้างข้อไหนเลย..ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาขอให้พี่ๆนักประดิษฐ์ในเวปของเราคิดค้นลิ้นพลาสติกหรืออะไรก็ได้ที่ทำให้ซองของเราบรรจุได้ 10 นัดตามกฏฯออกมาวางจำหน่ายได้เร็วๆ..จะได้หายสะดุ้งไปได้อีกหนึ่งอาการ..สาธุ Grin
บันทึกการเข้า

PHOFAH
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #91 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2007, 10:24:59 AM »

     เราไม่ได้หลงประเด็น
     การโต้แย้งทางข้อกฎหมาย เราเปิดใจอยู่แล้ว
     ประเด็นที่ว่า "มีส่วนของอาวุธปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตไม่ได้" นั้น
     เกี่ยวกับซองกระสุนเกิน 10 นัด ตามกฎกระทรวง ฯ ฉบับที่ ๓   (พ.ศ.๒๔๙๑)
ข้อ ๒ (๑๒)  เป็นการห้ามออกใบอนุญาตสำหรับให้ทำ  หรือสั่ง หรือ นำเข้า...
กลับไปดู พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ มาตรา ๔ (๗) (๘) คำนิยาม การสั่ง และการนำเข้าคือ
การส่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักร
      ดังนั้น ซองกระสุนเกิน 10 นัด จึงถูกห้ามเฉพาะการทำ การสั่งหรือการนำเข้ามา
ในราชอาณาจักร เท่านั้น  อ่านทุกตัวอักษร(โดยไม่ต้องเปิดพจนานุกรมแล้ว)
ไม่เห็นข้อห้ามการมีไว้ในครอบครอง
      ส่วนการที่ห้ามออกใบอนุญาตครอบครอง หรืออาวุธปืน (รวมถึงชิ้นส่วน หรือส่วนประกอบ
ตามกฎกระทรวง ฯ ฉบับที่ ๓ ) เครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตไม่ได้
กำหนดไว้ ในกฎกระทรวง ฯ ฉบับ ที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๒)  อ่านทุกตัวอักษรแล้ว เช่นเดียวกัน
ไม่มีห้าม ซองกระสุนเกิน 10 นัดเลย
       ผมจึงยกตัวอย่างเกี่ยวกับสิ่งเทียมอาวุธ ตาม ๕๒ ของ พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯ ว่าห้ามเฉพาะการนำเข้า เว้นแต่ได้รับอนุญาต แต่ไม่เห็นมีการห้ามครอบครองไว้ตรงไหนเลย จึงเป็นลักษณะเดียวกันกับซองกระสุน เกิน 10 นัด ที่คุยกันอยู่
      ขอประทานโทษนะครับ  ผมไม่ได้เถียงท่านใด ผมออกความเห็นไปตามหลักวิชาการ
ส่วนฎีกานั้น ผมอ่าน มาตั้งแต่ ปี 30  ถึงจะจำไม่ได้หมด  แต่สามารถค้นคว้าได้
ในเวลาไม่นานนัก  แต่หลักการที่ผมใช้อยู่คือ  แม่นตัวบท  เข้าใจฏีกา  อ่านตำราประกอบและ
ฝึกทำข้อสอบเป็นประจำ
     ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #92 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2007, 11:23:26 AM »

ข้อเท็จจริง-ข้อกฎหมาย....ยังไม่เคยถูกนำมาหักล้างกันอย่างชัดเจนในชั้นศาลเลยครับ
มองย้อนกรณีเพชรบุรีเมื่อปีที่แล้ว ...... จำเลยรับสารภาพตามข้อกล่าวหา

ข้อกล่าวหาคือ.....

-มีซองกระสุนปืนพกออโตเมติก ชนิดบรรจุกระสุนปืนได้ จำนวน ๑๕ นัด  อันเป็นส่วนของอาวุธปืนที่ให้ถือเป็นอาวุธปืนซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครอง ศาลลงโทษ จำคุก ๒ ปี

-พาซองกระสุนปืนอันเป็นส่วนของอาวุธปืนที่ให้ถือเป็นอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ซึ่งจำเลยมีไว้เป็นความผิดดังกล่าวติดตัวไป ศาลลงโทษ จำคุก ๖ เดือน ปรับ ๔๐๐๐ บาท

-พาอาวุธปืน (มีทะเบียนถูกต้อง ขนาด ๙ มม. ๑ กระบอก มีกระสุน ๘ นัด) ติดตัวโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และไม่มีเหตุจำเป็นหรือเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ศาลลงโทษ ปรับ ๓๐๐๐ บาท

จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา  มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก ๑ ปี ๓ เดือน ปรับ  ๓,๕๐๐ บาท  และศาลปราณี  โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้  ๒  ปี  และคุมความประพฤติ ๑ ปี

ใครจะอาสาสู้ความคงต้องคิดหนัก ...... ทำเป็นเล่นไป.......มีซองกระสุนจุได้เกิน ๑๐ นัด จำคุก ๒ ปี  Shocked

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 27, 2007, 11:29:26 AM โดย ธำรง » บันทึกการเข้า
nine รักในหลวง
มนุษย์ล่วงทุกข์ได้ด้วย...ความเพียร
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 44
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 571


การเดินทางไกลนับหมื่นลี้....ต้องเริ่มต้นที่ก้าวแรก


« ตอบ #93 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2007, 01:00:20 PM »

เข้ามาหาความรู้..ขอบคุณสำหรับทุกๆความรู้ครับ
บันทึกการเข้า

หลังจากพายุผ่านไป..ท้องฟ้าสดใสขึ้นทันตา..อุปสรรคนานาก็ผ่านเลยไป..ชีวิตใหม่เริ่มก้าวเดินอย่างทรนง..แข็งแกร่งดุจหมู่เกาะ.....กลางคลื่นลม..
ตะบันไฟ
Hero Member
*****

คะแนน 47
ออฟไลน์

กระทู้: 1283



« ตอบ #94 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2007, 02:55:50 PM »

ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ
การห้ามสั่งหรือนำเข้าเป็นคนละอย่างกับการมีไว้
ในครอบครองนะครับ

ทำไมถึงต้องบอกว่าเป็นความเห็นส่วนตัว   หรือว่าตัวท่านเองสามารถแสดงความเห็นในฐานะผู้แทนองค์กรได้ด้วย Wink
การอ้างแบบนั้น ยิ่งทำให้พบจุดจบเร็วขึ้น Grin
ใบอนุญาตต่าง ๆ มีความเป็นมาเป็นไปที่ต่อเนื่อง เกี่ยวพันกัน
ป.4  มาจาก ป.3  และ ป.3 ก็มาจาก ป.2
นายทะเบียน เขาก็จะบอกว่าออก ป.4 ไปเพราะตรวจสอบแล้วพบว่าซองกระสุนถูกต้องตามกฎกระทรวง
ความซวย ก็ไปตกกับเจ้าของปืนว่าดัดแปลง
ยกเว้นเป็นปืนสวัสดิการ  ที่โบรชัวร์เขียนไว้ว่าซองกระสุนบรรจุเกิน 10 นัด   ซึ่งเจ้าของปืน พอจะจูงมือ หน.ส่วนราชการผู้อนุมัติโครงการ,  นายทะเบียนอาวุธปืนผู้ออก ป.2 และ ป.4,  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยผู้อนุมัติให้ผ่อนผันคำสั่ง มท.108/35  และศุลการผู้ตรวจปล่อยปืน เข้าคุกไปด้วยกันได้

ความเห็นของท่านผู้การสุพินท์  ก็มีเหตุผลฝ่ายหนึ่ง  หลงรัก

เราไม่ได้หลงประเด็น
 การโต้แย้งทางข้อกฎหมาย เราเปิดใจอยู่แล้ว
 ประเด็นที่ว่า "มีส่วนของอาวุธปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตไม่ได้" นั้น
 เกี่ยวกับซองกระสุนเกิน 10 นัด ตามกฎกระทรวง ฯ ฉบับที่ ๓ (พ.ศ.๒๔๙๑)
ข้อ ๒ (๑๒) เป็นการห้ามออกใบอนุญาตสำหรับให้ทำ หรือสั่ง หรือ นำเข้า...
กลับไปดู พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ มาตรา ๔ (๗) (๘) คำนิยาม การสั่ง และการนำเข้าคือ
การส่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักร
 ดังนั้น ซองกระสุนเกิน 10 นัด จึงถูกห้ามเฉพาะการทำ การสั่งหรือการนำเข้ามา
ในราชอาณาจักร เท่านั้น อ่านทุกตัวอักษร(โดยไม่ต้องเปิดพจนานุกรมแล้ว)
ไม่เห็นข้อห้ามการมีไว้ในครอบครอง
 ส่วนการที่ห้ามออกใบอนุญาตครอบครอง หรืออาวุธปืน (รวมถึงชิ้นส่วน หรือส่วนประกอบ
ตามกฎกระทรวง ฯ ฉบับที่ ๓ ) เครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตไม่ได้
กำหนดไว้ ในกฎกระทรวง ฯ ฉบับ ที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๒) อ่านทุกตัวอักษรแล้ว เช่นเดียวกัน
ไม่มีห้าม ซองกระสุนเกิน 10 นัดเลย
 ผมจึงยกตัวอย่างเกี่ยวกับสิ่งเทียมอาวุธ ตาม ๕๒ ของ พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯ ว่าห้ามเฉพาะการนำเข้า เว้นแต่ได้รับอนุญาต แต่ไม่เห็นมีการห้ามครอบครองไว้ตรงไหนเลย จึงเป็นลักษณะเดียวกันกับซองกระสุน เกิน 10 นัด ที่คุยกันอยู่
 ขอประทานโทษนะครับ ผมไม่ได้เถียงท่านใด ผมออกความเห็นไปตามหลักวิชาการ
ส่วนฎีกานั้น ผมอ่าน มาตั้งแต่ ปี 30 ถึงจะจำไม่ได้หมด แต่สามารถค้นคว้าได้
ในเวลาไม่นานนัก แต่หลักการที่ผมใช้อยู่คือ แม่นตัวบท เข้าใจฏีกา อ่านตำราประกอบและ
ฝึกทำข้อสอบเป็นประจำ
 ขอบคุณครับ

ความเห็นของคุณ phofah  ก็มีเหตุผลอีกฝ่ายหนึ่ง   หลงรัก

น่ารับฟังทั้งสองฝ่ายครับ   ข้อเท็จจริงนี้ถ้าขึ้นศาลอยู่ที่ว่าศาลจะฟังเข้าทางฝ่ายไหน
ยังมีเรื่องเจตนา ตามปอ.มาตรา 59  อีก ว่าการกระทำนี้ถ้าไม่รู้ ไปซื้อต่อจากเขามาก็แบบนี้ 15 นัด
นำสืบได้แบบนั้น ไม่ได้มีการดัดแปลงใดๆเลย   ศาลจะฟังว่าขาดเจตนาได้ไหม 

แต่ผมกลัวว่าศาลจะมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องมาตั้งแต่เบื้องต้นนะสิครับ
เพราะลองไปเปิดดู พรบ.อาวุธปืนฯ มาตรา 55  บอกว่า ประเภท ชนิดและขนาดของอาวุธปืน
 เครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้ตาม มาตรา 7 มาตรา 24
หรือมาตรา 38
ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

ก็เลยต้องมาดูกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 ( พ.ศ. 2522 ) ในข้อที่ 2 บอกว่าอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้ ตาม มาตรา 7 หรือมาตรา 24 ต้องเป็นอาวุธปืน ชนิดและขนาดดังต่อไปนี้

(1 ) อาวุธปืนชนิดลำกล้องมีเกลียว ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางปากลำกล้องไม่เกิน 11.44 มม.

(2)อาวุธปืนชนิดลำกล้องไม่มีเกลียว ดังต่อไปนี้
      (ก) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางปากลำกล้องไม่ถึง 20 มม.
      (ข) ปืนบรรจุปากกา  ปืนลูกซอง และปืนพลุสัญญาณ

(3) อาวุธปืนชนิดที่มีเครื่องกลไกสำหรับบรรจุกระสุนเอง  ให้สามารถยิงซ้ำได้ดังนี้
       ( ก) ขนาดความยาวของลำกล้องไม่ถึง 160 มม.
       (ข) ปืนลูกซอง
       (ค) ปืนลูกกรดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางปากลำกล้องไม่เกิน 5.6 มม.

(4) อาวุธปืนชนิดไม่มีเครื่องบังคับเสียงให้เบาผิดปกติ

(5) อาวุธปืนชนิดที่ไม่ใช้กระสุนเป็นที่บรรจุวัตถุเคมีทำให้เกิดอันตรายหรือเป็นพิษหรือไม่ใช้เครื่อง
กระสุนปืนที่บรรจุเชื้อโรค  เชื้อเพลิง หรือวัตถุกัมมันตภาพรังสี.........................


**** จะเห็นว่าอันนี้เป็นเรื่องของตัวอาวุธปืน  ว่าด้วยพวก ตัวปืน ลำกล้อง  ที่นายทะเบียนจะต้อง
พิจารณาจากตรงนี้ก่อนจะออกใบอนุญาต ป.4 ให้ใคร   ( ตามพรบ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 55 )
โดยอาศัยกฎกระทรวงตัวนี้ว่าจะออกให้ได้ไหม

แต่ซองกระสุนไม่ได้พูดถึงไว้  ว่าให้ดูยังไง     ทั้งๆที่ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 3 ( พศ.2491 )
ในข้อที่ 1  ( 4 ) ให้ถือว่า ซองกระสุนเป็น  อาวุธปืน

แล้วทีนี้นายทะเบียนจะออกป.4 สำหรับซองกระสุน  จะไปดูตรงไหน

ก็อาจจะต้องย้อนกลับไปดูบทเฉพาะเรื่องซองกระสุน  ซึ่งมีอยู่ใน กฎกระทรวงฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2491 )
ในข้อที่ 2 ( 12 ) ที่ห้ามนำเข้าซองพวกนี้   แสดงไปถึงว่าห้ามเอาเข้ามาขาย  คือเจตนาที่ห้ามเอามาขาย
ก็เพราะไม่อยากให้ใครซื้อมาใช้และมีไว้ในครอบครองนั่นเอง  เลยห้ามสั่งเข้ามาขายเอาไว้
แม้กระทั่งการดัดแปลงไว้ใช้ส่วนตัวก็ยังห้าม ดูในข้อ 2 ของกฎกระทรวงฉบับนี้ 

เมื่อนายทะเบียนจะออกป.4 ซองกระสุน จึงต้องพิจารณาจากบทเฉพาะเรื่องซองกระสุนตรงนี้
ถ้าเห็นว่าฝ่าฝืนกฎกระทรวงฉบับนี้  ก็ต้องไม่ออกป.4 ซองกระสุนให้ (ออกให้เฉพาะตัวปืนและส่วนประกอบอื่น )
ถ้าฝ่าฝืนไปออกให้   ก็อาจจะทำให้ไม่ชอบมาตั้งแต่ต้นได้ 

ยกตัวอย่าง เหมือนกรณี  นาย ก. ไม่จบปริญญาตรี    แต่มาสมัครสอบจนได้เป็นนายร้อยตำรวจ
มาตรวจสอบเจอภายหลัง  ก็ต้องโดนถอดยศ   เพราะถือขั้นตอนการเข้ามาไม่ถูกตั้งแต่เบื้องต้นแล้ว
หรือคนต่างด้าวมาลอบเข้าเมือง ทำเอกสารสมัครสอบจนได้รับราชการ   ตรวจสอบพบก็โมฆะตั้งแต่ต้น

ผมกลัวตรงนี้เหมือนกันครับ   

ใจ จึงอยากจะให้รีบแก้ไขกฎกระทรวงฉบับนี้ให้โดยเร็วดีกว่า  จะมั่นใจได้มากว่ายังไงก็ไม่โดนข้อหานี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 27, 2007, 09:08:31 PM โดย ตะบันไฟ » บันทึกการเข้า

ปืนคือเพื่อนแท้  ปืนคือเพื่อนตาย  ปืนคือเพื่อนร่วมทาง
ปืนมันพูดไม่ได้  แต่มันก็ซื่อสัตย์  จริงใจ  ไม่ทรยศหักหลังเรา
นี่แหละนิยามของคำว่าปืน
A B A C U S รั ก ใ น ห ล ว ง
สัตว์ โลก เดิน ไป ตาม แรง กรรม ดี ชั่ว อยู่ ที่ ใจ ตน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 206
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6399


มี ศัตรู เป็น บัณฑิต ดีกว่ามี มิตร เป็น ค น พ า ล


เว็บไซต์
« ตอบ #95 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2007, 03:54:49 PM »

 หลงรัก
 ตกใจ หัวเราะร่าน้ำตาริน
 Huh
 Huh
 น้ำลายหก
บันทึกการเข้า

PHOFAH
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #96 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2007, 04:51:55 PM »

             ผมเห็นด้วยกับแนวคิดของคุณตะบันไฟ เกี่ยวกับการพิจารณาออกใบอนุญาตเฉพาะ ซองกระสุน  ถ้าหากต้องการซื้อเฉพาะชิ้นส่วนดังกล่าวซึ่งถือเป็นอาวุธปืนด้วย ซึ่งคุณจะต้องระบุในใบ ป. ๑ ด้วยว่าคุณจะซื้อหรือรับโอนจากบุคคลใด เพื่อนายทะเบียนจะพิจารณาออกใบ ป.๓ ให้ซื้อหรือรับโอนได้หรือไม่
            แต่นายทะเบียนจะอนุญาตหรือไม่  ต้องใช้กฎกระทรวง ฉบับ ที่ ๑๑ ฯ มาประกอบการพิจารณาว่า เป็นชนิดและขนาดที่ใช้กับอาวุธปืนที่จะอนุญาต ตามกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว
ได้หรือไม่ เพราะเป็นการขออนุญาตครอบครอง ตามมาตรา ๗  ผู้ขอไม่ได้ขออนุญาตสั่งหรือทำหรือนำเข้า ที่จะต้อง  นำกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓ มาพิจารณา
          เมื่อนายทะเบียนอนุญาตแล้ว ต้องออก ป.๔ เฉพาะซองกระสุนให้คุณ และจะเป็นหลักฐานว่าคุณไม่ได้เป็นผู้สั่งหรือนำเข้ามา  จึงไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯ
           ส่วนซองกระสุนที่ได้มา  หากเกิน 10 นัด และเป็นการนำเข้ามาโดยผิดกฎหมายอาวุธปืนฯ  แม้คุณจะไม่มีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้  แต่มีกฎหมายอื่นที่จะเอาผิดกับคุณต่างหากละครับ
           เป็นความเห็นที่โต้แย้งได้  แต่ผมไม่ชอบโต้เถียง
           ขอบคุณครับ
         
บันทึกการเข้า
ตะบันไฟ
Hero Member
*****

คะแนน 47
ออฟไลน์

กระทู้: 1283



« ตอบ #97 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2007, 06:04:23 PM »

ผมเห็นด้วยกับแนวคิดของคุณตะบันไฟ เกี่ยวกับการพิจารณาออกใบอนุญาตเฉพาะ ซองกระสุน ถ้าหากต้องการซื้อเฉพาะชิ้นส่วนดังกล่าวซึ่งถือเป็นอาวุธปืนด้วย ซึ่งคุณจะต้องระบุในใบ ป. ๑ ด้วยว่าคุณจะซื้อหรือรับโอนจากบุคคลใด เพื่อนายทะเบียนจะพิจารณาออกใบ ป.๓ ให้ซื้อหรือรับโอนได้หรือไม่
 แต่นายทะเบียนจะอนุญาตหรือไม่ ต้องใช้กฎกระทรวง ฉบับ ที่ ๑๑ ฯ มาประกอบการพิจารณาว่า เป็นชนิดและขนาดที่ใช้กับอาวุธปืนที่จะอนุญาต ตามกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว
ได้หรือไม่ เพราะเป็นการขออนุญาตครอบครอง ตามมาตรา ๗ ผู้ขอไม่ได้ขออนุญาตสั่งหรือทำหรือนำเข้า ที่จะต้อง นำกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓ มาพิจารณา
 เมื่อนายทะเบียนอนุญาตแล้ว ต้องออก ป.๔ เฉพาะซองกระสุนให้คุณ และจะเป็นหลักฐานว่าคุณไม่ได้เป็นผู้สั่งหรือนำเข้ามา จึงไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯ
 ส่วนซองกระสุนที่ได้มา หากเกิน 10 นัด และเป็นการนำเข้ามาโดยผิดกฎหมายอาวุธปืนฯ แม้คุณจะไม่มีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้ แต่มีกฎหมายอื่นที่จะเอาผิดกับคุณต่างหากละครับ
 เป็นความเห็นที่โต้แย้งได้ แต่ผมไม่ชอบโต้เถียง
 ขอบคุณครับ
 

ครับ ถ้ามีคดีอย่างนี้ขึ้นศาล ใจก็อยากให้ศาลมองแบบนี้ที่ว่า ไม่ผิดนี่แหละครับ
แต่ก็ยังมีช่องโหว่ ให้ตีความได้อยู่ไปอีกทางหนึ่งเช่นเดียวกัน   

เราลองมาดูข้อสังเกตุตรงนี้กันสักนิดนะครับ

เรื่องสิ่งเทียมอาวุธปืน   ตาม พรบ.อาวุธปืนฯ มาตรา 52 บอกไว้ว่า
ห้ามมิให้ผู้ใด สั่ง นำเข้า  หรือค้า ซึ่งสิ่งเทียมอาวุธปืน   เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่

แปลความได้ว่า  สิ่งเทียมอาวุธปืน  สามารถสั่งเข้ามาขาย มาค้า  นำเข้ามาในประเทศไทยได้
เพียงแต่ต้องขออนุญาตจากนายทะเบียนก่อนเท่านั้น  และเมื่อขออนุญาตแล้วนายทะเบียนก็อนุญาตให้นำเข้ามาขายในประเทศได้ 

หรือแม้จะฟังว่านำสั่งเข้ามาในประเทศโดยไม่ได้ขออนุญาต หรือค้าขายโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม
 มาตรา 52 ก็ตาม   ประชาชนก็ยังมีสิทธิซื้อสิ่งเทียมอาวุธปืนได้   ไม่ผิดข้อหาครอบครอง/พกพา 
ไม่ต้องมี ป.4 และ ป.12 ก็ไม่ถูกจับ   สาเหตุเพราะมันเป็นสิ่งของที่สั่งนำเข้ามาขายได้   
ไม่ใช่ของหวงห้ามเด็ดขาดว่าไม่ให้เอาเข้ามาในประเทศ   ใครก็จึงสามารถมีไว้ในครอบครองได้  ไม่ผิด  
เพียงแต่ว่าถ้านำเข้ามา / หรือค้าขายโดยไม่ได้ขออนุญาตจากนายทะเบียนแล้ว 
เฉพาะผู้นำเข้าหรือ พ่อค้า คนนั้นเท่านั้นที่มีความผิด

ทีนี้มาดู กฎกระทรวงฉบับที่ 3 ( พ.ศ. 2491 ) ในข้อ 2 ( 12 ) เรื่องซองกระสุนบ้าง

ข้อ 2  ห้ามมิให้ออกใบอนุญาตสำหรับให้ทำ  หรือสั่ง หรือนำเข้าซึ่งอาวุธปืน
หรือเครื่องกระสุนปืน  สำหรับอาวุธปืนดังต่อไปนี้ เพื่อการค้าหรือเพื่อใช้ส่วนตัว คือ
            ( 12 ) ซองกระสุนที่สามารถบรรจุกระสุนปืนได้เกิน 10 นัด  เว้นแต่ซองกระสุน
ที่ใช้กับปืนลูกกรดขนาด .22


เห็นได้ทันทีว่า  สั่งห้ามนายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ทำ สั่ง นำเข้ามาเลย
หมายถึง เอาซองกระสุนแบบเกิน 10 นัด เข้าประเทศไม่ได้   ถ้ามีคนมาขออนุญาตนายทะเบียน
ว่าจะเอาเข้ามา  นายทะเบียนก็อนุญาตให้ไม่ได้  ( เป็นการห้ามโดยเด็ดขาด  ไม่มีข้อยกเว้น )

แล้วถ้านายทะเบียนฝ่าฝืนเอานำเข้ามาละครับ   นายทะเบียนก็จะผิด พรบ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 78
+กฎกระทรวง ข้อที่ 2 ( 12 ) นี้   / ผู้ซื้อ ผู้มี และ ผู้ใช้ ก็จะพลอยผิดตามมาตรา 78 + กฎกระทรวงนี้ไปด้วย

เพราะแปลเจตนาของการร่างกฎหมายได้ว่า  กฎหมายไม่ต้องการให้คนไทยเอาหรือมีซองกระสุนเกิน 10 นัด
ไว้ใช้  ถ้าจะมีใช้ก็จะต้องเป็นซองกระสุนแบบไม่เกิน 10 นัดเท่านั้น   ไม่งั้นกฎหมายคงไม่เขียนบท
ห้ามไว้ขนาดนั้น  ขนาดห้ามจะไม่ให้มีอยู่ในประเทศไทยกันเลยว่างั้น

กรณีจึงต่างจากสิ่งเทียมอาวุธปืน  ที่นำเข้ามาได้ ไม่ห้ามการนำเข้ามาในประเทศ

เรื่องนี้กฎหมายเขียนไว้นานแล้ว  ( พศ. 2491 ) คิดดูนายทะเบียน+ผู้นำเข้าฝ่าฝืนกันมาตั้งแต่นั้น
 แต่เราพึ่งมาเจอจากกรณีนี้ที่เพชรบุรี  ทั้งๆที่เป็นความผิดจากนายทะเบียนแท้ๆ  ผลเลยมาตกกับพวกเรา

นี่แหละครับ มุมนี้ก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่กลัวว่า  จะผิดกัน ในข้อหาซื้อ หรือ มี หรือใช้
ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน  นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 55 ซึ่ง
มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึงจำคุกตลอดชีวิต  ตาม พรบ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 78..

แต่ใจจริงๆ ก็อยากให้ฟังไปว่า ไม่ผิด  หรือถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มีการแก้ไขกฎกระทรวงฉบับนี้ตรงส่วนนี้
ไปเลยครับ ....




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 27, 2007, 11:16:28 PM โดย ตะบันไฟ » บันทึกการเข้า

ปืนคือเพื่อนแท้  ปืนคือเพื่อนตาย  ปืนคือเพื่อนร่วมทาง
ปืนมันพูดไม่ได้  แต่มันก็ซื่อสัตย์  จริงใจ  ไม่ทรยศหักหลังเรา
นี่แหละนิยามของคำว่าปืน
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #98 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2007, 11:30:35 PM »

เป็นกระทู้ที่น่าเบื่อมาก
สพป.ได้รับคำขอให้ช่วยดูแลผู้ทที่เดือดร้อน  ถูกจับกุมเรื่องซองกระสุนเกิน 10 นัดหลายราย
สพป.ลงทุน ลงแรงไปมากมาย เพื่อให้เกิดการแก้ไขกฎกระทรวง   คนสิบกว่าคน ได้ใช้เวลานานถึง 2 ปี   กว่าที่กรมการปกครองจะยอมรับความเป็นตัวตนของ สพป.  จากนั้นก็วางหมากกล เพื่อให้เกิดวัวพันหลัก ทำให้กรมการปกครอง ต้องจำใจยอมเริ่มต้นแก้ไขกฎกระทรวงเรื่องซองกระสุน 10 นัด
แต่กลับมีคนออกมาพยายามโต้แย้งว่ากฎกระทรวงที่มีอยู่ไม่มีสภาพบังคับตามกฎหมาย

บอกให้ไปอ่านฎีกา ปี 45  ก็ไม่สนใจ  ศาลฎีกาวางหลักไว้ว่าชื่อของใบอนุญาตไม่สำคัญ  ประเด็นอยู่ที่เจตนารมณ์ของกฎหมาย   และการตีความกฎหมาย ก็ต้องให้มีสภาพบังคับ เพื่อให้ใช้งานได้

เชือว่า ป่านนี้คณะกรรมการแก้ไขกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย  ฝ่ายที่คัดค้านว่าไม่ต้องแก้ไขกฎกระทรวงเรื่องซองกระสุน 10 นัด   ก็คงจะได้ข้ออ้างว่ามีประชาชนเห็นด้วยกับฝ่ายตน
บันทึกการเข้า
ตะบันไฟ
Hero Member
*****

คะแนน 47
ออฟไลน์

กระทู้: 1283



« ตอบ #99 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2007, 11:43:27 PM »

เป็นกระทู้ที่น่าเบื่อมาก
สพป.ได้รับคำขอให้ช่วยดูแลผู้ทที่เดือดร้อน ถูกจับกุมเรื่องซองกระสุนเกิน 10 นัดหลายราย
สพป.ลงทุน ลงแรงไปมากมาย เพื่อให้เกิดการแก้ไขกฎกระทรวง คนสิบกว่าคน ได้ใช้เวลานานถึง 2 ปี กว่าที่กรมการปกครองจะยอมรับความเป็นตัวตนของ สพป. จากนั้นก็วางหมากกล เพื่อให้เกิดวัวพันหลัก ทำให้กรมการปกครอง ต้องจำใจยอมเริ่มต้นแก้ไขกฎกระทรวงเรื่องซองกระสุน 10 นัด
แต่กลับมีคนออกมาพยายามโต้แย้งว่ากฎกระทรวงที่มีอยู่ไม่มีสภาพบังคับตามกฎหมาย

บอกให้ไปอ่านฎีกา ปี 45 ก็ไม่สนใจ ศาลฎีกาวางหลักไว้ว่าชื่อของใบอนุญาตไม่สำคัญ ประเด็นอยู่ที่เจตนารมณ์ของกฎหมาย และการตีความกฎหมาย ก็ต้องให้มีสภาพบังคับ เพื่อให้ใช้งานได้

เชือว่า ป่านนี้คณะกรรมการแก้ไขกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายที่คัดค้านว่าไม่ต้องแก้ไขกฎกระทรวงเรื่องซองกระสุน 10 นัด ก็คงจะได้ข้ออ้างว่ามีประชาชนเห็นด้วยกับฝ่ายตน

 หลงรัก  เข้ามาให้กำลังใจท่านผู้การฯ และทีมงาน สพป. ครับ อย่าท้อถอยนะครับ
เดินหน้าต่อไปให้มีการแก้ไขกฎกระทรวงฉบับนี้เรื่องซองกระสุนนี้ให้ได้ครับ
ขอเป็นกำลังใจให้ครับท่านผู้การฯ และทีมงาน สพป.ทุกๆท่านครับ

ด้วยความเคารพครับ .. หลงรัก หลงรัก หลงรัก หลงรัก หลงรัก หลงรัก หลงรัก หลงรัก
บันทึกการเข้า

ปืนคือเพื่อนแท้  ปืนคือเพื่อนตาย  ปืนคือเพื่อนร่วมทาง
ปืนมันพูดไม่ได้  แต่มันก็ซื่อสัตย์  จริงใจ  ไม่ทรยศหักหลังเรา
นี่แหละนิยามของคำว่าปืน
at75
Hero Member
*****

คะแนน 99
ออฟไลน์

กระทู้: 3511



« ตอบ #100 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 01:20:19 AM »

เราไม่ได้หลงประเด็น
 การโต้แย้งทางข้อกฎหมาย เราเปิดใจอยู่แล้ว
 ประเด็นที่ว่า "มีส่วนของอาวุธปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตไม่ได้" นั้น
 เกี่ยวกับซองกระสุนเกิน 10 นัด ตามกฎกระทรวง ฯ ฉบับที่ ๓ (พ.ศ.๒๔๙๑)
ข้อ ๒ (๑๒) เป็นการห้ามออกใบอนุญาตสำหรับให้ทำ หรือสั่ง หรือ นำเข้า
กลับไปดู พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ มาตรา ๔ (๗) (๘) คำนิยาม การสั่ง และการนำเข้าคือ
การส่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักร
 ดังนั้น ซองกระสุนเกิน 10 นัด จึงถูกห้ามเฉพาะการทำ การสั่งหรือการนำเข้ามา
ในราชอาณาจักร เท่านั้น อ่านทุกตัวอักษร(โดยไม่ต้องเปิดพจนานุกรมแล้ว)
ไม่เห็นข้อห้ามการมีไว้ในครอบครอง
 ส่วนการที่ห้ามออกใบอนุญาตครอบครอง หรืออาวุธปืน (รวมถึงชิ้นส่วน หรือส่วนประกอบ
ตามกฎกระทรวง ฯ ฉบับที่ ๓ ) เครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตไม่ได้
กำหนดไว้ ในกฎกระทรวง ฯ ฉบับ ที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๒๒) อ่านทุกตัวอักษรแล้ว เช่นเดียวกัน
ไม่มีห้าม ซองกระสุนเกิน 10 นัดเลย
 ผมจึงยกตัวอย่างเกี่ยวกับสิ่งเทียมอาวุธ ตาม ๕๒ ของ พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯ ว่าห้ามเฉพาะการนำเข้า เว้นแต่ได้รับอนุญาต แต่ไม่เห็นมีการห้ามครอบครองไว้ตรงไหนเลย จึงเป็นลักษณะเดียวกันกับซองกระสุน เกิน 10 นัด ที่คุยกันอยู่
 ขอประทานโทษนะครับ ผมไม่ได้เถียงท่านใด ผมออกความเห็นไปตามหลักวิชาการ
ส่วนฎีกานั้น ผมอ่าน มาตั้งแต่ ปี 30 ถึงจะจำไม่ได้หมด แต่สามารถค้นคว้าได้
ในเวลาไม่นานนัก แต่หลักการที่ผมใช้อยู่คือ แม่นตัวบท เข้าใจฏีกา อ่านตำราประกอบและ
ฝึกทำข้อสอบเป็นประจำ
 ขอบคุณครับ


    ผมสงสัยอย่างคน มีความรุ้น้อย นะครับ คือข้อกล่าวหาที่ว่า มีส่วนของอาวุธปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตไม่ได้ ก็ชัดเจนมากอยุ่แล้วนะครับ ผมเองก็ดึงข้อมูงของพี่มาอ่านแหล่ะครับเพราะ เป็นการห้ามออกใบอนุญาตสำหรับให้ทำ หรือสั่ง หรือ นำเข้า ฉนั้น เมื่อกฎกระทรวงห้ามดั้งนี้ แล้ว ใบอนุญาติก็ย่อมออก แก่ ปืนที่มีซองกระสุนบรรจุเกิน10นัดไม่ได้อยุ่แล้ว ผู้ ที่ครอบครองอยุ่ก็ครอบครองปืนที่มีซองกระสุนเกิน10นัดโดยไม่ได้รับอณุญาติ
    ซึ่งผมสงสัยดังนี้ครับ ผุ้ครอบครองปืน ต้องมีคุณสมบัติตามกฎหมายกำหนด และต้องได้รับอนุญาติให้ครอบครองปืนที่กฎหมายอณุญาติใช่หรือไม่ครับ ในเมื่อ ซองกระสุน10นัด ห้ามออกใบอนุญาตสำหรับให้ทำ หรือสั่ง หรือ นำเข้า นายทะเบียนก็ ไม่ สามารถ ออกใบอนุญาติให้ครอบครองได้ ดังนั้น การมีซองกระสุน 10นัด จึงเป้นการกระทำผิด ฐาน "มีส่วนของอาวุธปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตไม่ได้"
ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกต้องหรือไม่ครับ
    คือเรื่อง ดำเนินการแก้ไข กฎกระทรวง เรื่องซองกระสุนบรรจุ เกิน10นัดนั้นผมเห้นด้วยเป้นอย่างยิ่งครับ เพราะอยากให้มีอ่ะไรชัดเจน ไม่ใช่ต้องมานั้งตีความเอา จะได้เป้น บรรทัดฐานกันไป อย่างผมขอเปรียบเทียบกับ กฎจราจร แล้วกันนะครับ เช่น ถ้า ขอบถนน ตีเส้น ขาวดำ แปลว่าจอดได้ ตีขาวแดงแปลว่าห้าจอด ขาวเหลือง รับส่งชั่วคราว แต่เรื่องซองกระสุน กลายเป้นว่าเรายังไม่มีอ่ะไรชี้ให้ชัดเจนเลยว่าอันไหนถูก อันไหนผิดแต่ กลับกลายเป้นเรื่องที่ต้องมานั่งตีความ ถ้าเป้นอย่างนั้นสักวันหนึ่งนานไป ผ่านไปโดยไม่มีกฎกระทรวงที่ระบุชัดเจนเรื่องนี้ ถ้ามีคดีทำนองนี้ขึ้นอีก ก็จะต้องกลับมานั้งตีความกฎหมายใหม่อีก ซึ่ง อาจ จะชนะ หรือแพ้คดี ก็ไม่อาจทราบได้

ยังไงผมขอเป้น1เสียง ในกำลังใจให้ ส.พ.ป แล้วกันนะครับ
บันทึกการเข้า
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #101 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 07:30:44 AM »

เป็นกระทู้ที่น่าเบื่อมาก
สพป.ได้รับคำขอให้ช่วยดูแลผู้ทที่เดือดร้อน  ถูกจับกุมเรื่องซองกระสุนเกิน 10 นัดหลายราย
สพป.ลงทุน ลงแรงไปมากมาย เพื่อให้เกิดการแก้ไขกฎกระทรวง   คนสิบกว่าคน ได้ใช้เวลานานถึง 2 ปี   กว่าที่กรมการปกครองจะยอมรับความเป็นตัวตนของ สพป.  จากนั้นก็วางหมากกล เพื่อให้เกิดวัวพันหลัก ทำให้กรมการปกครอง ต้องจำใจยอมเริ่มต้นแก้ไขกฎกระทรวงเรื่องซองกระสุน 10 นัด
แต่กลับมีคนออกมาพยายามโต้แย้งว่ากฎกระทรวงที่มีอยู่ไม่มีสภาพบังคับตามกฎหมาย

บอกให้ไปอ่านฎีกา ปี 45  ก็ไม่สนใจ  ศาลฎีกาวางหลักไว้ว่าชื่อของใบอนุญาตไม่สำคัญ  ประเด็นอยู่ที่เจตนารมณ์ของกฎหมาย   และการตีความกฎหมาย ก็ต้องให้มีสภาพบังคับ เพื่อให้ใช้งานได้

เชือว่า ป่านนี้คณะกรรมการแก้ไขกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย  ฝ่ายที่คัดค้านว่าไม่ต้องแก้ไขกฎกระทรวงเรื่องซองกระสุน 10 นัด   ก็คงจะได้ข้ออ้างว่ามีประชาชนเห็นด้วยกับฝ่ายตน

ยังจะออกแนวนี้ได้หรือครับท่านผู้การ .......... ถ้าเป็นดังนี้ก็คงเข้าภาษิตบู๊ลิ้มว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา  หัวเราะร่าน้ำตาริน

ถ้ายังมีการตั้งป้อมค้านไม่ยอมแก้กฎกระทรวง ก็ดูท่าต้องให้มีข้าราชการที่ซื้อปืนสวัสดิการไปถูกจับกุมกล่าวโทษ
จะได้ลากผู้เกี่ยวข้องสมรู้ร่วมคิดนำชิ้นส่วนอาวุธปืนที่ออกใบอนุญาตไม่ได้เข้ามาในราชอาณาจักร

ผู้ครอบครองนั้นเป็นกรรมเดียว แต่ผู้อนุมัติโครงการ,  นายทะเบียนฯ,  รัฐมนตรีฯ, ศุลกากร นั้นต่างกรรมต่างวาระ ...... คงได้ไปไซบีเรีย(หนาว)  Cheesy


บันทึกการเข้า
ตะบันไฟ
Hero Member
*****

คะแนน 47
ออฟไลน์

กระทู้: 1283



« ตอบ #102 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 07:58:57 AM »

ครับ ท่านธำรง  เห็นด้วยเลยครับ

กฎกระทรวงฉบับที่ 3 ( พ.ศ. 2491 )  ข้อ  2 ( 12 )เขาเขียนห้ามไว้ชัดเจนอยู่แล้ว
ว่าห้ามเอาซองกระสุนแบบจุเกิน 10 นัดเข้ามาในประเทศ   
นายทะเบียน + ผู้สั่ง+ผู้นำเข้า ก็ยังไปฝ่าฝืน

เขียนห้ามไว้แบบนั้น  ก็ต้องฟังได้ด้วยว่า  จะครอบครอง / ซื้อ / มี / ใช้ / ก็ไม่ได้ด้วย

การเขียนห้ามนำเข้าอย่างเด็ดขาด   ต้องแปลตายตัวว่า ใครมีครอบครองก็ไม่ได้
จึงไม่ต้องมาเขียนห้ามไว้ตอนจะพิจารณาออกใบอนุญาตป.4 ให้ครอบครองซ้ำอีก   
เพราะเขียนห้ามนำเข้าเอาไว้แล้ว

กฎกระทรวงนี้พูดแต่เรื่องซองกระสุน ข้อ 2 ( 12 )  ชัดเจน

คำพิพากษาศาลฎีกา  ที่ 3283 /2545 ศาลฎีกายังวินิจฉัยถึงกฎกระทรวงฉบับที่ 11
( พ.ศ. 2522 ) เรื่องขนาดของเครื่องกระสุนปืน  ว่าจะออกใบอนุญาตให้ได้หรือไม่เลย

แสดงว่ากฎกระทรวงมีความสำคัญ  มีสภาพบังคับได้

แล้วกฎกระทรวงฉบับที่ 3 ( พ.ศ.2491 ) ข้อ 2( 12 ) ที่พูดชัดเจนถึงเรื่องซองกระสุน
จะไม่นำมาใช้บังคับ  ได้อย่างไร  ( เพราะเป็นบทเฉพาะเรื่องซองกระสุนอยู่แล้ว )

ถ้าฟังว่า  ห้ามแค่นำเข้า   ไม่ห้ามครอบครอง  ออกใบอนุญาตได้

ก็ยังสงสัยอยู่ว่า   แล้วเขาจะมาเขียนห้ามนำเข้าทำไม  ตั้งแต่ปี 2491 มาแล้ว

เพราะการห้ามนำเข้า  ก็เพื่อไม่ต้องการให้ประชาชนมีไว้ในครอบครองนั่นเอง

หรือแสดงว่า ใครลักลอบนำเข้ามาได้ ( ทำฝ่าฝืนกฎกระทรวงฉบับนี้ ) ก็จะออกป.4 ถูกกฎหมายให้ได้

 ตกใจ ตกใจ   ถ้านำเข้ามาได้  แล้วออกใบป.4 ให้ได้  ก็น่าจะเขียนว่า
*ห้ามนำเข้า  เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ( เหมือนกรณีของสิ่งเทียมอาวุธปืน ) มากกว่า
หรือไม่ก็เขียนว่า *ห้ามนำเข้า  เว้นแต่จะได้ลักลอบนำเข้ามาแล้ว  จึงออกใบอนุญาตครอบครองป.4
 ให้ได้จะชัดเจนเสียกว่า

แต่นี่ เจตนารมย์ ของคนร่างกฎหมายเมื่อปี พ.ศ. 2491  ต้องการจะไม่ให้เมืองไทยมีซองกระสุน
แบบจุเกิน 10 นัด ไว้ใช้เลย ( เว้นเฉพาะลูกกรด.22 อย่างเดียว )   ตกใจ ตกใจ ตกใจ ตกใจ ตกใจ ตกใจ





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 28, 2007, 08:15:09 PM โดย ตะบันไฟ » บันทึกการเข้า

ปืนคือเพื่อนแท้  ปืนคือเพื่อนตาย  ปืนคือเพื่อนร่วมทาง
ปืนมันพูดไม่ได้  แต่มันก็ซื่อสัตย์  จริงใจ  ไม่ทรยศหักหลังเรา
นี่แหละนิยามของคำว่าปืน
Egle
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #103 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 09:39:01 AM »

 " แต่กลับมีคนออกมาพยายามโต้แย้งว่ากฎกระทรวงที่มีอยู่ไม่มีสภาพบังคับตามกฎหมาย "

  กฏกระทรวง นี่แหละ เป็นตัวบังคับ แหลก  เลย เชียวละ มีหลายกระทรวงด้วย แต่ส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล เลยทำตามๆ กันไป จนทำให้รู้สึกว่า ไม่มีสภาพการบังคับใช้   
 
  http://www.kodmhai.com/Kkat/NKkat/Nkkat-4/H-Nkkat-4.html
บันทึกการเข้า
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #104 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 09:45:48 AM »

ครับท่านตะบันไฟ ผมขอต่อความของท่านว่า .............

เมื่อซองกระสุนจุเกิน๑๐นัด ต้องห้ามตามกฎกระทรวง นายทะเบียนฯออกใบอนุญาตไม่ได้
การ....ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า ซึ่งอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงฯ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงจำคุกตลอดชีวิต ......................

ทุกวันนี้ข้อเท็จจริงของซองกระสุนเป็นอย่างไรก็รู้กันอยู่
น่าจะแก้......ยกซองกระสุนออกจากชิ้นส่วนควบคุม
ฟังว่าจะมากำหนดใหม่ให้จุไม่เกิน ๑๕ นัด ใครมีเกินก็ให้ติดคุกไป....กรรม   Angry
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 6 [7] 8 9 10 ... 28
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.099 วินาที กับ 22 คำสั่ง