After
Jr. Member
คะแนน 3
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 66
|
|
« ตอบ #105 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 10:34:53 AM » |
|
การถกในกระทู้นี้ เป็นคุณประโยชน์ จะขอเลือกเก็บที่เป็นสาระ ส่วนที่เป็นอารมณ์นั้น ถ้าหากจะมี ขอผ่านไปก่อน
ผมเป็นสมาชิกที่พอมีความรู้กฎหมาย และใช้กฎหมายอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ความเห็นพอแบ่งเป็น 2 แนวทางแต่ด้วยวัตถุประสงค์อย่างเดียวกัน คือ เพื่อแก้ปัญหา เรื่องซองกระสุนเกิน 10 นัด ที่ต่างมุมมองกัน และผมไม่ก้าวล่วงจะไปอ้างถึงท่านใด
มุมมองของผู้บังคับใช้กฎหมาย ประสงค์จะแก้ไขที่กฎกระทรวงเพื่อให้สิ้นเรื่องราวไป เพราะเห็นว่ากฎหมาย บัญญัติว่า ผิดอย่างชัดเจน คงได้ดำเนินการมานานแล้ว เจตนาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดกฎหมาย ขึ้นโดยไม่รู้ตัว
กับอีกมุมมอง ของผู้มีและใช้อาวุธปืน ที่ยืนยันว่าชิ้นส่วนอาวุธูปืนที่ถูกอ้างว่าผิดกฎหมายนั้น ยังมีที่มาที่อาจอ้างได้ว่าไม่ผิด ที่เห็นว่า กฎกระทรวง ยังมีช่องว่างทางกฎหมายไม่อาจจะ บังคับได้จริง เพระต้องอาศัย จุดยึดเกี่ยวกัน แล้วมาลงว่าผิด ไมมีมีกฎหมายบัญญัติตรงตัวว่าผิด ให้ความเห็นที่สำคัญว่า ห้ามซื้อนำเข้าซองกระสุนเกิน 10 นัด แต่ไม่ห้ามการครอบครอง แล้วจะมีความผิดได้อย่างไร โดยอาศัยที่ ไม่มีคำพิพากษาศาลฎีกา เป็นบรรทัดฐานว่าผิด
เชือว่าท่านที่มีแนวทางนี้ก็มีความรู้และเข้าใจกฎหมายได้ดี แต่ยังสื่อออกมาไม่ราบรื่น
เมื่อถูกจับกุมดำเนินคดี จะเริ่มจากในฐานความผิด พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองฯ พนักงานสอบสวนจะทำสำนวนสรุปความเห็น ว่าควรฟ้องไม่ควรฟ้องในประเด็นใด เมื่อสำนวนถึงพนักงานอัยการจะใช้ดุลพินิจในการ สั่งฟ้องตาม ที่พนักงานสอบสวนทำความเห็นมา หรือไม่ ก็ได้
ในความเป็นจริง พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องตามที่พนักงานสอบสวน และอาจมีมากกว่านี้ แต่ปรากฎเป็นคดีที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี เพียงรายเดียว
และที่เป็นคดีที่สั่งไม่ฟ้องตามสำนวนของพนักงานสอบสวน ซึ่งต้องมีอีกเป็นหลายพันคดี
ฉะนั้นในทางปฎิบัติ เมื่อท่านต้องถูกจับกุมดำเนินคดี ท่านต้องให้ข้อเท็จจริงยืนยัน ในเรื่องการมีซองกระสุนว่า "เป็นชนิดเดียวกับที่ใช้กับอาวุธปืนกระบอกที่ท่านได้รับอนุญาต จาก นายทะเบียนอาวุธปืนฯ ซองกระสุนที่ครอบครอง ก็เจตนาเพื่อใช้กับอาวุธปืนกระบอกที่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนฯ . แล้วปล่อยให้มือกฎหมายของรัฐเป็นผู้ พิจารณา
หลักการไม่ได้ขัดแย้ง แต่มีวิธีการที่ต่าง อันเกิดจากมีมุมมองต่างกัน ข้อเท็จจริงบางเรื่องราวเพื่อจะได้ทราบ หาทางป้องกัน ระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้นกับตนเอง
การถกกันในกระทู้ ยังอยู่ในกรอบเพิ่มพูลความรู้ ในข้อที่ควรสงสัยแต่ยังไม่่เ็ป็นบรรทัดฐาน.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
วิถีคนกล้า คือการกระทำ ไม่ใช่เพียงแค่คิด วิถีผู้กล้า กล้าทำ ต้องกล้ารับผิดชอบ.
|
|
|
yakdee
ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 64
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1146
|
|
« ตอบ #106 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 11:10:39 AM » |
|
อย่าเพิ่งเบื่อเลยครับพี่น้องทั้งหลาย การถกเถียงเรื่องปัญหากฎหมาย สามารถทำได้ เพราะแต่ละมุมมอง อาจนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของกฎหมายที่ล้าหลังได้เสมอ ก่อนอื่น...ต้องเข้าใจเสียก่อนว่า กฎหมายหรือกฎกระทรวงฉบับนี้ เขียนเมื่อปี 2491 ยุคนั้น เป็นยุคของการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาใหม่ ๆ โลกเทคโนโลยีอาวุธปืนในสมัยนั้น ซองกระสุนที่มีใช้เกิน 10 นัด ส่วนมากเป็นของทางราชการหรือใช้ในการสงคราม ผู้ใช้และผู้ครอบครองคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร ผมเคยตั้งข้อสังเกตุไว้แล้ว แต่ขอมาตั้งใหม่เมื่อมีผู้สนใจปัญหานี้ คือ กฎกระทรวงห้ามนำเข้า ซองกระสุน แต่เพียงอย่างเดียวที่บรรจุเกิน 10 นัด ไม่ห้ามนำเข้าอาวุธปืนที่สามารถบรรจุเกิน 10 นัดมาด้วย ต้องมีความหมายแน่นอน ดังนั้น การที่เจ้าพนักงานอนุญาตให้นำเข้ามาและออกใบอนุญาต สำหรับอาวุธปืนที่มีซองกระสุนเกิน 10 นัด จึงอนุญาตได้ดังที่เห็นกันทั่วไปในปัจจุบันนี้ (นั่นอาจเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ดูแล้ว ไม่(เห็น)มีกฎหมายห้ามไว้เช่นนั้น จริงๆ ) ปัญหาต่อมา คือว่า แล้วซองกระสุนที่มาพร้อมกับปืนดังกล่าวที่อนุญาตให้นำเข้ามาเช่นนั้น ผิดไปด้วยหรือไม่ ? ในความเห็นของผม (ไม่เกี่ยวกับคนอื่น) คือ ซองกระสุนเป็นเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของอาวุธปืนนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่ง เมื่ออาวุธปืนที่สามารถบรรจุซองกระสุนมากกว่า 10 นัด ได้รับอนุญาต (ไม่มีเงื่อนไข) จากนายทะเบียนแล้ว ซองกระสุนที่มีอยู่ด้วยในขณะนั้น ย่อมได้รับการอนุญาตไปด้วยเช่นเดียวกัน (ไม่รวมซองกระสุนที่แถมมาด้วยเพราะเป็นอุปกรณ์ต่างหากจากตัวปืน) การแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อมิให้มีปัญหาในการตีความและอาจเป็นเครื่องมือในการเรียกรับผลประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้อง อย่างที่ สปพ. กำลังดำเนินการอยู่ ก็สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง และขอยกมือสนับสุนนเต็มที่
ส่วนข้อต้อสู้ตามเหตุผลและข้อคิดเห็นของเพื่อนสมาชิก ย่อมสามารถนำไปอ้างอิงได้ ถ้าคิดว่าเป็นประโยชน์ ลำพังความคิดของผู้ต้องหาถูกดำเนินคดี อาจคิดหาเหตุผลได้น้อยหรือไม่อาจหาเหตุผลได้เลย เพราะไม่อยู่ในวิสัยจะทำได้โดยสถานะการณ์ที่เป็นอยู่
กระบวนการยุติธรรมที่ดำเนินมาจนเป็นหลักทั่วไปแล้ว มีอยู่ว่า กฎหมายที่มีโทษอาญา ต้องตีความโดยเคร่งครัด และตีความในทางที่เป็นคุณแก่จำเลย ดังนั้น ในการต่อสู้คดี คือสู้ทั้งในแง่ของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โดยมีเรื่องราวและเหตุผลสนับสนุนให้เชื่อได้ว่ามีน้ำหนักรับฟังได้ ว่า การกระทำไม่เป็นความผิด
อย่ากลัวการสู้คดี ถ้ามั่นใจในความบริสุทธิ์ของตน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
อย่าไปร้องขอฯจากคนอื่น ถ้าไม่เคยให้อะไรกับใคร ทำทุกอย่างต้องจริงใจ แล้วท่านจะได้..จากใจจริง ทุก ๆ สิ่งที่ว่าแน่แท้ ยังผันแปร..เปลี่ยนเป็นอื่น ธรรมชาติไม่อาจฝืน แต่ควรยืนหยัดอยู่..สู้อธรรม
|
|
|
ตะบันไฟ
Hero Member
คะแนน 47
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
|
|
« ตอบ #107 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 02:11:46 PM » |
|
อนาคต ผมกลัวว่า นายทะเบียนจะหาทางออกเอาตัวรอดไปได้ ด้วยการ ระบุข้อความในใบ ป.4 เพิ่มเติมว่า อนุญาตให้มีและใช้ปืนกระบอก... ( พร้อมซองกระสุนบรรจุได้ไม่เกิน 10 นัด ) ทีนี้แหละครับ นายทะเบียนเขารอด / แต่พวกเราอาจจะแย่ลงอีก ผมว่าแก้ไขกฎกระทรวง เป็นแนวทางที่ดีที่สุดแล้วครับ .. ยังไง ก็อย่าลืมว่า ยังมีแมกฯอะไหล่ ด้วยนะครับ ที่ ป.4 ไม่ได้ระบุถึงเลย ด้วยความเคารพครับ..
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 28, 2007, 02:14:00 PM โดย ตะบันไฟ »
|
บันทึกการเข้า
|
ปืนคือเพื่อนแท้ ปืนคือเพื่อนตาย ปืนคือเพื่อนร่วมทาง ปืนมันพูดไม่ได้ แต่มันก็ซื่อสัตย์ จริงใจ ไม่ทรยศหักหลังเรา นี่แหละนิยามของคำว่าปืน
|
|
|
พีระพงษ์
Full Member
คะแนน 59
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 173
|
|
« ตอบ #108 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 03:00:19 PM » |
|
ขอสนับสนุนให้แก้กฎกระทรวงให้ได้ครับ ความเห็นของผู้ที่คัดค้าน ว่ากฎกระทรวงที่มีอยู่ไม่มีผล น่าจะเป็นมุมมองที่คับแคบของคนที่อยากจะโต้เถียงเพื่อเอาชนะเท่านั้น ไม่ได้คำนึงถึงความเดือดร้อนของคนอื่น ในลักษณะมือไม่พายแต่เอาเท้าราน้ำ ผมไม่มีความรู้ทางกฎหมาย แต่เคยเป็นข้าราชการมาสามสิบปี พอจะรู้ถึงนิสัยการทำงานของข้าราชการอยู่บ้าง เกิดคดีขึ้นมาเมื่อไหร่ นายทะเบียนจะยืนยันกระต่ายขาเดียวว่า ตอนตรวจปืนเพื่อออก ป.4 ปืนกระบอกนี้ใช้ซองกระสุนบรรจุไม่เกิน 10 นัด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Shoot first ! Ask question later.
|
|
|
sak077 - รักในหลวง :)
ชาว อวป.
Full Member
คะแนน 4
ออฟไลน์
กระทู้: 213
|
|
« ตอบ #109 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 03:14:03 PM » |
|
อยากให้ใบ ป.4 มีผลให้เจ้าของปืนสามารถนำพาอาวุธปืนได้ด้วย ( ไม่ใช่พกพานะครับ ) เห็นด้วยย่างยิ่งครับ
เห็นด้วยกับผู้เห็นด้วยกับผู้เห็นด้วยกับข้อเขียนนี้ครับ เห็นด้วยอีกคนครับ ให้มันชัดเจนไปเลย ไม่ต้องอาศัยวิจารณญาณของเจ้าหน้าที่ให้ลำบากใจทั้ง 2 ฝ่าย (ความจริงคนถูกจับลำบากใจมากกว่า) บางทีนำพาอย่างถูกต้องยังถูกจับ และรู้ทั้งรู้ว่าสู้คดีไปก็น่าจะพ้นผิดได้ แต่เพื่อตัดรำคาญก็ต้องล้วงกระเป๋าตังซะงั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jomkabi
Newbie
คะแนน 0
ออฟไลน์
กระทู้: 5
|
|
« ตอบ #110 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 03:15:02 PM » |
|
อยากทราบข้อมูลกล็อก 26 และกล็อก 30 ข้อดีข้อเสีย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
มืออ่อน หมัดแข็ง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 857
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 6569
เตสาหัง สิรสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตเม
|
|
« ตอบ #111 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 03:42:40 PM » |
|
ขอสนับสนุนให้แก้กฎกระทรวงให้ได้ครับ ความเห็นของผู้ที่คัดค้าน ว่ากฎกระทรวงที่มีอยู่ไม่มีผล น่าจะเป็นมุมมองที่คับแคบของคนที่อยากจะโต้เถียงเพื่อเอาชนะเท่านั้น ไม่ได้คำนึงถึงความเดือดร้อนของคนอื่น ในลักษณะมือไม่พายแต่เอาเท้าราน้ำ ผมไม่มีความรู้ทางกฎหมาย แต่เคยเป็นข้าราชการมาสามสิบปี พอจะรู้ถึงนิสัยการทำงานของข้าราชการอยู่บ้าง เกิดคดีขึ้นมาเมื่อไหร่ นายทะเบียนจะยืนยันกระต่ายขาเดียวว่า ตอนตรวจปืนเพื่อออก ป.4 ปืนกระบอกนี้ใช้ซองกระสุนบรรจุไม่เกิน 10 นัด ไม่ต้องรอให้เกิดเรื่องหรอกครับ เวลานี้ใครนำปืนไปตรวจแถววังไชยา เค้าก็ตีหลัง ป.3 ไว้แล้วว่าแมกกาซีนบรรจุได้ 10 นัด ทั้งๆที่ คู่มือเขียน 15 นัด โบรชัวร์โครงการตอนแรกก็ลงไว้ 15 นัด ลองถามท่านที่ซื้อสวัสดิการดูครับ อ้อ..โบรชัวร์ใหม่พิมพ์ไว้เป็นบรรจุ 10 นัด + ไอ้ + เนี่ยหมายถึงอะไรก็ยังงงๆอยู่ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
|
|
|
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 4088
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20186
1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน
|
|
« ตอบ #112 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 03:57:18 PM » |
|
ขอสนับสนุนให้แก้กฎกระทรวงให้ได้ครับ ความเห็นของผู้ที่คัดค้าน ว่ากฎกระทรวงที่มีอยู่ไม่มีผล น่าจะเป็นมุมมองที่คับแคบของคนที่อยากจะโต้เถียงเพื่อเอาชนะเท่านั้น ไม่ได้คำนึงถึงความเดือดร้อนของคนอื่น ในลักษณะมือไม่พายแต่เอาเท้าราน้ำ ผมไม่มีความรู้ทางกฎหมาย แต่เคยเป็นข้าราชการมาสามสิบปี พอจะรู้ถึงนิสัยการทำงานของข้าราชการอยู่บ้าง เกิดคดีขึ้นมาเมื่อไหร่ นายทะเบียนจะยืนยันกระต่ายขาเดียวว่า ตอนตรวจปืนเพื่อออก ป.4 ปืนกระบอกนี้ใช้ซองกระสุนบรรจุไม่เกิน 10 นัด
ขออภัยด้วย ผมไม่เห็นด้วยกับความเห็นข้างต้นของ คุณ peerapong การสนับสนุนความเห็นใด ก็สนับสนุนไป เราคน คอปืนเหมือนกัน แต่อย่าไปว่ากล่าวอีกฝ่ายว่าใจแคบ ซิครับ. มันจะย้อนเข้าตัวเอง
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 28, 2007, 04:44:13 PM โดย Ro@d »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธำรง
Hero Member
คะแนน 1727
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 8568
.....รักในหลวง.....
|
|
« ตอบ #113 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 04:02:28 PM » |
|
ไม่ต้องรอให้เกิดเรื่องหรอกครับ เวลานี้ใครนำปืนไปตรวจแถววังไชยา เค้าก็ตีหลัง ป.3 ไว้แล้วว่าแมกกาซีนบรรจุได้ 10 นัด ทั้งๆที่ คู่มือเขียน 15 นัด โบรชัวร์โครงการตอนแรกก็ลงไว้ 15 นัด ลองถามท่านที่ซื้อสวัสดิการดูครับ อ้อ..โบรชัวร์ใหม่พิมพ์ไว้เป็นบรรจุ 10 นัด + ไอ้ + เนี่ยหมายถึงอะไรก็ยังงงๆอยู่ครับ
ครับคุณทัดมาลา......นี่ขนาดปืนสวัสดิการ.....ข้าราชการด้วยกัน......
ขี้.....ถูกโยนมาให้เจ้าของปืนเรียบร้อยแล้ว ว่าเป็นผู้ไปดัดแปลงเสาะหาซองกระสุนผิดกฎหมายมาใช้เอง.......
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 4088
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20186
1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน
|
|
« ตอบ #114 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 04:05:36 PM » |
|
ในความเห็นของผม (ไม่เกี่ยวกับคนอื่น) คือ ซองกระสุนเป็นเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของอาวุธปืนนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่ง เมื่ออาวุธปืนที่สามารถบรรจุซองกระสุนมากกว่า 10 นัด ได้รับอนุญาต (ไม่มีเงื่อนไข) จากนายทะเบียนแล้ว ซองกระสุนที่มีอยู่ด้วยในขณะนั้น ย่อมได้รับการอนุญาตไปด้วยเช่นเดียวกัน (ไม่รวมซองกระสุนที่แถมมาด้วยเพราะเป็นอุปกรณ์ต่างหากจากตัวปืน)
การแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อมิให้มีปัญหาในการตีความและอาจเป็นเครื่องมือในการเรียกรับผลประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้อง อย่างที่ สปพ. กำลังดำเนินการอยู่ ก็สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง และขอยกมือสนับสุนนเต็มที่
ส่วนข้อต้อสู้ตามเหตุผลและข้อคิดเห็นของเพื่อนสมาชิก ย่อมสามารถนำไปอ้างอิงได้ ถ้าคิดว่าเป็นประโยชน์ ลำพังความคิดของผู้ต้องหาถูกดำเนินคดี อาจคิดหาเหตุผลได้น้อยหรือไม่อาจหาเหตุผลได้เลย เพราะไม่อยู่ในวิสัยจะทำได้โดยสถานะการณ์ที่เป็นอยู่
กระบวนการยุติธรรมที่ดำเนินมาจนเป็นหลักทั่วไปแล้ว มีอยู่ว่า กฎหมายที่มีโทษอาญา ต้องตีความโดยเคร่งครัด และตีความในทางที่เป็นคุณแก่จำเลย ดังนั้น ในการต่อสู้คดี คือสู้ทั้งในแง่ของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โดยมีเรื่องราวและเหตุผลสนับสนุนให้เชื่อได้ว่ามีน้ำหนักรับฟังได้ ว่า การกระทำไม่เป็นความผิด
อย่ากลัวการสู้คดี ถ้ามั่นใจในความบริสุทธิ์ของตน
ผมเห็นด้วยกับความเห็นข้างต้นของ คุณ yakdee(ยักษ์ดี)..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 817
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 10983
I'm going to make him an offer that he can't refus
|
|
« ตอบ #115 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 04:15:56 PM » |
|
ไม่ต้องรอให้เกิดเรื่องหรอกครับ เวลานี้ใครนำปืนไปตรวจแถววังไชยา
เค้าก็ตีหลัง ป.3 ไว้แล้วว่าแมกกาซีนบรรจุได้ 10 นัด ทั้งๆที่ คู่มือเขียน 15 นัด โบรชัวร์โครงการตอนแรกก็ลงไว้ 15 นัด
ลองถามท่านที่ซื้อสวัสดิการดูครับ อ้อ..โบรชัวร์ใหม่พิมพ์ไว้เป็นบรรจุ 10 นัด +
ไอ้ + เนี่ยหมายถึงอะไรก็ยังงงๆอยู่ครับ
หมายถึง บวก 1 นัดในรังเพลิงไงพี่......เรื่องยาก ๆ ละเข้าใจง่าย...พอเรื่องง่าย ๆ แค่นี้ทำเป็นไม่เข้าใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
A fear of weapons is a sign of retarded sexual and emotional maturity. - Sigmund Freud
ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์ - ซิกมุนด์ ฟรอยด์
|
|
|
A B A C U S รั ก ใ น ห ล ว ง
สัตว์ โลก เดิน ไป ตาม แรง กรรม ดี ชั่ว อยู่ ที่ ใจ ตน
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 206
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 6399
มี ศัตรู เป็น บัณฑิต ดีกว่ามี มิตร เป็น ค น พ า ล
เว็บไซต์
|
|
« ตอบ #116 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 04:48:14 PM » |
|
ครับ น่าจะแก้ไขให้ถูกต้อง ตามที่เป็นจริง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
...แมวคราว...
Full Member
คะแนน 69
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 362
|
|
« ตอบ #117 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 05:14:12 PM » |
|
ทุกวันนี้ข้อเท็จจริงของซองกระสุนเป็นอย่างไรก็รู้กันอยู่ น่าจะแก้......ยกซองกระสุนออกจากชิ้นส่วนควบคุม [/quote น่าสนใจครับ..........
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 12903
|
|
« ตอบ #118 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 05:17:43 PM » |
|
ยังจะออกแนวนี้ได้หรือครับท่านผู้การ .......... ถ้าเป็นดังนี้ก็คงเข้าภาษิตบู๊ลิ้มว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ถ้ายังมีการตั้งป้อมค้านไม่ยอมแก้กฎกระทรวง ก็ดูท่าต้องให้มีข้าราชการที่ซื้อปืนสวัสดิการไปถูกจับกุมกล่าวโทษ จะได้ลากผู้เกี่ยวข้องสมรู้ร่วมคิดนำชิ้นส่วนอาวุธปืนที่ออกใบอนุญาตไม่ได้เข้ามาในราชอาณาจักร ผู้ครอบครองนั้นเป็นกรรมเดียว แต่ผู้อนุมัติโครงการ, นายทะเบียนฯ, รัฐมนตรีฯ, ศุลกากร นั้นต่างกรรมต่างวาระ ...... คงได้ไปไซบีเรีย(หนาว) อีกหลายยกครับ ผ่านกรรมการไปแล้ว ต่อไป ก็ มท.1 คณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงมหาดไทย ครม. ทุกด่าน ฝ่ายเสียงข้องน้อยที่แหพ้โหวตไปในชั้นแรก สามารถสอดแทรกเข้ามาได้ตลอด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
salin - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 1327
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2694
|
|
« ตอบ #119 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2007, 05:39:34 PM » |
|
อย่าเพิ่งเบื่อเลยครับพี่น้องทั้งหลาย การถกเถียงเรื่องปัญหากฎหมาย สามารถทำได้ เพราะแต่ละมุมมอง อาจนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของกฎหมายที่ล้าหลังได้เสมอ ก่อนอื่น...ต้องเข้าใจเสียก่อนว่า กฎหมายหรือกฎกระทรวงฉบับนี้ เขียนเมื่อปี 2491 ยุคนั้น เป็นยุคของการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาใหม่ ๆ โลกเทคโนโลยีอาวุธปืนในสมัยนั้น ซองกระสุนที่มีใช้เกิน 10 นัด ส่วนมากเป็นของทางราชการหรือใช้ในการสงคราม ผู้ใช้และผู้ครอบครองคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร ผมเคยตั้งข้อสังเกตุไว้แล้ว แต่ขอมาตั้งใหม่เมื่อมีผู้สนใจปัญหานี้ คือ กฎกระทรวงห้ามนำเข้า ซองกระสุน แต่เพียงอย่างเดียวที่บรรจุเกิน 10 นัด ไม่ห้ามนำเข้าอาวุธปืนที่สามารถบรรจุเกิน 10 นัดมาด้วย ต้องมีความหมายแน่นอน ดังนั้น การที่เจ้าพนักงานอนุญาตให้นำเข้ามาและออกใบอนุญาต สำหรับอาวุธปืนที่มีซองกระสุนเกิน 10 นัด จึงอนุญาตได้ดังที่เห็นกันทั่วไปในปัจจุบันนี้ (นั่นอาจเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ดูแล้ว ไม่(เห็น)มีกฎหมายห้ามไว้เช่นนั้น จริงๆ ) ปัญหาต่อมา คือว่า แล้วซองกระสุนที่มาพร้อมกับปืนดังกล่าวที่อนุญาตให้นำเข้ามาเช่นนั้น ผิดไปด้วยหรือไม่ ? ในความเห็นของผม (ไม่เกี่ยวกับคนอื่น) คือ ซองกระสุนเป็นเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของอาวุธปืนนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่ง เมื่ออาวุธปืนที่สามารถบรรจุซองกระสุนมากกว่า 10 นัด ได้รับอนุญาต (ไม่มีเงื่อนไข) จากนายทะเบียนแล้ว ซองกระสุนที่มีอยู่ด้วยในขณะนั้น ย่อมได้รับการอนุญาตไปด้วยเช่นเดียวกัน (ไม่รวมซองกระสุนที่แถมมาด้วยเพราะเป็นอุปกรณ์ต่างหากจากตัวปืน) การแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อมิให้มีปัญหาในการตีความและอาจเป็นเครื่องมือในการเรียกรับผลประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้อง อย่างที่ สปพ. กำลังดำเนินการอยู่ ก็สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง และขอยกมือสนับสุนนเต็มที่
ส่วนข้อต้อสู้ตามเหตุผลและข้อคิดเห็นของเพื่อนสมาชิก ย่อมสามารถนำไปอ้างอิงได้ ถ้าคิดว่าเป็นประโยชน์ ลำพังความคิดของผู้ต้องหาถูกดำเนินคดี อาจคิดหาเหตุผลได้น้อยหรือไม่อาจหาเหตุผลได้เลย เพราะไม่อยู่ในวิสัยจะทำได้โดยสถานะการณ์ที่เป็นอยู่
กระบวนการยุติธรรมที่ดำเนินมาจนเป็นหลักทั่วไปแล้ว มีอยู่ว่า กฎหมายที่มีโทษอาญา ต้องตีความโดยเคร่งครัด และตีความในทางที่เป็นคุณแก่จำเลย ดังนั้น ในการต่อสู้คดี คือสู้ทั้งในแง่ของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โดยมีเรื่องราวและเหตุผลสนับสนุนให้เชื่อได้ว่ามีน้ำหนักรับฟังได้ ว่า การกระทำไม่เป็นความผิด
อย่ากลัวการสู้คดี ถ้ามั่นใจในความบริสุทธิ์ของตน
...สนับสนุนเหตุผล คุณ yakdee(ยักษ์ดี)ครับ.....
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 28, 2007, 05:41:28 PM โดย salin »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|