Re: เจอเด็กแบบนี้แล้วดีใจจัง-=ช่วยอุดหนุนบ้างนะครับ

[Rock]

ปัญญาชนต้องไม่อายทำกิน 
 
 
โดย คม ชัด ลึก วัน จันทร์ ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2550 12:05 น.
 
 "ผมไม่อายที่ไปช่วยพ่อแม่ขายผลไม้ ว่างจากเรียนก็ไปขายทุกครั้ง เพราะเราทำมาหากินโดยสุจริต เกิดเป็นคนต้องไม่อายทำกิน"

ทนิตชัย โคตรศรี ว่าที่บัณฑิตหนุ่มคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี กล่าว

ทนิตชัย เล่าว่า ครอบครัวทำนาอยู่ที่ อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด แต่รายได้ไม่พอส่งลูกชายและลูกสาวเรียน พ่อแม่จึงเข้ากรุงมาทำงานก่อสร้างที่ย่านสาธุประดิษฐ์ ตั้งแต่เขาอยู่ ป.5 ทนิตชัยจึงย้ายมาเรียนที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ ม.1 จบ ม.6 ที่ ร.ร.ราชประชาสมาศัย ฝ่ายมัธยมรัชดาภิเษก ในพระบรมราชูปถัมภ์ ต่อมาสอบเอนทรานซ์ติดที่ มทร.ธัญบุรี

ช่วงเรียนปี2 ทนิตชัย มีปัญหาค่าใช้จ่ายเพราะเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ในส่วนค่าครองชีพ 2,000 บาทไม่พอ และครอบครัวรายได้น้อย เขาต้องยืดเวลาเรียนเป็น 5 ปี ทั้งที่ควรจบใน 4 ปี ครอบครัวจึงมาขายผลไม้ที่หน้า มทร.ธัญบุรี

"พ่อแม่ขายผลไม้ตั้งแต่ 10 โมง เลิกเที่ยงคืน จะไปซื้อผลไม้มาจากตลาดไท 4 วันไปซื้อครั้งหนึ่ง แต่ละครั้งลงทุนไป 7,000 บาท หักต้นทุนแล้วได้กำไร 3,000-4,000 บาท ผมว่างก็ไปช่วยขาย ถือว่าเป็นปัญญาชนแล้วต้องไม่อายทำกิน" ทนิตชัย กล่าว

ทุกวันนี้ว่างจากเรียนนอกจาก ทนิตชัยจะช่วยพ่อแม่ขายผลไม้และช่วยเก็บร้านกลับถึงบ้านตีหนึ่งทุกวันแล้วทุกวันอังคาร และวันอาทิตย์ ยังทำงานพิเศษที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่คลองห้าด้วย ตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ได้ค่าตอบแทนวันละ 250 บาท แม้ต้องทำงานพิเศษ ช่วยพ่อแม่ขายผลไม้ แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเรียน เพราะเขาทำงาน 2 วัน อ่านหนังสือ 2 วัน และใช้เงินอย่างประหยัดเพราะตระหนักว่ากว่าจะได้เงินแต่ละบาท บุพการีของเขาต้องยืนขายผลไม้จนขาแข็ง

"ผมใช้เงินวันละไม่ถึง 100 บาท แค่ซื้อข้าวกินอย่างอื่นไม่ค่อยได้ซื้อ ไม่ใช่คนสูบบุหรี่ กินเหล้า ไม่เที่ยวผับ บาร์ ต้องคิดให้มากก่อนควักเงินออกจากกระเป๋า" ทนิตชัย กล่าว

อีกไม่นาน!! ลูกเมืองร้อยเอ็ดคนนี้จะเรียนจบ...เขาตั้งใจจะหางานทำ ช่วยส่งเสียน้องสาวให้เรียนจบ และเลี้ยงดูพ่อแม่ให้สุขสบาย


หทัยรัตน์ ดีประเสริฐ 

[yod - รักในหลวง ครับ]

ขอบคุณครับ...

[RUGER]

       ผมกลับรู้สึกเฉย ๆกับกระทู้ที่ท่านล๊อคฯ เอามาโพส์ อาจเป็นเพราะ ตั้งแต่ ปวส. จนจบป. ตรี ผมใช้ชีวิตอยู่ กับกลุ่มคนที่ต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยส่งเสียตัวเองเรียนตลอด  ......   
           สังคมทุกวันนี้ วัยรุ่นเสพค่านิยมผิด ๆใช้ชีวิต ฟุ่มเฟือย   ...... ซึ่งต่างกับเมื่อหลาย ๆปีก่อน...........  ที่ต่างคนต่างต้องการความรู้ ต้องการการศึกษาที่สูงขึ้นเพื่อให้อนาคตการงานที่ทำอยู่ดีขึ้น ...........   ผิดกับวัยรุ่นส่วนใหญ่ในสมัยนี้ที่รู้จัดแต่ใช้เงินกับขอเงิน ..... 

    แต่ก็แอบชื่นชมเล็ก ๆว่าอย่างน้อยก็ยังมีวัยรุ่นบางส่วนที่เป็นคนรู้จักคิดบ้าง .....ขอบพระคุณที่เอามาให้อ่านครับ

[Rock]

เรื่องนี้น่าตืนเต้นสำหรับสังคมที่น้องเขาอยู่ครับผมก็อยู่ในชุมชนนั้น ในสังคมระแวกนี้เด็กแบบนี้หายากกว่างมเข็มครับ
ผมเองก็ใช้ชีวิตแบบเด็กคนนี้ตอนที่เรียนที่นี่เช่นกันจึงได้ปริญญามา แต่เดี๋ยวนี้เด็กทั้งหญิงและชายจำนวนมาก ไม่เอาถ่าน ผลาญเงินกันสนุก คนที่มีเงินหน่อยก็สนุกกับการเปิดผับเปิดร้านเหล้า อยากให้เด็กคนนี้เป็นแบบอย่างน้องๆเยาวชนที่เข้ามาอ่านเวปนี้ครับ

[e.k.1911]

ขอบคุณครับ
เป็นตัวอย่างที่ดีมากครับ สำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่กับสภาพสังคมปัจจุบันที่ควรเป็น แม้เป็นแค่ส่วนน้อยก็ตาม

[PU45™]

         ก็ขอชื่นชมที่เด็กรุ่นใหม่ยังเหลือประเภทหนักเอาเบาสู้อยู่บ้าง แม้จะหาได้ยากเต็มทน

         ว่าก็ว่าเถอะ เรียนจบมาแล้วจะมีอะไรทำรายได้ๆดีเท่านี้อีกนะ ลงทุนเจ็ดพัน กำไรครึ่งๆ

         มีพื้นฐานแล้ว ก็หาช่องทางทำมาหากินแล้วก็สานต่อ ขยับขยาย แตกกิ่งก้านสาขาต่อไป

         ดีกว่าไปนั่งกินเงินเดือนตามวุฒิแน่นอน

         สมัยเด็กๆเรื่องแบกหาม รับจ้างแจกใบปลิวตามบ้านและท้องถนน ก็ทำมาแล้วเห็นว่าไม่ใช่เรื่องน่าอาย

         เหนื่อยมากหน่อยแต่ก็ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้จิตใจได้อักโขทีเดียว ไม่สะทกสะท้านต่อแรงกดดันใดๆ

[apc275]

สมัยนี้หาแบบนี้ยากครับ... น่าสรรเสริญครับ.....

[Ramsjai]

เป็นตัวอย่างที่ดีที่ควรเอาเป็นแบบอย่างค่ะ
ขอบคุณที่นำมาให้อ่านนะคะ   

[ตะบันไฟ]

เป็นตัวอย่างที่ดีที่ควรเอาเป็นแบบอย่างค่ะ
ขอบคุณที่นำมาให้อ่านนะคะ

ใช่แล้วครับ  .. เด็กๆควรเอาอย่าง ..

[แจ็ค]

..... เป็นตัวอย่างที่ดี  น่าสนับสนุนและส่งเสริมครับผม .....

[น้าพงษ์...รักในหลวง]

ดีมากๆครับ..เป็นตัวอย่างที่ดี.เอาใจช่วยให้เรียนจบเร็วๆ...

[FUFUFUFU]

 
  ตอนเป็นนักเรียนผมก็ขายทั้งพวงมาลัย ทั้งหนังสือพิม
 ไม่เห็นมีใครมาทำข่าวผมเลย ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ

[Rock]

 ตอนเป็นนักเรียนผมก็ขายทั้งพวงมาลัย ทั้งหนังสือพิม
 ไม่เห็นมีใครมาทำข่าวผมเลย ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ

ฮิๆๆ หากพี่4ฟูขาย ยาไอซ์ได้ดังแน่ อิๆๆๆ

[xiehua dun]

 ตอนเป็นนักเรียนผมก็ขายทั้งพวงมาลัย ทั้งหนังสือพิม
 ไม่เห็นมีใครมาทำข่าวผมเลย ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ

ฮิๆๆ หากพี่4ฟูขาย ยาไอซ์ได้ดังแน่ อิๆๆๆ

ดังไวแน่ๆแต่ใครเล่าจะปลื้มกับความดังอย่างนี้

[นายกระจง]

เป็นตัวอย่างที่ดี  น่าสนับสนุนและส่งเสริมครับผม .