วันนี้ตื่นเช้ามาหลังจากปฏิบัติภารกิจในห้องน้ำเสร็จ (ไม่บอกก็รู้ว่าต้องแปรงฟัน แล้วล้างหน้า)
ลงไปกินอาหารเช้าที่โรงแรมตามปกติ วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่่จะได้เดินเล่นใน san antonio ก่อนไป LA และ California
ช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยเข้าไปเยี่ยมชมสถานที่เที่ยวเท่าไหร่นักเนื่องจากมีเรื่องให้ทำเยอะ วันนี้ก็เลยตั้งใจไปเดินเล่นในเมืองอีกรอบก่อนจากลา
ได้ไปเยี่ยมชมป้อม Alamo ที่โ่ด่งดังที่ตั้งใน downtown ลุงแซมพยายามคงสภาพไว้ให้ชม ให้อารมณ์เหมือน นครวัดนครธม แ่ต่ที่นี่เค้ารักษาดีมาก
ห้ามถ่ายรูปภายใน ห้ามใส่หมวกเข้าไป ห้ามเสียงดัง ห้ามจับกำแพง ห้ามอะไรอีกหลายอย่าง ผมก็เลยได้แต่เดิมชมประวัติศาสตร์อีกครั้ง
ที่นี่มีเสน่ห์ ตรงที่บริเวณใดที่มีประวัติ เช่น จุดที่คุณกำลังยืน ได้มีการขุดพบศพสี่ศพ โดยไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร
ห้องที่คุณกำลังชมเป็นห้องสุดท้ายของป้อมที่มีไว้เพื่อปกป้องผู้หญิงและิเด็ก ๆ อะไรประมาณนี้ ก็น่ารักเป็นอีกแบบ
แล้วก็เดินเยี่ยมชมสภาพภายในป้อมที่ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นส่วนหย่อมเล็ก ๆ แล้วก็มีเรื่องขำ ๆ เกิดขึ้น
ภายในสวนมีร่องน้ำซึ่งเค้าก็เลี้ยงปลาคราฟไว้ ก็มีสาว ๆ ฝรั่งอยู่สามคนมายืนมอง ไปดูบทสนทนาครับ
สาว ๆ: Oh my god, they are very very big gold fish. I never saw them.
ผมได้ยินก็ขำ อมยิ้มเล็กน้อยไม่กล้าตอบอะไรไป คิดในใจปลาคราฟบ้านเราใหญ่กว่านี่สองเท่า
เค้าเห็นผมยิ้มมั้ง แล้วเค้าก็หันมาถามผม
สาว ๆ: Hi sir, Do you known them?
ผม: Yes, they are called craft fish. สาว ๆ ทำหน้างง
สาว ๆ: Did you mean craftsman ผมทำหน้าอึ้งเค้าเข้าใจไปไหนหว่า คิดว่ามันคือปลาที่ถูกตกแต่งขึ้นมาหรือว่าเข้าใจว่าเป็นปลาของช่าง
หรือว่าผมฟังไม่ออก แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นกรณีผมฟังไม่ออกมากกว่า
ผม: No no, i means that its name is craft.
สาว ๆ: Oh i see แล้วก็ยิ้มให้ผมพร้อมกับตอบมาทันทีว่า
Thank you
ผมก็จบการสนทนาไว้เพียงเท่านี้แล้วเดินออกมาก่อนที่จะมีอะไรให้ผมงงอีก
หลักจากออกจาก Alamo ก็เดินทางกลับมาโรงแรมเพื่อมากินข้าวเที่ยงแบบประหยัด
ขาเดินกลับมีเรื่องให้ตื่นเต้นจนได้ ปกติแล้วผมจะไม่ค่อยเดินผ่านพวกสวนสาธารณะหรือว่าสวนหย่อมเท่าไหร่
เพราะมีพวกประมาณเจ้าถิ่นกับขอทานอยู่เยอะผมมักจะเลี่ยง ๆ แต่วันนี้ไม่รู้ทำไมถึงได้เดินผ่าน อาจจะเป็นเพราะว่ามันเพลิน ๆ มั้ง
แล้วก็เจ้ากรรมเกือบมีเรื่องจนได้ มีคนผิวสีสองคน อายุราว ๆ สามสิบตัวยังกะตึก เดินเข้ามา
ไอ้ืมืด: Hey man, 10 dollars please ผู้แบบสำเนียงแร๊ฟ ๆ หน่อย ผมคิดในใจเอ้ยนี่มันไม่ได้ขอแล้วมันปล้นแล้ว
ผม: Oh sorry, I don't have a lot of money i can't มันมองหน้าฟังสำเนียงผมแล้วทำหน้ากระหยิ่ม
ไอ้มืด: Hey man, only 10 dollars not 100 dollars ผมคิดในใจบ้าเปล่า 10 เหรียญก็สี่ร้อยแล้ว จะเอา 100 เลยเร้อผมก็เอาไงดี
ปกติบริเวณนี้จะมีตำรวจปั่นจักรยานวนไปวนมา แต่ไอ้เวลามีเรื่องนี้เหมือนบ้านเราเด๊ะ ตำรวจไม่อยู่ เฮ้ออ
คิดต่อเอาไงดีกว่า มือขวาก็ล้วงเอามีดพกมาแอบไว้ในมือคิดว่าอย่างไรก็คงต้องสู้ หากหลวงพ่อโกยช่วยโกยไม่ได้
มือซ้ายก็ควาน ๆ หาเหรียญในกระเป๋า
โชคดี เจอเหรียญครับควักออกมาเป็นเหรียญสิบอยู่หนึ่งเหรียญ โอ้คิดต่อ คิดต่อ ทำไงดีให้มันไปให้พ้น ๆ ไม่อยากไปยุ่งกับโรงพัก
พูดภาษาบ้านมันก็ไม่ค่อยได้ เดี่ยวได้มานอนคุกบ้านมันจะยุ่ง แล้วปิ้งไอ้เดียว่ามันคงไม่เคยเห็นเงินบ้านเรา
ตรงกลางที่เป็นเหรียญสลึงยังใหม่มากเลยดูว่ามีค่าแน่ ๆ คิดในใจเอาฟ่ะเสี่ยงดู
ผม: OK, i have only a coin but its value about 7 to 8 dollars, Are you ok?
ไอ้มืด: Really, We didn't known, Are you serious? ในตาผมเหลือบไปเห็นตำรวจกำลังปั่นจักรยานมาห่างราว ๆ สามร้อยเมตรน่าจะได้
คิดในใจ พระเอกขี่ม้าขาวมาแล้ว ต้องพยายามถ่วงเวลาให้มากที่สุด ส่วนมันก็มองเหรียญอย่างพินิจพิเคราะห์ โดยเฉพาะเหรียญสลึงตรงกลาง
ผม: Yes, i very serious, this is the highest coin of my country. แล้วก็หันไปมองตำรวจอีก คราวนี้เข้ามาเหลือราว ๆ ห้าสิบเมตร
มันยังไม่รู้ตัว ผมรีบเก็บมีดเข้ากระเป๋าหลังก่อนจะได้ไม่เป็นที่น่าเกลียดเกินไป
ไอ้มืด: พูดมาเร็วมากคราวนี้ผมจับใจความได้แค่ว่าถ้าไม่เป็นจริงผมจะโดนเตะถ้ามันเจอผมอีก
ผม: You can prove it, guys.
แล้วตำรวจก็มาถึงตัวมันสองคนพอดี ผมนี่หายใจโล่งท้องทันที ลงมาพร้อมกับตบหัวสองคนดังโป๊ก แล้วก็ด่า ๆ ๆ ๆ ผมจับใจความได้แค่ว่า
ตำรวจ: Do you want to go the jail? It is illegal, you know. แล้วก็จับมันล่ามด้วยกุญแจมือ
ไอ้มืดก็มองหน้าผมอย่างแค้น ๆ ผมก็คิดในใจ ผมไม่อยู่แล้วเมืองนี่ พรุ่งนี้ข้าก็ไปที่อื่นแล้วอย่าหวังว่าจะเจอกันอีกเลย
ตำรวจ: I will hold them around three to five days for their illegality. Are you ok? you want to go to hospital to check your sore.
ไอ้ตอนที่ฟังตำรวจพูดก็งงว่าอะไรคือ sore ไม่เคยได้ยิน แต่มีคำว่า hospital เลยคิดไปว่าเกี่ยวกับแผลมั้งเดา ๆ ไปก่อน มาเปิด dictionary ที่ห้อง
ถึงเข้าใจว่าเป็นพวกแผลช้ำ ประมาณโดนบีบหรือต่อยอะไรประมาณนั้น
ผม: No, thank you. They didn't injure me. I am ok. Thank you very much แล้วตำรวจก็ลาก ๆ ไอ้มืดสองตัวพร้อมจักรยานเค้าไปโรงพักใกล้ ๆ
ส่วนผมก็ถอนหายใจโล่งผ่านเรื่องตื่นเต้นมาได้ โดยไม่ต้องไปโรงพักเฮ้อออ
เล่นเอาใจเต้นไม่เป็นจังหวะเหมือนกันน่ะไอ้เรื่องแบบนี้
ก็คงจบเรื่องเรื่องที่ san antonio ไว้แค่นี้ก่อนน่ะครับ สำหรับวันนี้ก็ผ่านเรื่องร้าย ๆ ไปได้ด้วยดี เกือบต้องไปกินข้าวแดงของไอ้กันมันแล้วไม่หล่ะ
เรื่องกฏหมายที่นี่เข้มแค่ไหนผมไม่มั่นใจแต่เท่าที่สังเกตเหมือนกับว่าตำรวจจะค่อนข้างรู้จักไอ้มืดสองคนนี่ดี เพราะตอนเข้ามาก็ไม่ได้ถามไถ่อะไรผม
กลับไปตบหัวไอ้มืดก่อนเลย ถ้าเป็นตำรวจที่ไม่รู้จักไอ้มืดสองคนนี้คงไม่ทำแบบนี้คงต้องถามไถ่รายละเอียดจากผม แต่นี้เหมือนกับว่ารู้ไส้รู้พุงหมดแล้ว
ผมคิดว่าอย่างเก่งไอ้มืดสองคนนี้ก็โดนลงบันทึกที่โรงพักแล้วก็คงปล่อยตัวคงไม่ได้กักขังอะไรอย่างที่ว่าอะครับ
ตำรวจคงพูดให้ออกมาดูว่าเมืองนี้ปลอดภัยไร้โจร ไร้ขอทาน อะไรประมาณนั้นน่ะครับ
ปล. มีดโบวี่ที่ละรึก แบบ hand made มีขายด้วยครับราคา 230 เหรียญ ผู้ใดสนใจสั่งซื้อผ่าน internet ได้ครับ ผมไม่รู้เวปไซด์ แหะแหะ
ไปถึง LA เมื่อไหร่ พี่บุญจะเป็นคนแรกที่ผมโทรหาครับ
รูปข้างล่างสองรูป อันแรกเป็นผังของป้อม alamo ส่วนรูปที่สองเป็นประตูเข้าออกป้อมครับ