เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 20, 2024, 06:47:21 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: Sport เฟอรารี่ ราคาหลักหมื่น  (อ่าน 4435 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
มืออ่อน หมัดแข็ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 857
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6569


เตสาหัง สิรสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตเม


« ตอบ #15 เมื่อ: กันยายน 29, 2007, 12:03:34 PM »

มองต่างมุมครับ  บางอย่างจำหน่ายนำรายได้เข้ารัฐ  หรือเอาไปแจกคนยากไร้  ก็เหมาะสม

แต่บางกรณี อย่างเรื่องรถ จะทำให้เกิดขบวนการ นำเข้า ให้จับ เข้าประมูลออกไปใหม่ วนเป็นวงจร  ฟอกรถจนสะอาด

คนได้ประโยชน์คือ นายทุนคนนำเข้า เพราะรถไม่อยู่ในสภาพที่คนอื่นจะประมูลได้

หรือประมูลไปก็วิ่งไม่ได้  คนที่รอช้อนก็คือคนนำเข้า เพราะเขาถอดชิ้นส่วนเก็บไว้แล้ว.....

บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า
เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป
      
ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย
อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #16 เมื่อ: กันยายน 29, 2007, 12:20:41 PM »

รถประจำที่ใช้ต้อนรับ  ต้องคันใหญ่ ๆ ยาว ๆ
เอา คันกระจิ๊ดริด ไปรับ ได้อย่างไร
ออกตัวที คะม่ำหงาย กันพอดี
แต่ถ้าเอาไปรับเจ๊โอ  ....
ยังคิดว่า  จะทำเวลาเร่ง ตีนต้น
ได้เหมือนเดิม หรือเปล่าหนา
0 - 100  ใน 9 วิ
เจ็โอ นั่งไปด้วย   จะเพิ่มอีก กี่วิ คร๊าบบบบบบบบบบบ....


อู๊ย.................


 Grin

มองต่างมุมครับ  บางอย่างจำหน่ายนำรายได้เข้ารัฐ  หรือเอาไปแจกคนยากไร้  ก็เหมาะสม

แต่บางกรณี อย่างเรื่องรถ จะทำให้เกิดขบวนการ นำเข้า ให้จับ เข้าประมูลออกไปใหม่ วนเป็นวงจร  ฟอกรถจนสะอาด

คนได้ประโยชน์คือ นายทุนคนนำเข้า เพราะรถไม่อยู่ในสภาพที่คนอื่นจะประมูลได้

หรือประมูลไปก็วิ่งไม่ได้  คนที่รอช้อนก็คือคนนำเข้า เพราะเขาถอดชิ้นส่วนเก็บไว้แล้ว.....



อย่างของพี่ ทัดมาลา  ว่า  ต้องแยกชิ้นส่วนครับ
ล้อไปทาง  ตัวรถไปทาง  เครื่องไปทาง  เบาะนั่งไปทาง
ยังทำประโยชน์ ได้มากกว่า  เพราะเป็นของรัฐ ก็ตีตราควบคุมได้
การที่จะรวบรวมกลับมาประกอบใหม่  ก็จะค่อนข้างยาก
วิทยาลัยอาชีวะ ที่เกี่ยวข้อง ยังมีอีกเหลือเฟือ  ที่จะมีต้นแบบให้ความรู้
กับเขาได้  ดีกว่าบดขยี้ ไปโดยไร้ประโยชน์  นอกจากขายเป็นเศษเหล็ก
ยังได้มองเห็นเป็นตัวเงิน ที่จะนำมาพัฒนาหน่วยงาน ต่อไป....


 Grin
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
ozero++รักในหลวงมากค่ะ++
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1287
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 25366


มารยาท...มีให้รักษา


« ตอบ #17 เมื่อ: กันยายน 29, 2007, 12:53:42 PM »

คำตอบคือเร่งไม่ไปค่ะพี่ยอด...อิอิ Grin
บันทึกการเข้า

เข้ามากด like กันได้นะคะ http://www.facebook.com/OAroi
และ https://www.facebook.com/SiaAke
^-^ภูพาน~รักพ่อหลวง^-^
มีภัย มีเรา biw199
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 224
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3412



« ตอบ #18 เมื่อ: กันยายน 29, 2007, 02:34:13 PM »

หน้าจะถอดเอาเครื่องไปติดเรือหางยาว Grin
บันทึกการเข้า





พายุยิ่งพัดอื้อ....................ราวป่าหรือราบทั้งแดน
อิศานนับแสนแสน..............สิจะพ่ายผู้ใดเหนอ?
@ NaZaReth >>>
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 2
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 293


OSK99


« ตอบ #19 เมื่อ: กันยายน 29, 2007, 02:59:06 PM »

ถ้าจะทำแค่คันนี้คันเดียว ก็ไม่น่าไปทำเลย  เสียดายของเปล่าๆ
แยกชิ้นส่วนหรือนำไปให้นักเรียนเค้าเรียนก็น่าจะดีอย่างที่หลายๆท่านว่า...
ถ้าจำไม่ผิดอธิบดีท่านนี้ท่านก็จะเกษียณ พอดี...
ไม่ทราบว่าอธิบดีท่านใหม่ที่จะมา  จะเชือดไก่ให้ลิงดูแบบนี้อีกหรือไม่...
บันทึกการเข้า

rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #20 เมื่อ: กันยายน 29, 2007, 04:11:44 PM »

เสียดายรถครับ...

ผมชอบเฟอรรารี่...

ผมไม่วิจารณ์เรื่องถูกผิด...

รู้แต่อยากได้...หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า
อู๋ รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 143
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1666



« ตอบ #21 เมื่อ: กันยายน 29, 2007, 04:28:23 PM »

น่าใช้รถถังm60 วิ่งทับมากกว่าใช้ back holdครับ 

บันทึกการเข้า

Life was like a box of chocolate. You never know what You're gonna get.
โจ ™
สมาชิกลำดับที่: 41
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 219
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8187


รวมเวลาที่อยู่ในระบบ: 555 วัน 5 ชั่วโมง 55 นาที


เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: กันยายน 29, 2007, 04:44:01 PM »

แยกชิ้นส่วน ก็ไม่เป็นข่าวหน้าหนึ่งสิครับ
บันทึกการเข้า

บางโพ 5
คุโด้ ชินอิจิ
^^KuDo KunG^^
Jr. Member
**

คะแนน 8
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31


:: DetacTive of EasT ::


« ตอบ #23 เมื่อ: กันยายน 29, 2007, 04:50:20 PM »

ควรหรือไม่ควรไม่รู้ๆแต่ไอ้คนในขบวนการนี้น้ำตาร่วงแน่นอน
เมื่อวานดูรายการข่าวมีคนดิ้นรนจะประมูลถึงขนาดขับรถเข้าขวางการทำลาย
ทุกข์ของคนรวย แต่ถ้าทำลายรถเมล์น้องคุโด้ไม่ยอมแน่นอน
บันทึกการเข้า

ถ้าตัดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ออกไป สิ่งที่เหลืออยู่...แม้จะไม่น่าเชื่อแค่ไหน...แต่มันก็คือความจริง !!!

CT_Pro4
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 537
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4869



« ตอบ #24 เมื่อ: กันยายน 29, 2007, 04:52:54 PM »

...ตราบใดที่กฎหมายยังเปิดช่อง ตราบใดที่เจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตและยุติธรรม ตราบใดที่ผลประโยชน์ส่วนตนมีค่ามากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม ตราบใดที่ยังมีการแสวงหาประโยชน์โดยอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายมาเป็นช่องทางในการหาผลประโยชน์นั้นๆ ผมว่ากรณีนี้เป็นแค่เครื่องมือในการทำประชาสัมพันธ์ของข้าราชการบางกลุ่ม บางพวกเท่านั้นครับ...

...การนำเข้ารถยนต์ หรือชิ้นส่วน อุปกรณ์ต่างๆ นั้น ถ้าจะว่าไปแล้ว กฎหมายที่ใช้อยู่มีช่องว่างอยู่มาก ทำให้เกิดการหาผลประโยชน์จากคณะบุคคลบางกลุ่ม บางพวกได้...

...ด้วยความเคารพ ผมเห็นด้วยกับความเห็นของทุกท่านที่อยู่ในกระทู้นี้ แต่ผมขอตั้งข้อสังเกตดังต่อไปนี้...

1. การดำเนินการจับกุมดำเนินคดี ผมถือว่าเป็นการจัดการหรือเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นก็เพราะกฎหมายกำหนดนิยามหรือให้คำจำกัดความในเรื่องของการนำเข้ารถยนต์ ชิ้นส่วน หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไม่ชัดเจนมาตั้งแต่ต้น

2. ในกรณีนำเข้ารถยนต์ทั้งคัน พิกัดภาษีศุลกากรกำหนดไว้ในปัจจุบันที่ 80% ของ CIF หลังจากนั้นจึงนำมาเป็นฐานในการคิดภาษีประเภทต่างๆ ต่อไม่ว่าจะเป็นภาษีสรรพสามิต (Excise Tax) ภาษีมหาดไทย (Interior Tax) รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งจะเป็นการคำนวนภาษีที่มีลักษณะที่ซับซ้อนมากที่สุดประเภทนึง เมื่อเทียบกับวิธีคำนวนภาษีของประเทศอื่นๆ ดังนั้นถ้าจะมองถึงช่องทางในการหาผลประโยชน์อย่างง่ายๆ ก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ "การสำแดง CIF ต่ำกว่าความเป็นจริง" เพื่อให้ฐานในการคำนวนภาษีต่ำลง สมัยก่อนใช้การเปลี่ยน Invoice เปลี่ยน B/L ที่ประเทศเพื่อนบ้าน หรือการแจงมูลค่ารถที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงเพื่อคำนวนภาษี ทางกรมศุลกากรเองทราบเรื่องนี้ดี จึงขอความร่วมมือมายังบริษัทรถยนต์เพื่อช่วยให้ข้อมูลในการตรวจสอบ ซึ่งผมต้องยอมรับครับว่าทำได้ดีขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อน แต่ก็ไม่สามารถอุดช่องโหว่ได้ทั้งหมด เพราะในขั้นตอนการปฎิบัติงานจริงๆ ด้วยความเคารพครับ ผมว่าตัวเจ้าหน้าที่เป็นตัวแปรที่สำคัญ ถ้าเป็นการนำเข้ารถยนต์ในนามบุคคล (เช่นในกรณีของผู้นำเข้าอิสระ)  เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรส่วนมากจะไม่มีข้อมูลอ้างอิงที่แท้จริงของรถยนต์คันนั้นๆ เพราะใช้ข้อมูลจากเอกสารที่บุคคลนั้นยื่นเทียบกับราคาที่บริษัทรถยนต์ที่ทำธุรกิจในประเทศไทยในนามของบริษัทแม่นั้นๆ ยื่นเอาไว้ที่กรมฯ แถมการตรวจสอบทางกายภาพก็ไม่ 100% เต็ม เช่น ถ้าใส่มาในตู้ Container เจ้าหน้าที่จะเปิดตู้จริงๆ หรือไม่ จะยึดหรือเชื่อถือข้อมูลตามเอกสารเท่านั้นหรือ แล้วทำไมถึงไม่เปิดตู้ ถ้าเปิด ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่สำแดงมาตรงตามเอกสารจริงหรือไม่ นี่ไม่นับรวมกับการดัดแปลงเพื่อปกปิดสัญลักษณ์เฉพาะของตัวรถก่อนการนำเข้ามาที่ port ในประเทศไทย คำถามหรือวิธีการเหล่านี้เป็นช่องโหว่ทั้งนั้นครับ คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์รู้กันดี เราออกมาต่อสู้ให้เกิดความถูกต้องเมื่อไหร่ เราก็จะเจ็บตัวเมื่อนั้น เพราะอะไรหรือครับ ผลประโยชน์มันมหาศาล...

...ยกตัวอย่างเช่น รถคันนึงสำแดงราคาที่ 100 บาท ภาษีรวมทุกประเภท (อัตราภาษีสรรพสามิตจะขึ้นอยู่กับขึ้นอยู่กับปริมาตรความจุกระบอกสูบและแรงม้า ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มที่คิดที่อัตรา 7%) จะอยู่ประมาณ 200 บาท (สมมุติว่าเป็น 200%) ราคาหลังจากเสียภาษีรวมต้นทุนรถน่าจะอยู่ที่ 300 บาท แต่ในทางกลับกัน รถคันเดียวกัน (อุปกรณ์ทุกอย่างเหมือนกันทุกชนิด) มีการสำแดงที่ 60 บาท แล้วถ้าเจ้าหน้าที่ยอมรับราคานั้น จากนั้นนำมาคำนวนภาษี ภาษีที่คำนวนได้ในอัตราเดียวกัน (สมมุติว่าเป็น 200%) ก็จะเป็น 120 บาท เพราะฉนั้นราคาหลังจากเสียภาษีรวมต้นทุนรถน่าจะอยู่ที่ 180 บาท ดูซิครับห่างกันแค่ไหน ส่วนต่าง 120 ที่เกิดขึ้น ถ้าผมแบ่งให้..... 30 (คิดเป็น 25% ของส่วนที่สามารถประหยัดได้จากการสำแดงต้นทุนต่ำกว่าความเป็นจริง) ผมยังเหลืออีก 90 ที่จะไปต่อทุนได้อีก 90 ที่ว่าอาจดูน้อยแต่อย่าลืมนะครับว่าต้นทุนของรถไม่ใช่เป็นหลักร้อยอย่างที่ผมสมมุติขึ้น และอัตราภาษีก็ไม่ใช่ 200% ตามที่สมมุติขึ้น พูดได้คำเดียวครับว่า ผลประโยชน์มหาศาล กระบวนการนี้ฝังรากมานานแล้วครับ ถ้าจะขุด ผมว่าเหนื่อยแน่ ...  Sad Sad Sad   

3. พูดถึงการประมูลรถยนต์ ผมขอยกตัวอย่างเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แต่ขออนุญาตละชื่อผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะผมไม่อยากกล่าวอ้างชื่อบุคคลที่สามซึ่งไม่สามารถมาแก้ข้อมูลในที่นี้ได้ กล่าวคือมีการประมูลรถยนต์ที่ยึดได้จากทางชายแดนภาคใต้ของไทย การประมูลเป็นได้อย่างปกติ มีผู้ยื่นประมูล และมีผู้ชนะการประมูล แต่ทำไมรู้มั้ยครับ รถคันนึงที่ถูกประมูลได้ ไม่มีกุญแจรถติดมากับรถและไม่สามารถติดตามได้ว่ากุญแจอยู่ที่ใด ท่านที่ประมูลท่านนี้จึงให้รถยก ยกรถคันนี้เข้ามาที่ศูนย์บริการที่เป็นศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากบริษัทรถยนต์ยี่ห้อนึง เพื่อขอทำการสั่งซื้อกุญแจสำรอง ทางศูนย์ฯ จึงตรวจสอบเลขตัวถังและเลขเครื่องยนต์เพื่อส่งไปบริษัทแม่ในการขอกุญแจดอกใหม่ ผ่านไป 2-3 วัน ทางศูนย์ฯ ได้รับแจ้งจากทางบริษัทรถยนต์แห่งนั้นว่า "ไม่สามารถออกลูกกุญแจดอกใหม่ให้ได้ เพราะรถคันนี้เป็นรถที่ถูกแจ้งว่าได้ถูกโจรกรรมมาจากประเทศเพื่อนบ้าน บริษัทประกันได้ทำการชำระสินไหมให้กับผู้เอาประกันเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตามบริษัทจะไม่ทำการออกกุญแจดอกใหม่หรือเปลี่ยนระบบกุญแจให้กับรถคันนี้อีกต่อไป" นั่นหมายความว่าในมุมของบริษัทรถยนต์ รถคันนี้ถือว่าไม่มีอยู่ในระบบอีกต่อไป ยกเว้นจะดำเนินการอื่นใจส่งมอบรถกลับไปยังประเทศต้นทาง แล้วให้บริษัทประกันนั้นดำเนินการต่อ ซึ่งในทางปฎิบัติคงเป็นไปได้ยากมากๆ ครับ สรุปแล้วผู้ประมูลท่านนี้สามารถทำๆได้อย่างเดียวคือขายรถที่ประมูลได้เป็นซากเพื่อขายชิ้นส่วนเท่านั้นเอง...   Sad Sad Sad

...ข้อมูลที่ผมอ้างมาทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ผมเองอยากพูดมานานแล้วเหมือนกันแต่ไม่สามารถทำได้อย่างที่ตั้งใจ ผมทำงานในอุตสาหกรรมรถยนต์ ตกเป็นจำเลยสังคมก็หลายครั้งว่าบริษัทค้ากำไรเกินควรเพราะรถราคาสูง หาผลประโยชน์กับประเทศบ้างละ ผู้นำเข้าอิสระเป็นพระเอกในการเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค แต่ผมยืนยันได้ครับว่าบริษัทที่ผมทำงานอยู่นั้น มีระเบียบเรื่องพวกนี้ชัดเจนเพราะเราจำเป็นต้อง comply กับข้อกำหนดของรัฐบาลไทยในทุกเรื่อง นอกจากนั้นเรายังต้องยึดข้อระเบียบปฏิบัติของ the U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) ของสหรัฐฯ อย่างเคร่งครัดเพราะบริษัทของผม list อยู่ที่นั่นด้วย บริษัทผมจะเข้มงวดมากเรื่องของ Compliance เราถูกทุกระบบถูกตรวจสอบทั้งระบบจากผู้ตรวจสอบภายในและภายนอกโดยยึดหลักการที่ว่าข้อกฎหมายของประเทศใดเข้มงวดที่สุดให้ยึดกฎหมายประเทศนั้นเป็นหลักการในการปฎิบัติงาน แต่คนที่ทำธุรกิจค้ารถในลักษณะที่มีวาระซ่อนเร้นนี้กลับไม่ถูกสังคมตำหนิ บางครั้งกลับได้รับการยกย่อง ทั้งที่ขาดความรับผิดชอบต่อลูกค้า อีกทั้งภาษีที่รัฐสูญเสียไปมหาศาล แทนที่จะได้นำมาใช้ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้อีกมาก กลับไปอยู่กับคนบางกลุ่มบางพวกเท่านั้น มันถูกแล้วหรอครับ...  Sad Sad Sad

...ด้วยความเคารพ ถ้ากระทู้ของผมพาดพิงหรือไม่เหมาะสมประการใดท่าน RO สามารถลบได้ทันทีครับ ผมเพียงอยากระบายความในใจเท่านั้นเองครับ...  Huh Huh Huh

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2007, 05:11:23 PM โดย CT_Pro4 » บันทึกการเข้า

Every problem contains the seeds of its own solution.- Stanley Arnold
tra-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 30
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1347


เป๊กแรก.....มันยากที่จะยอมรับ....


« ตอบ #25 เมื่อ: กันยายน 29, 2007, 04:55:48 PM »

น่าใช้รถถังm60 วิ่งทับมากกว่าใช้ back holdครับ 



น่าจะราดน้ำมัน.....แล้วเผาด้วยอ่ะ....แล้วค่อยขายซาก.....
บันทึกการเข้า

Metallica Enter Sandman
http://fr.youtube.com/watch?v=1QP-SIW6iKY
กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง
http://fr.youtube.com/watch?v=B0cxpbvDWq8
วิท'ลัยหลายใจ
http://fr.youtube.com/watch?v=oxGPz0tTQeI
ไม่ใช่แฟน...ทำแทนไม่ได้
http://fr.youtube.com/watch?v=Wb8h1nRzm2E
แจ็ค
"กำบ่มีอย่าไปอู้...กำบ่ฮู้อย่าได้จ๋า"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 461
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7529


« ตอบ #26 เมื่อ: กันยายน 29, 2007, 10:12:29 PM »


..... เอ้อ .... บางเรื่องเราเองก็ไปคิดแทนผู้ที่มีหน้าที่ไม่ได้  ปัญหาภายในที่เราไม่ทราบอาจจะหนักหนาสาหัสจนต้องออกมาในรูปของการทำลาย  แต่ก็ดีนะ เป็นการตัดวงจรการนำเข้าที่ผิดกฎหมายได้บ้าง (ในระดับหนึ่ง) อย่างน้อยก็ในครั้งนี้ แต่ถ้าจะให้ดีต้องทำตลอดไป  จะไม่ตำหนิเลยว่าโชว์ผลงาน แต่เหตุผลครั้งนี้ก็ฟังได้นะ  ... แต่ที่อยากทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปติดต่อและขัดขวางการทำลายนั้น  มีเหตุผล หรือขยายผลได้หรือไม่ครับ  มีอะไรนอกเหนือจากการปฏิบัติหน้าที่หรือเปล่า  น่าสนใจมากกว่า ....
บันทึกการเข้า

... เมื่อความกลัวถึงขีดสุด  มันจะเกิดเป็นความกล้าที่บ้าบิ่น ...
{best}
ไม่เกี่ยวข้องกับคนชั่ว
Full Member
***

คะแนน 20
ออฟไลน์

กระทู้: 385



« ตอบ #27 เมื่อ: กันยายน 29, 2007, 11:37:54 PM »

เอะอะก็ทำลายข้าวของ เหมือนคนแถวๆนี้เลยครับ หุ หุ
ตายหล่ะสิ เค้าเหล่มาแล้ว ไปหล่ะครับ Cheesy
บันทึกการเข้า

ถึงความรู้จะน้อยนิดแต่มีความจริงใจสูงนะครับ
RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #28 เมื่อ: กันยายน 30, 2007, 03:20:40 PM »

ขอบคุณความเห็นของพี่ๆ ทุกท่านครับ

ข้อสังเกตุของพี่ CT_Pro4 เป็นข้อมูลที่มีรายละเอียดชัดเจนมาก 

ผมก็มีประสบการณ์จากการวางเงินมัดจำเพื่อเข้าประมูลรถยนต์ของกลางที่กรมศุลกากรเมื่อประมาณห้าปีที่ผ่านมา  ในช่วงนั้นใช้วิธีการประมูลผ่านคอมพิวเตอร์ออนไลน์ซึ่งพบปัญหามากเรื่องระบบและผมก็ประมูลไม่ได้เพราะลงตัวเลขเพิ่มแล้วเคาะคีย์แต่ข้อมูลไม่อัพเดททันทีเหมือนมีการบล๊อคอะไรไว้สำหรับคนบางคนบางเครื่องซึ่งสรุปว่าคนๆ นั้นประมูลได้ค่อนข้างมากครับ

ส่วนเรื่องของรถยนต์ของกลางซึ่งตกเป็นสมบัติของแผ่นดินเนื่องจากผู้ต้องหาไม่สามารถนำหลักฐานมาแสดงเพื่อยืนยันการครอบครองอย่างถูกต้อง หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจจับเพื่อดำเนินคดีในข้อหาต่างๆ เช่น ปลอมและใช้เอกสารปลอม ช่วยพาไป ซื้อ หลบเลี่ยงอากร  ไม่ว่าจะของกรมศุลกากรหรือตำรวจล้วนแต่ได้รับรางวัลนำจับในกรณีรถได้ถูกประมูลและมีการชำระเงินให้กรมศุลกากรเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งสิ้น  แต่ตื้นลึกหนาบางเอกชนซึ่งเป็นนิติบุคคลหรือบุคคลที่มีเงินทุนมหาศาลเป็นผู้ลงทุนทำกันอย่างเป็นขบวนการมาเป็นเวลานานแล้ว  ยกตัวอย่างการนำรถเข้ามาในราชอาณาจักรโดยเลี่ยงภาษีอากรแล้วให้ผู้อื่น(คนสนิท)แจ้งให้หน่วยงานดังกล่าวตรวจยึด  ผู้แจ้งได้รางวัลเป็นสินบนนำจับส่วนหนึ่งแล้วทำให้ได้เปรียบเวลาประมูลเพราะมีรางวัลเป็นทุนยังไงก็สู้ราคาได้สูงกว่าแน่นอน

เมื่อถึงเวลาประมูลหรือขายทอดตลาดแล้วผู้อื่นได้รถดังกล่าวไปเนื่องจากชนะการประมูลโดยให้ราคาสูงที่สุด  ก็จะมีการติตต่อขอซื้อต่อในราคาซึ่งต่ำกว่าราคาประมูล มีการข่มขู่หากไม่ขายให้โดยอ้างว่า "นายตู..ต้องการรถคืน ไม่ขายก็ไม่ต้องเอาออกมาขับหรือขายให้เห็น" ตรงนี้เปรียบเสมือนเจ้าพ่อหรือมาเฟียในวงกรประมูลรถยนต์(จากกรมศุลกากร)โดยเฉพาะซึ่งมักไม่สนใจประมูลรถยนต์ใช้แล้วจากตลาดอื่นๆ เช่น สหการประมูล เป็นต้น

แต่ก็มีบางส่วนซึ่งผู้ต้องหาต่อสู้คดีตั้งแต่ชั้นสอบสวน อัยการ จนถึงชั้นศาล แล้วชนะคดีโดยที่ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์ ตามข้อกล่าวหาต่างๆ ให้คืนทรัพย์ของกลางให้แก่ผู้ต้องหาแต่รถยนต์ที่ได้กลับคืนมาก็เสื่อมสภาพไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ  มีอุปกรณ์ต่างๆ สูญหายระหว่างเก็บของกลางต้องทำการซ่อมแซมอย่างมาก จึงทำให้เกิดการฟ้องกลับทางคดีแพ่งต่อหน่วยงานดังกล่าวแต่ก็ต้องเสียเงินค่าทนายและเวลาอีกมากครับ

รอดูกันต่อไปเพราะคงยังมีรถยนต์ในส่วนของกลางของกรมศุลกากรอีกมากมายที่จะเปิดให้ประมูลอีกว่าจะมีการทำลายเหมือน sport เฟอรารี่ อีกหรือไม่

เรียนท่าน วมต. และ RO ทุกท่าน
ผมตั้งกระทู้นี้โดยมิได้มีเจตนาจะกล่าวหาหน่วยงานของรัฐเพราะเรื่องที่เกิดขึ้น  หากเห็นว่ากระทู้ไม่เหมาะสมและสร้างความแตกแยก กรุณาลบครับ

ด้วยความเคารพทุกท่านครับ
บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #29 เมื่อ: กันยายน 30, 2007, 04:01:01 PM »

ขอบคุณความเห็นของพี่ๆ ทุกท่านครับ

ข้อสังเกตุของพี่ CT_Pro4 เป็นข้อมูลที่มีรายละเอียดชัดเจนมาก 

ผมก็มีประสบการณ์จากการวางเงินมัดจำเพื่อเข้าประมูลรถยนต์ของกลางที่กรมศุลกากรเมื่อประมาณห้าปีที่ผ่านมา  ในช่วงนั้นใช้วิธีการประมูลผ่านคอมพิวเตอร์ออนไลน์ซึ่งพบปัญหามากเรื่องระบบและผมก็ประมูลไม่ได้เพราะลงตัวเลขเพิ่มแล้วเคาะคีย์แต่ข้อมูลไม่อัพเดททันทีเหมือนมีการบล๊อคอะไรไว้สำหรับคนบางคนบางเครื่องซึ่งสรุปว่าคนๆ นั้นประมูลได้ค่อนข้างมากครับ

ส่วนเรื่องของรถยนต์ของกลางซึ่งตกเป็นสมบัติของแผ่นดินเนื่องจากผู้ต้องหาไม่สามารถนำหลักฐานมาแสดงเพื่อยืนยันการครอบครองอย่างถูกต้อง หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจจับเพื่อดำเนินคดีในข้อหาต่างๆ เช่น ปลอมและใช้เอกสารปลอม ช่วยพาไป ซื้อ หลบเลี่ยงอากร  ไม่ว่าจะของกรมศุลกากรหรือตำรวจล้วนแต่ได้รับรางวัลนำจับในกรณีรถได้ถูกประมูลและมีการชำระเงินให้กรมศุลกากรเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งสิ้น  แต่ตื้นลึกหนาบางเอกชนซึ่งเป็นนิติบุคคลหรือบุคคลที่มีเงินทุนมหาศาลเป็นผู้ลงทุนทำกันอย่างเป็นขบวนการมาเป็นเวลานานแล้ว  ยกตัวอย่างการนำรถเข้ามาในราชอาณาจักรโดยเลี่ยงภาษีอากรแล้วให้ผู้อื่น(คนสนิท)แจ้งให้หน่วยงานดังกล่าวตรวจยึด  ผู้แจ้งได้รางวัลเป็นสินบนนำจับส่วนหนึ่งแล้วทำให้ได้เปรียบเวลาประมูลเพราะมีรางวัลเป็นทุนยังไงก็สู้ราคาได้สูงกว่าแน่นอน

เมื่อถึงเวลาประมูลหรือขายทอดตลาดแล้วผู้อื่นได้รถดังกล่าวไปเนื่องจากชนะการประมูลโดยให้ราคาสูงที่สุด  ก็จะมีการติตต่อขอซื้อต่อในราคาซึ่งต่ำกว่าราคาประมูล มีการข่มขู่หากไม่ขายให้โดยอ้างว่า "นายตู..ต้องการรถคืน ไม่ขายก็ไม่ต้องเอาออกมาขับหรือขายให้เห็น" ตรงนี้เปรียบเสมือนเจ้าพ่อหรือมาเฟียในวงกรประมูลรถยนต์(จากกรมศุลกากร)โดยเฉพาะซึ่งมักไม่สนใจประมูลรถยนต์ใช้แล้วจากตลาดอื่นๆ เช่น สหการประมูล เป็นต้น

แต่ก็มีบางส่วนซึ่งผู้ต้องหาต่อสู้คดีตั้งแต่ชั้นสอบสวน อัยการ จนถึงชั้นศาล แล้วชนะคดีโดยที่ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์ ตามข้อกล่าวหาต่างๆ ให้คืนทรัพย์ของกลางให้แก่ผู้ต้องหาแต่รถยนต์ที่ได้กลับคืนมาก็เสื่อมสภาพไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ  มีอุปกรณ์ต่างๆ สูญหายระหว่างเก็บของกลางต้องทำการซ่อมแซมอย่างมาก จึงทำให้เกิดการฟ้องกลับทางคดีแพ่งต่อหน่วยงานดังกล่าวแต่ก็ต้องเสียเงินค่าทนายและเวลาอีกมากครับ

รอดูกันต่อไปเพราะคงยังมีรถยนต์ในส่วนของกลางของกรมศุลกากรอีกมากมายที่จะเปิดให้ประมูลอีกว่าจะมีการทำลายเหมือน sport เฟอรารี่ อีกหรือไม่

เรียนท่าน วมต. และ RO ทุกท่าน
ผมตั้งกระทู้นี้โดยมิได้มีเจตนาจะกล่าวหาหน่วยงานของรัฐเพราะเรื่องที่เกิดขึ้น  หากเห็นว่ากระทู้ไม่เหมาะสมและสร้างความแตกแยก กรุณาลบครับ

ด้วยความเคารพทุกท่านครับ


ได้ความรู้ดี ครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.098 วินาที กับ 21 คำสั่ง