เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 23, 2024, 09:13:16 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 ... 1487
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่องบินขับไล่ใหม่ กองทัพอากาศไทย  (อ่าน 3904180 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
E_mail
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #30 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2007, 05:37:33 PM »

ผมว่าเราดูหนังสงครามของไอ้กันมากไปหรือเปล่าครับ  นี่ล่ะหนังโฆษณาอาวุธอย่างดีเลยล่ะอะไรๆก็ทำได้หมด อาวุธชาติอื่นกลายเป็นของเด็กเล่นทันทีสู้ไม่เคยชนะสักที  อาวุธดีก็เท่านั้นถ้ากำลังพลไม่มีคุณภาพก็แพ้อยู่ดี สงครามเวียตนามเป็นตัวอย่างที่ดีมากระหว่างความมุ่งมั่นสู้กับเทคโนโลยีที่ทันสมัย

เทคโนโลยีและยุทโธปกรณ์ที่ดีก็มีส่วนสร้างความต่างของผลการรบได้ครับ ตัวอย่างง่ายๆคือที่อิรัก หากเทคโนโลยีทางทหารของอเมริกัน-อิรักต่างกันน้อยกว่านี้ ผลการรบจะไม่ออกมาแบบนี้  Wink
บันทึกการเข้า
RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #31 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2007, 12:07:57 AM »

Jas39 Gripen
ลองชมดูและไม่ต้องสงสัยว่าทำไมตัดสินใจซื้อ นอกจากข้อตกลงและของแถมครับ
เฉพาะการถ่ายทำก็คงลงทุนไปหลายแล้ว ไม่แพ้หนังดังๆ เกี่ยวกับเครื่องบินขับไล่ เพลงก็มีทั้งเร้าใจและซึ้งครับ




http://www.youtube.com/watch?v=S8FFVaLtY0s
บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #32 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2007, 12:24:11 AM »

ในแถลงข่าวมีการ บาร์เตอร์เทรดกับสินค้าเกษตร ที่สวีเดนเคยเสนอหรือเปล่าครับใครทราบบ้างครับ ยังไงก็ต้องเจรจาตรงนี้ให้ได้เผื่อในอนาคตเศรษฐกิจมีปัญหา แบบตอนที่สั่งซื้อ f18 ยังไงก็ได้เครื่องครับ ที่สำคัญ สวีเดนต้องนำเข้า ไก่(กุ้งด้วยหรือเปล่าไม่แน่ใจ)อยู่แล้ว win win กันทั้งไทยและสวีเดน เพราะสวีเดนไม่ต้องจ่ายเงินสดเป็นค่าอาหารที่ต้องนำเข้าอยู่แล้วถ้าไม่นำเข้าจากไทยก็ต้องนำเข้าจากประเทศอื่น ไทยก็ไม่ต้องจ่ายเงินสดแถมยังช่วยระบายไก่ที่ล้นตลาดในขณะนี้ได้ เศรษฐกิจมีปัญหาค่าเงินตกหาเงินไปจ่ายเค้าไม่ได้จริงๆ ก็ไม่ต้อง cancelled สัญญา ประเทศชาติมั่นคงประชาชนมั่งคั่งกันทั้ง2 ประเทศครับ

ตอนที่ jas ยังไม่แม้แต่เป็นตัวเลือกของ ทอ. สวีเดนเคยเสนอออปชั่นนี้ ถ้าหากไม่มีใครแกล้งหลงลืมการทำบาร์เตอร์เทรดไป จัดได้ว่ารัฐบาลที่มาจากรัฐประหารครั้งนี้จัดซื้อได้โปร่งใส มีความเหมาะสม 100% ที่เดียวเนื่องจาก jas มีขีดความสามารถทางการรบในแบบอากาศต่ออากาศสูงมาก ยิ่งได้รับการสนับสนุนส่งข้อมูลจาก erieyes ด้วยไม่เป็นรองใครครับ ขีดความสามารถด้านการโจมตีผิวน้ำ ก็น่าพอใจ ติดอยู่อย่าเดียวที่การโจมตีทางลึกทำได้ไม่ดีเท่าไหร่(ต้องลุ้นให้ usa หรือสวีเดน ขายต่อ กระเปาะ lantern และ linghtning ให้ รวมทั้งอาวุธยิงระยะไกลพวก KEPD ที่มีระยะ กว่า500 km( http://www.youtube.com/watch?v=kXNvmN8MZT0 ) หัวรบ499 กก. เจาะเกราะได้แม้แต่บังเกอร์ที่หนาหลายๆเมตร)ซึ่งที่ผ่านมา กรณีจัดซื้อ missile c802 นับได้ว่าโปร่งใสและมีความเหมาะสมมาก ไล่มาจน ปืนเล็ก tavor(ที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยม ไม่ได้สักแต่ว่าซื้อถูกที่สุดแต่ซื้อความคุ้มค่ามากที่สุด แต่ปืนดีก็กลัวคนไทยจะบำรุงรักษาไม่เป็นแล้วหมดสภาพมากกว่า เอาง่ายๆแค่ยิงแล้วไม่ล้างด้วยน้ำยาล้างคราบทองแดง สัก500 นัดคราวนี้ ยิง2 ร้อยเมตรก็บานเป็นกระด้งแล้วครับ ที่ผ่านๆมา สรรพาวุธตำรวจ และ สรรพาวุธ ทหารยังไม่รู้จักน้ำยาตัวนี้เลยครับ)  ส่วนที่เป็นข้อด้างพร้อยของรัฐบาลนี้ได้แก่กรณี รถเกราะยูเครน ที่ราคาต่ำสุด แต่คุณภาพเป็นอย่างไรนั้น
ลองอ่านข้อความดูครับ คุณ juldas ผู้เขียนก็เชื่อถือได้พอสมควร

ขออนุญาติให้ข้อมูลด้านรถเกราะนิดครับ เป็นข้อมูลจาก SIPRI ARMS TRANFERS DATABASE


BTR-94  ใหม่เอี่อมอ่องถอดด้ามจากไลน์ผลิตของ ยูเครน ขายให้ จอร์แดน 50 คัน มูลค่า 6.5 ล้าน
BTR-3U ขายให้พม่า 1,000 คัน แต่ส่งได้แค่ 10 คัน ไม่ปรากฎมูลค่าซื้อขาย (สงสัยให้ฟรี คิดตังค์ไม่ถูก) เพราะ เยอรมัน ไม่สามารถขายเครื่องยนต์ให้ได้กระมัง...

BTR-3U ขายให้ UAE จำนวน 100 คัน แต่ส่งให้ได้แค่ 24 คัน ไม่ปรากฎมูลค่าซื้อขาย เป็นการประกอบที่ UAE เอง สเปคเดียวกับของไทย เครื่องยนต์เยอร์มัน ระบบสื่อสาร US และน่าจะเป็นสาเหตุเดียวกัน เรื่องเครื่องยนต์เยอรมัน เกี่ยวเนื่องกับพม่า เพราะ EU กลัวเครื่องไปไม่ถึง UAE มันจะเลี้ยวไปพม่าซะก่อน (เดาเอา)

BTR-3E ขายให้ THAILAND จำนวน 96 คัน คันละ 800,000 เหรียญ (โอ้วววว..แม่จ้าววววว) สเปคเครื่องยนต์เยอรมัน ระบบสื่อสาร นาโต้ แต่ถึงจะลงนามซื้อได้...แต่เครื่องยนต์เยอรมัน มันจะได้มาหรือ เพราะยังไม่ได้เป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง เยอรมันคงไม่สามารถขายได้อีกเช่นเดียวกับ พม่า.....

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซื้อ บีทีอาร์ 3ยู (บีทีอาร์ 3  รุ่นที่ใช้ เครื่องยนต์ และ ระบบส่งกำลัง ของ เยอรมัน) จำนวน 90คัน มาเมื่อ 4ปีก่อน แต่รับมอบแค่ 24 คันก็ ยกเลิกการสั่งซื้อรถที่เหลือ ส่วนประเทศจอร์แดนซื้อบีทีอาร์94  (บีทีอาร์ 80 รุ่นที่ใช้ เครื่องยนต์ และ อาวุธของประเทศยูเครน) จำนวน 50คัน ใช้งานไป 4ปี โอนให้อิรัก ทั้ง2 ประเทศนี้ อาจจะเจอปัญหามากในการใช้งานและซ่อมบำรุงจนต้องยกเลิกการสั่งซื้อหรือเลิกใช้ไปเลย เยอรมันไม่มีปัญหาในการขายเครื่องยนต์ให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

http://www.thaifighterclub.org/webboard.php?action=detailQuestion&questionid=5217&language=1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 18, 2007, 01:58:34 AM โดย nars » บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
Narin CZ
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #33 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2007, 01:04:35 AM »

  ต้องขอแสดงความยินดีกับ ทอ ด้วย หลังจากที่รอแล้วรอเล่ามานาน...เท่าที่ติดตามข่าวที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการบินของทางยุโรปคงไม่ด้อยกว่าทางอเมริกันเท่าไร ก็ลองดูเครื่องมิราจหรือราฟาลของฝรั่งเศษดูซิครับ หากจำไม่ผิดขนาดอิสราเอลที่ว่าเขี้ยวๆก็ยังใช้อาวุธจากค่ายนี้ไปต่อกรกับชาติอาหรับทั้งหลายเลยครับ...

แจ๊สติดอาวุธได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาวุธของทางสวีเดนเองหรือจากฝรั่งเศษ ที่คุณกันเองก็ยังหนาว...และยังมีออฟชั่นอีกเพียบ ซึ่งหาไม่ได้ในกรณีที่ซื้อเครื่องจากอเมริกา...

เรื่องการซ่อมบำรุง หากซื้อ ซู 30 ก็คงต้องจ่ายมากกว่าแจ๊ส 39 แน่ๆ...แต่หากซื้อ เอฟ 16 บล๊อก ซีดี ก็คงได้ไม่กี่เครื่องแถมต้องรอคิวอีกนาน และแถมยังมีปัญหาเรื่องอาวุธไฮเทคว่า...ทางคุณกันจะขายให้หรือเปล่า...ประเภทเครื่องดี แต่ขาดอาวุธดีก็คงหงอยครับ..

แจ๊ส 39 นี่ก็เป็นประเภทเล็กดีรสโตนะครับและคิดว่าคงเอาไว้ป้องกันประเทศมากว่าซึ่งก็คงเหลือเฟือ และอีกอย่างนโยบายของทาง ทอ หรือรัฐบาลไทยไม่ว่าเวลานี้หรือเวลาไหน ก็คงไม่ไปรุกรานเพื่อนบ้านหรอกครับ เพราะคงไม่มีใครชนะใคร แต่ที่แน่ๆก็คือเจ็บด้วยกันทั้งคู่ครับ...

นึกๆก็ครึ้มอกครึ้มใจเหมือนกันนะครับ หากจะมีทหารของคุณกันมายืนมุงดูเครื่องแจ๊ส 39 ของ ทอ เราแทนที่ทหารของเราที่ไปยืนมุงดูเครื่องของทาง ทอ ทร ของคุณกันเวลาฝึกค๊อบร่า โกลด์...



บันทึกการเข้า
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #34 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2007, 04:14:55 AM »

ถ้าซื้อมาก็ต้องมีค่าโรงซ่อมบำรุงและเครื่องจักรในการซ่อมบำรุงอีกหลายหมื่นล้าน แถมยังต้องฝึกนักบินและช่างเครื่องอีกหลายร้อยคน เป็นเงินเท่าไหร่ลองคูณกันดู อะไหล่ที่ต้องสำรองอีกบานเบอะเยอะแยะ ไม่คุ้มที่จะลงทุนโรงซ่อมและฝึกคนเพื่อนใช้งานเครื่องบินเพียง12 เครื่อง(ถ้าซื้อ jas จะซื้อไม่เกิน12 ลำ เนื่องจากว่า jas ไม่มีเทคโนโลยี stealth หรือเทคโนโลยีที่ตรวจจับเครื่อง stealth ได้ อีก10 ปีก็จะหมดคุณค่าทางการรบที่จะต่อกรกับเครื่อง stealth ) แต่ถ้าซื้อเครื่อง f16 ก็ไม่ต้อง train คนใหม่ แถมยังสร้างอำนาจต่อรองได้ เพราะพิสัยบินไกลถึง สิงค์โปร์ จาการ์ตา ฮานอย ร่างกุ้ง ปิ่นมะนา ในขณะที่ jas ถ้าประจำแถวภาคกลางจะบินไม่ถึงสิงค์โปร์ ถ้าประจำที่สุราษฎร์ก็บินไม่ถึงฮานอย ซื้อจริงๆ จะกลายเป็นเสียเงินเปล่า แต่ได้คุณค่าทางยุทธศาสตร์กลับมานิดเดียวครับ แต่ถ้าไม่อยากอิงอเมริกันมาก ก็ su30 ไปเลย เพราะพิสัยบินไกลทั่วภูมิภาค สร้างอำนาจต่อรองได้เยอะครับ

 Grin ขอออกความเห็นแย้งนิดนึงนะครับ คือ โรงซ่อมบำรุงไม่ต้องสร้างใหม่ครับ ใช้ของเดิมได้หมด เรื่องบุคคลากร นักบิน/ช่างเครื่องและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ยังไงก็ต้องฝึกอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าใช้เครื่องรุ่นเดิมก็ใช้บุคคลากรเดิมจนเครื่องนั้นจะเลิกใช้ หรือถึงจะใช้รุ่นเดิมก็ต้องมีการผลิตบุคลากรใหม่ ๆ มาตลอดเวลา และถึงจะเป็น F-16 C/D ก็ต้องฝึกใหม่เหมือนกันครับ เพราะไม่ใช่ว่าบุคคลากรของ F-16 A/B อยู่ ๆ จะไปทำให้กับ F-16 C/D ได้เลยครับ เครื่องบิน แม้แต่เป็นรุ่นเดียวกัน แต่คนละเวอร์ชั่นกัน บุคคลากรก็ต้องใช้ต่างกันครับ ยิ่งกับ F-16 ด้วยแล้ว ระหว่าง A/B กับ C/D ต่างกันเกือบหมด ทั้งระบบเอวิเอนิคส์ ทั้งระบบเครื่องยนต์ (ยี่ห้อเดิมแต่คนละรุ่นกัน) เท่าที่ผมศึกษาแล้วทั้งสองเวอร์ชั่นต่างกันถึงประมาณ 80% ครับ ต่อมาเรื่องอะไหล่สำรอง ขอบอกว่า F-16 A/B สองฝูงแรก เรามีอะไหล่น้อยมากครับ เครื่องยนต์ชำรุด ต้องรอเครื่องยนต์ใหม่เป็นหลาย ๆ เดือน หลัง ๆ มีการซ่อมแบบกินตัว ฝูงสามที่เป็นเครื่องมือสองที่เพิ่งได้มาไม่นาน มีออพชั่นเป็นเครื่องที่จอดทิ้งที่สุสานเครื่องบินมาใช้เป็นอะไหล่ให้อีก 2 เครื่อง ผมเลยไม่คิดว่าถึงจะเป็น F-16 C/D ก็จะซื้ออะไหล่มาเยอะ อีกอย่างที่บอกไว้ข้างต้นคือ A/B กับ C/D มันต่างกันมากขนาดนั้น ยังไงก็ต้องซื้ออะไหล่มาสำรองไว้เยอะเหมือนกัน (ถ้าได้ซื้อนะ) Grin
 Grin เรื่องคุณค่าทางยุทธศาสตร์ ถ้าอ้างถึงเทคโนโลยีล่องหน (stealth) ผมว่า อีก 20 ปี ก็ยังมีเครื่องที่ไม่ล่องหนใช้อยู่มากกว่า 80% ของกองทัพอากาศทั่วโลกครับ และประเทศแถบนี้ประเทศไหนจะมีปัญญาซื้อนอกจากสิงคโปร์ (ซื้อแน่ เพราะร่วมลงขันพัฒนา F-35 JSF กับเขาไปแล้ว) ด้วยความแพงของเทคโนโลยีในตอนนี้ และอเมริกาหรือรัสเซียคงไม่ปล่อยออกตลาดทั่วไปง่าย ๆ ในเร็ว ๆ นี้แน่ ถึงเวลา 15-20 ปี (อายุเฉลี่ยในการเริ่มคิดซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่ทดแทนรุ่นเดิม) ราคาของเทคโนโลยีล่องหนถูกลง เราก็สามารถซื้อเทคโนโลยีล่องหนมาใช้ได้เหมือนกัน และน่าจะดีกว่าเทคโนโลยีล่องหนในปัจจุบันด้วย ซึ่งแม้แต่ F-16 เอง กว่าเราจะได้ซื้อมาใช้ ก็ซื้อหลังจากอเมริกาใช้มาแล้วประมาณ 10 ปีเหมือนกัน Grin
บันทึกการเข้า

Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #35 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2007, 09:35:20 AM »

F16 ของไทยในปัจจุบันสามารถบินโจมตีลึกเข้าไปในลาว เขมร พม่า สิงค์โปร์ มาเลฯ เวียดนาม ได้หรือไม่
เครื่องบินเตือนภัยที่แถมให้สามารถใช้ร่วมกับ F16 ในปัจจุบันของไทยได้หรือไม่
จรวดต่อสู้เรือผิวน้ำที่จะแถมให้ ขีดความสามารถถ้าเทียบกับฉมวกของF18 เป็นอย่างไรและสามารถนำมาติดหรือดับแปลงติดกับF16 ของไทยได้หรือไม่
JAS สวีเดนผลิตจรวดเป็นเภทเดียวกับ AIM-7 หรือAM120 ได้หรือไม่และจะยอมขายให้ไทยหรือไม่
นำ JAS เป็นเครืองบินขับไล่ ใช้ F16 เป็นเครื่องขับไล่/โจมตีหรือเปล่าครับ


f16 ในปัจจุบัน บินไปโจมตี ลาว เขมร พม่าได้ จากฐานบินตาคลี และโคราชได้ โดยติดถังน้ำมันสำรองไปด้วยได้ ไปถึง เวียดนามได้ แต่จะรอดกลับมากี่ลำไม่รู้ เพราะ f16 เราเป็นรุ่นโบราณ กระเปาะชี้เป้าและติดตามเป้าเป็น atlis กับ rubis รุ่นเก่าที่ใช้ในสงครามอ่าวครั้งแรก(รู้สึกว่าจะใช้ตอนกลางคืนได้ไม่ชัด ต้องใช้ร่วมกับระบบสร้างภาพความร้อนของ ระบบนำวิถีของ missile maverick) และมีแต่ missile air to ground และระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ ระยะยิงใกล้(10-15km) ติด missile แบบ air to air aim9 ระยะยิงประมาณ 15 km. ได้แบบเดียว(มีฝูง adf ฝูงเดียว16 เครื่องที่ยิงaim 120 ระยะยิง 60-120 km ได้แต่aim120 ฝากไว้ในคลัง อเมริกัน และมีแค่ 8-16 นัดตอนนี้ไม่แน่ใจว่าอเมริกันให้เราครอบครองแล้วยัง) แถมล่าสุด เวียดนาม ประจำการ s300 ซึ่งทำลายอากาศยานได้ที่ระยะ 200 กม. ทำลายขีปนาวุธได้ที่ระยะ 50 กม. และมีซู 27 ซึ่งยิงอากาศยานได้ตั้งแต่ระยะ 60-100 กม. ส่วน เมเลย์นี่ไม่ควรแตะอย่างยิ่ง เพราะมาเลย์มีฐานทัพอากาศ ที่เกาะบอเนียว อยู่นอกรัศมี f16 ส่วนสิงค์โปร์มีลุ้น แต่ต้องบินจาก สุราษฎร์ เพราะ ทั้งเกาะมีสนามบิน 2 แห่ง เข้าไป 18 เครื่อง ถึงเป้าหมาย สองเครื่อง สิงค์โปร์ก็เรียบร้อย แต่ต้องยึดอุดรให้ได้ก่อนครับ
erieyes ใช้ร่วมกับ f16 ได้ แต่ต้อง upgrade ระบบ datalink และ เพิ่มขีดความสามารถให้ใช้ aim 120

rbs 15 มีพิสัยยิง ประมาณ200 กม. พอๆ กับ harpoon หัวรบหนัก 200 kg(harpoon 220 kg)
jas 39สวีเดนใช้ misile  aim 9,aim 120 ของ usa และ meteur ของ อังกฤษ ไม่ได้ผลิตเองครับ
ติดตั้ง air to ground แบบ kepd ระยะยิง ประมาณ 250 กม. ของเยอรมัน และ maverick ระยะยิง 15 กม. ได้ครับ ส่วน อเมริกาและ อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศสจะขาย missile ให้หรือเปล่าไม่รู้ครับ สงสัยจะได้อาวุธในคลังสวีเดน แต่จำนวนแค่ไหนต้องลุ้นกันอีกทีครับ
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลที่แบ่งปัน............................. Grin
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
MJTactical
Long Live the King
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 318
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4838


SLOW IS SMOOTH , SMOOTH IS FAST


« ตอบ #36 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2007, 09:40:12 AM »

จามีงบพอหรอครับ
ไหนจาเรื่องการบำรุงรักษาอีกละครับ
งบปีนึงคงไม่เหลือแน่ๆแบบนี้
บันทึกการเข้า

AMATEURS TRAIN UNTIL THEY GET IT RIGHT. PROFESSIONALS TRAIN UNTIL THEY GET IT WRONG



LEAVES NO MAN BEHIND
ลุงตุ้ย
รู้จักพอ ก่อสุขทุกสถาน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 271
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2864


มีสติ ก็มีสตังค์ พอมีสตังค์ก็กินให้หมดสติ


« ตอบ #37 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2007, 11:20:17 AM »

 Cheesy
ถ้าซื้อมาก็ต้องมีค่าโรงซ่อมบำรุงและเครื่องจักรในการซ่อมบำรุงอีกหลายหมื่นล้าน แถมยังต้องฝึกนักบินและช่างเครื่องอีกหลายร้อยคน เป็นเงินเท่าไหร่ลองคูณกันดู อะไหล่ที่ต้องสำรองอีกบานเบอะเยอะแยะ ไม่คุ้มที่จะลงทุนโรงซ่อมและฝึกคนเพื่อนใช้งานเครื่องบินเพียง12 เครื่อง(ถ้าซื้อ jas จะซื้อไม่เกิน12 ลำ เนื่องจากว่า jas ไม่มีเทคโนโลยี stealth หรือเทคโนโลยีที่ตรวจจับเครื่อง stealth ได้ อีก10 ปีก็จะหมดคุณค่าทางการรบที่จะต่อกรกับเครื่อง stealth ) แต่ถ้าซื้อเครื่อง f16 ก็ไม่ต้อง train คนใหม่ แถมยังสร้างอำนาจต่อรองได้ เพราะพิสัยบินไกลถึง สิงค์โปร์ จาการ์ตา ฮานอย ร่างกุ้ง ปิ่นมะนา ในขณะที่ jas ถ้าประจำแถวภาคกลางจะบินไม่ถึงสิงค์โปร์ ถ้าประจำที่สุราษฎร์ก็บินไม่ถึงฮานอย ซื้อจริงๆ จะกลายเป็นเสียเงินเปล่า แต่ได้คุณค่าทางยุทธศาสตร์กลับมานิดเดียวครับ แต่ถ้าไม่อยากอิงอเมริกันมาก ก็ su30 ไปเลย เพราะพิสัยบินไกลทั่วภูมิภาค สร้างอำนาจต่อรองได้เยอะครับ

 Grin ขอออกความเห็นแย้งนิดนึงนะครับ คือ โรงซ่อมบำรุงไม่ต้องสร้างใหม่ครับ ใช้ของเดิมได้หมด เรื่องบุคคลากร นักบิน/ช่างเครื่องและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ยังไงก็ต้องฝึกอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าใช้เครื่องรุ่นเดิมก็ใช้บุคคลากรเดิมจนเครื่องนั้นจะเลิกใช้ หรือถึงจะใช้รุ่นเดิมก็ต้องมีการผลิตบุคลากรใหม่ ๆ มาตลอดเวลา และถึงจะเป็น F-16 C/D ก็ต้องฝึกใหม่เหมือนกันครับ เพราะไม่ใช่ว่าบุคคลากรของ F-16 A/B อยู่ ๆ จะไปทำให้กับ F-16 C/D ได้เลยครับ เครื่องบิน แม้แต่เป็นรุ่นเดียวกัน แต่คนละเวอร์ชั่นกัน บุคคลากรก็ต้องใช้ต่างกันครับ ยิ่งกับ F-16 ด้วยแล้ว ระหว่าง A/B กับ C/D ต่างกันเกือบหมด ทั้งระบบเอวิเอนิคส์ ทั้งระบบเครื่องยนต์ (ยี่ห้อเดิมแต่คนละรุ่นกัน) เท่าที่ผมศึกษาแล้วทั้งสองเวอร์ชั่นต่างกันถึงประมาณ 80% ครับ ต่อมาเรื่องอะไหล่สำรอง ขอบอกว่า F-16 A/B สองฝูงแรก เรามีอะไหล่น้อยมากครับ เครื่องยนต์ชำรุด ต้องรอเครื่องยนต์ใหม่เป็นหลาย ๆ เดือน หลัง ๆ มีการซ่อมแบบกินตัว ฝูงสามที่เป็นเครื่องมือสองที่เพิ่งได้มาไม่นาน มีออพชั่นเป็นเครื่องที่จอดทิ้งที่สุสานเครื่องบินมาใช้เป็นอะไหล่ให้อีก 2 เครื่อง ผมเลยไม่คิดว่าถึงจะเป็น F-16 C/D ก็จะซื้ออะไหล่มาเยอะ อีกอย่างที่บอกไว้ข้างต้นคือ A/B กับ C/D มันต่างกันมากขนาดนั้น ยังไงก็ต้องซื้ออะไหล่มาสำรองไว้เยอะเหมือนกัน (ถ้าได้ซื้อนะ) Grin
 Grin เรื่องคุณค่าทางยุทธศาสตร์ ถ้าอ้างถึงเทคโนโลยีล่องหน (stealth) ผมว่า อีก 20 ปี ก็ยังมีเครื่องที่ไม่ล่องหนใช้อยู่มากกว่า 80% ของกองทัพอากาศทั่วโลกครับ และประเทศแถบนี้ประเทศไหนจะมีปัญญาซื้อนอกจากสิงคโปร์ (ซื้อแน่ เพราะร่วมลงขันพัฒนา F-35 JSF กับเขาไปแล้ว) ด้วยความแพงของเทคโนโลยีในตอนนี้ และอเมริกาหรือรัสเซียคงไม่ปล่อยออกตลาดทั่วไปง่าย ๆ ในเร็ว ๆ นี้แน่ ถึงเวลา 15-20 ปี (อายุเฉลี่ยในการเริ่มคิดซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่ทดแทนรุ่นเดิม) ราคาของเทคโนโลยีล่องหนถูกลง เราก็สามารถซื้อเทคโนโลยีล่องหนมาใช้ได้เหมือนกัน และน่าจะดีกว่าเทคโนโลยีล่องหนในปัจจุบันด้วย ซึ่งแม้แต่ F-16 เอง กว่าเราจะได้ซื้อมาใช้ ก็ซื้อหลังจากอเมริกาใช้มาแล้วประมาณ 10 ปีเหมือนกัน Grin
ให้1แต้มครับ
บันทึกการเข้า

ชมรมคนรักJeep ภาค7  (นกกระปูด7)hs7azi
SOAP47 รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 333
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5792



« ตอบ #38 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2007, 02:52:07 PM »

ผมว่า grippen ก็มีขีดความสามารถไม่ด้อยไปกว่าใครครับ
สามารถใช้ขึ้นลงบน high way ได้ เหมาะสำหรับการ deploy หน่วยบิน ออ่อนตัวในการวางกำลังครับ
อาวุธสามารถติดตั้งได้ทั้งของ EUROPE and AMErica
มีระบบ data link ด้วย
อีกอย่างการที่มีอาวุธที่พิสัยไกล อาจจะไม่ได้เปรียบเสมอไปครับ ตัวแปรมีหลายอย่าง เช่นต้องการการพิสูจน์ฝ่ายด้วยสายตา ถึงตอนนั้น อาวุธพิสัยไกล ก็หมดความหมายต้องใช้ความคล่องแคล้วของเครื่องแล้วครับ
ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงถูกว่า F16 ครับ
บันทึกการเข้า

THIS IS MY STEYR.
THERE ARE MANY LIKE IT, BUT THIS ONE IS MINE.
WITHOUT MY STEYR,I AM NOTHING.
WITHOUT ME, MY STEYR IS NOTHING.
Footballmania
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 31
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1603


รักในหลวง


« ตอบ #39 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2007, 08:54:03 PM »

ถ้าซื้อมาก็ต้องมีค่าโรงซ่อมบำรุงและเครื่องจักรในการซ่อมบำรุงอีกหลายหมื่นล้าน แถมยังต้องฝึกนักบินและช่างเครื่องอีกหลายร้อยคน เป็นเงินเท่าไหร่ลองคูณกันดู อะไหล่ที่ต้องสำรองอีกบานเบอะเยอะแยะ ไม่คุ้มที่จะลงทุนโรงซ่อมและฝึกคนเพื่อนใช้งานเครื่องบินเพียง12 เครื่อง(ถ้าซื้อ jas จะซื้อไม่เกิน12 ลำ เนื่องจากว่า jas ไม่มีเทคโนโลยี stealth หรือเทคโนโลยีที่ตรวจจับเครื่อง stealth ได้ อีก10 ปีก็จะหมดคุณค่าทางการรบที่จะต่อกรกับเครื่อง stealth ) แต่ถ้าซื้อเครื่อง f16 ก็ไม่ต้อง train คนใหม่ แถมยังสร้างอำนาจต่อรองได้ เพราะพิสัยบินไกลถึง สิงค์โปร์ จาการ์ตา ฮานอย ร่างกุ้ง ปิ่นมะนา ในขณะที่ jas ถ้าประจำแถวภาคกลางจะบินไม่ถึงสิงค์โปร์ ถ้าประจำที่สุราษฎร์ก็บินไม่ถึงฮานอย ซื้อจริงๆ จะกลายเป็นเสียเงินเปล่า แต่ได้คุณค่าทางยุทธศาสตร์กลับมานิดเดียวครับ แต่ถ้าไม่อยากอิงอเมริกันมาก ก็ su30 ไปเลย เพราะพิสัยบินไกลทั่วภูมิภาค สร้างอำนาจต่อรองได้เยอะครับ

 Grin ขอออกความเห็นแย้งนิดนึงนะครับ คือ โรงซ่อมบำรุงไม่ต้องสร้างใหม่ครับ ใช้ของเดิมได้หมด เรื่องบุคคลากร นักบิน/ช่างเครื่องและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ยังไงก็ต้องฝึกอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าใช้เครื่องรุ่นเดิมก็ใช้บุคคลากรเดิมจนเครื่องนั้นจะเลิกใช้ หรือถึงจะใช้รุ่นเดิมก็ต้องมีการผลิตบุคลากรใหม่ ๆ มาตลอดเวลา และถึงจะเป็น F-16 C/D ก็ต้องฝึกใหม่เหมือนกันครับ เพราะไม่ใช่ว่าบุคคลากรของ F-16 A/B อยู่ ๆ จะไปทำให้กับ F-16 C/D ได้เลยครับ เครื่องบิน แม้แต่เป็นรุ่นเดียวกัน แต่คนละเวอร์ชั่นกัน บุคคลากรก็ต้องใช้ต่างกันครับ ยิ่งกับ F-16 ด้วยแล้ว ระหว่าง A/B กับ C/D ต่างกันเกือบหมด ทั้งระบบเอวิเอนิคส์ ทั้งระบบเครื่องยนต์ (ยี่ห้อเดิมแต่คนละรุ่นกัน) เท่าที่ผมศึกษาแล้วทั้งสองเวอร์ชั่นต่างกันถึงประมาณ 80% ครับ ต่อมาเรื่องอะไหล่สำรอง ขอบอกว่า F-16 A/B สองฝูงแรก เรามีอะไหล่น้อยมากครับ เครื่องยนต์ชำรุด ต้องรอเครื่องยนต์ใหม่เป็นหลาย ๆ เดือน หลัง ๆ มีการซ่อมแบบกินตัว ฝูงสามที่เป็นเครื่องมือสองที่เพิ่งได้มาไม่นาน มีออพชั่นเป็นเครื่องที่จอดทิ้งที่สุสานเครื่องบินมาใช้เป็นอะไหล่ให้อีก 2 เครื่อง ผมเลยไม่คิดว่าถึงจะเป็น F-16 C/D ก็จะซื้ออะไหล่มาเยอะ อีกอย่างที่บอกไว้ข้างต้นคือ A/B กับ C/D มันต่างกันมากขนาดนั้น ยังไงก็ต้องซื้ออะไหล่มาสำรองไว้เยอะเหมือนกัน (ถ้าได้ซื้อนะ) Grin
 Grin เรื่องคุณค่าทางยุทธศาสตร์ ถ้าอ้างถึงเทคโนโลยีล่องหน (stealth) ผมว่า อีก 20 ปี ก็ยังมีเครื่องที่ไม่ล่องหนใช้อยู่มากกว่า 80% ของกองทัพอากาศทั่วโลกครับ และประเทศแถบนี้ประเทศไหนจะมีปัญญาซื้อนอกจากสิงคโปร์ (ซื้อแน่ เพราะร่วมลงขันพัฒนา F-35 JSF กับเขาไปแล้ว) ด้วยความแพงของเทคโนโลยีในตอนนี้ และอเมริกาหรือรัสเซียคงไม่ปล่อยออกตลาดทั่วไปง่าย ๆ ในเร็ว ๆ นี้แน่ ถึงเวลา 15-20 ปี (อายุเฉลี่ยในการเริ่มคิดซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่ทดแทนรุ่นเดิม) ราคาของเทคโนโลยีล่องหนถูกลง เราก็สามารถซื้อเทคโนโลยีล่องหนมาใช้ได้เหมือนกัน และน่าจะดีกว่าเทคโนโลยีล่องหนในปัจจุบันด้วย ซึ่งแม้แต่ F-16 เอง กว่าเราจะได้ซื้อมาใช้ ก็ซื้อหลังจากอเมริกาใช้มาแล้วประมาณ 10 ปีเหมือนกัน Grin

ขอบคุณครับ ข้อมูลแน่น 1 แต้มครับ เยี่ยม
บันทึกการเข้า

อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265


ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง


« ตอบ #40 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2007, 08:58:37 PM »

ไม่ได้เข้ามาซะนาน หวัดดีพี่ใหม่หวัดดีทุกคนครับ  แต่เห็นกระทูนี้แล้วคันมืออยากตอบ หุหุ  เรื่องเครื่องบิน3แบบนี้จริงๆก็เป็นประเด็นในเว็บบอร์ดของเรามาครั้งนึง
เมื่อนานมาแล้วซึ่งตอนนั้นเองผมก็เชียร์ JAS 39 อยู่ด้วยเหตุผลหลายข้อ ด้านประสิทธิภาพการรบกิฟเพนมีความคล่องตัวสูงที่สุดในบรรดาตัวเลือก

เพราะมีโครงสร้างปีกแบบเดลต้าวิงหรือปีก3เหลี่ยมทำให้เสถียรภาพทางการบินต่ำ+กับมีคานาร์ดหรือปีกเล็กด้านหน้าอีกแล้วทั้ง3แบบกริฟเพนมีขนาดเล็กที่สุด
ทำให้สามารถบินผาดแผลงท่าทางการรบได้คล่องแคล่วที่สุดเรื่องพิสัยบินกริฟเพนก็ไม่ได้เป็นรองF16ทุกเครื่องมีท่อเติมน้ำมันกลางอากาศติดมาไม่ได้เป็นออพชั่นสั่งเพิ่ม

SU30 MK นี่เป็นรุ่นเดียวกับที่อินเดียสั่งซื้อพิสัยบินไกลสามารถคุกคามแถบเอเชียอาคเนย์ได้ทั่งหมดก็จริงแต่มีปัญหาด้านอายุการใช้งานหรืออะไหล่ที่สั้นกว่าทั้ง3แบบ
อย่างที่มาเลเซียประสบอยู่แล้วที่อินเดียไม่เดือดร้อนเรื่องนี้เพราะอินเดียได้สิทธิบัตรจาก บ.ซุคอย ให้ผลิตเครื่องบินทั้งลำใช้ได้เองทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องอะไหล่

เรื่องระบบอาวุธกริฟเพนสามารถใช้ระบบอาวุธของเดิมที่เรามีอยู่ได้เกือบทั้งหมดเพราะติดตั้งได้ทั้งของอเมริกาและยุโรปตัวสามารถติดตั้งได้ทั้งอาวุธปล่อยพิสัยใกล้แบบ AIM9X รุ่นล่าสุดได้
พิสัยปานกลางติดตั้ง AIM120ได้ ขาดเพียงแต่พิสัยไกลแบบ AIM54 ฟีนิกซ์ที่ออกแบบมาให้ติดตั้งกับ F14 พิสัยยิงไกลกว่า100กิโล

กริฟเพนออกแบบมาสำหรับเป็นเครื่องบินขับไล่เอนกประสงค์สามารถปฎิบัตภารกิจได้ทั้งขับไล่สกัดกั้นใช้แบบที่นั่งเดี่ยวและภารกิจโจมตีก็ใช้แบบ2ที่นั่ง
มีระบบอาวุธที่ติดตั้งได้ครบทั้ง3มิติทั้งยังสามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากทั้งเครื่องบินรบด้วยกันหรีอจากศูนย์บัญชาการรบหรือจากเครื่องบินแจ้งเตือนทางอากกาศได้แบบ Real Time  
ทั้งฝูงบินสามารถใช้เรดาร์ร่วมกันได้ยกตัวอย่างเช่นบินมา1ฝูง6ลำแต่เปิดเรดาร์เครื่องเดียวแต่เครื่องที่เหลือทั้งหมดจะได้รับข้อมูลเหมือนเครื่องที่เปิดเรดาร์ตรวจการณ์ทั้งหมด
เพื่อลวงข้าศึกเรื่องจำนวนเครื่องบินรบ  และเครื่องบินทั้ง3แบบยังอยู่ในยุคที่3ก็จริงแต่มีเพียงกริฟเพนเพียงแบบเดียวที่มีความทันสมัยของระบบเข้าสู่ยุคที่4
และเป็นเครื่องบินที่ใช้ระยะทางวิ่งขึ้นและร่อนลงสั้นที่สุดในบรรดาตัวเลืกหมายความว่า กริฟเพน สามารถลงที่สนามบินใดๆก็ใด้เกือบทั้งหมดในประเทศไทยไม่เว้นกระทั้งพื้นถนน

ข้อมูลอื่นๆที่น่าสนใจ
  ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2538 ซ้าบและ British Aerospace (ปัจจุบัน BAE Systems) ตกลงร่วมมือกันในด้านการตลาดของกริพเพนในชื่อ Gripen International
หลังจากนั้นจึงได้มีความต้องการจากต่างประเทศคือ สั่งซื้อ 28 ลำจากแอฟริกาใต้ในปี พ.ศ. 2542 สัญญาเช่า 14 ลำจากฮังการีในปี พ.ศ. 2544 สัญญาเช่า 14 ลำจากเช็กในปี พ.ศ. 2547

ระหว่างวันที่ 15 และ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 Gripen International ได้ตกลงถึงรายละเอียดของกริพเพนที่จะเข้าประจำการในประเทศเดนมาร์กและนอร์เวย์

นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายประเทศที่สนในยาส 39 คือ

บัลแกเรีย สนใจที่จะจัดหาจำนวน 20 เครื่องทดแทน MiG-29
อินเดีย มีโครงการจัดหาเครื่องบินรบ 126 ลำซึ่ง
ไทย กองทัพอากาศไทยสนใจจัดหาทดแทน F-5 จำนวน 12 เครื่อง
กลุ่มประเทศบอลติก สนใจจะเช่าใช้งานจำนวน 12 เครื่อง
บราซิล บราซิลยกเลิกโครงการ FX ในการจัดหายาส 39 จำนวน 24 ลำเนื่องจากปัญหาทางการเมือง โดยคาดว่าจะเริ่มโครงการใหม่อีกครั้งหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิปดี
โครเอเซีย ต้องการเครื่องบิน 12 เครื่องตามโครงการปรับปรุงกองทัพ
กรีซ ยกเลิกการจัดหา Eurofighter Typhoon และกำลังเริ่มต้นศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดซื้อเครื่องบินรบอีก 30 - 40 เครื่องแทน
โรมาเนีย ต้องการเครื่องบินมากกว่า 40 เครื่อง
สโลวาเกีย ต้องการเครื่องบิน 14 เครื่องทดแทน MiG-29
สวิสเซอร์แลนด์ ต้องการเครื่องบินทดแทน F-5 จำนวน 20 - 33 เครื่องซึ่งจะเริ่มโครงการในปี 2549

JAS 39A Gripen A และ JAS 39B Gripen B
เป็นกริพเพนรุ่นตามแผนงานชุดแรกและสอง โดยกริพเพน เอ คือรุ่นที่นั่งเดียว ส่วนกริพเพน บี คือรุ่นสองที่นั่ง ซึ่งทั้งสองรุ่นผลิตตามมาตราฐานทางทหารของสวีเดน

JAS 39C Gripen C และ JAS 39D Gripen D
เป็นแบบที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพตามแผนงานชุดที่สาม โดยกริพเพน ซี คือรุ่นที่นั่งเดียว ส่วนกริพเพน ดี คือรุ่นสองที่นั่ง การปรับปรุงครั้งนี้คือ เพิ่มระบบการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ การเข้ากันได้กับมาตราฐานนาโต้ จอแสดงผลในห้องนักบินที่แสดงผลได้ชัดเจนในเวลากลางคืน

Gripen DK และ Gripen N
สำหรับเดนมาร์กและนอร์เวย์ตามลำดับ ซึ่งปรังปรุงตามความต้องการของชาติทั้งสองที่ต้องการมีพิสัยทำการยาวและบรรทุกน้ำหนักได้มาก ยังคงอยู่ในระหว่างการออกแบบและพัฒนา

รายละเอียด ตัวเครื่อง
ความยาว : 14.1 เมตรในรุ่นที่นั่งเดียว และ 14.8 เมตรในรุ่นสองที่นั่ง  ความกว้าง : 8.4 เมตร ความสูง : 4.5 เมตร น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด : 14 ตัน ความเร็วสูงสุด : 2 มัค

เครื่องยนต์ : RM12 ของวอลโว่ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากเครื่องยนต์ F-404 ของเจเนอรัล อิเล็กทริค ระบบเรดาร์ : PS-05/A ของอิริคสัน

ระบบอาวุธ
ปืนใหญ่อากาศ : Mauser BK-27 กระเปาะชี้เป้า : Litening G111 กระเปาะลาดตระเวน : SPK 39

ขีปนาวุธ : อากาศสู่อากาศ AIM-9 AIM-120 Meteor Taurus KEPD 350 IRIS-T Python 4 Python 5 ASRAAM
อากาศสู่พื้น AGM-65 Taurus KEPD 350 RBS-15  ระเบิด : Mark-82 Mark-83 Mark-84

ระเบิดนำวิถี : GBU-10 GBU-12 GBU-16
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 01, 2013, 09:35:39 AM โดย อรชุน-รักในหลวง » บันทึกการเข้า
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265


ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง


« ตอบ #41 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2007, 09:05:53 PM »

อ้อลืมเรื่องระบบล่องหนไปอีกข้อ ตัวเครื่องกริฟเพนเองใช้วัสดุซึมซับคลื่นเรดาร์ที่บริเวณกรวยจมูกกับชายหน้าปีกและการที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาตัวเลือกทำให้ขนาดพืนที่หน้าตัดคลื่นเรดาร์ต่ำที่สุดตามไปด้วยในบรรดาตัวเลือกทั้งหมดกริพเพนสามารถตรวจจับด้วยเรดาร์ได้ยากที่สุดครับ
บันทึกการเข้า
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265


ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง


« ตอบ #42 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2007, 09:21:01 PM »

พิมพ์ยุคของกริฟเพนผิดอีกกำจิงๆ ความทันสมัยของกริฟเพนเข้าสู่ยุคที่5งับไม่ใช่ยุคที่4    - -"
บันทึกการเข้า
CT_Pro4
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 537
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4869



« ตอบ #43 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2007, 09:25:15 PM »

ไม่ได้เข้ามาซะนาน หวัดดีพี่ใหม่หวัดดีทุกคนครับ  .....



...ท่าน Hydra หายไปนานจริงๆ ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ยังไงรับ 1 คะแนนจากผมด้วย...  เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม
บันทึกการเข้า

Every problem contains the seeds of its own solution.- Stanley Arnold
E_mail
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #44 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2007, 10:24:10 PM »

1แต้มเลย  Cheesy
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 ... 1487
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.085 วินาที กับ 22 คำสั่ง