นั้นจะหมายความว่าถ้าตรวจเจอเรือดำน้ำก็น่าจะโดน ฮ. ปราบเรือดำได้ทำลายมากกว่าที่จะโดนโจมตีกลับ
แล้วภาระกิจหลักของเรือดำน้ำเป็นภาระกิจใดเป็นหลักครับ
เพราะดูว่าถ้าอยู่ในการรบซึ่งๆหน้าฝ่ายที่มีฮ. ปราบเรือดำน้ำน่าจะมีโอกาสทำลายได้มากกว่าครับ
ถารกิจหลักของเรือดำน้ำคล้ายๆกับสไนเปอร์ครับ ซ่อนพราง หาข่าว ลอบโจมตี เรือดำน้ำในปัจจุบันหาตัวไม่เจอง่ายๆหรอกครับ
แล้วก็ไม่เสมอไปที่เจอเรือดำน้ำแล้วจะสามารถโจมตีได้ มีปัจจัยด้านความลึก พื้นที่ผิวทะเล กระแสน้ำ ชั้นแบ่งอุณหภูมิ ฯลฯ
เพราะยังไงกองเรือที่กำลังเดินเครื่องย่อมมีเสียงดังกว่า เรือดำน้ำมักจะตรวจพบก่อนและดำเนินมาตรการป้องกันตัวได้ก่อนครับ
เรือดำน้ำเองนอกจากมีตอปิโดแบบปกติ และตอปิโดนิวเคลียร์ ยังมีอาวุธโจมตีเรือผิวน้ำเช่น UGM-84A Harpoon พิสัยยิงกว่า130กิโลเมตร
หากเรือดำน้ำเลือกที่จะโจมตี กองเรือจะเสียหายก่อนที่จะเจอเรือดำน้ำเสียอีก แถมเรือดำน้ำยิงแล้วหนีหายไปกบดานรอโจมตีซ้ำก็ยังได้ครับ
ผิดถูกประการใดชี้แนะด้วยนะครับ
ใช่ครับ ถ้าเรือดำน้ำยิงด้วยขีปนาวุธ ๓ เอ็ม-๕๔อี๑ คลับ-เอส มีพิสัยยิงไกล ๓๐๐ กิโลเมตร เรือผิวน้ำถูกยิงก่อนที่เรือดำน้ำจะถูกตรวจเจอซะอีกครับ
ขอบคุณครับ
แล้วการตรวจเจอที่ใช้โซนาร์ของเรือรบกับเรือดำน้ำใช้แแบเดียวกันหรือเปล่าและมีระยะตรวจจับได้ที่ประมาณกี่กิโลครับคืออย่างทราบว่าใครจะพบเจอใครกันก่อนครับ
ในเวลาปกติเรือดำน้ำจะไม่ใช้โซนาร์ครับ แต่จะใช้หูฟังเสียง ถ้าต่างคนต่างเดินทาง เรือดำน้ำจะเจอกองเรือก่อน เหตุที่กองเรือจะมีเสียงดังกว่า
และเรือดำน้ำเสียงจะเงียบกว่า ถ้าฟังเสียงกันอย่างเดียวจะเจอที่ระยะไหนต้องดูความเร็วเดินทางครับ แต่ถ้าใช้สัญญาณฟิงเกอร์ก็จะไกลกว่าการฟัง
แต่ถ้าใช้สัญญาณฟิงเกอร์ตรวจก็เท่ากับเป็นการเผยตำแหน่งของตัวเองด้วย แต่เรือดำน้ำเองก็มีวีธีหลบเลี่ยงสัญญาณฟิงเกอร์ เช่นปล่อยโพลิเมอร์ออกมาคลุมเรือ
แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดก็คือฝ่ายไหนจะมีเจ้าหน้าที่คอนโซนาร์ที่ หูผี มากกว่ากัน
ถ้าภารกิจเป็นไปตามนั้นผมว่าเมืองไทยคงไม่เหมาะที่จะมีเรือดำน้ำนะครับ
ถ้าเป็นไปได้น่าจะต้องเรือรบชั้นฟรีเกตครับ(เข้าใจถูกหรือเปล่าครับ)
ผมว่าจำเป็นนะครับ เพราะคงไม่มีอะไรสู้เรือดำน้ำได้ดีเท่ากับเรือดำน้ำด้วยกันเอง ถ้าเป็นกองเรือต้องใช้ทรัพยากรมากกว่าที่จะสู้กับเรือดำน้ำ1ลำ
แต่ถ้าเป็นเรือดำน้ำด้วยกัน 1-1 ก็สู้ได้ครับขึ้นอยู่กับฝีมือของกัปตัน และยังทำหน้าที่คุ้มครองกองเรือเวลาเดินทางได้ด้วย