http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000162187ครม.ไฟเขียวทัพฟ้าจัดซื้อ กริพเพ่น 6 ลำ 1.6 หมื่นล้าน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 พฤศจิกายน 2553 18:16 น.
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ศุภชัย ใจสมุทร
ที่ประชุม ครม.อนุมัติกองทัพอากาศ จัดซื้อเครื่องบินขับไล่ กริพเพ่น 6 ลำ วงเงิน 1.6 หมื่นกว่าล้าน พร้อมเห็นชอบตามข้อเสนอกระทรวงกลาโหมขยายเวลาปราบโจรสลัดโซมาเลียอีก 36 วัน โดยอัดงบเพิ่ม 90 ล้านบาท
วันนี้ (16 พ.ย.) นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า คณะรัฐมนตรี อนุมัติให้กองทัพอากาศก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบ 18 ก/ข (ระยะที่ 2) วงเงิน 16,222 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2554 ถึงปีงบประมาณ พ.ศ.2558 โดยการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์แบบ Gripen 39 C จำนวน 6 เครื่องพร้อมอุปกรณ์ การส่งกำลังบำรุง การฝึกอบรม และการบริหารโครงการ จากองค์กรจัดหายุทธภัณฑ์ทางทหารสวีเดน (FöRSVERETS MASTERIEL VERK : FMV) โดยวิธีรัฐบาลต่อรัฐบาล รวมทั้งการปรับปรุงอาคาร สถานที่ และการบริหารโครงการเพื่อเตรียมรับเครื่องบินของกองทัพอากาศ
นายศุภชัย กล่าวว่า นอกจากคณะรัฐมนตรียังเห็นชอบให้กองทัพอากาศรับข้อเสนอพิเศษจากรัฐบาลสวีเดนประกอบด้วย เครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ (SAAB 340 AEW) ติดตั้งอุปกรณ์เรดาร์แบบ ERIEYE จำนวน 1 เครื่อง ระบบอาวุธนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ (RB15F) จำนวน 12 นัด พร้อม TROLLEYS ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท จำนวน 24 ทุน การถ่ายทอดเทคโนโลยี จำนวน 24 MAN-YEARS และความร่วมมือทวิภาคีด้านอุตสาหกรรม และให้ผู้บัญชาการทหารอากาศหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในข้อตกลงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์แบบ Gripen 39 C ในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทย รวมทั้งการลงนามในเอกสารแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อตกลงจัดซื้อที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง เฉพาะในกรณีแก้ไขรายละเอียดที่มิใช่สาระสำคัญ โดยวงเงินรวมไม่เปลี่ยนแปลง
นายศุภชัย ระบุอีกว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ดังนี้ 1.ให้หมู่เรือปราบปรามโจรสลัดขยายเวลาการปฏิบัติภารกิจไปอีก 36 วัน โดยเลื่อนกำหนดกลับถึงฐานทัพเรือสัตหีบ จากเดิมวันที่ 12 ธันวาคม 2553 เป็นวันที่ 17 มกราคม 2554 2.ให้คณะนายทหารประสานงานร่วมปฏิบัติงานในกองกำลังผสมทางทะเล ณ ราชอาณาจักรบาห์เรนขยายระยะเวลาการปฏิบัติภารกิจไปอีก 41 วัน โดยเลื่อนกำหนดกลับถึงราชอาณาจักร จากเดิมวันที่ 4 ธันวาคม 2553 เป็นวันที่ 14 มกราคม 2554 และอนุมัติให้จัดกำลังพลชุดใหม่ จำนวน 2 นาย เดินทางไปผลัดเปลี่ยนกำลังพลชุดเดิม ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2554 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 โดยมีวงรอบผลัดเปลี่ยนทุก 4 เดือน 3.ให้กำลังพล ณ ศูนย์ประสานการปฏิบัติในพื้นที่เมืองซาลาล่าห์ รัฐสุลต่านโอมาน ขยายระยะเวลาการปฏิบัติภารกิจไปอีก 41 วัน โดยเลื่อนกำหนดกลับถึงราชอาณาจักรไทย จากเดิมวันที่ 5 ธันวาคม 2553 เป็นวันที่ 15 มกราคม 2554
นายศุภชัย กล่าวว่า 4.ให้กองทัพเรือสามารถปรับกำลังพล การปฏิบัติ และแผนการเดินทางได้ตามความจำเป็น (ตามข้อ 1-3) และให้ได้รับสิทธิในการนับเวลาราชการเป็นทวีคูณ ตามมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พุทธศักราช 2494 รวมถึงสิทธิในการพิจารณาบำเหน็จพิเศษในเวลาฉุกเฉินตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการพิจารณาบำเหน็จพิเศษในเวลาฉุกเฉิน พุทธศักราช 2529 ตลอดช่วงปฏิบัติภารกิจดังกล่าว และให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ถือเป็นการปฏิบัติราชการพิเศษ ตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด ทั้งนี้ ให้ครอบคลุมถึงเจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม ที่เข้าไปยังพื้นที่ปฏิบัติการเพื่อการส่งกำลังบำรุง การตรวจเยี่ยมหรือปฏิบัติงานหรือหน้าที่อื่นใดตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย โดยเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่เริ่มการเคลื่อนย้ายออกจากที่ตั้งปกติหรือประเทศไทยเพื่อไปปฏิบัติภารกิจในอ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง จนกระทั่งถึงวันที่เสร็จสิ้นภารกิจและเคลื่อนย้ายกลับสู่ที่ตั้งปกติหรือประเทศไทย 5.งบประมาณ จำนวน 92,392,358 บาท และ 6.ให้กองทัพเรือจัดกำลังไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ดังกล่าวในวงรอบที่เหมาะสมในแต่ละปี จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หรือมีการยุติการปฏิบัติภารกิจร่วมกับกองกำลังผสมทางทะเล โดยประสานกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด