ผู้เขียนบทความมีความเข้าใจในธุรกิจการบินไม่ดีนัก ของใหม่ๆใครๆก็อยากได้ แต่ต้องถามด้วยว่า จะเอามาทำไม
อย่างเรื่อง 787 โปรโมทว่าบิน Mach.8x ซึ่งปรกติ B747 ก็บิน M.84-85 อยู่แล้ว หรือ B777 ก็บินแถวๆ M.82-.84
ไม่ใช่ว่า Camry ใหม่ๆ จะทดแทน Hilux เก่าๆได้เสมอไป
เครื่องบินโดยสารโดยปรกติ จะแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม
กลุ่มแรก แบ่งโดยขนาด
1.ขนาดเล็ก 150 ที่นั่งลงมา เช่น B-737 หรือ A-320
2.ขนาดกลาง 250 ที่นั่งโดยประมาณ ยุคเก่า A300-600, ยุคกลางๆ B777-200, A330-300 ยุคใหม่ B787-800, A350
3.ขนาดใหญ่ 300-350 ที่นั่งขึ้นไป B747, B777-300, A380
อีกกลุ่มแบ่งโดยระยะทาง-เวลาบิน..
1.ในประเทศ เวลาบินสั้น มีความหยืดยุ่นในการเพิ่ม-ลดเที่ยวบินสูงเช่น B737 หรือ A320
2.ในทวีป เวลาบิน 3-6 ชม. เช่น A330-300, B777-200, A 350
3.ระหว่างทวีป เวลาบิน 9-13 ชม. อย่าง B747, B777-200ER, B777-300ER, A380,
4.พิสัยไกลพิเศษ เช่น แอฟริกา-เอเซียตะวันออก, เอเซียตะวันออก-อเมริกาใต้, เอเซีย-อเมริกา เวลามากกว่า 16 ชม. เช่น A340-500
การเลือกใช้เครื่องบิน จึงอยู่ที่ว่า จุดหมายปลายทางที่บินนั้น อยู่ที่ไหน ใกล้ไกลอย่างไร และมีจำนวนผู้โดยสารต่อเที่ยวบินแค่ไหน มีข้อจำกัดเรื่องตารางการบินหรือไม่ ไม่ใช่ว่าเอาเครื่องไหนไปบินอะไรก็ได้
อย่าง A380 เป็นคำตอบของเครื่องบินระหว่างทวีป เน้นด้วยว่าทวีปยุโรป และเจาะจงลงไป สามสี่เมืองด้วย คือ ปารีส แฟรงค์เฟิร์ส ลอนดอน ซึ่งเต็มเกือบตลอดปี
เนื่องจากมีการจำกัดปริมาณเที่ยวบินเข้าออกน่านฟ้าและสนามบินในแต่ละวัน สายการบินไม่สามารถจะเพิ่มเที่ยวบินได้ การจะนำผู้โดยสารจำนวนมากไปสู่จุดหมายจึงต้องเลือกเครื่องขนาดใหญ่ ความจุมาก แต่บินน้อยเที่ยวแทน...
แต่กลับกันในบางจุดหมาย สามารถเพิ่มเที่ยวบินได้ หรือ มีความยืดหยุ่นในปริมาณผู้โดยสารสูง ก็ต้องเลือกเอาเครื่องเล็กๆไปบิน แล้วเลือกเปิดเที่ยวบินเสริมในบางฤดูแทน ตัวเลือกก็คงออกที่เครื่องเล็กแต่คล่องตัวแทน
B787 ถ้าเทียบขนาดแล้ว คือขนาดประมาณ A300-600 หรือ A330-300 เท่านั้น ซึ่ง A330-300 อยู่ระหว่างส่งมอบอีก 8 ลำในช่วงนี้
เพิ่งซื้อมา 8 ลำ จะให้ซื้อ 787 มาเพิ่มอีกอย่างที่เจ้าของบทความต้องการ ...ก็คงไม่ใช่จังหวะที่ถูกต้อง เท่ากับเอามากองไว้เฉยๆ ซื้อมาซ้ำจุดประสงค์ แต่ในอีกสิบปีข้างหน้าอาจจะเป็นตัวเลือกแทนที่ A330-300 ครับ แต่ไม่ใช่ตอนนี้
กลับมาที่ A380 6 ลำ ซึ่งจะเข้ามาแทนที่ B747-400 ลำแรกๆที่กำลังจะหมดอายุลง และ B777-300ER ที่สั่งมาเพิ่มอีกประมาณ 12 ลำ แทน B747-400 อีกส่วนหนึ่งซึ่งมีโดยสารน้อยกว่า และไม่ต้องการชั้นเฟิร์สคลาส เช่น สแกนดิเนเวีย ในกรณีนี้ B747-800 คงไม่สามารถเกิดได้ง่ายนัก เพราะเกิดมาแทนที่ B747-400 เดิม พร้อมกับเครื่องยนต์ 4 เครื่องในจำนวนผู้โดยสารที่เท่าเทียมกัน แต่ก็มีปัญหาเรื่อง คาร์บอนเครดิตเข้ามาแทน การใช้ B777 ที่มีสองเครื่องยนต์ ย่อมก่อให้เกิดมลพิษและค่าปรับในสหภาพยุโรปน้อยกว่า
ภายในสิบปีนี้ จะเห็นการปรับเปลี่ยนฝูงบินอย่างมโหฬารในทุกๆสายการบิน เครื่อง 4 เครื่องยนต์จะค่อยๆหายไป เครื่องสองเครื่องยนต์จะมาแทน
การบินตรงเข้ายุโรปอาจจะหายไป โดยใช้การต่อเครื่องในทวีปอื่น ชายขอบยุโรป แล้วใช้เวลาบินในยุโรปให้น้อยที่สุดแทน เพราะปัญหาเรื่องค่าปรับคาร์บอนเครดิตนี่แหละครับ ผู้โดยสารอาจจะต้องต่อเครื่องหลายหน หรือไม่ สำหรับผู้โดยสารตที่ต้องการบินตรงประหยัดเวลา ค่าโดยสารก็ต้องแพงขึ้นมากกว่าเดิมแน่นอน
ป.ล. 737 น่าจะกลายเป็น A319- 320 -321 แทน เพราะข้อได้เปรียบในการใช้นักบินชุดเดียวกัน แต่สามารถเพิ่มลดขนาดเพื่อให้เหมาะกับเที่ยวบินได้