เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 26, 2024, 01:49:43 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 1116 1117 1118 [1119] 1120 1121 1122 ... 1487
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่องบินขับไล่ใหม่ กองทัพอากาศไทย  (อ่าน 3907056 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 17 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Deknoi
Full Member
***

คะแนน 28
ออฟไลน์

กระทู้: 216



« ตอบ #16770 เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2013, 04:06:38 PM »

1600 น. เสียงเครื่องบินวนบริเวณดอนเมืองหลายรอบ ไม่ทราบว่าวันเสาร์นี้มีงานอะไรที่ดอนเมืองครับ
บันทึกการเข้า
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #16771 เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2013, 06:53:21 PM »



บันทึกการเข้า
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #16772 เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2013, 06:55:24 PM »

แบล็คแจ๊คเครื่องนี้ทำสีเท่ห์ดีนะครับ... Grin Grin Grin




บันทึกการเข้า
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265


ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง


« ตอบ #16773 เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2013, 07:02:11 PM »



ลำนี้สีสวย ส่วนพี่หมีสงสัยเพิ่งออกจากอู่ 55555



พอๆกะนาย F-22 นี่เลย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 05, 2013, 07:06:00 PM โดย อรชุน-รักในหลวง » บันทึกการเข้า
ChongKo
Hero Member
*****

คะแนน -1176
ออฟไลน์

กระทู้: 1428


« ตอบ #16774 เมื่อ: กรกฎาคม 05, 2013, 09:08:32 PM »

โอโห  ก็นึกอยู่แล้วว่าจะมาแนวนี้

ส่วนของผมคำนวนออกมาแล้วตรงกับข้อมูลอ้างอิงผมพอล่ะ นายจะยังไงเรื่องของนายแล้วกัน
แหม  กำลังคุยกันถูกคอเลยนะครับ ยินดีที่ได้สนทนาด้วยครับ
บันทึกการเข้า
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #16775 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2013, 06:48:31 AM »

Korean Air Lines Flight 007 (also known as KAL 007 and KE 007) was a scheduled Korean Air Lines airliner that was shot down by a Soviet interceptor Su-15 near Moneron Island, west of Sakhalin Island, in the Sea of Japan on Thursday, September 1, 1983. The interceptor's pilot was Major Gennadi Osipovich. All 269 passengers and crew aboard were killed,ผมขออนุญาตแปลน่าจะดีกว่าท่านสารวัตรแผนกจ่ายยาของ ตชด ภาคใต้แปลอยู่บ้างนิดหน่อย ความว่า:
สายการบินเกาหลีแอร์ไลน์เที่ยวบินที่007 หรือที่รู้กันในชื่อหนึ่งว่า KAL007 หรือ KE007 ถูกยิงตกโดยเครื่องบินขับไล่สกัดกั้นของโซเวียตแบบซู-15ใกล้หมู่เกาะโมเนรอน ทางตะวันตกของหมู่เกาะซากาลิน ในทะเลญีปุ่นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2526 นักบินโซเวียตที่บินขึ้นสกัดกั้นและยิงเครื่องบินโดยสารเที่ยวบินที่007คือนาวาอากาศตรี(Major)Gennadi Osipovich ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือ269คนเสียชีวิตทั้งหมด.จรวดที่ยิงเป็นรุ่น The Kaliningrad K-8 (R-8)รหัสที่แนโต้เรียกคือเอเอ-3Anab(NATO reporting name AA-3 'Anab')เป็นจรวดพิสัยใกล้เหมือนกับจรวดในซีรีย์ AIM-9 Sidewinder ของอเมริกา นำวิถีด้วยความร้อน(infrared homing;(R-98MR) หรือเรดาห์แอคทีฟ(semi-active radar homing)

เครื่องซู-15 ที่ Gennadi Osipovich ใช้ก่อเหตุในครั้งนั้นและเครื่องรุ่นนี้ถูกอาเฮี่ยก๊อปและเป็นรุ่นเดียวกันกับเครื่องที่"หว่าง เหว่ย"บินชนกับเครื่องลาดตระเวณปราบเรือดำนำรุ่น Lockheed Martin OP-3Orion ของพี่กันจนตัวเองตกทะเลตาย



ซู-15ตัวนี้โดนจีนก๊อปและกลายเป็นตัวข้างล่าง


จรวดระยะใกล้แบบ Kaliningrad K-8 ที่ยิงใส่เครื่องBoeing 747ของสายการบินเกาหลีแอร์ไลน์เที่ยวบินที่007


เส้นไข่ปลาคือเส้นทางบินจริงๆ เส้นทึบคือเส้นที่บินออกนอกเส้นทางแล้วถูกโซเวียดอ้างว่าบินรุกน่านฟ้า นักบินของเกาหลีแอร์ไลน์มักง่ายรีบกลับบ้านหรือเปล่าทำไหมถึงบินออกนอกเส้นทาง หรือระบบนำร่องผิดพลาด


ผู้โดยสารที่เคราะห์ร้ายเป็นคนไทยเรา5คน เศร้า


Gennadi Osipovichนักบินขับไล่โซเวียตคนที่ยิง ตายไปแกคงต้องตอบคำถามกับพระเจ้าอีกยาวว่าทำไมถึงต้องกระทำการดังกล่าว


เคริตข้อมูลจากWikipedia, ไหว้

 Grin F-8 หรือ J-8 ของจีน ขยายแบบจาก F-7 หรือ Mig-21 เวอร์ชั่นจีนครับ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ Su-15 เลย J-8 A นั้นคือ J-7 สองเครื่องยนต์เลย แต่ภายหลังพัฒนาเรดาร์ใหม่ จึงไม่สามารถใช้โดมเรดาร์แบบเก่าที่อยู่ในช่องรับอากาศเข้าด้านหน้าได้ เลยต้องปรับเปลี่ยนเป็นช่องรับอากาศเข้าด้านข้างใน J-8 B โดยนำแบบหัวกับช่องรับอากาศมาจาก Mig-23 ที่ได้รับมาจากอิยิปต์ (ไม่รู้มาได้ยังไง) Grin
บันทึกการเข้า

พญาจงอาง +รักในหลวง+
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1870
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10363



« ตอบ #16776 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2013, 10:50:33 AM »

ขอบคุณครับ ผมเห็นบอดี้ภายนอกคล้ายๆกันก็เลยทึกทักเอาเองว่าอาเฮี๊ยแกคงก๊อปตัวนี้ไปแล้ว ตามสไตล์ของจีน Grin
บันทึกการเข้า

..The only thing neccessary for the triump of evil is for the good man to do nothing..
"สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ คือการที่คนดีๆนิ่งดูดาย "
พญาจงอาง +รักในหลวง+
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1870
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10363



« ตอบ #16777 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2013, 07:51:24 PM »

บริษัทซาบ(SAAB)ผู้ซึ่งผลิตเครื่องบินขับไล่แบบJAS-39แห่งสวีเดนได้แถลงในวันพุธที่ 3 ก.ค.2556 ที่ผ่านมาว่าได้เริ่มประกอบกริพเพ่นยุคใหม่ หรือ“กริพเพน E”(กริพเพนยุคใหม่/Next Generation)ซึ่งมีขั้นตอนที่สลับซับซ้อน โดยใช้เครื่องมือและวิธีการทันสมัยที่สุด หลังจาก“การวิจัยและพัฒนาอันเข้มงวด”ซาบใช้เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆกว่า1,000คนในการพัฒนา สร้างและประกอบกริพเพน-อี บริษัทผู้ผลิตกล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่งที่ออกจากสำนักงานใหญ่ในกรุงสตอกโฮล์ม
       เครื่องต้นแบบที่ใช้รหัสเรียก“39-8”ผลิตออกมาเพื่อแสดงความสมบูรณ์แบบก่อนจะเริ่มเดินสายการผลิตออกสู่ตลาด และกริพเพน-อี สมบูรณ์แบบลำแรกนี้จะเป็นเครื่องที่ติดตั้งอุปกรณ์เซ็นเซอร์ต่างๆยุคใหม่ทั้งหมดรวมทั้งระบบเชื่อมโยงการสื่อสารใหม่ ระบบควบคุมการบินที่ล้ำยุค ติดเครื่องยนต์ที่ให้แรงบิดสูงขึ้นประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ทำให้บินได้ระยะทางไกลขึ้น นอกจากนั้นยังมีจุดติดอาวุธมากขึ้นบรรทุกน้ำหนักได้มากขึ้น ห้องนักบินเป็นระบบดิจิตอลที่ใช้จอแสดงผลแบบ“เฮด-อัป”(Head-Up Display)รวมทั้งติดตั้งระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ล่าสุด กลุ่มซาบกล่าว
       เครื่องต้นแบบ “39-8” ออกแบบขึ้นจากกริพเพนรุ่นเดิม แต่จะเป็นเครื่องบินรบที่แสดงฟีเจอร์ใหม่ๆ และขีดความสามารถต่างๆ ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งใหม่ๆอันเป็น“การก้าวกระโดดทางเทคนิค”หลังจากที่กลุ่มซาบนำกริพเพ่น อี/เอฟ ซึ่งเป็นเครื่องสาธิตออกแสดงให้เป็นที่ประจักษ์มาแล้วตั้งแต่ต้นปีจน ปัจจุบันมีชั่วโมงบินรวมกว่า250ชั่วโมง
       กลุ่มซาบออกแถลงเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2556 ว่าการทดลองยิงจรวดมีทีออร์ (Meteor)“ผีพุ่งไต้”จาก JAS-39 ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยร่วมกับองค์การวัสดุอุปกรณ์กลาโหมของสวีเดนและได้เริ่มผลิตจรวดต่อสู้อากาศยานควบคุมด้วยเรดาร์แบบยิงจากอากาศสู่อากาศรุ่นนี้แล้ว
       “กริพเพนจึงเป็นเครื่องบินรบรุ่นแรกในโลกที่มีขีดความสามารถในการยิงจรวดมีทีออร์เวอร์ชันนี้” ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับกริพเพน ยูโรไฟเตอร์(อังกฤษ)และราเฟล(ฝรั่งเศส)กลุ่มซาบกล่าว
       การทดลองยิงจรวดมีทีออร์ 2ลูกจากกริพเพน จัดขึ้นวันที่ 30 มิ.ย.2556 จรวดทำลายเป้าหมายที่อยู่ห่างไกลออกไปอย่างแม่นยำ“ซึ่งแสดงให้เห็นประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมในการเชื่อมสัญญาณติดต่อกันระหว่างเครื่องบินกับจรวด ตลอดจนขีดความสามารถในการล็อกเป้าหมายของจรวด”
       นอกจากนั้น ยังเป็นการทดลองอุปกรณ์ควบคุมใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับนักบินของกริพเพน กับระบบเรดาร์ PS05 ของซาบ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถติดตั้งบนกริพเพนซีและดี ได้ทันที นายไมเคิล โอสเตอร์เกรน ผู้อำนวยการโครงการทดลองนี้กล่าวในคำแถลงของซาบ
       มีทีออร์เป็นจรวด BVRAAM (Beyond Visual Range Air-to-Air Missile) ใช้ยิงทำลายเป้าหมายที่อยู่พ้นระยะสายตาในระยะไกลออกไป ระบบจรวดมีทีออร์เกิดจากการวิจัยและทดลองร่วมกันของหน่วยงานกลาโหมของหลายประเทศยุโรปคือ สวีเดน ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน เยอรมนี และอังกฤษ

กริพเพนหมายเลข 101 ของกองทัพอากาศสวีเดนมีข้อความติดเอาไว้ที่แพนหางว่า Gripen-Meteor บอกให้รู้ว่าสองสิ่งนี้เป็นของคู่กัน กองทัพอากาศสวีเดนเป็นแห่งแรกที่นำจรวด AAM ล้ำยุครุ่นนี้เข้าประจำการตั้งแต่ปี 2556  ส่วน"ไต้ฝุ่น"ของอังกฤษ กับ"ลาฟาล"ฝรั่งเศสเริ่มติดตั้งในปี 2558.
       .


หุ้นส่วน 6 ประเทศที่ร่วมกันพัฒนากล่าวว่าทันทีที่ยิงออกไป จรวดมีทีออร์จะทำให้เกิด No Escape Zone (เขตหมดโอกาสหลบหนี)ขึ้น อันเป็นมาตรฐานที่เหนือกว่า AIM-120 AMRAAM ของเรย์ธีออนแห่งสหรัฐ ระยะปฏิบัติการของมีทีออร์ยังเป็นความลับ แต่เชื่อกันว่าเป็นระยะลับสายตา100กิโลเมตรขึ้นไป เคล็ดลับอยู่ที่การสามารถควบคุมระบบจรวดขับดันได้ ซึ่งเมื่อเข้าใกล้เป้าหมายจะบังคับให้ "ผีพุ่งใต้" พุ่งเข้าหาด้วยความเร็วสูงถึง4เท่าเสียงหมดโอกาสที่จะยิงสกัด.



จรวดมีทีออร์ไปออกงานกับยูโรไฟเตอร์ไต้ฝุ่นของอังกฤษ ข้อความโฆษณาบอกว่าเป็นจรวดยิงเป้าหมายที่อยู่ไกลลับสายตา ร่วมกันพัฒนาโดยหลายประเทศเพื่อติดตั้งใน JAS-39 กริพเพน "ไต้ฝุ่น" กับราฟาลของดาสซอลต์แห่งฝรั่งเศส ขณะที่กองทัพอากาศไทยได้ประกาศไปก่อนหน้าหลังจากการับมอบกริพเพนไปก่อนหน้า รวมทั้งกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ก็ประกาศจะนำจรวด AAM รุ่นนี้ไปติดตั้งใน F-35 ที่ซื้อจากสหรัฐ.



กริพเพน-อี หรือกริเพนเอ็นจี(Next Generation)ตัวใหม่ที่อยู่ระหว่างประกอบเครื่องทดสอบ งามหมดจดติดตั้งอุปกรณ์ยุคใหม่ทุกชิ้น ซาบกล่าวว่ากริพเพนรุ่นปัจจุบันราคาลำละ 60 ล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่ยังไม่มีการประกาศราคาของกริพเพน-อี ที่จะตามออกมา.



เครดิตข้อมูลและรูปประกอบจาก SAAB และเว็บ www.manager.co.th Wink Grin เยี่ยม
บันทึกการเข้า

..The only thing neccessary for the triump of evil is for the good man to do nothing..
"สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ คือการที่คนดีๆนิ่งดูดาย "
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265


ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง


« ตอบ #16778 เมื่อ: กรกฎาคม 06, 2013, 09:10:24 PM »

เอ๊ะ........ พี่จงอาง กริฟเพน E/F มันขึ้นบินได้ตั้งแต่ปีที่แล้วนะ ตอนที่ทอ. สวิสเปิดโครงการจัดหาเครืองบินรบใหม่
บันทึกการเข้า
-Joke-
Vive la liberté de parole et d'opinion!
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -459
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4225


^_^


« ตอบ #16779 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2013, 12:01:35 PM »

ไม่ยักจะเห็นท่านคุณชายรณพีร์แห่งวังจุฑาเทพถ่ายรูปหมู่กับหัวหน้าฝูงบินF-86เลย สงสัยไม่ได้ไปฝึกร่วมผสม ณ ฐานทัพอากกาศคล๊ากที่ฟิลิปปินส์กับชุดนี้ Grin คิก คิก ไหว้

เครดิตรูป:กองทัพอากาศไทย
ตอนถ่าย ท่าน ร.ท. กันต์ พิมานทิพย์ จะคิดมั้ยว่าอนาคต ท่านได้เป็นใหญ่เป็นโต เยี่ยม

ตอนเป็นผบ.ทอ. ท่านยังไม่ถอด Helmet เลย  ไหว้ ล้อเล่นครับผม

อยากเห็นภาพที่ท่านผู้ฝูงแซม(สำราญ แย้มศรีบัว) ไปจริงๆครับ อ่านเรื่องที่แกเขียนไว้แล้วชอบมากๆ
บันทึกการเข้า

A la volonté du peuple
Et à la santé du progrès,
Remplis ton cœur d'un vin rebelle
Et à demain, ami fidèle.
Nous voulons faire la lumière
Malgré le masque de la nuit
Pour illuminer notre terre
Et changer la vie.
พญาจงอาง +รักในหลวง+
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1870
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10363



« ตอบ #16780 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2013, 01:27:50 PM »

อ้างอิงข้อมูลจากเว็บผู้จัดการครับท่านอรชุน คริคริ ข้อมูลต้องหารสองประมาณนั้น Grin
บันทึกการเข้า

..The only thing neccessary for the triump of evil is for the good man to do nothing..
"สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ คือการที่คนดีๆนิ่งดูดาย "
น้าเสก คนเดิม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 712
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14502


รับแขก...แจกเหล้า...เฝ้าสำนักงาน


« ตอบ #16781 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2013, 02:16:09 PM »

อย่าไปสนคนวิจารณ์ให้มันเยอะนักครับ...ผมเชียร์กองทัพที่กล้าออกจากกะลา...ไปหาของที่มันคุ้มค่ากับการลงทุนครับ
บันทึกการเข้า

hemicuda
Jr. Member
**

คะแนน 32
ออฟไลน์

กระทู้: 66


« ตอบ #16782 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2013, 02:56:20 PM »

บริษัทซาบ(SAAB)ผู้ซึ่งผลิตเครื่องบินขับไล่แบบJAS-39แห่งสวีเดนได้แถลงในวันพุธที่ 3 ก.ค.2556 ที่ผ่านมาว่าได้เริ่มประกอบกริพเพ่นยุคใหม่ หรือ“กริพเพน E”(กริพเพนยุคใหม่/Next Generation)ซึ่งมีขั้นตอนที่สลับซับซ้อน โดยใช้เครื่องมือและวิธีการทันสมัยที่สุด หลังจาก“การวิจัยและพัฒนาอันเข้มงวด”ซาบใช้เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆกว่า1,000คนในการพัฒนา สร้างและประกอบกริพเพน-อี บริษัทผู้ผลิตกล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่งที่ออกจากสำนักงานใหญ่ในกรุงสตอกโฮล์ม
       เครื่องต้นแบบที่ใช้รหัสเรียก“39-8”ผลิตออกมาเพื่อแสดงความสมบูรณ์แบบก่อนจะเริ่มเดินสายการผลิตออกสู่ตลาด และกริพเพน-อี สมบูรณ์แบบลำแรกนี้จะเป็นเครื่องที่ติดตั้งอุปกรณ์เซ็นเซอร์ต่างๆยุคใหม่ทั้งหมดรวมทั้งระบบเชื่อมโยงการสื่อสารใหม่ ระบบควบคุมการบินที่ล้ำยุค ติดเครื่องยนต์ที่ให้แรงบิดสูงขึ้นประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ทำให้บินได้ระยะทางไกลขึ้น นอกจากนั้นยังมีจุดติดอาวุธมากขึ้นบรรทุกน้ำหนักได้มากขึ้น ห้องนักบินเป็นระบบดิจิตอลที่ใช้จอแสดงผลแบบ“เฮด-อัป”(Head-Up Display)รวมทั้งติดตั้งระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ล่าสุด กลุ่มซาบกล่าว
       เครื่องต้นแบบ “39-8” ออกแบบขึ้นจากกริพเพนรุ่นเดิม แต่จะเป็นเครื่องบินรบที่แสดงฟีเจอร์ใหม่ๆ และขีดความสามารถต่างๆ ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งใหม่ๆอันเป็น“การก้าวกระโดดทางเทคนิค”หลังจากที่กลุ่มซาบนำกริพเพ่น อี/เอฟ ซึ่งเป็นเครื่องสาธิตออกแสดงให้เป็นที่ประจักษ์มาแล้วตั้งแต่ต้นปีจน ปัจจุบันมีชั่วโมงบินรวมกว่า250ชั่วโมง
       กลุ่มซาบออกแถลงเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2556 ว่าการทดลองยิงจรวดมีทีออร์ (Meteor)“ผีพุ่งไต้”จาก JAS-39 ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยร่วมกับองค์การวัสดุอุปกรณ์กลาโหมของสวีเดนและได้เริ่มผลิตจรวดต่อสู้อากาศยานควบคุมด้วยเรดาร์แบบยิงจากอากาศสู่อากาศรุ่นนี้แล้ว
       “กริพเพนจึงเป็นเครื่องบินรบรุ่นแรกในโลกที่มีขีดความสามารถในการยิงจรวดมีทีออร์เวอร์ชันนี้” ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับกริพเพน ยูโรไฟเตอร์(อังกฤษ)และราเฟล(ฝรั่งเศส)กลุ่มซาบกล่าว
       การทดลองยิงจรวดมีทีออร์ 2ลูกจากกริพเพน จัดขึ้นวันที่ 30 มิ.ย.2556 จรวดทำลายเป้าหมายที่อยู่ห่างไกลออกไปอย่างแม่นยำ“ซึ่งแสดงให้เห็นประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมในการเชื่อมสัญญาณติดต่อกันระหว่างเครื่องบินกับจรวด ตลอดจนขีดความสามารถในการล็อกเป้าหมายของจรวด”
       นอกจากนั้น ยังเป็นการทดลองอุปกรณ์ควบคุมใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับนักบินของกริพเพน กับระบบเรดาร์ PS05 ของซาบ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถติดตั้งบนกริพเพนซีและดี ได้ทันที นายไมเคิล โอสเตอร์เกรน ผู้อำนวยการโครงการทดลองนี้กล่าวในคำแถลงของซาบ
       มีทีออร์เป็นจรวด BVRAAM (Beyond Visual Range Air-to-Air Missile) ใช้ยิงทำลายเป้าหมายที่อยู่พ้นระยะสายตาในระยะไกลออกไป ระบบจรวดมีทีออร์เกิดจากการวิจัยและทดลองร่วมกันของหน่วยงานกลาโหมของหลายประเทศยุโรปคือ สวีเดน ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน เยอรมนี และอังกฤษ

กริพเพนหมายเลข 101 ของกองทัพอากาศสวีเดนมีข้อความติดเอาไว้ที่แพนหางว่า Gripen-Meteor บอกให้รู้ว่าสองสิ่งนี้เป็นของคู่กัน กองทัพอากาศสวีเดนเป็นแห่งแรกที่นำจรวด AAM ล้ำยุครุ่นนี้เข้าประจำการตั้งแต่ปี 2556  ส่วน"ไต้ฝุ่น"ของอังกฤษ กับ"ลาฟาล"ฝรั่งเศสเริ่มติดตั้งในปี 2558.
       .


หุ้นส่วน 6 ประเทศที่ร่วมกันพัฒนากล่าวว่าทันทีที่ยิงออกไป จรวดมีทีออร์จะทำให้เกิด No Escape Zone (เขตหมดโอกาสหลบหนี)ขึ้น อันเป็นมาตรฐานที่เหนือกว่า AIM-120 AMRAAM ของเรย์ธีออนแห่งสหรัฐ ระยะปฏิบัติการของมีทีออร์ยังเป็นความลับ แต่เชื่อกันว่าเป็นระยะลับสายตา100กิโลเมตรขึ้นไป เคล็ดลับอยู่ที่การสามารถควบคุมระบบจรวดขับดันได้ ซึ่งเมื่อเข้าใกล้เป้าหมายจะบังคับให้ "ผีพุ่งใต้" พุ่งเข้าหาด้วยความเร็วสูงถึง4เท่าเสียงหมดโอกาสที่จะยิงสกัด.



จรวดมีทีออร์ไปออกงานกับยูโรไฟเตอร์ไต้ฝุ่นของอังกฤษ ข้อความโฆษณาบอกว่าเป็นจรวดยิงเป้าหมายที่อยู่ไกลลับสายตา ร่วมกันพัฒนาโดยหลายประเทศเพื่อติดตั้งใน JAS-39 กริพเพน "ไต้ฝุ่น" กับราฟาลของดาสซอลต์แห่งฝรั่งเศส ขณะที่กองทัพอากาศไทยได้ประกาศไปก่อนหน้าหลังจากการับมอบกริพเพนไปก่อนหน้า รวมทั้งกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ก็ประกาศจะนำจรวด AAM รุ่นนี้ไปติดตั้งใน F-35 ที่ซื้อจากสหรัฐ.



กริพเพน-อี หรือกริเพนเอ็นจี(Next Generation)ตัวใหม่ที่อยู่ระหว่างประกอบเครื่องทดสอบ งามหมดจดติดตั้งอุปกรณ์ยุคใหม่ทุกชิ้น ซาบกล่าวว่ากริพเพนรุ่นปัจจุบันราคาลำละ 60 ล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่ยังไม่มีการประกาศราคาของกริพเพน-อี ที่จะตามออกมา.



เครดิตข้อมูลและรูปประกอบจาก SAAB และเว็บ www.manager.co.th Wink Grin เยี่ยม


มันยอดมากครับ รอวันเข้าประจำการ ไม่รู้ว่าเข้ามาตอนใหนนะครับ
บันทึกการเข้า
แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« ตอบ #16783 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2013, 03:13:49 PM »

บริษัทซาบ(SAAB)ผู้ซึ่งผลิตเครื่องบินขับไล่แบบJAS-39แห่งสวีเดนได้แถลงในวันพุธที่ 3 ก.ค.2556 ที่ผ่านมาว่าได้เริ่มประกอบกริพเพ่นยุคใหม่ หรือ“กริพเพน E”(กริพเพนยุคใหม่/Next Generation)ซึ่งมีขั้นตอนที่สลับซับซ้อน โดยใช้เครื่องมือและวิธีการทันสมัยที่สุด หลังจาก“การวิจัยและพัฒนาอันเข้มงวด”ซาบใช้เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆกว่า1,000คนในการพัฒนา สร้างและประกอบกริพเพน-อี บริษัทผู้ผลิตกล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่งที่ออกจากสำนักงานใหญ่ในกรุงสตอกโฮล์ม
       เครื่องต้นแบบที่ใช้รหัสเรียก“39-8”ผลิตออกมาเพื่อแสดงความสมบูรณ์แบบก่อนจะเริ่มเดินสายการผลิตออกสู่ตลาด และกริพเพน-อี สมบูรณ์แบบลำแรกนี้จะเป็นเครื่องที่ติดตั้งอุปกรณ์เซ็นเซอร์ต่างๆยุคใหม่ทั้งหมดรวมทั้งระบบเชื่อมโยงการสื่อสารใหม่ ระบบควบคุมการบินที่ล้ำยุค ติดเครื่องยนต์ที่ให้แรงบิดสูงขึ้นประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ทำให้บินได้ระยะทางไกลขึ้น นอกจากนั้นยังมีจุดติดอาวุธมากขึ้นบรรทุกน้ำหนักได้มากขึ้น ห้องนักบินเป็นระบบดิจิตอลที่ใช้จอแสดงผลแบบ“เฮด-อัป”(Head-Up Display)รวมทั้งติดตั้งระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ล่าสุด กลุ่มซาบกล่าว
       เครื่องต้นแบบ “39-8” ออกแบบขึ้นจากกริพเพนรุ่นเดิม แต่จะเป็นเครื่องบินรบที่แสดงฟีเจอร์ใหม่ๆ และขีดความสามารถต่างๆ ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งใหม่ๆอันเป็น“การก้าวกระโดดทางเทคนิค”หลังจากที่กลุ่มซาบนำกริพเพ่น อี/เอฟ ซึ่งเป็นเครื่องสาธิตออกแสดงให้เป็นที่ประจักษ์มาแล้วตั้งแต่ต้นปีจน ปัจจุบันมีชั่วโมงบินรวมกว่า250ชั่วโมง
       กลุ่มซาบออกแถลงเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2556 ว่าการทดลองยิงจรวดมีทีออร์ (Meteor)“ผีพุ่งไต้”จาก JAS-39 ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยร่วมกับองค์การวัสดุอุปกรณ์กลาโหมของสวีเดนและได้เริ่มผลิตจรวดต่อสู้อากาศยานควบคุมด้วยเรดาร์แบบยิงจากอากาศสู่อากาศรุ่นนี้แล้ว
       “กริพเพนจึงเป็นเครื่องบินรบรุ่นแรกในโลกที่มีขีดความสามารถในการยิงจรวดมีทีออร์เวอร์ชันนี้” ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับกริพเพน ยูโรไฟเตอร์(อังกฤษ)และราเฟล(ฝรั่งเศส)กลุ่มซาบกล่าว
       การทดลองยิงจรวดมีทีออร์ 2ลูกจากกริพเพน จัดขึ้นวันที่ 30 มิ.ย.2556 จรวดทำลายเป้าหมายที่อยู่ห่างไกลออกไปอย่างแม่นยำ“ซึ่งแสดงให้เห็นประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมในการเชื่อมสัญญาณติดต่อกันระหว่างเครื่องบินกับจรวด ตลอดจนขีดความสามารถในการล็อกเป้าหมายของจรวด”
       นอกจากนั้น ยังเป็นการทดลองอุปกรณ์ควบคุมใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับนักบินของกริพเพน กับระบบเรดาร์ PS05 ของซาบ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถติดตั้งบนกริพเพนซีและดี ได้ทันที นายไมเคิล โอสเตอร์เกรน ผู้อำนวยการโครงการทดลองนี้กล่าวในคำแถลงของซาบ
       มีทีออร์เป็นจรวด BVRAAM (Beyond Visual Range Air-to-Air Missile) ใช้ยิงทำลายเป้าหมายที่อยู่พ้นระยะสายตาในระยะไกลออกไป ระบบจรวดมีทีออร์เกิดจากการวิจัยและทดลองร่วมกันของหน่วยงานกลาโหมของหลายประเทศยุโรปคือ สวีเดน ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน เยอรมนี และอังกฤษ

กริพเพนหมายเลข 101 ของกองทัพอากาศสวีเดนมีข้อความติดเอาไว้ที่แพนหางว่า Gripen-Meteor บอกให้รู้ว่าสองสิ่งนี้เป็นของคู่กัน กองทัพอากาศสวีเดนเป็นแห่งแรกที่นำจรวด AAM ล้ำยุครุ่นนี้เข้าประจำการตั้งแต่ปี 2556  ส่วน"ไต้ฝุ่น"ของอังกฤษ กับ"ลาฟาล"ฝรั่งเศสเริ่มติดตั้งในปี 2558.
       .


หุ้นส่วน 6 ประเทศที่ร่วมกันพัฒนากล่าวว่าทันทีที่ยิงออกไป จรวดมีทีออร์จะทำให้เกิด No Escape Zone (เขตหมดโอกาสหลบหนี)ขึ้น อันเป็นมาตรฐานที่เหนือกว่า AIM-120 AMRAAM ของเรย์ธีออนแห่งสหรัฐ ระยะปฏิบัติการของมีทีออร์ยังเป็นความลับ แต่เชื่อกันว่าเป็นระยะลับสายตา100กิโลเมตรขึ้นไป เคล็ดลับอยู่ที่การสามารถควบคุมระบบจรวดขับดันได้ ซึ่งเมื่อเข้าใกล้เป้าหมายจะบังคับให้ "ผีพุ่งใต้" พุ่งเข้าหาด้วยความเร็วสูงถึง4เท่าเสียงหมดโอกาสที่จะยิงสกัด.



จรวดมีทีออร์ไปออกงานกับยูโรไฟเตอร์ไต้ฝุ่นของอังกฤษ ข้อความโฆษณาบอกว่าเป็นจรวดยิงเป้าหมายที่อยู่ไกลลับสายตา ร่วมกันพัฒนาโดยหลายประเทศเพื่อติดตั้งใน JAS-39 กริพเพน "ไต้ฝุ่น" กับราฟาลของดาสซอลต์แห่งฝรั่งเศส ขณะที่กองทัพอากาศไทยได้ประกาศไปก่อนหน้าหลังจากการับมอบกริพเพนไปก่อนหน้า รวมทั้งกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ก็ประกาศจะนำจรวด AAM รุ่นนี้ไปติดตั้งใน F-35 ที่ซื้อจากสหรัฐ.



กริพเพน-อี หรือกริเพนเอ็นจี(Next Generation)ตัวใหม่ที่อยู่ระหว่างประกอบเครื่องทดสอบ งามหมดจดติดตั้งอุปกรณ์ยุคใหม่ทุกชิ้น ซาบกล่าวว่ากริพเพนรุ่นปัจจุบันราคาลำละ 60 ล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่ยังไม่มีการประกาศราคาของกริพเพน-อี ที่จะตามออกมา.



เครดิตข้อมูลและรูปประกอบจาก SAAB และเว็บ www.manager.co.th Wink Grin เยี่ยม


มันยอดมากครับ รอวันเข้าประจำการ ไม่รู้ว่าเข้ามาตอนใหนนะครับ
บริษัทซาบ(SAAB)ผู้ซึ่งผลิตเครื่องบินขับไล่แบบJAS-39แห่งสวีเดนได้แถลงในวันพุธที่ 3 ก.ค.2556 ที่ผ่านมาว่าได้เริ่มประกอบกริพเพ่นยุคใหม่ หรือ“กริพเพน E”(กริพเพนยุคใหม่/Next Generation)ซึ่งมีขั้นตอนที่สลับซับซ้อน โดยใช้เครื่องมือและวิธีการทันสมัยที่สุด หลังจาก“การวิจัยและพัฒนาอันเข้มงวด”ซาบใช้เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆกว่า1,000คนในการพัฒนา สร้างและประกอบกริพเพน-อี บริษัทผู้ผลิตกล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่งที่ออกจากสำนักงานใหญ่ในกรุงสตอกโฮล์ม
       เครื่องต้นแบบที่ใช้รหัสเรียก“39-8”ผลิตออกมาเพื่อแสดงความสมบูรณ์แบบก่อนจะเริ่มเดินสายการผลิตออกสู่ตลาด และกริพเพน-อี สมบูรณ์แบบลำแรกนี้จะเป็นเครื่องที่ติดตั้งอุปกรณ์เซ็นเซอร์ต่างๆยุคใหม่ทั้งหมดรวมทั้งระบบเชื่อมโยงการสื่อสารใหม่ ระบบควบคุมการบินที่ล้ำยุค ติดเครื่องยนต์ที่ให้แรงบิดสูงขึ้นประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ทำให้บินได้ระยะทางไกลขึ้น นอกจากนั้นยังมีจุดติดอาวุธมากขึ้นบรรทุกน้ำหนักได้มากขึ้น ห้องนักบินเป็นระบบดิจิตอลที่ใช้จอแสดงผลแบบ“เฮด-อัป”(Head-Up Display)รวมทั้งติดตั้งระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ล่าสุด กลุ่มซาบกล่าว
       เครื่องต้นแบบ “39-8” ออกแบบขึ้นจากกริพเพนรุ่นเดิม แต่จะเป็นเครื่องบินรบที่แสดงฟีเจอร์ใหม่ๆ และขีดความสามารถต่างๆ ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งใหม่ๆอันเป็น“การก้าวกระโดดทางเทคนิค”หลังจากที่กลุ่มซาบนำกริพเพ่น อี/เอฟ ซึ่งเป็นเครื่องสาธิตออกแสดงให้เป็นที่ประจักษ์มาแล้วตั้งแต่ต้นปีจน ปัจจุบันมีชั่วโมงบินรวมกว่า250ชั่วโมง
       กลุ่มซาบออกแถลงเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2556 ว่าการทดลองยิงจรวดมีทีออร์ (Meteor)“ผีพุ่งไต้”จาก JAS-39 ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยร่วมกับองค์การวัสดุอุปกรณ์กลาโหมของสวีเดนและได้เริ่มผลิตจรวดต่อสู้อากาศยานควบคุมด้วยเรดาร์แบบยิงจากอากาศสู่อากาศรุ่นนี้แล้ว
       “กริพเพนจึงเป็นเครื่องบินรบรุ่นแรกในโลกที่มีขีดความสามารถในการยิงจรวดมีทีออร์เวอร์ชันนี้” ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับกริพเพน ยูโรไฟเตอร์(อังกฤษ)และราเฟล(ฝรั่งเศส)กลุ่มซาบกล่าว
       การทดลองยิงจรวดมีทีออร์ 2ลูกจากกริพเพน จัดขึ้นวันที่ 30 มิ.ย.2556 จรวดทำลายเป้าหมายที่อยู่ห่างไกลออกไปอย่างแม่นยำ“ซึ่งแสดงให้เห็นประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมในการเชื่อมสัญญาณติดต่อกันระหว่างเครื่องบินกับจรวด ตลอดจนขีดความสามารถในการล็อกเป้าหมายของจรวด”
       นอกจากนั้น ยังเป็นการทดลองอุปกรณ์ควบคุมใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับนักบินของกริพเพน กับระบบเรดาร์ PS05 ของซาบ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถติดตั้งบนกริพเพนซีและดี ได้ทันที นายไมเคิล โอสเตอร์เกรน ผู้อำนวยการโครงการทดลองนี้กล่าวในคำแถลงของซาบ
       มีทีออร์เป็นจรวด BVRAAM (Beyond Visual Range Air-to-Air Missile) ใช้ยิงทำลายเป้าหมายที่อยู่พ้นระยะสายตาในระยะไกลออกไป ระบบจรวดมีทีออร์เกิดจากการวิจัยและทดลองร่วมกันของหน่วยงานกลาโหมของหลายประเทศยุโรปคือ สวีเดน ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน เยอรมนี และอังกฤษ

กริพเพนหมายเลข 101 ของกองทัพอากาศสวีเดนมีข้อความติดเอาไว้ที่แพนหางว่า Gripen-Meteor บอกให้รู้ว่าสองสิ่งนี้เป็นของคู่กัน กองทัพอากาศสวีเดนเป็นแห่งแรกที่นำจรวด AAM ล้ำยุครุ่นนี้เข้าประจำการตั้งแต่ปี 2556  ส่วน"ไต้ฝุ่น"ของอังกฤษ กับ"ลาฟาล"ฝรั่งเศสเริ่มติดตั้งในปี 2558.
       .


หุ้นส่วน 6 ประเทศที่ร่วมกันพัฒนากล่าวว่าทันทีที่ยิงออกไป จรวดมีทีออร์จะทำให้เกิด No Escape Zone (เขตหมดโอกาสหลบหนี)ขึ้น อันเป็นมาตรฐานที่เหนือกว่า AIM-120 AMRAAM ของเรย์ธีออนแห่งสหรัฐ ระยะปฏิบัติการของมีทีออร์ยังเป็นความลับ แต่เชื่อกันว่าเป็นระยะลับสายตา100กิโลเมตรขึ้นไป เคล็ดลับอยู่ที่การสามารถควบคุมระบบจรวดขับดันได้ ซึ่งเมื่อเข้าใกล้เป้าหมายจะบังคับให้ "ผีพุ่งใต้" พุ่งเข้าหาด้วยความเร็วสูงถึง4เท่าเสียงหมดโอกาสที่จะยิงสกัด.



จรวดมีทีออร์ไปออกงานกับยูโรไฟเตอร์ไต้ฝุ่นของอังกฤษ ข้อความโฆษณาบอกว่าเป็นจรวดยิงเป้าหมายที่อยู่ไกลลับสายตา ร่วมกันพัฒนาโดยหลายประเทศเพื่อติดตั้งใน JAS-39 กริพเพน "ไต้ฝุ่น" กับราฟาลของดาสซอลต์แห่งฝรั่งเศส ขณะที่กองทัพอากาศไทยได้ประกาศไปก่อนหน้าหลังจากการับมอบกริพเพนไปก่อนหน้า รวมทั้งกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ก็ประกาศจะนำจรวด AAM รุ่นนี้ไปติดตั้งใน F-35 ที่ซื้อจากสหรัฐ.



กริพเพน-อี หรือกริเพนเอ็นจี(Next Generation)ตัวใหม่ที่อยู่ระหว่างประกอบเครื่องทดสอบ งามหมดจดติดตั้งอุปกรณ์ยุคใหม่ทุกชิ้น ซาบกล่าวว่ากริพเพนรุ่นปัจจุบันราคาลำละ 60 ล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่ยังไม่มีการประกาศราคาของกริพเพน-อี ที่จะตามออกมา.



เครดิตข้อมูลและรูปประกอบจาก SAAB และเว็บ www.manager.co.th Wink Grin เยี่ยม

สวยดูดีมีชาติตระกุลแบบนี้น่าหามาเพิ่มอีกซักฝูงนะครับ
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
พญาจงอาง +รักในหลวง+
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1870
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10363



« ตอบ #16784 เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2013, 06:49:28 PM »

ข่าวดีของกริพเพนเมื่อกองทัพอากาศฟิลิปปินส์ได้ให้ความสนใจอย่างยิ่งต่อ JAS-39 “กริพเพน”เครื่องบินรบยุคที่ 4+ ในขณะที่รัฐบาลประธานาธิบดีเบนิกโน อะคีโน (Benigno Aquino) ประกาศจะพัฒนากำลังทางอากาศให้ทันสมัยภายในไม่กี่ปีข้างหน้านี้ และหลายฝ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่านักบินของทัพฟ้ามองว่าเครื่องบินรบของสวีเดนมีความเหมาะสมอย่างยิ่ง
จากการสำรวจความคิดเห็นโดยสำนักข่าวฟิลิปปินส์ หรือPNA(Philippines News Agency)พบว่านักบินส่วนใหญ่ของกองทัพอากาศเทใจให้แก่ JAS-39 กริพเพน เนื่องจากประสิทธิภาพสูงและค่าบำรุงรักษาตลอดจนค่าใช้จ่ายต่อการปฏิบัติการต่ำกว่ารุ่นอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสิทธิภาพของอาวุธนำวิถียิงระยะไกล
ซึ่งปัจจุบันนี้สื่อในฟิลิปปินส์มักจะล้อเลียนกองทัพอากาศ(Air Force)ของตัวเองอยู่เสมอๆว่าเป็นกองทัพที่มีแต่ “แอร์” ไม่มี “ฟอร์ซ” หลังจากปลดระวางประจำการเครื่องบิน F-5 ที่ผลิตในสหรัฐฯเมื่อปี 2545 ตั้งแต่นั้นมาก็ยังไม่เคยจัดซื้อเครื่องบินรบใดๆอีก กริพเพนเป็นเครื่องบินรบที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับประเทศแถบนี้และตรงตามความต้องการเพราะ
- ราคาเครื่องถูก
- หลากภารกิจ
- ค่าบำรุงรักษาต่ำ
- ค่าน้ำมันน้อย
- ติดอาวุธได้หลายชนิดหลายค่ายใครมีเงินซื้ออะไรก็เอามาmodifiedติดๆไป
- ใช้ทางวิ่งสั้นและแคบ วิ่งขึ้นจากถนนได้สบายๆ
- ออกแบบมาให้ใช้งานนอกสนามบินได้ ถ้าสนามบินโดนบอมม์ก็ลงมาโหลดอาวุธ เติมน้ำมันบนถนน แล้วก็วิ่งขึ้นไปรบต่อ
- เทคโนโลยีData Linkที่สวีเดนนำหน้าที่สุดตอนนี้
- ผู้ขาย ขายเป็นแพ็คเกจและให้ source code มาพัฒนาต่อยอดเอาเองได้ด้วย แสดงว่าผู้ขายตรงไปตรงมาและจริงใจกับลูกค้ามากๆเชื่อถือได้เลย
- ที่สำคัญที่สุด...สวีเดนเป็นกลาง ไม่มีงกแบบสหรัฐแน่ๆ แถมออปชั่นมีแถมเพียบ
ระบบดาต้าลิ้งค์ของซ้าบที่สามารถเชื่อมโยงได้ทั้งทัพบก เรือ อากาศ ทำให้เหล่าทัพต่างๆทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนกองทัพอากาศไทยสื่อทางทหารรายงานว่าตอนนี้ ทร. กำลังทยอยติดระบบดาต้าลิ้งค์เข้ากับเรือรบหลักๆ(เช่น รล.นเรศวร / รล.ตากสิน)เพื่อให้เชื่อมโยงกับกริฟเฟนของกองบิน7 ของ ทอ.แล้ว ขาดแต่เรือดำน้ำถ้าได้มาอีกและสามารถติดระบบดาต้าลิ้งค์ได้ จะทำให้เกิดความมั่นคงในระบบเต็ม 100% ทีเดียว เครดิตข้อมูล SAAB และเว็บ www.manager.co.th  Smiley Grin เยี่ยม

เครื่องในรูปเป็นกริพเพน NG ติดจรวด IRIS-T, Meteor และ จรวด GBU-10 เครื่องบินรบของสวีเดนติดอาวุธได้หลายสิบชนิด ปฏิบัติการได้ทั้งเชิงเดี่ยวและฝังตัวในระบบป้องกันที่ใหญ่โตโดยการสื่อข้อมูลระหว่างกันด้วยระบบอันล้ำยุค.

บันทึกการเข้า

..The only thing neccessary for the triump of evil is for the good man to do nothing..
"สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ คือการที่คนดีๆนิ่งดูดาย "
หน้า: 1 ... 1116 1117 1118 [1119] 1120 1121 1122 ... 1487
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.144 วินาที กับ 22 คำสั่ง