เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 26, 2024, 10:39:40 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 1171 1172 1173 [1174] 1175 1176 1177 ... 1487
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่องบินขับไล่ใหม่ กองทัพอากาศไทย  (อ่าน 3906669 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 20 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #17595 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 08:32:27 AM »

เรื่องการปะทะตามแนวชายแดนมันมีมาเป็นระยะ เทาที่จำได้นะ

ชายแดนพม่า สมัย พ.อ.ธวัชชัย ฉายเหมือนวงส์ ท่านเป็น มทภ.๓ ยิงปะทะกับพม่าเรื่องเขตแดน เราเอา F16 บินทำโซนิคบูมข่มขวัญ ทำให้พม่าต้องรีบสั่งซื้อ Mig29 ล็อตแรกอย่างเร่งด่วน

ชายแดนลาว ศึกบ้านร่มเกล้าเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว เราก็ใช้F5 เข้าสู้รบ

ชายแดนเขมร ตั้งแต่ยุคเวียดนามบุกช่องบกตอนนั้นเราใช้ F5 ถึงปัจจุบันทีF16 เราชนร่วงกันเอง ให้เขมรหัวเราะ

ชายแดนมาเลย์ ก็ตั้งแต่ยุคโจรจีน จนถึงยุดผู้ก่อความไม่สงบ ปีสองปีก่อนก็จับทหารมาเลย์ที่อ้างว่าหลงทางได้ ธงชาติมาเลย์ผู้ก่อความไม่สงบก็ติดไว้เต็ม

ถ้าเราซื้ออาวุธโดยไม่ดูผู้ที่เราอาจต้องปะทะด้วย แบบนั้นสิแปลก


มันก็ยังไม่ใช่คำตอบที่ผมสงสัยอยู่ดี... ถึงมาเลย์ฯ นั้นจะมีปัญหาตามแนวชายแดน... มันก็ยังไม่ใช่การปะทะทางทหารโดยตรงนี่ครับ... แล้วการที่มาเลย์ซื้อเครื่องยินมา... รวมไปถึงการวางกำลังทางอากาศ... มันก็กระทบกับไทยน้อยมาก...

...หาคำตอบให้ผมที... ว่าเราไปปะทะหรือกระทบกระทั่งกับสิงค์โปร์และอินโดฯ ตอนไหน... ซ้อมรบไม่เกี่ยวนะครับ... คิก คิก คิก คิก คิก คิก



ข่าวประกอบ

http://www.bangkokpost.com/breaking_...s.php?id=68444he Russian media reported this morning that the Thai government has agreed to a secret $500 million deal to buy Russian fighter jets and helicopters for the Royal Thai Air Force.The reports made no mention of the Thai government's claim at home that this is to be a barter deal. Premier Thaksin Shinawatra also has never mentioned helicopters before, although he confirmed there might be a deal to obtain the 12 Sukhol-30 fighter jets."This is good news for Russia, we haven't sold a single cartridge to Thailand," enthused Konstantin Makiyenko, deputy head of the Center for Analysis of Strategies and Technologies to the Moscow Times today."It also means that Russia has taken over the region - we have fighter jets in China, Malaysia, Indonesia, Vietnam and now Thailand."The Moscow media report said the deal is preliminary and was signed last week in Kuala Lumpur when President Vladimir Putin and Mr Thaksin were both at the East Asia Summit in Kuala Lumpur.It said Russia has signed a preliminary agreement to sell $500 million worth of military aircraft to Thailand, and added it was "the first such deal with the traditional US arms client.""We signed a memorandum for 12 Sukhoi-30MKMs during President Vladimir Putin's visit [last week] to Malaysia," a senior official at Irkut, the privately controlled maker of the Sukhoi fighter, was quoted as saying.Thailand originally agreed to buy the jets last year but put off the deal after a tsunami that killed hundreds of thousands of people hit the region last December, said the Moscow reports.The Irkut executive, who spoke on condition of anonymity due to the sensitivity of negotiations, said the memorandum of understanding also included delivery of helicopters to Thailand, according to Moscow reports."We have gone half the distance and expect to sign the contract in the first half of next year," said Alexei Fyodorov, Irkut board chairman.Makiyenko estimated that the deal would bring Russia at least $500 million. Rosoboronexport, the state arms sales agency, was not available for comment to the Russian media.

ได้มาก็แพง แล้วไหนจะค่าบำรุงรักษา ค่าเชื้อเพลิงขึ้นบินเที่ยวๆนึง ไม่ใช้ถูกๆ แถมประเทศไทยไม่เป็นต้องใช้ Fighter แบบสองเครื่องยนตร์หลอกครับ ไม่ได้จะเอาไปบุกใคร ซื้อ Grippen มาแหละถูกแล้ว เทคโนโลยีใช้กับของบที่เรามีอยู่ได้ แถมของแถมเพียบ ค่าดูแล ค่าเชื้อเพลิงถูกกว่ากันเยอะครับ
เราควรมีอาวุธระดับไหน ต้องชำเลืองตาผู้ที่เราอาจต้องปะทะด้วย ตาม หลัก ยุทธศาสตร์สงคราม balanced of power ครับ

ประเทศรอบตัวเรา ที่มีการปะทะกันเรื่อยๆ เช่น พม่า เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์  อินโดนีเซียล้วนแต่มี บ.รบ ขนาดหนัก สอง เครื่องยนต๋ พิสัยไกล  ประจำการทั้งนั้น
ส่วนกริปเปน พิสัยทำการ โหลด อาวุธ  อัตราเเร่งยังสู้   f16 ไม่ได้ด้วยซ้ำ เมื่ออาวุธด้อยกว่าโอกาสจะ เกิดสงครามก็มากขื้น แต่ถ้าอาวุธทัดเทียมกันก็จะ เกิดความยับยั้งชั่งใจ
ใน การทำสงคราม

ทำไมอัตราเร่งสู้ viper ไม่ได้หรอครับ


ผมล่ะสงสัยว่า... เราไปปะทะกับ... มาเลเซีย... สิงคโปร์... อินโดนีเซีย... ตั้งแต่ตอนไหน... คิก คิก คิก คิก คิก คิก



บันทึกการเข้า
-Joke-
Vive la liberté de parole et d'opinion!
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -459
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4225


^_^


« ตอบ #17596 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 10:22:15 AM »

เรื่องการปะทะตามแนวชายแดนมันมีมาเป็นระยะ เทาที่จำได้นะ

ชายแดนพม่า สมัย พ.อ.ธวัชชัย ฉายเหมือนวงส์ ท่านเป็น มทภ.๓ ยิงปะทะกับพม่าเรื่องเขตแดน เราเอา F16 บินทำโซนิคบูมข่มขวัญ ทำให้พม่าต้องรีบสั่งซื้อ Mig29 ล็อตแรกอย่างเร่งด่วน

ชายแดนลาว ศึกบ้านร่มเกล้าเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว เราก็ใช้F5 เข้าสู้รบ

ชายแดนเขมร ตั้งแต่ยุคเวียดนามบุกช่องบกตอนนั้นเราใช้ F5 ถึงปัจจุบันทีF16 เราชนร่วงกันเอง ให้เขมรหัวเราะ

ชายแดนมาเลย์ ก็ตั้งแต่ยุคโจรจีน จนถึงยุดผู้ก่อความไม่สงบ ปีสองปีก่อนก็จับทหารมาเลย์ที่อ้างว่าหลงทางได้ ธงชาติมาเลย์ผู้ก่อความไม่สงบก็ติดไว้เต็ม

ถ้าเราซื้ออาวุธโดยไม่ดูผู้ที่เราอาจต้องปะทะด้วย แบบนั้นสิแปลก

เรื่องโซนิคบูม ถือว่าเป็นการปะทะหรอครับ? อีกอย่าง จุดมุ่งหมายของการบิน ไม่ใช่เพื่อทำโซนิคบูมโดยเฉพาะครับ แต่มันมีเรื่องอื่นอยู่

เรื่อง F-16 เกี่ยวกัน ทราบความเป็นไปจริงๆไหมครับว่าขึ้นไปทำอะไร เห็น Flight Plan รึเปล่าครับ แถมปะทะอะไรผมก็งง

เรื่องชายแดนลาว เกี่ยวอะไรกับที่ต้องซื้อ บ ใหญ่ๆ ผมยังไม่เห็นความเกี่ยวข้อง

มิก 29 ไม่ใช่ บ ขนาดใหญ่หรือหนักอะไรครับ

ส่วนมาเลเซีย โปร์ อินโด มันมีเหตุที่ว่าทำไมเขาต้องใช้เครื่องใหญ่บินไกลๆครับ

ผมก็ยังไม่เห็ฯความเกี่ยวข้องอยู่ดี...
บันทึกการเข้า

A la volonté du peuple
Et à la santé du progrès,
Remplis ton cœur d'un vin rebelle
Et à demain, ami fidèle.
Nous voulons faire la lumière
Malgré le masque de la nuit
Pour illuminer notre terre
Et changer la vie.
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #17597 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 10:34:49 AM »

เรื่องการปะทะตามแนวชายแดนมันมีมาเป็นระยะ เทาที่จำได้นะ

ชายแดนพม่า สมัย พ.อ.ธวัชชัย ฉายเหมือนวงส์ ท่านเป็น มทภ.๓ ยิงปะทะกับพม่าเรื่องเขตแดน เราเอา F16 บินทำโซนิคบูมข่มขวัญ ทำให้พม่าต้องรีบสั่งซื้อ Mig29 ล็อตแรกอย่างเร่งด่วน

ชายแดนลาว ศึกบ้านร่มเกล้าเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว เราก็ใช้F5 เข้าสู้รบ

ชายแดนเขมร ตั้งแต่ยุคเวียดนามบุกช่องบกตอนนั้นเราใช้ F5 ถึงปัจจุบันทีF16 เราชนร่วงกันเอง ให้เขมรหัวเราะ

ชายแดนมาเลย์ ก็ตั้งแต่ยุคโจรจีน จนถึงยุดผู้ก่อความไม่สงบ ปีสองปีก่อนก็จับทหารมาเลย์ที่อ้างว่าหลงทางได้ ธงชาติมาเลย์ผู้ก่อความไม่สงบก็ติดไว้เต็ม

ถ้าเราซื้ออาวุธโดยไม่ดูผู้ที่เราอาจต้องปะทะด้วย แบบนั้นสิแปลก

เรื่องโซนิคบูม ถือว่าเป็นการปะทะหรอครับ? อีกอย่าง จุดมุ่งหมายของการบิน ไม่ใช่เพื่อทำโซนิคบูมโดยเฉพาะครับ แต่มันมีเรื่องอื่นอยู่

เรื่อง F-16 เกี่ยวกัน ทราบความเป็นไปจริงๆไหมครับว่าขึ้นไปทำอะไร เห็น Flight Plan รึเปล่าครับ แถมปะทะอะไรผมก็งง

เรื่องชายแดนลาว เกี่ยวอะไรกับที่ต้องซื้อ บ ใหญ่ๆ ผมยังไม่เห็นความเกี่ยวข้อง

มิก 29 ไม่ใช่ บ ขนาดใหญ่หรือหนักอะไรครับ

ส่วนมาเลเซีย โปร์ อินโด มันมีเหตุที่ว่าทำไมเขาต้องใช้เครื่องใหญ่บินไกลๆครับ

ผมก็ยังไม่เห็ฯความเกี่ยวข้องอยู่ดี...

แค่เครื่องแบบสองเครื่องยนต์ก็คงคิดว่าใหญ่แล้วมั๊งครับ... คิก คิก คิก คิก คิก คิก

...แต่... เอ... เฮ้ย... F-5 กับ Alpha-Jet ก็สองเครื่องยนต์นี่นา... คิก คิก คิก คิก คิก คิก

บันทึกการเข้า
ChongKo
Hero Member
*****

คะแนน -1176
ออฟไลน์

กระทู้: 1428


« ตอบ #17598 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 10:36:19 AM »

ทั้งคุณจังเกิ้ล ทั้งคุณโจ๊ค ไม่เข้าใจที่ผมพูดก็ไม่เป็นไรนี่ครับ  คนเราย่อมมีสิทธิจะคิดจะมองต่างกัน
คุณจะว่าไม่เกี่ยว เรามี บ.รบ ระยะทำการสั้นประหยัดน้ำมันน่ะดีแล้ว เพื่อนบ้านมี บ.รบ ที่ดีกว่าเรา
ก็ไม่เกี่ยวอะไรกะเรา อันนี้มุมมองพวกคุณ

แต่มุมมองผมมันเกี่ยวกันครับ เพื่อนบ้านคนนึงถือปืนพกมาเจรจาเรื่องเขตแดนอีกคนถือลูกซองมา
คนถือลูกซองก็ได้เปรียบในการเจรจาครับ
 Cheesy
บันทึกการเข้า
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #17599 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 10:48:04 AM »

ทั้งคุณจังเกิ้ล ทั้งคุณโจ๊ค ไม่เข้าใจที่ผมพูดก็ไม่เป็นไรนี่ครับ  คนเราย่อมมีสิทธิจะคิดจะมองต่างกัน
คุณจะว่าไม่เกี่ยว เรามี บ.รบ ระยะทำการสั้นประหยัดน้ำมันน่ะดีแล้ว เพื่อนบ้านมี บ.รบ ที่ดีกว่าเรา
ก็ไม่เกี่ยวอะไรกะเรา อันนี้มุมมองพวกคุณ

แต่มุมมองผมมันเกี่ยวกันครับ เพื่อนบ้านคนนึงถือปืนพกมาเจรจาเรื่องเขตแดนอีกคนถือลูกซองมา
คนถือลูกซองก็ได้เปรียบในการเจรจาครับ
 Cheesy


เครื่องบินรบดีๆ ใหญ่ๆ สมรรถนะสูงๆ ใครๆ ก็อยากได้ครับ... แต่ได้มาแล้วไม่สามารถบำรุงรักษาให้บินได้เต็มร้อยมันก็ไม่มีความหมาย... มี ซู-35 สองฝูงแต่บินพร้อมรบได้แค่ครึ่งฝูง... กับมีกริพเป้นฝูงเดียวแต่พร้อมรบทั้งฝูง... แถมมีระบบอำนวยการรบที่ได้เปรียบอีก... อย่างไหนมันคุ้มกว่ากันครับ...

...การมีเครื่องบินรบไว้... ไม่ใช่แค่เอามาจอดขู่... หรือบินโชว์ในงานวันเด็กแค่นั้นนะครับ...

บันทึกการเข้า
ChongKo
Hero Member
*****

คะแนน -1176
ออฟไลน์

กระทู้: 1428


« ตอบ #17600 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 10:48:46 AM »


แค่เครื่องแบบสองเครื่องยนต์ก็คงคิดว่าใหญ่แล้วมั๊งครับ... คิก คิก คิก คิก คิก คิก

...แต่... เอ... เฮ้ย... F-5 กับ Alpha-Jet ก็สองเครื่องยนต์นี่นา... คิก คิก คิก คิก คิก คิก



ดีครับ เปิดประเด็นมาแบบนี้ จะได้ช่วยกันเปรียบเทียบว่าทำไมผมจึง พูดว่ามิก 29 จัดเป็นเครื่องบินขนาดใหญ่

ในที่นี้ผมกำลังเปรียบเทียบกำลังรบบ้านเราคือ JAS 39 กับกำลังรบเพื่อนบ้าน ที่ว่าใหญ่ก็คือใหญ่กว่า JAS39
ในแง่ระยะทำการ พิสัยบิน โหลดอาวุธ พิสัยอาวุธ อัตราเร่ง  ซึ่ง JAS39 Gripen ยังไม่ต้องไปเทียบกับ Mig29 หรอกครับ แค่ F16 กริปเปนก็เป็นรองในแทบทุกเรื่องแล้ว

ในความเห็นผมนะ Mig 29 อยู่ชั้นเดียวกับ F18 คือใหญ่กว่าพวก บ.รบ พวก F16 ,JAS39 , Mirage 2000
แต่ก็เล็กกว่าพวก F15 , Su30, ราฟาล ,ไต้ฝุ่น

ต่อไปมีเวลาจะหาการเปรียบเทียบสมรรถนะ F16 , Mig29 , JAS39 มาพิจารณากัน
 หลงรัก
บันทึกการเข้า
ChongKo
Hero Member
*****

คะแนน -1176
ออฟไลน์

กระทู้: 1428


« ตอบ #17601 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 10:54:27 AM »

ลองมาฟังเวปอื่นเค้าคุยกันมั่งนะครับว่าเค้าคิดกันอย่างไร

http://board.banrasdr.com/showthread.php?tid=31113
บทสรุปของเครื่องบินรบ เมื่อไทยซื้อ saab JAS 39 Gripen มาเลเซียซื้อ SU-30MKM
โดยคุณ    Red Corner
ผมเพิ่งไปดูรายละเอียดข่าวอาทิตย์ที่แล้วจาก defenseindustrydaily เขาโชว์ข้อมูลน่าสนใจมา
ผมจึงค้นข้อมูลจำเพาะมาเปรียบเทียบกันว่าไทยกับมาเลเซียจัดหาเครื่องบินรบแบบใด อย่างไร คุณภาพหรือไม่ เทียบกันจะแจ้งไปเลยครับ


1.1 มาเลเซียได้รับมอบ SU-30MKM 18 ลำ

1.2 ไทยจะได้รับ saab JAS 39 Gripen 12 ลำ(รุ่นCที่นั่งเดียว 8ลำ,รุ่นDสองที่นั่งเรียงเดี่ยว 4ลำ) S-100B 2 ลำ และ Saab 340 1 ลำ


2.1 มาเลเซียใช้วงเงิน $900 ล้านดอลลาร์ โดย 1 ใน 3 มาเลเซียจ่ายเป็นน้ำมันปาล์ม และพ่วงสัญญาการส่งมนุษย์อวกาศชาวมาเลเซียขึ้นสู่สถานีอวกาศนานาชาติไปด้วย

2.2 ไทยใช้วงเงิน $1,100 ล้านดอลลาร์


3.1 ในปี 1986 สหภาพโซเวียตเริ่มต้นพัฒนาเป็นเครื่องบินรบสำหรับทุกสภาพอากาศ, อากาศสู่อากาศและอากาศสู่พื้นภารกิจยับยั้งทางลึก ชื่อรุ่น Su-27 บินครั้งแรกที่อีร์คุตส์วันที่ 31 ธันวาคม 1989 ได้รับการพัฒนาในปี 1996 เป็นรุ่น Su-30

3.2 ในปี 1979 รัฐบาลสวีเดนเริ่มต้นการศึกษาการพัฒนาสำหรับเครื่องบินที่มีความสามารถในภารกิจของเครื่องบินรบโจมตีและลาดตระเวน เครื่องบินครั้งแรกในปี 1993 โดย JAS 39A/B ได้รับการปรับปรุงในปี 2007 เป็นรุ่น JAS 39C/D


4.1 Su-30 มีใช้ประจำการในประเทศ รัสเซีย, แอลจีเรีย, สาธารณรัฐประชาชนจีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ยูกันดา, เวเนซูเอล่า, เวียดนาม
4.2 saab JAS 39 Gripen มีใช้ประจำการในประเทศ สวีเดน, สาธารณารัฐเช็ค, ฮังการี, ไทยแลนด์, อาฟริกาใต้


5.1 ลักษณะทั่วไปของ Su-30
ลูกเรือ : 2
ความยาว : 21.935 เมตร (72.97 ฟุต)
กางปีก : 14.7 เมตร (48.2 ฟุต)
ส่วนสูง : 6.36 เมตร (20.85 ฟุต)
พื้นที่ปีก : 62.0 m2 (667 FT2)
น้ำหนัก : 17,700 กิโลกรัม (£ 39,021)
โหลดน้ำหนัก : 24,900 กิโลกรัม (£ 54,900)
น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด : 34,500 กก. (£ 76,060)
Powerplant : 2 × AL - 31FL turbofans ต่ำบายพาส
แรงผลักดันแห้ง : 7,600 kgf (74.5 กิโลนิวตัน, 16,750 ปอนด์) X 2 เครื่องยนต์
แรงขับกับ afterburner : 12,500 kgf (122.58 กิโลนิวตัน, 27,560 ปอนด์) X 2 เครื่องยนต์

ประสิทธิภาพ
ความเร็วสูงสุด : 2.0 เท่าความเร็วเสียง (2,120 km / h, 1,320 mph)
ระยะบินทำการ : 3,000 กม. (1,620 nmi)
บริการเพดาน : 17,300 เมตร (56,800 ฟุต)
อัตราไต่ : 230 เมตร / วินาที (45,275 ฟุต / นาที)
โหลดวิง : 401 kg/m2 (82.3 lb/ft2)
แรง / น้ำหนัก : 0.98

อาวุธยุทธภัณฑ์
ปืน : 1 × ปืน GSH - 30 - 1 ขนาด 30 มม. 150 รอบ
Hardpoints : 12 จุด (2จุดปลายปีก AAM, 3จุดของแต่ละภายใต้ปีก 1จุดภายใต้แต่ละเครื่องยนต์และ 2จุดควบคู่ในจุดติดตั้งระหว่างเครื่องยนต์)
จรวดนำวิถี อากาศ-สู่-อากาศ : 6 × R - 27ER1 (AA - 10C), 2 × R - 27ET1 (AA - 10D), 6 × R - 73E (AA - 11), 6 × R - 77 RVV - AE (AA - 12)
จรวดนำวิถี อากาศ-สู่-พื้น : 6 × Kh-31P/Kh-31A จรวดต่อต้านเรดาร์, 6 × KH - 29T / L จรวดนำวิถีด้วยเลเซอร์ 2 × KH - 59ME
ระเบิด : 6 × Kab 500KR, 3 × Kab - 1500KR, 8 × FAB - 500T, 28 × OFAB - 250 - 270, ระเบิดนิวเคลียร์

5.2 ลักษณะทั่วไปของ saab JAS 39 Gripen
ลูกเรือ : 1 (2 สำหรับ JAS 39D)
Payload : 5,300 กิโลกรัม
ความยาว : 14.1 เมตร (46 ฟุต 3 นิ้ว), สองที่นั่ง : 14.8 เมตร (48 ฟุต 5นิ้ว)
กว้าง : 8.4 เมตร (27 ฟุต 7 นิ้ว)
สูง : 4.5 เมตร (14 ฟุต 9 นิ้ว)
พื้นที่ปีก : 30.0 ตร.ม. (323 ฟุต ²)
น้ำหนัก : 6,800 กิโลกรัม [141] (£ 12,600)
โหลดน้ำหนัก : 8,500 กิโลกรัม (£ 18,700)
น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด : 14,000 กิโลกรัม (31,000 ปอนด์)
Powerplant : 1 × วอลโว่ Aero RM12 turbofan afterburning
แรงผลักดันแห้ง : 54 kN (12,100 ปอนด์)
แรงขับกับ afterburner : 80.5 kN (18,100 ปอนด์)
ระยะล้อ 2.4 เมตร (7 ฟุต 10)

ประสิทธิภาพ
ความเร็วสูงสุด : 2 เท่าความเร็วเสียง (2,204 km / h, 1,372 mph)
รัศมีการต่อสู้ : 800 กิโลเมตร (500 ไมล์, 432 NMI)
ระยะบินทำการ : 3,200 กม. (2,000 ไมล์)
เพดานบิน : 15,240 เมตร (50,000 ฟุต)
โหลดวิง : 283 กก. / ตรม (58 ปอนด์ / ฟุต ²)
แรง / น้ำหนัก : 0.97

อาวุธยุทธภัณฑ์
ปืน : 1 × ปืน Mauser BK - 27 ขนาด 27 มม. 120 รอบ (ใช้ได้เฉพาะในรุ่นที่นั่งเดียว / รุ่น C)
Hardpoints : 8 จุด(3จุดในแต่ละใต้ปีกและ 2ภายใต้ลำตัว)
โดยสามารถติดตั้งรวมกันของ :
4 × จรวดจรวดฝัก 13.5 ซม.
จรวดนำวิถี :
6 × Rb.74 (AIM - 9) หรือ Rb 98 (IRIS - T)
4 × Rb.99 (AIM - 120) หรือ MICA
4 × Rb.71 (Skyflash) หรือ Meteor
4 × Rb.75
2 × KEPD.350
2 × Rbs.15F ขีปนาวุธต่อต้านเรือ
ระเบิด :
4 × GBU - 12 Paveway II ระเบิดเลเซอร์นำทาง
2 × ระเบิดคลัสเตอร์ Bk.90
8 × ระเบิด Mark 82


ข้อสังเกตของผม (คุณ   Red Corner )
1.1 มาเลเซียได้เครื่องบินรบ 18 ลำ มากกว่าไทยถึง 50%
1.2 ของไทยได้เครื่องบินรบ 12 ลำ สนับสนุนทางเรดาห์ 3 ลำ
2.1 มาเลเซียทำสัญญาซื้อด้วยเงื่อนไขสุดแสนพิเศษ
2.2 ของไทยทำสัญญาพื้นๆ
3.1 มาเลเซียได้เครื่องบินรบรุ่นใหม่กว่าเราแม้จะพัฒนาปรับปรุงก่อนหน้า
3.2 ของไทยได้เครื่องบินรบรุ่นเก่ากว่าแม้จะพัฒนาปรับปรุงเพิ่มภายหลัง
4.1 แน่นอนว่ารัสเซียเป็นมหาอำนาจทางทหารย่อมมีต่างประเทศไว้วางใจมากกว่าสวีเดน จึงมีใช้ใน 9 ประเทศ
4.2 ของสวีเดนมีใช้ใน 5 ประเทศ แถมเราเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่ใช้
5.1 ข้อนี้สำคัญกว่าทุกข้อ นั่นก็คือ Su-30 เป็นเครื่องบินรบหลักอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับระดับเดียวกันของอเมริกาก็คือ F15 ซึ่งเราเคยขอซื้อแต่อเมริกาไม่ขาย
5.2 ข้อนี้น่าสังเวช เราได้ saab JAS 39 Gripen เครื่องบินรบอเนกประสงค์ขนาดเบาเครื่องยนต์เดี่ยว เมื่อเทียบกับของอมเริกาก็คือ F16 ซึ่งเราก็มีใช้อยู่แล้ว

บทสรุป เราได้ของสินค้าเล็กและเก่าจากร้านค้าโรงงานเล็กๆแต่ซื้อในราคาของสินค้าใหญ่จากร้านค้าโรงงานใหญ่ซ้ำไม่ค่อยนิยมแถมไม่มีสติปัญญาทำสัญญามีเงื่อนไขพิเศษเช่นมาเลเซีย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 14, 2013, 11:14:12 AM โดย ChongKo » บันทึกการเข้า
ChongKo
Hero Member
*****

คะแนน -1176
ออฟไลน์

กระทู้: 1428


« ตอบ #17602 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 11:10:21 AM »

ต่อไปเป็นความเห็นหลากหลายจากเวปเดียวกันครับ ตัดแปะมาเป็นบาง คคห ที่น่าสนใจ

โดยคุณ    sompon
กองทัพต้องมีเครื่องบินหลายๆแบบ
"""ถ้า ซู ๓๐ บินมา...ประเทศไทย มีเครื่องบินที่จะไปสู้เขาได้หรือยัง?Huh?""" ถามสั้นๆแค่เนี๊ยะ...
กลัวจะเป็นว่า ... ซู ๓๐ ของ มาเล แค่๑๒ ลำ จะกวาด บ.ไทย ทั้งกองทัพ
""""""""""เครื่องบินรบที่ดีไปทุกอย่าง ยกเว้น..รบ..มันไร้สมองคับ""""


kui100302 ออฟไลน์
Member
***
ลงทะเบียนเมื่อ: Jun 2010 | โพสต์ที่: 77
ความนิยม: 0 |
%%TYL_NUMTHANKEDLIKED%%
RE: บทสรุปของเครื่องบินรบ เมื่อไทยซื้อ saab JAS 39 Gripen มาเลเซียซื้อ SU-30MKM
แค่เพดานบิน ก็น่าจะดูออกน่ะครับ
su 30 = 17,300 เมตร
กริฟเฟน = 15,240 เมตร
เขาแค่บินเหนือเรา แล้วปล่อยอาวุธ อากาศ สู่ อากาศ เราก็ร่วงแล้ว
อย่าว่า แต่ 12 ลำเลยครับ เขามีแค่ 8 ลำ เราก็ร่วงหมดแล้ว
ต่อให้เครื่องบินสนับสนุนทางเรดาห์อีก 3 ลำก็เถอะ ผมว่า เราก็เอาเขาไม่อยู่อยู่ดี

   Red Corner ออฟไลน์
Member
***
ลงทะเบียนเมื่อ: Jun 2011 | โพสต์ที่: 108
ความนิยม: 2 |
%%TYL_NUMTHANKEDLIKED%%
RE: บทสรุปของเครื่องบินรบ เมื่อไทยซื้อ saab JAS 39 Gripen มาเลเซียซื้อ SU-30MKM
ผมไปดูข้อมูลเพิ่มเติมของฝ่ายที่เห็นดีกับ saab JAS 39 Gripen
ได้ข้อมูลเพิ่มมาว่า โรมาเนีย ที่คุณ Skyman อ้างถึง เขาได้รับการเสนอขายจากสวีเดนดังนี้

1. ใช้วงเงิน $1,300 ล้านดอลลาร์

2. อาจจะจ่ายผ่อนส่งนานกว่า 15 ปีด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ

3. ข้อนี้น่าตกใจหน่อยนะครับ จำนวน 24 ลำ นะครับ เป็นรุ่น C/D เช่นไทย

ทั้งหมดนี้เพื่อโน้มน้าวความตั้งใจเดิมที่โรมาเนียเขาจะซื้อ F16 มือสอง หรือ F35 จากอเมริกาซึ่งใช้ข้ออ้าง"หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์."

ผมดูข้อมูลแล้วละเหี่ยใจกว่าเดิมเยอะ
ผมรู้สึกว่ากำลังถูกเซลล์ขายรถตะล่อมว่า "โหยย..พี่ ฮอนด้าอิโอ้? ตัวรองท็อปนี่แหละเหมาะกับพี่ที่สุด ทั้งเล็กและคล่องตัวแถมประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งเชื้อเพลิงและค่าฝึกใช้(ฝึกบิน)"
พอผมตั้งสติได้ก็พบความจริงว่าราคาขายของมันดันสูงกว่าออดี้เอ๋6? ตัวรองท็อป แล้วมันประหยัดยังไงล่ะครับ
แต่ถ้าตามคำอ้างเรื่องการมีใช้แล้วประหยัด ผมยังเห็นว่าไม่น่าประหยัดกว่า Alpha Jet ที่เรามีใช้อยู่แล้ว
ก็อาจถูกแย้งว่า Alpha Jet เล็กเกินไป ผมจะได้โต้ว่าท่านจะเน้นประหยัดนี่นา และถ้าแย้งว่าเก่าเกินไป ผมก็โต้ว่าเราเพิ่งซื้อมือ2มาใช้ไม่นานนี้เอง
ว่าด้วยเรื่องเหมาะสม อะไรคือคุณสมบัติที่ต้องการอย่างแท้จริง ถ้าบอกว่าเพิ่มขีดความสามารถทางอากาศ
ผมมองว่าแล้วในทางยุทธศาสตร์มันข่มเครื่องบินรบหลักขนาดใหญ่ของเขาให้เกรงขามเราบ้างได้หรือครับ
ในทางยุทธวิธียิ่งไม่ต้องพูดถึงเก่งเล็กเอาอะไรไปสู้กับเก่งใหญ่ 1 ต่อ 1 ก็โดนน็อคแล้วครับ
ที่ผมว่ารองท็อป เพราะตัวท็อปคือ saab JAS 39 Gripen E/F(กำลังพัฒนา) และ SU-30s(ใช้เฉพาะรัสเซีย)
ผมหวังว่าจะโต้แย้งกันอย่างมีสติ ไม่อคติหรือโกรธหรือหงุดหงิดกันนะครับ

   Red Corner ออฟไลน์
Member
***
ลงทะเบียนเมื่อ: Jun 2011 | โพสต์ที่: 108
ความนิยม: 2 |
%%TYL_NUMTHANKEDLIKED%%
RE: บทสรุปของเครื่องบินรบ เมื่อไทยซื้อ saab JAS 39 Gripen มาเลเซียซื้อ SU-30MKM
ว่าด้วยระบบอาวุธจรวดนำวิถี อากาศ-สู่-อากาศนะครับ

Rb.74 (AIM - 9) หรือ Rb 98 (IRIS - T) ซึ่ง AIM-9 Sidewinder มีใช้ในไทย เป็นจรวดนำวิถีพิสัยใกล้ค่อนข้างใช้มานาน แต่ดีและถูก
R - 73E (AA - 11) เป็นจรวดนำวิถีพิสัยใกล้ทันสมัยมากเทียบได้กับ AIM-132 ASRAAM (ไม่มีใช้ในไทย)

Rb.99 (AIM - 120) หรือ MICA ซึ่ง AIM-120 AMRAAM มีใช้ในไทย เป็นจรวดนำวิถีพิสัยกลางที่ทันสมัย
R - 77 RVV - AE (AA - 12) เป็นจรวดนำวิถีพิสัยกลางที่ทันสมัยเทียบได้กับ AIM-132 AMRAAM

Rb.71 (Skyflash) เป็นจรวดนำวิถีพิสัยไกลที่ล้าสมัยมาก
Meteor เป็นจรวดนำวิถีพิสัยไกลที่ทันสมัยสุดๆ แต่จะเข้าประจำการครั้งแรกในปี 2015 ยังไม่มีในโลก
R - 27ER1 (AA - 10C), R - 27ET1 (AA - 10D) เป็นจรวดนำวิถีพิสัยไกล 130, 120 กิโลเมตร เทียบได้กับ AIM-7 Sparrow (ไม่มีใช้ในไท


บันทึกการเข้า
ChongKo
Hero Member
*****

คะแนน -1176
ออฟไลน์

กระทู้: 1428


« ตอบ #17603 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 11:10:43 AM »

ต่อครับ

jukkid ออฟไลน์
Member
***
ลงทะเบียนเมื่อ: Jan 2011 | โพสต์ที่: 193
ความนิยม: 2 |
%%TYL_NUMTHANKEDLIKED%%
RE: บทสรุปของเครื่องบินรบ เมื่อไทยซื้อ saab JAS 39 Gripen มาเลเซียซื้อ SU-30MKM
เอาง่ายๆ นะครับ จากข้อมูลอันเล็กน้อย ของผม
เราจะทำการ ซื้อ อาวุธ สงคราม กันในสมัยนี้ แน่นอนว่า เราไม่ได้ซื้อไปรบ แน่นอน
แต่เราซื้อเพื่อเอาพันธมิตร ครับทำไมเรา เลือกพันธมิตร ที่เล็กๆ ไม่ค่อยมีความสำคัญ
แต่เราไม่เลือกพันธมิตร ที่ใหญ่ๆ ออปชั่นเยอะๆ และคุ้มครองเราได้หละครับ
ตรงจุดนี้ที่ผมไม่เข้าใจ...สมัยนี้ ไม่ว่า อะไรๆ มันก็ต้องมี "พวก" ครับ ไม่ว่าเวทีไหนๆก็ตาม...
หมดสมัย สะสม "อาวุธ" กันแล้วหนะผมว่า น่าจะสะสม "มิตร" ให้มากๆ ดีกว่า
ดูอย่างเขมร ก็ได้ ขึ้นศาลโลก ทีไร เราแพ้ เขา ทุกที.....เห้อ...

    บุรุษหน้าเหล็ก  ออฟไลน์
Posting Freak
*****
ลงทะเบียนเมื่อ: Jun 2010 | โพสต์ที่: 1,237
ความนิยม: 18 |
%%TYL_NUMTHANKEDLIKED%%
RE: บทสรุปของเครื่องบินรบ เมื่อไทยซื้อ saab JAS 39 Gripen มาเลเซียซื้อ SU-30MKM
ถ้าคิดจะโต้แย้งข้อมูลของท่าน Red Corner ก็กรุณาอย่ามั่วให้ผิดทางครับ

saab JAS 39 Gripen สมรรถภาพมันระดับเดียวกับ F5 จะเอาไปเทียบกับรุ่นใหญ่แบบ F 16
F15 หรือ SU-30 MK2V มันเทียบกันได้หรือครับ

การมาอ้างว่าประหยัด มันก็แ่ค่มั่วนิ่ม เหมือนกับเอาอัตรากินน้ำมันของมอเตอร์ไซด์ไปเทียบกับ
พวกรถซีดาน รถเล็กก็ย่อมประหยัดกว่า เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรือ ... พ.ศ.นี้ 2554 แล้วครับ

   Jubchay ออฟไลน์
RED Android
*****
ลงทะเบียนเมื่อ: Nov 2010 | โพสต์ที่: 1,187
ความนิยม: 7 |
%%TYL_NUMTHANKEDLIKED%%
RE: บทสรุปของเครื่องบินรบ เมื่อไทยซื้อ saab JAS 39 Gripen มาเลเซียซื้อ SU-30MKM
ไม่เถียงครับว่าสมถรรณะ Jas-39 นั้นสู้ F-16 ไม่ได้ Pay load ก็ต่ำกว่า
แต่ถ้าจะไปเอา SU-30 เกรงว่ากองทัพจะแบกรับค่าซ่อมบำรุงไม่ไหว
ไม่ได้ดูถูกกองทัพไทยนะครับ แต่เรื่องเงินนี่มักเป็นปัญหาจริงๆทั้งๆที่ได้งบประมาณไม่ใช่น้อยๆ

เรื่องการตัดสินใจซื้อเจ้านี่คงเป็นเรื่อง"ของแถม"มากกว่า
บันทึกการเข้า
ChongKo
Hero Member
*****

คะแนน -1176
ออฟไลน์

กระทู้: 1428


« ตอบ #17604 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 11:25:17 AM »

อันนี้จากเวปพันทิพย์
http://www.atriumtech.com/cgi-bin/hilightcgi?Home=/home/InterWeb2000&File=/home2/searchdata/Forums2/http/www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5929149/X5929149.html

ความคิดเห็นที่ 3   
ถ้าดูข้อมูลบนกระดาษแบบนี้.. F-16 C/D Block 52+ เหนือกว่าทุกด้านเลย
แต่ Gripen ที่มีข่าวกับไทยมันเป็นรุ่น C/D ใช่ไหมครับ..?
ข้อมูลบางอย่างน่าจะแตกต่างจากรุ่น A/B รึป่าวเอ่ย..?
จากคุณ : นายแพรว  - [ 18 ต.ค. 50 10:19:16 ]
 
ความคิดเห็นที่ 6   
อัตราไต่ (Climb Rate) ของ Gripen จะอยู่ที่ประมาณ 3 นาที เพื่อไปที่ความสูง 46,000 ฟุตครับ    .
http://www.fas.org/man/dod-101/sys/ac/row/gripen.htm
ช้ากว่า F-16 ไปแค่ 2 นาทีเท่านั้นเอง
จากคุณ : nunimitr  - [ 18 ต.ค. 50 11:25:14 ]

ความคิดเห็นที่ 7   
หุ หุ ท่าน nunimitr ครับ แค่สองนาทีนี้ เพื่อนที่บินอยู่ข้างบนหนีข้ามจังหวัดกันแล้วมั้งครับ
จากคุณ : HarD_TimE  - [ 18 ต.ค. 50 11:57:49 ]

ความคิดเห็นที่ 8   
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ดูจากสเป็คด้านการรบแล้ว F-16 C Block 50/52 ดูจะเหนือกว่าหน่อยๆ
จากคุณ : เกียงอุยศิษย์มังกรหลับ  - [ 18 ต.ค. 50 13:21:18 ]

ความคิดเห็นที่ 14   
F-16 รุ่นแรกๆ จะใช้เรดาห์ AN/APG-66 ซึ่งมีระยะตรวจจับประมาณ 150 Km
http://en.wikipedia.org/wiki/AN/APG-66
สำหรับรุ่นหลังๆ (F-16C,Block 25) จะเปลี่ยนไปใช้เรดาห์ AN/APG-68
ซึ่งมีระยะตรวจจับประมาณ 300 Km
http://en.wikipedia.org/wiki/AN/APG-68
ส่วน JAS-39 ใช้เรดาห์ PS-05/A มีระยะตรวจจับที่ 120 Km เท่านั้น
http://en.wikipedia.org/wiki/PS-05/A
จากคุณ : nunimitr  - [ 19 ต.ค. 50 10:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 23   
ข้อมูลผิดกันไกลเลยล่ะครับ
จากระดับสติปัญญาที่มี.....ผมเชื่อข้อมูลจาก AIR INTERNATIONAL มากกว่า TANGO 
แล้ว Link ที่คุณอ้างอิงน่ะ...มันเสียน่ะ....เข้าไปดูไม่ได้....พยายามหน่อยนะครับ
-----------------------------------------------------------------
อันนี้ข้อมูลของผม
Maximum effective detective Range
F-16 C/D
AN/APG-68 V5 : 70~80 km for RCS = 5m2 target
AN/APG-68 V9 : 90~105 km for RCS = 5m2 target
F-16 E/F
AN/APG-80 : 130km for RCS = 5m2 target
Su-27 S
N-001 : 80~100 km for RCS = 3m2 target
Su-27 SM
N-001 V : 135~150 km for RCS = 3m2 target
Su-30 MKK2
N-001 VEP : 90~110 km for RCS = 3m2 target
ที่มา : AIR INTERNATIONAL, 2004, Jan
http://www.f-16.net/f-16_forum_viewtopic-t-134-postdays-0-postorder-asc-start-15.html
จากคุณ : nunimitr  - [ 1 พ.ย. 50 15:06:18 ]
 
บันทึกการเข้า
แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« ตอบ #17605 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 11:35:42 AM »

 จริงๆผมก็ชอบซู๓๐นะครับแต่ ผมเคยอ่านเจอที่ไหนซักแห่งจำไม่ได้ เห็นเค้าบอกว่าเครื่องยนต์ของรัสเซียมีอายุการใช้งานตํ่าแต่ค่าซ่อมบำรุงสูงครับ อาจจะเป็นเพราะข้อนี้ด้วยมั้งครับจึงทำให้ทอ.ไม่เอา อีกอย่างถ้าเอาซู๓๐มาระบบอาวุธระบบอิเลคโทรนิคต่างๆการดูแลรักษาการสนับสนุนต่างๆสามารถใช้ร่วมกับของเก่าของเราได้ไหมครับ
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265


ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง


« ตอบ #17606 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 11:49:53 AM »

กรอบความคิดก็เหมือนเดิมมองเห็นอยู่แค่ปลายเท้าตัวเอง นึกว่าจะมีการพัฒนาอะไรบ้าง

1. สมมุติคนสองคนมีเงินคนล่ะ10ล้านบาท  คนนึงซื้อ BMW 525D ราคา4ล้านกว่า  กับอีกคนอยากแรงซื้อ BMW 640i ราคา9ล้านกว่า
แน่นอนว่า 640i ประสิทธิภาพโดยรวมดีกว่า แต่ถามว่าสองคนนี้ใครจะดูแลรถได้ดีกว่าตลอดอายุการใช้งานในงบประมาณส่วนที่เหลือ?

2. ทอ.จัดหาเครื่องบินขับไล่ใหม่เข้ามา "เพื่อทดแทน" F-5 ที่ปลดประจำการออกไป ไม่ได้ซื้อเพื่อ "ขยายกำลังรบ"
ซึ่งเครื่องที่ซื้อใหม่ประสิทธิภาพ รวมถึงความทันสมัยเหนือกว่าเครื่องบินรบที่ดีที่สุดที่มีอยู่คือ F-16 ADF

ปล.1 MIG-29 และ SU-30 เครื่องบินรบชั้นเยี่ยมของทอ.มาเล ในปัจจุบันมีสภาพความพร้อมรบเป็นอย่างไรบ้าง?
ปล.2 ที่ว่า JAS-39 เป็นรอง F-16 ในแทบทุกเรื่อง ขอดูตัวเลขหน่อยสิว่าเรื่องไหนบ้าง


จริงๆผมก็ชอบซู๓๐นะครับแต่ ผมเคยอ่านเจอที่ไหนซักแห่งจำไม่ได้ เห็นเค้าบอกว่าเครื่องยนต์ของรัสเซียมีอายุการใช้งานตํ่าแต่ค่าซ่อมบำรุงสูงครับ อาจจะเป็นเพราะข้อนี้ด้วยมั้งครับจึงทำให้ทอ.ไม่เอา อีกอย่างถ้าเอาซู๓๐มาระบบอาวุธระบบอิเลคโทรนิคต่างๆการดูแลรักษาการสนับสนุนต่างๆสามารถใช้ร่วมกับของเก่าของเราได้ไหมครับ

ผมก็ชอบครับ และชอบมากด้วยถ้าบ้านเรามีงบประมาณเหลือเฟือสำรองอะไหล่ได้มาก หรือสามารถตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนได้เหมือนอินเดีย
ปัญหาด้านอายุการใช้งานของเครื่องยนต์และการซ่อมบำรุงทั้งหลายของเครื่องบินค่ายรัสเซียก็จะหมดไป

ส่วนระบบอาวุธไม่สามารถใช้ร่วมกับของเดิมได้ครับ ต่างจาก JAS-39 ที่ใช้ระบบอาวุธของฝั่งตะวันตกได้ทั้งหมด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 22, 2014, 10:33:07 PM โดย อรชุน-รักในหลวง » บันทึกการเข้า
ChongKo
Hero Member
*****

คะแนน -1176
ออฟไลน์

กระทู้: 1428


« ตอบ #17607 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 12:37:13 PM »

กรอบความคิดก็เหมือนเดิมมองเห็นอยู่แค่ปลายเท้าตัวเอง นึกว่าจะมีการพัฒนาอะไรบ้าง

1. สมมุติคนสองคนมีเงินคนล่ะ10ล้านบาท  คนนึงซื้อ BMW 525D ราคา4ล้านกว่า  กับอีกคนอยากแรงซื้อ BMW 640i ราคา9ล้านกว่า
แน่นอนว่า 640i ประสิทธิภาพโดยรวมดีกว่า แต่ถามว่าสองคนนี้ใครจะดูแลรถได้ดีกว่าตลอดอายุการใช้งานในงบประมาณส่วนที่เหลือ?

2. ทอ.จัดหาเครื่องบินขับไล่ใหม่เข้ามา "เพื่อทดแทน" F-5 ที่ปลดประจำการออกไป ไม่ได้ซื้อเพื่อ "ขยายกำลังรบ"
ซึ่งเครื่องที่ซื้อใหม่ประสิทธิภาพโดยรวมรวมถึงความทันสมัยเหนือกว่าเครื่องบินรบที่ดีที่สุดที่มีอยู่คือ F-16 ADF

ปล.1 MIG-29 และ SU-30 เครื่องบินรบชั้นเยี่ยมของทอ.มาเล ในปัจจุบันมีสภาพความพร้อมรบเป็นอย่างไรบ้าง?
ปล.2 ที่ว่า JAS-39 เป็นรอง F-16 ในแทบทุกเรื่อง ขอดูตัวเลขหน่อยสิว่าเรื่องไหนบ้าง

ถ้าออก คคห โดยไม่แขวะคนอื่นได้ก็จะดีต่อสุขภาพจิตของตัวคุณเองนะครับ  Cool

1. เผอิญ BMW 640i ประเทศอื่นเค้าไม่ได้ซื้อที่ราคา 9ล้านนี่ครับ ราคาทั่วไปที่ขายกันมันต่ำกว่าที่ไทยซื้อ BMW 520 ราคา4ล้าน ประมาณ 50%  640i ราคาแค่ 2ล้าน เก็บ 2ล้านส่วนต่างไว้ดูแลรักษาได้สบายๆ แถมได้รถสมรรถนะสูงกว่าเยอะ ข้อนี้ตอบคุณแปจีหล่อไปด้วยเลยครับ ราคาที่รัสเซียเสนอขายซู30 แก่ไทย 12ลำ คือ 1.5 หมื่นล้าน เทียบกับราคากริปเปนที่เราซื้อ12 ลำ 3.5 หมื่นล้าน ผมตัดราคาเครื่อง AEW ให้ 3พันล้านก็ยังมีราคาถึง 3.2 หมื่นล้าน

2. อ้าว...ไหงเป็นงั๊น มีโอกาสซื้อของดี ราคาถูก กลับไปเลือกซื้อของสมรรถนะต่ำกว่าราคาแพงกว่า โดยอ้างว่า โอ๊ย...แค่นี้ก็ดีกว่าของที่ปลดประจำการไปแล้ว มันไม่สมเหตุสมผลสิครับ ประเทศต้องเจริญขึ้น ก้าวหน้าขึ้น เข้มแข็งขึ้น ในงบประมาณที่มีและเหมาะสมครับ


เว็ปอื่นที่คนเค้าคุยกัน ที่ผมแปะไว้ก็มีหลายความเห็นนี่ครับ เช่นอัตราไต่ F16 ดีกว่า , เรดาห์ดีกว่า น้ำหนักบรรทุก พิสัยบินดีกว่า ถ้าอยากได้รายละเอียดก็รอไปก่อนครับ ว่างๆจะจัดให้  Cheesy
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 14, 2013, 12:41:52 PM โดย ChongKo » บันทึกการเข้า
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #17608 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 01:01:03 PM »

  เห็นลอกข้อมูลมาจากเว๊บราชดำเนิน นั่นมันเป็นเว๊บเสื้อแดง ข้อมูลยังจะน่าเชื่อถือได้อีกหรือครับ ใส่อคติต่อทหาร บิดเบือนกันเต็มๆ
ไปเชื่ออะไรกะคนพวกนั้น เทียบกะคณะกรรมการจัดซื้อระดับนายทหารที่จบโรงเรียนนายร้อย. แล้วพวกนี้มีความรู้ทางอาวุธยุทธวิธีแค่ไหนกัน
เหมือนกะทุกทีที่มีการปะทะกะกองกำลังเพื่อนบ้าน พวกแนวหลังขาเชียร์ก็รู้มากจัง ทำไมไม่ทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ ถ้าทำตามนี้นะ เสร็จเราแน่นอน
ชนะแต่บนกระดานคีย์บอร์ดซิครับ เผลอๆ ให้พวกนี้ไปรบแทน ตายยกกองตั้งแต่คิดแล้ว ก็จบแค่พูดเอามันเฉยๆ

 คือผมก็ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องบินรบอะไรนะ รด. ไม่เคยเรียน เลยไม่อยากอะไรมาก ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำไปอย่างนั้นก็พอ
อย่างผมก็แค่ทำงานจ่ายภาษีให้กองทัพมีเงินไปซื้อาวุธเพียงพอในการต่อสู้ปกป้องอธิปไตย ส่วนสู้อย่างไร ทหารก็ชำนาญเรื่องเครื่องบินกว่า
รู้เรื่องอาวุธดีกว่า ผมทำงานดีกว่าไปพูดเรื่องคนอื่น
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265


ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง


« ตอบ #17609 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2013, 02:19:25 PM »

กรอบความคิดก็เหมือนเดิมมองเห็นอยู่แค่ปลายเท้าตัวเอง นึกว่าจะมีการพัฒนาอะไรบ้าง

1. สมมุติคนสองคนมีเงินคนล่ะ10ล้านบาท  คนนึงซื้อ BMW 525D ราคา4ล้านกว่า  กับอีกคนอยากแรงซื้อ BMW 640i ราคา9ล้านกว่า
แน่นอนว่า 640i ประสิทธิภาพโดยรวมดีกว่า แต่ถามว่าสองคนนี้ใครจะดูแลรถได้ดีกว่าตลอดอายุการใช้งานในงบประมาณส่วนที่เหลือ?

2. ทอ.จัดหาเครื่องบินขับไล่ใหม่เข้ามา "เพื่อทดแทน" F-5 ที่ปลดประจำการออกไป ไม่ได้ซื้อเพื่อ "ขยายกำลังรบ"
ซึ่งเครื่องที่ซื้อใหม่ประสิทธิภาพโดยรวมรวมถึงความทันสมัยเหนือกว่าเครื่องบินรบที่ดีที่สุดที่มีอยู่คือ F-16 ADF

ปล.1 MIG-29 และ SU-30 เครื่องบินรบชั้นเยี่ยมของทอ.มาเล ในปัจจุบันมีสภาพความพร้อมรบเป็นอย่างไรบ้าง?
ปล.2 ที่ว่า JAS-39 เป็นรอง F-16 ในแทบทุกเรื่อง ขอดูตัวเลขหน่อยสิว่าเรื่องไหนบ้าง

ถ้าออก คคห โดยไม่แขวะคนอื่นได้ก็จะดีต่อสุขภาพจิตของตัวคุณเองนะครับ  Cool

1. เผอิญ BMW 640i ประเทศอื่นเค้าไม่ได้ซื้อที่ราคา 9ล้านนี่ครับ ราคาทั่วไปที่ขายกันมันต่ำกว่าที่ไทยซื้อ BMW 520 ราคา4ล้าน ประมาณ 50%  640i ราคาแค่ 2ล้าน เก็บ 2ล้านส่วนต่างไว้ดูแลรักษาได้สบายๆ แถมได้รถสมรรถนะสูงกว่าเยอะ ข้อนี้ตอบคุณแปจีหล่อไปด้วยเลยครับ ราคาที่รัสเซียเสนอขายซู30 แก่ไทย 12ลำ คือ 1.5 หมื่นล้าน เทียบกับราคากริปเปนที่เราซื้อ12 ลำ 3.5 หมื่นล้าน ผมตัดราคาเครื่อง AEW ให้ 3พันล้านก็ยังมีราคาถึง 3.2 หมื่นล้าน

2. อ้าว...ไหงเป็นงั๊น มีโอกาสซื้อของดี ราคาถูก กลับไปเลือกซื้อของสมรรถนะต่ำกว่าราคาแพงกว่า โดยอ้างว่า โอ๊ย...แค่นี้ก็ดีกว่าของที่ปลดประจำการไปแล้ว มันไม่สมเหตุสมผลสิครับ ประเทศต้องเจริญขึ้น ก้าวหน้าขึ้น เข้มแข็งขึ้น ในงบประมาณที่มีและเหมาะสมครับ


เว็ปอื่นที่คนเค้าคุยกัน ที่ผมแปะไว้ก็มีหลายความเห็นนี่ครับ เช่นอัตราไต่ F16 ดีกว่า , เรดาห์ดีกว่า น้ำหนักบรรทุก พิสัยบินดีกว่า ถ้าอยากได้รายละเอียดก็รอไปก่อนครับ ว่างๆจะจัดให้  Cheesy

1. แหม่........... แม้กระทั่งการยกตัวอย่างก็ยังไม่รู้จัก  ตกใจ ตกใจ    ว่าแต่นี่นายอยู่เมืองไทยป่ะเนี่ยถึงไปอ้างอิงราคาจากที่อื่น  คิก คิก คิก คิก
แล้วก็ 640i บ้านเราราคา9ล้านกว่า เหลือเงินดูแลไม่ถึงล้านนะเฮ้ย ตกเลขรึเปล่า

2. อ่านภาษาคนไม่แตกอีกแล้ว กลับอ่านอ่านข้อ1อีกรอบไป  เงินซื้อของนะมีแต่มีพอจะดูแลในระยะยาวรึเปล่า
เครื่องบินรบอย่างน้อยก็ต้องประจำการเป็น10ปี คิดถึงงบประมาณในการบำรุงรักษาที่ต้องจ่ายหลังจากเข้าประจำการรึยัง?

3. คุยเรื่องเทคนิคเดี๋ยวก็หน้าแหกอีก

Rate of climb
F-16C Block 50/52  = 50,000 ft/min  (254 m/s)   (Thrust/Weight 1.05 // Maximum speed Mach 2.0)
JAS 39 Gripen C  = 50,000 ft/min  (254 m/s)   (Thrust/Weight 0.97 // Maximum speed Mach 2.0)

************************************************************
Radar
F-16C Block 50/52  RCS frontal view 1.2 sq.m.  ติดตั้งเรดาร์เรดาร์ AN/APG-68
Tracking Range RCS 15 sq.m. = 140 km. // 3 sq.m. = 80 km

JAS-39C  RCS frontal view 0.5 sq.m. ติดตั้งเรดาร์เรดาร์ PS-05/A พัฒนามาจาก Blue Vixen เป็นต้นแบบของ CAPTOR radar
Tracking Range RCS 15 sq.m. = 190 km. // 3 sq.m. = 90 km

************************************************************
Armament weight
F-16C Block 50/52  Empty weight = 8,570 kg  // Max. takeoff weight = 19,200 kg รวมบรรทุกบริภัณฑ์ได้ 10,630 kg
JAS-39C Empty weight = 6,800 kg  //  Max. takeoff weight = 14,000 kg รวมบรรทุกบริภัณฑ์ได้  7,200 kg

************************************************************
Combat radius
F-16C Block 50/52 = 550 km // Ferry range = 4,220 km with drop tanks
JAS-39C = 800 km // Ferry range = 3,200 km with drop tanks



ปล.1 MIG-29 และ SU-30 เครื่องบินรบชั้นเยี่ยมของทอ.มาเล ในปัจจุบันมีสภาพความพร้อมรบเป็นอย่างไรบ้าง?

ยังไม่ได้คำตอบ..................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 14, 2013, 02:43:22 PM โดย อรชุน-รักในหลวง » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 1171 1172 1173 [1174] 1175 1176 1177 ... 1487
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.191 วินาที กับ 22 คำสั่ง