เครื่องบินขับไล่ใหม่ กองทัพอากาศไทย

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

อนาคตข้างหน้า เครื่องบินจีนอาจได้ประจำการในไทย   

[แปจีหล่อ]

จีนทดสอบ ฮ. Black Hawk ขึ้นบินครั้งแรก

- เมื่อ 23 ธ.ค.56 ที่ผ่านมา จีนไดทดสอบบินครั้งแรกของเฮลิคอปเตอร์แบบ Harbin/Changhe Z-20

ซึ่งแสดงถึงความสำเร็จแห่งความมุ่งมั่นอันยาวนานของจีนในการพัฒนาเฮลิคอปเตอร์เอนกประสงค์ขนาด 10 ตัน

แบบเครื่องยนต์คู่ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเฮลิคอปเตอร์ Sikorsky S-70 เฮลิคอปเตอร์แบบ Z-20 มีรูปร่างคล้ายกับ

แบบจำลองของเครื่อง Z-20 ที่เคยนำมาแสดงครั้งแรกในงาน Zhuhai Airshow เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2549

โดยมีรูปร่างลำตัวคล้ายเฮลิคอปเตอร์แบบ S-70 ของสหรัฐอเมริกา แต่มีส่วนที่แตกต่างกันเล็กน้อย เช่น แกนหมุนหลัก

มี 5 ใบพัด แทน 4 ใบพัด และใบพัดที่ส่วนหางอยู่เยื้องไปทางท้ายลำตัวเครื่องมากกว่า ซึ่งเมื่อปี พ.ศ.2528 จีนเคยซื้อ

เครื่องเฮลิคอปเตอร์แบบ S-70C จำนวน 24 ลำ จากสหรัฐฯ แต่สหรัฐฯ ปฏิเสธการจัดหาอะไหล่ต่างๆ ให้กับจีน

ภายหลังเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อปี พ.ศ.2532  เครื่องต้นแบบ Z-20 ได้ติดตั้งเครื่องยนต์

แบบ Pratt & Whitney Canada PT6B-67B turboshaft จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งการใช้เครื่องยนต์รุ่นดังกล่าวได้เกิดกรณี

ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ทำการสอบสวนบริษัทผู้ผลิตในการละเมิดกฎหมายควบคุมการส่งออกอาวุธของสหรัฐฯ ในปี พ.ศ.2555

ดังนั้นในอนาคตเครื่อง Z-20 นี้จะเปลี่ยนมาติดตั้งเครื่องยนต์แบบ WZ-16 (Ardiden 3C) ขนาด 1,500 กิโลวัตต์

ซึ่งเป็นเครื่องยนต์จากการร่วมพัฒนาของบริษัท AVIC Engine ของจีน และบริษัท Turbomeca ของยุโรป โดยเครื่องยนต์

แบบ WZ-16 นี้จะถูกติดตั้งในเฮลิคอปเตอร์ขนาด 7 ตันแบบ Z-15/EC-175 ด้วย จากการร่วมพัฒนาระหว่าง

บริษัท Eurocopter และบริษัท AVIC Helicopter ของจีน  อย่างไรก็ตามเฮลิคอปเตอร์แบบ Z-20 จะถูกนำเข้าประจำการ

มากกว่าเฮลิคอปเตอร์แบบ Z-15 ในกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) จากความสำเร็จของเฮลิคอปเตอร์แบบ S-70C

ที่เคยใช้ในกองทัพบกและกองทัพอากาศของ PLA   นอกจากนี้กองทัพเรือของ PLA ยังมีความสนใจเครื่องรุ่นนี้เพื่อใช้

ในการปฏิบัติการต่อต้านเรือดำน้ำ เนื่องจากมีระยะทำการและน้ำหนักบรรทุกที่มากกว่าเฮลิคอปเตอร์แบบ Z-9C

ที่ประจำการอยู่ในปัจจุบัน/Jane’s

http://dtad.dti.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=481:defence-news-around-the-world-6-10-jan2014&catid=3:defense-news&Itemid=3

แน่นอนจริงๆ

ก๊อปได้ทุกอย่างแบบนี้น่ากลัวว่าผู้นำชาติต่างๆที่เคยไปเยือนจีน ตอนนี้ที่เราเห็นอาจจะเป็นตัวปลอมที่จีนก๊อปไว้ก็ได้นะครับ

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

อินโดนีเซียและเกาหลีใต้ร่วมดำเนินโครงการเครื่องบินขับไล่ KFX

- เมื่อ 7 ม.ค.57 ที่ผ่านมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของฟิลิปปินส์กล่าวว่า อินโดนีเซียกับเกาหลีใต้

ตกลงร่วมกันดำเนินโครงการเครื่องบินขับไล่ Korean fighter jet project Fighter Xperiment (KFX)

/โครงการ Indonesian Fighter Xperiment ( IFX )  โครงการนี้เริ่มตั้งแต่ ปี พ.ศ.2555 โดยเดือนธันวาคม

ในปีเดียวกันโครงการประสบความสำเร็จในการดำเนินการในขั้นตอนแรก คือ ขั้นตอนการพัฒนาเทคโนโลยี

(Technology Development Phase: TD) และอินโดนีเซียได้ส่งวิศวกร จำนวน 37 คน ไปยังเกาหลีใต้

ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมของอินโดนีเซีย ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงความร่วมมือในโครงการดังกล่าว

แต่อย่างใดแต่โครงการเกิดความล่าช้า อันเนื่องมาจากเกาหลีใต้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลและรัฐสภาชุดใหม่ 

เมื่อ 3 ม.ค.57 รัฐบาลเกาหลีใต้ชุดใหม่มีหนังสือมายืนยันในการร่วมดำเนินโครงการนี้ต่อและได้จัดสรรงบประมาณ

ประจำปี พ.ศ.2558 ให้สำหรับโครงการนี้ จำนวน 20 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และให้อินโดนีเซียออกงบประมาณ

จำนวน 5 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งปี พ.ศ.2558 จะมีการดำเนินการในขั้นตอนการพัฒนาสู่การผลิต ดังนั้นปี พ.ศ.2557

อินโดนีเซียจะเตรียมความพร้อมบุคลากรด้านวิศวกรรม รวมทั้งมีการตั้งศูนย์การออกแบบ ณ เมือง Bandung

เครื่องบินขับไล่ HFX เป็นเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4.5 หรือเทียบเท่ากับเครื่องบินขับไล่ F-18 ของสหรัฐอเมริกา

เครื่องบินขับไล่ HFX จะเป็นเครื่องบินขับไล่ที่ทันสมัยกว่าเครื่องบินขับไล่ F-16 และ Sukhoi รวมทั้งเครื่องบินขับไล่

ที่อินโดนีเซียมีประจำการอยู่/defense-studies.blogspot.com

http://dtad.dti.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=482:defence-news-around-the-world-13-17-jan2014&catid=3:defense-news&Itemid=3

[Yut64]

TAI อยู่ไหนรีบไปแจมกับเขาไวๆ ขอรับเหมางานซ่อมก็ยังดี

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

TAI อยู่ไหนรีบไปแจมกับเขาไวๆ ขอรับเหมางานซ่อมก็ยังดี

จะว่าไป  ก็น่าร่วมหุ้่นกันเค้าจริง ๆ 

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

อิรัคสั่งซื้อเครื่องบินFA-50จากเกาหลีใต้จำนวน24ลำในวงเงิน1.1พันล้านเหรียญ



อิรัคสั่งซื้อเครื่องบินFA-50จากเกาหลีใต้จำนวน24ลำในวงเงิน1.1พันล้านเหรียญ อ่านจากข่าวอิรัคซื้อเครื่องบินFA-50s จำนวน24ลำโดยใช้ชื่อรุ่นT-50IQ เพื่อนำมาเป็นเครื่องบินฝึกขั้นสุงสำหรับ F-16IQ ของเขา สำหรับวงเงินผมยังสับสนอยู่เล็กน้อยเพราะอิรัคเซ็นสัญญากับKAIที่ประมาณ2พันล้านเหรียญสำหรับเครื่องบินและการสนับสนุนทุกอย่างในเวลา20ปีเต็ม แต่ถ้าคิดเฉพาะราคาเครื่องที่เกาหลีใต้และฟิลิปปินส์(กำลังจะ)สั่งซื้อ FA-50 ที่เป็นรุ่นแพงสุดของตระกูลราคาประมาณ28-30ล้านเหรียญ สงสัยอิรัคจะเหมาหมดตั้งแต่การฝึกบินตั้งแต่เริ่มต้นการใฝึกใช้อาวุธจรวดไปจนถึงการซ่อมบำรุงเลยมั้งครับ

Iraq has signed a $1.1 billion contract for 24 Korea Aerospace Industries T-50 advanced jet trainers, giving the South Korean firm its second international customer for the type. The deal was signed between Iraqi government officials and senior officials from KAI on 12 December. “I am thankful to the Iraqi government to purchase the T-50 aircraft,” says Ha Sung-yong, president and chief executive of KAI. “I think that the T-50 is the most optimal aircraft suitable for Iraq’s military operations. We will make our utmost efforts to support the Iraqi air force and ensure the smooth operation of the T-50.” The first aircraft will be delivered in April 2016, with all 24 to be transferred within a 12-month period. The deal also covers training for Iraqi pilots, while KAI will provide follow-on support for the fleet for 20 years, bringing the entire value of the contract to over $2 billion. Iraq will use the designation T-50IQ for its aircraft. A source close to the deal, however, says the T-50IQ will actually be based on the most advanced version of the T-50, the FA-50, which can serve both as an advanced jet trainer and light attack aircraft. The FA-50 now being delivered to South Korea’s air force (below) is equipped with the Link 16 tactical data link, as well as a mechanically scanned array radar, radar warning receiver and a night vision imaging system. It is capable of carrying 4,500kg (9,910lb) of weapons, has a 20mm cannon and can carry air-to-air missiles. All T-50 variants are powered by the General Electric F404 engine. The T-50 beat the Aero Vodochody L-159, BAE Systems Hawk 128 and Irkut-built Yakovlev Yak-130 for the Iraqi requirement. It will be used to prepare pilots for Baghdad's on-order fleet of Lockheed Martin F-16IQ fighters. KAI, which last year made its first export deliveries of the T-50 to Indonesia, has current sales campaigns for the type in Botswana, Chile and the Philippines. The aircraft will also compete in the US Air Force’s future T-X competition to replace the Northrop T-38, with the model to be offered in conjunction with development partner Lockheed.

http://ordnancefighter.blogspot.com/2013/12/fa-502411.html

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

ทัพฟ้าหมีขาวจัดหนัก ได้รับ Mi-28N อีก 10 ลำ

27 ธ.ค.2013 กองทัพอากาศรัสเซียได้รับเฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-28N อีก 10 ลำ จากที่ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ได้รับ Ka-52 ไปแล้วจำนวน 14 ลำ


Mi-28N ชุดใหม่นี้ได้ถูกส่งเข้าประจำการในฐานทัพอากาศ Veretye ในภูมิภาคตะวันตกซึ่งตามแผนพัฒนากองทัพรัสเซียได้สั่งซื้อฮ.รุ่นนี้เข้าประจำการกว่า 250 ลำ โดยในปีนี้รัสเซียได้รับ

เฮลิคอปเตอร์แบบต่างๆเข้าประจำการจำนวนกว่า 100 ลำ



http://ordnancefighter.blogspot.com/2014/01/mi-28n-10.html

[Yut64]

สงสัยเยอรมันต้องกลับมาพัฒนาเครื่องแบบ A Jet อีกแล้วมั้ง A Jet ถูกออกแบบมาใช้จัดการกับ ฮ. ประเภทนี้ของกลุ่ม  Warsaw pack เมื่อก่อน

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

Club-K Container Missile System หรือ Club-K เป็นระบบขีปนาวุธที่ออกแบบมาสำหรับต่อต้านเรือผิวน้ำและโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดิน

    Club-K Container Missile System หรือ Club-K เป็นระบบขีปนาวุธที่ออกแบบมาสำหรับต่อต้านเรือผิวน้ำ
และโจมตีเป้าหมาย ภาคพื้นดิน โดยระบบทั้งหมดจะออกแบบมาในรูปแบบตู้คอนเทเนอร์สินค้าขนาดมาตรฐาน
40 ฟุต ตกแต่งภายนอกให้เหมือนตู้คอนเทเนอร์บรรทุกสินค้าปกติทั่ว ไป ซึ่งผู้สังเกตุจะไม่สามารถรู้ได้ว่ามันคือ
ระบบยิงขีปนาวุธโดยการดูจากภายนอก มันสามารถปฏิบัติการได้ด้วยการติดตั้งไปกับรถบรรทุกธรรมดา
รถไฟขนส่งสินค้า และเรือบรรทุกสินค้า Club-K มีระบบประกอบด้วย

-ระบบควบคุมการยิง
-แท่นยิงจรวดแนวดิ่ง 1 ตู้มี 4 แท่น (1ชุดยิงมี 2 ตู้เป็นอย่างน้อย)
-ระบบการจัดการโจมตี สื่อสาร และระบบนำทางซึ่งสามารถใช้ระบบนำทางจากดาวเทียม
-ระบบขนและบรรจุจรวด

    ซึ่งระบบทั้ง หมดถูกออกแบบมาในรูปแบบคอนเทเนอร์ทั้งหมด มีราคาตู้ละ 8.5ล้านดอลล่าห์สหรัฐ ใช้ยิงขีปนาวุธ
จรวดร่อนแบบ 3M-54KE, 3М-54KE1, KH-35UE สำหรับต่อต้านเรือผิวน้ำและแบบ 3M-14KE, KH-35UE
สำหรับโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดิน Club-K เปิดตัวครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2010 และจัดแสดงครั้งแรกเมื่อปี 2011
ในงาน MAKS Airshow ที่กรุงมอสโก ปัจจุบันถูกผลิตเข้าประจำการในกองทัพรัสเซียโดยไม่ได้ระบุจำนวน และอิหร่าน
ได้สั่งซื้อไปใช้อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้นยังมีอีกหลายประเทศให้ความสนใจทั้งแอลจีเรียและเวเนซุเอล่าครับ





http://ordnancefighter.blogspot.com/2014/01/club-k-container-missile-system-club-k.html

[อรชุน-รักในหลวง]

Club-K Container Missile System หรือ Club-K เป็นระบบขีปนาวุธที่ออกแบบมาสำหรับต่อต้านเรือผิวน้ำและโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดิน

    Club-K Container Missile System หรือ Club-K เป็นระบบขีปนาวุธที่ออกแบบมาสำหรับต่อต้านเรือผิวน้ำ
และโจมตีเป้าหมาย ภาคพื้นดิน โดยระบบทั้งหมดจะออกแบบมาในรูปแบบตู้คอนเทเนอร์สินค้าขนาดมาตรฐาน
40 ฟุต ตกแต่งภายนอกให้เหมือนตู้คอนเทเนอร์บรรทุกสินค้าปกติทั่ว ไป ซึ่งผู้สังเกตุจะไม่สามารถรู้ได้ว่ามันคือ
ระบบยิงขีปนาวุธโดยการดูจากภายนอก มันสามารถปฏิบัติการได้ด้วยการติดตั้งไปกับรถบรรทุกธรรมดา
รถไฟขนส่งสินค้า และเรือบรรทุกสินค้า Club-K มีระบบประกอบด้วย

-ระบบควบคุมการยิง
-แท่นยิงจรวดแนวดิ่ง 1 ตู้มี 4 แท่น (1ชุดยิงมี 2 ตู้เป็นอย่างน้อย)
-ระบบการจัดการโจมตี สื่อสาร และระบบนำทางซึ่งสามารถใช้ระบบนำทางจากดาวเทียม
-ระบบขนและบรรจุจรวด

    ซึ่งระบบทั้ง หมดถูกออกแบบมาในรูปแบบคอนเทเนอร์ทั้งหมด มีราคาตู้ละ 8.5ล้านดอลล่าห์สหรัฐ ใช้ยิงขีปนาวุธ
จรวดร่อนแบบ 3M-54KE, 3М-54KE1, KH-35UE สำหรับต่อต้านเรือผิวน้ำและแบบ 3M-14KE, KH-35UE
สำหรับโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดิน Club-K เปิดตัวครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2010 และจัดแสดงครั้งแรกเมื่อปี 2011
ในงาน MAKS Airshow ที่กรุงมอสโก ปัจจุบันถูกผลิตเข้าประจำการในกองทัพรัสเซียโดยไม่ได้ระบุจำนวน และอิหร่าน
ได้สั่งซื้อไปใบ้อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้นยังมีอีกหลายประเทศให้ความสนใจทั้งแอลจีเรียและเวเนซุเอล่าครับ

แจ๋วเลย  เปลี่ยนเรือสินค้าให้เป็นเรือติดอาวุธกันได้ง่ายๆ

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

Military Technology Lover Forum

new multi-purpose fighters Su-30SM made for the Russian Air Force.

กองทัพอากาศรัสเซียได้รับมอบเครื่องบิน Su-30SM

IRKUT Corporation บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของรัสเซียได้เริ่มทยอยส่งมอบเครื่องบิน Su-30SM ให้กองทัพอากาศรัสเซีย โดยชุดแรกได้ถูกทะยอยส่งมอบตั้งแต่ปลายเดือน ธันวาคม 2555 ตามสัญญาที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ลงนามกับ IRKUT Corporation เมื่อเดือน มีนาคม 2555 และ ธันวาคม 2555 ที่กำหนดให้ส่งมอบเครื่องบิน Su-30SM เป็น 2 ชุดๆ ละ 30 เครื่อง โดยกองทัพอากาศรัสเซียจะได้รับครบทั้งหมดตามจำนวน 60 เครื่อง ภายในปี 2559

จากการแถลงของกระทรวงกลาโหมรัสเซียว่า เครื่องบิน Su-30SM เป็นเครื่องบินรบ 2 ที่นั่งที่ทันสมัย สามารถปฏิบัติได้ในหลายภารกิจ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งอย่างมากให้กับกองทัพอากาศรัสเซีย เพราะสามารถทำการรบในอากาศ รวมทั้งสามารถโจมตีเป้าหมายภาคพื้นและในทะเลได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่ทันสมัยของเครื่องบิน Su-30SM จะช่วยสร้างโอกาสในการฝึกฝนและยกระดับความสามารถนักบินให้สูงขึ้น เพื่อจะปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งต่างๆ ที่หลากหลายตามรูปแบบการรบสมัยใหม่ นอกจากนี้ เครื่องบินรบยุคที่ 5 แบบ T-50 และแบบ Su-35 ที่กองทัพอากาศรัสเซียได้สั่งซื้อไปล่าสุดนั้นเป็นเครื่องบินแบบที่นั่งเดียว ดังนั้นเครื่องบิน 2 ที่นั่งแบบ Su-30SM จะช่วยเติมเต็มช่องว่างในการฝึกของนักบินระหว่างเครื่องบินฝึก Yak-130 กับเครื่องบินรบสมัยใหม่ เช่นแบบ T-50

เครื่องบิน Su-30SM เป็นความสำเร็จในการพัฒนาต่อยอดไปอีกขั้นของตระกูลเครื่องบินรบที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดี ต่อเนื่องจากรุ่นก่อนหน้านี้ คือ เครื่องบิน Su-30MKI ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชาวรัสเซียกล่าวว่า รูปทรงภายนอกที่ถูกออกแบบอย่างชาญฉลาดของเครื่องบิน Su-30SM จะคล้ายกับเครื่องบิน Su-30MKM ของกองทัพอากาศมาเลเซีย

ผู้แทนของ IRKUT Corporation ได้เปรียบเทียบเครื่องบิน Su-30SM กับแบบ Su-30MKI และ Su-30MKM ซึ่งเป็นรุ่นที่ผลิตเพื่อการส่งออก ว่าได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบต่างๆ รวมทั้งระบบเรดาร์และระบบสื่อสาร และมีรายงานว่าระบบอาวุธของ Su-30SM ก็แตกต่างจาก Su-30MKI โดยทาง Sukhoi Design Bureau ผู้ออกแบบและพัฒนาเครื่องบิน Su-30 ได้ทำการเปลี่ยนแปลงระบบต่างๆ เหล่านี้ เพื่อให้ตรงตามความต้องการใช้งานของกองทัพอากาศรัสเซีย ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญชาวรัสเซียกล่าวว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้เลือกแนวทางที่จะเป็นไปได้ในการเพิ่มขีดความสามารถในอนาคต และได้มีการอ้างถึงการเจรจาพูดคุยระหว่างรัสเซียและอินเดีย ในการที่จะอัพเกรด Su-30MKI ในโครงการ “Super 30”

รายละเอียดของโครงการนี้ยังไม่ได้เป็นที่เปิดเผย แต่เป็นที่ทราบกันว่าเครื่องบินรบรุ่นใหม่นี้จะถูกออกแบบให้สามารถติดตั้งระบบเรดาร์แบบ Active Electronically Scanned Array หรือ AESA ซึ่งข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันจาก Yuri Bely ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tikhomirov Instrument Making Research Institute ในระหว่างงาน LIMA’2013 ซึ่งสถาบันชั้นนำของ Sukhoi Design Bureau แห่งนี้ได้เคยพัฒนาแถบ (Bars) เรดาร์ที่ติดตั้งบนเครื่องบิน Su-30MKI/MKM/SM และในปัจจุบันกำลังพัฒนาระบบเรดาร์ AESA สำหรับเครื่องบินยุคที่ 5 เช่นแบบ T-50

การพัฒนาอีกส่วนหนึ่งของ Su-30MKI คือการติดตั้งขีปนาวุธระยะไกลแบบ BrahMos ในช่วงปลายปี 2555 บริษัท BrahMos JV และ Rosoboronexport State Corporation ได้ลงนามในสัญญาที่จะติดตั้งขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง (Supersonic Missile) ให้กับเครื่องบิน Su-30MKI ซึ่งสัญญานี้จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถในการรบของเครื่องบิน Su-30MKI ให้ได้ตามความคาดหวัง ทั้งในด้านศักยภาพของเครื่องบินและขีปนาวุธ



คุณลักษณะและขีดความสามารถของเครื่องบิน Su-30

ประเภท : Multi-role Fighter Aircraft

จำนวนนักบิน : 2 นาย

น้ำหนักบรรทุก : 5,300 กก.

ความยาว : 21.935 ม.

กางปีก : 14.7 ม.

ความสูง : 6.36 ม.

พื้นที่ปีก : 62.0 ตร.ม.

น้ำหนักตัวเปล่า : 18,400 กก.

น้ำหนักเมื่อโหลด : 24,900 กก.

น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด : 34,500 กก.

เครื่องยนต์ : 2 × AL-31FL Turbo Fan Engine with After Burner

ความเร็วสูงสุด : Mach 2.0 (2,120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

เพดานบิน : 17,300 ม.

รัศมีปฏิบัติการ : 1,620 ไมล์ทะเล (ประมาณ 3,000 กม.)



ระบบอาวุธของ Su-30MKM :

ขีปนาวุธ Air to Air Active Radar Seeker (R77RVV-AV)

ขีปนาวุธ Air to Air IR Seeker (R-73E)

ขีปนาวุธ Air to Air Semi Active Radar Seeker (R-27ER1)

ขีปนาวุธ Air to Surface TV Seeker (KH-29TE)

ขีปนาวุธ Air to Surface TV Guide (KH-59ME)

ขีปนาวุธ Air to Surface Radar Seeker (KH-29L)

ขีปนาวุธ Air to Surface Passive Radar Seeker (KH-31P)

ขีปนาวุธ Anti Shipping Active Radar Seeker (KH-31A)

ระเบิด OFAB 100-120

ระเบิด TV Seeker Guide Bomb AB500KR

ระเบิด TV Seeker Guide Bomb AB500OD

จรวด 80 mm Calibre (S-8 KOM)

ปืนใหญ่อากาศจีเอสเอช-30-1 ขนาด 30 มม. 1 กระบอกพร้อมกระสุน 150 นัด (GSH-30-1 Cannon-30 MM)

อ้างอิง :
วารสาร ADJ Today (Asian Defence Journal) Issue#1 ฉบับวันที่ 26 มีนาคม 2556 หน้าที่ 16 ในงาน LIMA’13 Lankawi, Malaysia
http://www.ausairpower.net/APA-Flanker.html
http://www.airliners.net/photo/Malaysia---Air/Sukhoi-Su-30MKM/1628398/L/
http://korearms.egloos.com/904585
http://world.kapook.com/pin/512ef8be38217ae357000003

ข้อมูลอ้างอิง http://dtad.dti.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=410%3Asu-30sm-&catid=33%3Afighting-vehicle-tech&Itemid=16

[Yut64]

เอามาใช้เมืองไทยไม่ใช่เปลืองน้ำมันอย่างเดียวนะ เปลืองกำลังพลด้วยใช้นักบินสองคน  เท่ากับรร.กบ. ต้องผลิตปีละ 120 จากปัจจุบัน 60 ขั้นต่ำ คิอย่างนี้ถูกไหมนี่ 

[อรชุน-รักในหลวง]

เอามาใช้เมืองไทยไม่ใช่เปลืองน้ำมันอย่างเดียวนะ เปลืองกำลังพลด้วยใช้นักบินสองคน  เท่ากับรร.กบ. ต้องผลิตปีละ 120 จากปัจจุบัน 60 ขั้นต่ำ คิอย่างนี้ถูกไหมนี่  

เครื่องบินรบตระกูลSU-30 เป็นเครื่องบินขับไล่เอนกประสงค์ สามารถทำภารกิจทิ้งระเบิดและโจมตีทางลึกได้ นอกจากนี้ยังใช้เป็นเครื่องฝึกบินด้วย
จึงจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่2คน คือนักบินและเจ้าหน้าที่ระบบอาวุธ  เช่นเดียวกับ F-16B/D/F  ครับ

[mrt]

ณลักษณะและขีดความสามารถของเครื่องบิน Su-30

ประเภท : Multi-role Fighter Aircraft

จำนวนนักบิน : 2 นาย

น้ำหนักบรรทุก : 5,300 กก.
.
.
.
รัศมีปฏิบัติการ : 1,620 ไมล์ทะเล (ประมาณ 3,000 กม.)


ติดอาวุธ 5 ตัน  บินได้ระยะ 6000 กม.  มีพร้อมรบไว้ 1 ฝูงนี่ดุลย์อำนาจเปลี่ยนแน่ โจมตีทางลึก  ครองอากาศ  สกัดกั้น ทำได้เยี่ยมทั้งหมด      

[black-army]

     เอากับเขาบ้าง...........รุ่นไหน..............ประจำการเมื่อไหร่...........สร้างจำนวนกี่ เครื่องครับ