เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 28, 2024, 04:30:22 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 1215 1216 1217 [1218] 1219 1220 1221 ... 1487
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่องบินขับไล่ใหม่ กองทัพอากาศไทย  (อ่าน 3884994 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 14 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #18255 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2014, 02:22:32 PM »

ใช่ตัวทำให้สับสนคราวที่แล้วเขายังบอกว่าผมไปเชียงรายจนเริ่มจะเชื่อว่าไปเชียงรายจริงไม่ใช่เชียงใหม่
เอ้าก็บอกให้ทายไม่ใช่ให้ตอบ ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #18256 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2014, 02:22:59 PM »

ตรงกลางมีรางแบบเลื่อนได้หรือปล่าวครับ Grin

    มาแหละ ขามั่วประจำห้อง     Grin  Grin  Grin
แน่จริงตอบสิ แลบลิ้น
บันทึกการเข้า

~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #18257 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2014, 10:48:59 PM »

การป้องกันแผ่นดินเกิด – อนาคตการป้องกันภัยทางอากาศของญี่ปุ่นและไต้หวัน

    ภาพการปรากฎของเรือบรรทุกเครื่องบินของจีนก่อให้ เกิดความสับสนอลหม่านไปทั่วทั้งมหาสมุทรแปซิฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาประเทศที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีการป้องกันประเทศและยุ ทโธปกรณ์ขนาดใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ในการอวดโฉมของเรือบรรทุกเครื่องบินจีนซึ่งขณะนี้เป็นรอบที่สองในการทดลอง เดินเครื่องในทะเล ทำให้กลุ่มประเทศในภาคพื้นแปซิฟิกเริ่มหาแนวทางในการป้องกันภัยทางอากาศด้วย ความเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไต้หวันและญี่ปุ่นซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดในการปรับ ปรุงเครื่องบินขับไล่เพื่อการครองอากาศที่มีอยู่

เมื่อต้นปีนี้เองประธานาธิบดีโอบามาตอบปฏิเสธการสั่งซื้อเครื่องบิน F-16 C/D ใหม่ 66 ลำ ของไต้หวันเพื่อทดแทนฝูงบินขับไล่ F-16 A/B และ F-5 ซึ่งมีอายุการใช้งานมายาวนาน รัฐบาลของประธานาธิบดีโอบามากลับยื่นข้อเสนอในการปรับปรุงฝูงบินขับไล่ F-16 รุ่น A/B แทน โครงการปรับปรุงมูลค่า 5.85 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ นี้ จะทำให้ไต้หวันได้เครื่องบิน F-16 รุ่นเก่า แต่มีขีดความสามารถขั้นสูงเทียบกับรุ่น C/D ด้วยการปรับปรุงระบบเรดาร์ อุปกรณ์สื่อสารภาคอากาศ และระบบอาวุธ ไต้หวันเองรีบตอบรับข้อเสนอการปรับปรุงเครื่องบิน F-16 รุ่นเก่านี้ในทันที

น่าเสียดายที่โครงการปรับปรุงตามแผนงานที่วางไว้นี้ช่วยลดปัญหา “การให้ฝูงบิน F-16 รุ่นเก่า ขึ้นบินได้” เพียงน้อยนิด จนถึงขณะนี้ทั้ง F-16 A/B และ F-5 เป็นเครื่องบินใกล้เกษียณอายุเนื่องจากตรากตรำปฏิบัติภารกิจมายาวนานเกิน กว่าอายุการใช้งานที่วางไว้ เครื่องบิน F-16 มีอายุการใช้งานย้อนหลังไปถึงปี ค.ศ.1992 และเครื่องบิน F-5 เป็นเครื่องบินในยุคสงครามเวียดนามซึ่งปัจจุบันใช้ประโยชน์ได้น้อยมากยกเว้น เพียงการฝึก ไต้หวันต้องเผชิญกับปัญหาเครื่องบินตกและมาตรฐานการบินต่ำซ้ำซาก ซึ่งกลายเป็นเครื่องบ่งชี้ในขณะนี้ว่าอากาศยานมีอายุการใช้งานยาวนานมากแล้ว ต้องการการบำรุงรักษาโดยต่อเนื่องและยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งก่อให้เกิด อุบัติเหตุจากอากาศยานแม้ในยามปฏิบัติภารกิจปกติ

ความพยายามของไต้หวันที่จะผลิตเครื่องบินรบเพื่อการครองอากาศด้วยตนเองเป็น ผลให้ได้เกิดเครื่องบินจำนวน 130 ลำ แต่เมื่อพิสูจน์แล้วกลับพบว่ามีขีดความสามารถต่ำกว่าที่ต้องการ ด้วยความช่วยเหลือจากทางเทคโนโลยีป้องกันประเทศจากสหรัฐฯ ความคิดแรกเริ่มเป็นแนวคิดที่มาพร้อมกับคำมั่นสัญญาที่มีเหตุผลน่าเชื่อถือ ในการส่งมอบเครื่องบินขับไล่ผลิตในประเทศ และตรงความต้องการในการป้องกันภัยทางอากาศของประเทศ แต่โครงการนี้กลับประสบอุปสรรคเนื่องจากไต้หวันถูกบีบให้ตัดเครื่องยนต์แรง ขับสูงออกจากโครงการ เครื่องยนต์ดังกล่าวนี้มีความจำเป็นในการสร้างเครื่องบินให้เป็นยุทโธปกรณ์ ซึ่งเป็นภัยคุกคามเมื่อทำการรบอย่างแท้จริง การยื่นข้อเสนอของสหรัฐฯ นี้เองที่แนวคิดการปรับปรุงเครื่องบินขับไล่ใหม่จะกลายเป็นจริง และอาจจะทำให้ไต้หวันมีเครื่องบินขับไล่เพื่อการครองอากาศผลิตในประเทศเอง ได้ในที่สุด นอกจากนี้ ไต้หวันยังแสดงความจำนงค์ออกมาตรงๆ ว่าจะจัดซื้อเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์รุ่น F-35 แต่มีความเป็นไปได้น้อยมากที่ไต้หวันจะได้เครื่องบิน F-35 มาอยู่ในฝูงบินขับไล่ในระยะเวลาอันใกล้นี้

ด้วยเหตุที่การจัดหาเครื่องบิน F-16 รุ่นใหม่ของไต้หวันในระยะเวลาอันใกล้นี้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างต่ำ การจัดซื้อเครื่องบิน F-35 ก็ไม่ต่างไปจากความฝัน ขีดความสามารถของไต้หวันในการป้องกันน่านฟ้าต่อต้านการขับไล่ทางอากาศของจีน จึงเป็นไปอย่างจำกัดยิ่ง แต่ไต้หวันอาจมีขีดความสามารถในการต้อนรับกำลังทางอากาศของจีนได้พอสมควร เมื่อมีการสู้รบเกิดขึ้นจริงจากการปรับปรุงสมรรถนะของเครื่องบิน F-16 รุ่นเก่า

ในขณะที่ไต้หวันถูกบีบให้รับอะไรก็ตามที่พอจะรับได้เพื่อปรับปรุงขีดความ สามารถในการป้องกันภัยทางอากาศของตน ญี่ปุ่นเองยังคงตัดสินใจไม่ได้ว่าต้องการเครื่องบินรุ่นไหนมาแทนเครื่องบิน ขับไล่ F-4EJ F-2 และ F-15J ที่จะพังมิพังแหล่ อุบัติเหตุและการหยุดบินหลายๆ ครั้งที่ผ่านมาเผยให้เห็นฝันร้ายของฝูงบินญี่ปุ่นในการบำรุงรักษาให้เครื่อง บินขับไล่ลอยลำอยู่ได้ ที่แตกต่างจากไต้หวันคือญี่ปุ่นเป็นชาติเอกราชไม่มีข้อจำกัดทางการเมืองมา บีบบังคับ อีกทั้งการเลือกซื้อเครื่องบินขับไล่ยังปลอดจากแรงบีบทั้งจากสหรัฐฯ และจีน จึงเป็นอิสระที่จะทำสัญญากับประเทศไหนก็ได้เพื่อจัดหาเครื่องบินที่เหมาะสม ที่สุดและตรงกับความต้องการในการป้องกันภัยทางอากาศของตน ยกเว้น F-22 Raptor ของ Lockheed Martin ซึ่งสหรัฐฯ ยังไม่พร้อมจะให้ชาติอื่นใช้ร่วม

เครื่องบิน F-4EJ Kai Phantom ของญี่ปุ่นประจำการมาตั้งแต่ต้น ค.ศ.1970 และมีอายุยาวนานเกินกว่าประโยชน์ในทางปฏิบัติการของเครื่องแล้ว เครื่องบิน F-15J ประจำการมาตั้งแต่ต้น ค.ศ.1980 และแน่นอนว่าอายุมากแล้วเช่นกัน สายการผลิตของเครื่องบิน F-2 สิ้นสุดลงเมื่อเครื่องบินลำสุดท้ายถูกส่งมอบเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ.2011 ฝูงบินเหล่านี้ชำรุด หมดอายุ และล้าสมัยแล้ว

ใน ค.ศ.2010 ทั้งจีนและรัสเซียระดมการทดสอบการป้องกันภัยทางอากาศของญี่ปุ่นด้วยการ รุกล้ำเข้าไปในน่านฟ้าญี่ปุ่นหลายร้อยครั้ง – ถือว่าเป็นจำนวนเที่ยวบินไม่ได้รับอนุญาตมากครั้งที่สุดนับตั้งแต่ ค.ศ.1991 กองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศแห่งญี่ปุ่น (Japanese Air Self Defense Force หรือ JASDF) ถูกต้อนจนหลังชนฝาแล้วในความพยายามที่จะต่อกรกับความท้าทายใน ค.ศ.2010 นี้ และผลลัพธ์สุดท้ายคงไม่ใช่ที่มาในการเฉลิมฉลองอย่างแน่นอน อุบัติเหตุที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ของปฏิบัติการทางอากาศของ JASDF ยิ่งซ้ำเติมให้ปัญหาการบำรุงรักษาเครื่องบินหมดอายุให้ยังคงปฏิบัติการได้ เลวร้ายลงไปอีก

ด้วยเหตุที่จีนได้เผยโฉมเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ J-20 ออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ ตามรายงานกล่าวว่ามีเทคโนโลยีและขีดความสามารถในการล่องหน และรัสเซียประกาศมีโครงการความร่วมมือกับอินเดียในการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ Sukhoi T-50 ยุคที่ห้า ญี่ปุ่นกลับกลัดกลุ้มกับการต้องเรียนรู้ว่ากองกำลังป้องกันภัยทางอากาศที่มี อยู่ของตนแท้จริงแล้วถูกทิ้งห่างจากคู่แข่งที่มีศักยภาพสูง เช่นจีน รัสเซีย และอินเดีย ออกไปไกลแค่ไหน การทดสอบในทะเลของเรือบรรทุกเครื่องบินของจีนยิ่งเพิ่มสัมผัสแห่งความเปราะ บางของญี่ปุ่นที่มีต่อศัตรูผู้มีขีดความสามารถและเป็นอันตรายอย่างยิ่งยวด ต่ออธิปไตยของตน

ที่แตกต่างจากไต้หวัน คือ ญี่ปุ่นอยู่ในสถานะที่น่าอิจฉาเนื่องจากมีอิสระที่จะเลือกเครื่องบินขับไล่ เข้าประจำการแทนเครื่องที่มีอยู่ให้ต่อกรกับจีนได้ ญี่ปุ่นลดทางเลือกในการพิจารณาเลือกเครื่องบินขับไล่ทางอากาศเพื่อการครอง อากาศเหนือน่านฟ้าญี่ปุ่นที่ดีที่สุดลงเหลือเพียงสามแบบได้แก่ F/A-18E/F Super Hornet ของ Boeing, F-35 Joint Strike Fighter (JSF) ของ Lockheed Martin และ Eurofighter Typhoon ของ BAE System

หลักเกณฑ์สำคัญอย่างหนึ่งที่รัฐบาลญี่ปุ่นใช้ในการกำหนดการเครื่องบินขับไล่ ทดแทนที่จะเลือกมาใช้งานคือ ระดับของการผลิต/การประกอบ ที่บริษัทแม่จะยินยอมให้ดำเนินการในญี่ปุ่นได้ ผู้ผลิตทั้งสามได้ระบุถึงความเต็มใจที่จะเสนอข้อตกลงการอนุญาตให้ญี่ปุ่นมี สิทธิในการผลิต/การประกอบในระดับที่กำหนด ทั้งนี้แต่ละบริษัทเสนอระดับของสิทธิแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย แต่รัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่ประกาศว่าได้เลือกเครื่องบินขับไล่รุ่นไหนของบริษัท ใด แต่คาดว่าจะมีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการปลายเดือนธันวาคม 2011 นี้ หรืออย่างน้อยต้นเดือนมกราคม 2012 ศกหน้า

ผู้สังเกตการณ์ส่วนใหญ่เชื่อกันว่า F-35 Lightning II มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะได้รับเลือก เนื่องจากเครื่องบินขับไล่รุ่นนี้มีความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีที่สุดและมีขีด ความสามารถสูงสุดจากเครื่องบินทั้งสามรุ่น จากประวัติศาสตร์ชี้ให้เห็นว่าญี่ปุ่นเลือกอาวุธที่ล้ำสมัยที่สุดเท่าที่มี อยู่ในท้องตลาด อย่างไรก็ตาม F-35 ประสบกับปัญหาความล่าช้าในสายการผลิตและการทดสอบมากมายและมากับป้ายราคาสูง สุดในกลุ่ม ส่วน F/A-18E/F Super Hornet เป็นเครื่องบินที่มีขีดความสามารถสูงโดยมีประวัติพิสูจน์ขีดความสามารถยอด เยี่ยมและสนนราคาน่าพอใจมากกว่า สำหรับ Eurofighter Typhoon ก็เป็นเครื่องบินที่มีขีดความสามารถเช่นกัน แต่ญี่ปุ่นไม่เคยซื้อเครื่องบินรบจากยุโรปมาก่อน และสหรัฐฯ เองก็ต้องกดดันญี่ปุ่นให้ยังคงอยู่กับการใช้งานเครื่องบินรบสหรัฐฯ ต่อไปอย่างแน่นอน ผู้สังเกตุการณ์บางคนก็หยิบยกข้อกังขาเกี่ยวกับขีดความสามารถของเครื่องบิน Typhoons ที่จะบูรณาการเข้ากับยุทโธปกรณ์ของญี่ปุ่นที่ส่วนใหญ่เป็นของสหรัฐฯ ได้ ทั้งยังเป็นห่วงว่าเครื่องบิน Typhoon จะสร้างความยุ่งยากโดยไม่จำเป็นให้กับระบบการซ่อมบำรุงและสายการส่งกำลัง บำรุง เนื่องจากตามธรรมชาติของมันก็มีความยุ่งยากในตัวอยู่แล้ว

ขณะที่ดูเหมือนว่าเครื่องบิน F-35 จะเป็นรุ่นที่ดีที่สุดสำหรับภารกิจ ราคากลับเป็นข้อพิจารณาหลักเช่นเดียวกัน ญี่ปุ่นต้องแบกรับภาระหนี้สินซึ่งตอนนี้เกิน 200 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ไปเรียบร้อยแล้ว และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้นำญี่ปุ่นจำต้องตัดสินใจให้ได้ระหว่างการได้สิ่งที่ดีที่สุดและเสียค่า ใช้จ่ายมากที่สุด หรือได้เครื่องบินที่มีขีดความสามารถพอสมควรโดยเสียค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาก สิ่งไหนสำคัญต่อญี่ปุ่นมากที่สุดในปัจจุบัน เครื่องบินขับไล่ที่ดีที่สุดหรือเครื่องบินขับไล่ชั้นหนึ่งระดับดีแต่ไม่ สั่นคลอนการคลังของประเทศ?



http://ordnancefighter.blogspot.com/2014/01/blog-post_25.html
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #18258 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2014, 10:58:51 PM »

รัสเซียจะสั่งซื้อ Su-30SM เพิ่มอีก 50 ลำ

    กระทรวงกลาโหมรัสเซียมีความตั้งใจที่จะลงนามใน สัญญาสำหรับการจัดหาเครื่องบินรบเอนกประสงค์ Su-30SM จำนวน 50 ลำในอนาคตอันใกล้นี้พร้อมทั้งเครื่องบินฝึกไอพ่น Yak-130 อีกจำนวนหนึ่ง "-รายงานจากหนังสือพิมพ์ "Vedomosti" โดยอ้างแหล่งข่าวจาก UAC  เครื่องบินลอตใหม่นี้จะสามารถส่งมอบให้กับกองทัพอากาศรัสเซียครั้งแรกได้ภาย ในสิ้นปี 2015 ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดของการจัดซื้อได้วางแผนไว้ในวงเงินจำนวนมากกว่าสองพัน ล้านดอลลาร์

ก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ลงนามในสัญญาจัดหา Su-30SM จำนวน 60 เครื่องเมื่อปี 2012 ซึ่งตามสัญญานี้จะส่งมอบครบจำนวนในปี 2016
Su-30SM เป็นเครื่องบินรบเอนกประสงค์ที่พัฒนาต่อจาก Su-30MK โดยได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับใช้ในกองทัพรัสเซียโดยเฉพาะ เครื่องบินสามารถบินด้วยความเร็วสูงถึง 2,100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นระยะทาง 3,000 กิโลเมตร โหลดอาวุธได้หนักถึง 8 ตัน.






http://ordnancefighter.blogspot.com/2014/01/su-30sm-50.html

บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265


ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง


« ตอบ #18259 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2014, 11:35:03 PM »

ส่วนตัวผมมองว่า Eurofighter เหมาะกับญี่ปุ่นที่สุด  และที่ข้อมูลบอกว่า F-35  มีความสามารถสูงกว่า Eurofighter ก็ไม่จริง
ถ้าไม่มองความสามารถตรวจจับได้ยาก F-35 ด้อยกว่า Eurofighter แทบจะทุกกระบวน
บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #18260 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2014, 12:23:54 AM »

เหมือนจะมีสงครามเย็นระลอกใหม่
บันทึกการเข้า
ART
ชีวิตคิดบวก แล้วจะ Happy
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 552
ออฟไลน์

กระทู้: 10809



« ตอบ #18261 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2014, 09:09:26 AM »

ดูแล้วโลกในอนาคต จะไม่สงบเท่าไรครับ
บันทึกการเข้า

Pong CB1300sf-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 342
ออฟไลน์

กระทู้: 2075


« ตอบ #18262 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2014, 09:12:50 AM »

ตั้งแต่ยึด ธรุกิจพลังงานคืนมาได้

ดู เฮีย ปูติน  แก รวยขึ้นเยอะ

 คิก คิก คิก คิก คิก คิก
บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #18263 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2014, 10:27:15 AM »

X-32 เป็นเครื่องบินสาธิตเทคโนโลยีที่ผลิตโดยบริษัท Boeing

    เพื่อเข้าแข่งขันในโครงการ Joint Strike Fighter ของกองทัพสหรัฐ มีคู่แข่งสำคัญคือ X-35 จาก Lockheed Martin โดย X-32 ถูกออกแบบมาให้เป็นเครื่องบินขับไล่/โจมตีขนาดเบา สามารถขึ้น-ลงทางดิ่งได้ และที่สำคัญคือมีคุณสมบัติล่องหน (Stealth) เช่นเดียวกับ X-35 แต่ X-32 ใช้แผนแบบของเครื่องบินปีกสามเหลี่ยม (Delta Wing) และมีช่องรับอากาศ (Air Intake) ขนาดใหญ่อยู่บริเวณคางของเครื่อง ซึ่งภายหลังจากการแข่งขัน ในที่สุด กองทัพสหรัฐก็เลือกให้ X-35 เป็นผู้ชนะในโครงการ ทำให้ X-32 ถูกระงับการพัฒนาต่อ

Boeing X-32 (Left) and Lockheed Martin X-35 (Right) in Joint Strike Fighter Program





http://ordnancefighter.blogspot.com/2014/01/x-32-boeing.html


บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
น้าเสก คนเดิม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 712
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14502


รับแขก...แจกเหล้า...เฝ้าสำนักงาน


« ตอบ #18264 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2014, 10:29:13 AM »

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา...ผมเห็นเครื่องบินสองเครื่องถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเครื่อง L-39 แน่ ๆ ครับ...บินระดับเพดานไม่สูงนัก..เสียงเครื่องยังดังแน่นอยู่เหมือนเดิม.. เยี่ยม
บันทึกการเข้า

จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #18265 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2014, 04:14:32 PM »

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา...ผมเห็นเครื่องบินสองเครื่องถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเครื่อง L-39 แน่ ๆ ครับ...บินระดับเพดานไม่สูงนัก..เสียงเครื่องยังดังแน่นอยู่เหมือนเดิม.. เยี่ยม
นักบินคงมีหลวงพ่อดี ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #18266 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2014, 04:39:01 PM »

เครื่องยนต์อายุยาวนานครับจุดที่สึกหรอมีสองจุดเป็นธรรมชาติของเครื่อง Turbine ทั้งหลาย
บันทึกการเข้า
น้าเสก คนเดิม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 712
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14502


รับแขก...แจกเหล้า...เฝ้าสำนักงาน


« ตอบ #18267 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2014, 10:32:50 AM »

ถึงจะแก่แต่ยังแจ๋วนะครับ... Grin
บันทึกการเข้า

SOAP47 รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 333
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5792



« ตอบ #18268 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2014, 10:41:50 AM »

ส่วนตัวผมมองว่า Eurofighter เหมาะกับญี่ปุ่นที่สุด  และที่ข้อมูลบอกว่า F-35  มีความสามารถสูงกว่า Eurofighter ก็ไม่จริง
ถ้าไม่มองความสามารถตรวจจับได้ยาก F-35 ด้อยกว่า Eurofighter แทบจะทุกกระบวน
rafale เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับญี่ปุ่น
บันทึกการเข้า

THIS IS MY STEYR.
THERE ARE MANY LIKE IT, BUT THIS ONE IS MINE.
WITHOUT MY STEYR,I AM NOTHING.
WITHOUT ME, MY STEYR IS NOTHING.
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #18269 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2014, 01:59:07 PM »



จีนเข้าร่วมฝึกคอบร้าโกลด์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

- เมื่อ 12 ก.พ.56 ที่ผ่านมา แหล่งข่าวของกองทัพจีนแถลงว่าจะส่งทหารจีนจำนวน 25 นาย เข้าร่วมโครงการซ้อมรบร่วม

/ผสมคอบร้าโกลด์ในส่วนของภารกิจการช่วยเหลือมนุษยธรรมและการปฏิบัติทางด้านกิจการพลเรือน อันเป็นหนึ่งใน

โครงการฝึกที่ไทยและสหรัฐอเมริการ่วมเป็นเจ้าภาพ ในการฝึกครั้งนี้มีประเทศเข้าร่วมการฝึกคือ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย

มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และมีประเทศอื่นๆอีก 11 ประเทศเข้าร่วมสังเกตการณ์ดังนี้ เมียนมาร์ เวียดนาม ลาว นิวซีแลนด์

ปากีสถาน จีน เนเธอแลนด์ รัสเซีย ยูเครน อังกฤษ และแอฟริกาใต้ การเข้าร่วมการฝึกของจีนในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรก

ในประวัติศาสตร์ ตามคำเชิญของรัฐบาลไทยที่มุ่งหวังให้ความตึงเครียดในภูมิภาคลดระดับลง โดยตั้งแต่ปี 1982 ในมุมมอง

ของจีนนั้น รัฐบาลจีนมีความกังวลมาตลอด หลังจากการฝึกคอบร้าโกลด์ได้เริ่มขึ้นในภูมิภาคใกล้เคียงโดยที่มีสหรัฐเป็นผู้นำหลัก

ในการสนับสนุนทางการเงิน การส่งกำลังบำรุงและการฝึกมาตลอด จีนเองได้เป็นผู้สังเกตการณ์การฝึกมาตั้งแต่ปี 2002

แต่ได้รับผลสะท้อนว่าการฝึกนั้นถูกควบคุมโดยสหรัฐ และมีความรู้สึกว่าสหรัฐได้กีดกันการเข้าร่วมของจีนเพราะสหรัฐมี

มุมมองว่าการซ้อมรบร่วมนั้น เป็นการสร้างอิทธิพลปิดล้อมจีนทางตอนใต้ ในอีกทางหนึ่งสหรัฐอเมริกาแถลงว่า การซ้อมรบร่วม

/ผสมนั้นถูกออกแบบให้เป็นการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศในภูมิภาคและเพิ่มพูนขีดความสามารถในการปฏิบัติการ

รบร่วม/ผสม ของกองกำลังนานาชาติในภูมิภาค/Jane’s

http://dtad.dti.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=487:defence-news-around-the-world-17-21-feb2014&catid=3:defense-news&Itemid=3
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
หน้า: 1 ... 1215 1216 1217 [1218] 1219 1220 1221 ... 1487
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.081 วินาที กับ 22 คำสั่ง