เครื่องบินขับไล่ใหม่ กองทัพอากาศไทย

[อรชุน-รักในหลวง]

รุ่นนี้ใช่ไหมครับ ที่ถูกJAS 39C/Dของสวีเดนสอยร่วงระนาวเป็นหลายสิบ:0 ที่การฝึกร่วมRED FLAGของยุโรป

คลับคล้ายคลับคลาว่า F-22 เป็นฝ่ายบุก // JAS-39 ขึ้นสกัดกั้นครับ ผลก็น่าจะตามนั้น

จำลองสถานการณ์ตามที่คุณอั้มเพิ่มข้อมูลให้ได้ว่า

หากมีF22ไม่ยอมแสดงสัญชาติบินขึ้นจากฐานแถวๆมาเลเซีย(ประเทศสมมุติ) บังอาจติดอาวุธลอบเข้าพื้นที่อ่าวไทยโดยไม่ได้รับการยินยอม เพื่อผ่านไปร่วมปฏิบัติการถล่มกองเรือของใครซักชาติที่ทะเลจีนใต้

ก็จะโดนJAS 39ของไทยที่กองบิน7สอยเรียบไม่เหลือใช่ไหมครับ ?

ประการแรก F-22 Stealth Fighter ที่หลายคนเชื่อกันนักหนาว่าสุดยอดไร้เทียมทานก็ต้องมาดูเป็นประเด็นไป

1. เรื่องการตรวจจับได้ยากก็ต่อเมื่อบินตรงเข้าหาแหล่งสัญญาณเรดาร์ ถ้าหันข้าง ,มุดหัว ,เงยขึ้น หรือขณะกำลังเตรียมใช้อาวุธต้องเปิดประตูห้องเก็บ
ภาคตัดเรดาร์ก็จะใหญ่กว่าที่เคลมไว้ในสเป็ค แต่ใหญ่ขึ้นแค่ไหนผมไม่มีข้อมูลที่เป็นตัวเลขชัดๆ ซึ่งJAS-39ของเรา RCSก็ไม่ได้ใหญ่นัก
APG-77 AESA ของ F-22 จะเจอ JAS-39 ที่ระยะราว 150km.

2. F-22 ก็ห้ามเปิดเรดาร์ด้วยเช่นกัน เพราะถ้าเปิดเมื่อไหร่ก็ตรวจพบได้ทันทีและสามารถโดนยิงได้จากสัญญาณเรดาร์ที่ปล่อยออกมานั่นแหละ
งานแบบนี้ของถนัด Meteor (BVRAAM)

3. ถ้าF-22 เปิดเรดาร์เองไม่ได้ก็อาจจะมาพร้อม AWAC ซึ่งเรดาร์ของเครื่องบินรบเห็นตั้งแต่ไก่โห่ หรือจะให้ Erieye นำทางให้ Meteor ก็ได้
ด้วยเรดาร์ของ Erieye ระยิงของ Meteor จะยืดออกไปเกินกว่า 350km ไกลกว่า AIM-120 (C-8) ที่ยิงมาจาก F-22 ร่วม100km.

4. เครื่องความคล่องแคล่ว F-22 ติดตั้งท่อท้ายปรับทิศทางได้ แต่ด้วยขนาดและนำหนักตัวรวมเชื้อเพลิงภายใน (ไม่รวมระบบอาวุธ)
มากกว่า JAS-39 ประมาณ 21,000Kg. น้ำหนักต่างกันขนาดนี้ความเฉื่อยในการเคลื่อนที่ก็ต่างกันแยะ JAS-39 กินขาดเรื่องความคล่องแคล่ว
ถ้าเข้าประชิดตัวได้เผลือๆ F-22 จะได้สวาปาม Mauser BK-27 Revolver cannon ของ JAS-39 เอาซะด้วย

5. Meteor (BVRAAM) ยิงได้โดยไม่จำเป็นต้องล๊อคเป้า สามารถระบุพิกัดลงไปว่าจะให้วิ่งไปตรงไหน พอถึงแล้วสั่งให้เรดาร์ของ Meteor หาเป้าเองได้
หรือจะใช้ดาตาลิงค์ส่งข้อมูลให้ไปทิ่มอะไรก็ได้ ระบบคล้ายกับอาวุธปล่อยระยะสุดเหยียด R-37 (AA-13 Arrow) และ Novator KS-172 AWACS killer ของฝั่งรัสเซีย
ต่างกันตรงที่ Meteor ออกแบบมาสำหรับยิงเครื่องบินรบจึงมีความแม่นยำมากกว่า

จากข้อมูลที่ผมทราบ F-22 มันไม่ได้ไร้เทียมทานแต่ก็มีจุดอ่อนให้เจาะได้ เพียงแต่ JAS-39 ก็มีจุดอ่อนเช่นกันก็คือเชื้อเพลิงน้อยกว่าระยะเวลาในการทำภารกิจสั้นกว่า
ถ้าปิดเกมในช่วงแรกไม่ได้ ช่วงท้ายที่เชื้อเพลิงใกล้หมดจะเสียเปรียบเป็นอย่างมาก อาจจะกลายเป็นเป้าให้ F-22 ไล่อัดเอา

[SillyOldMan]

รุ่นนี้ใช่ไหมครับ ที่ถูกJAS 39C/Dของสวีเดนสอยร่วงระนาวเป็นหลายสิบ:0 ที่การฝึกร่วมRED FLAGของยุโรป

คลับคล้ายคลับคลาว่า F-22 เป็นฝ่ายบุก // JAS-39 ขึ้นสกัดกั้นครับ ผลก็น่าจะตามนั้น

จำลองสถานการณ์ตามที่คุณอั้มเพิ่มข้อมูลให้ได้ว่า

หากมีF22ไม่ยอมแสดงสัญชาติบินขึ้นจากฐานแถวๆมาเลเซีย(ประเทศสมมุติ) บังอาจติดอาวุธลอบเข้าพื้นที่อ่าวไทยโดยไม่ได้รับการยินยอม เพื่อผ่านไปร่วมปฏิบัติการถล่มกองเรือของใครซักชาติที่ทะเลจีนใต้

ก็จะโดนJAS 39ของไทยที่กองบิน7สอยเรียบไม่เหลือใช่ไหมครับ ?

ประการแรก F-22 Stealth Fighter ที่หลายคนเชื่อกันนักหนาว่าสุดยอดไร้เทียมทานก็ต้องมาดูเป็นประเด็นไป

1. เรื่องการตรวจจับได้ยากก็ต่อเมื่อบินตรงเข้าหาแหล่งสัญญาณเรดาร์ ถ้าหันข้าง ,มุดหัว ,เงยขึ้น หรือขณะกำลังเตรียมใช้อาวุธต้องเปิดประตูห้องเก็บ
ภาคตัดเรดาร์ก็จะใหญ่กว่าที่เคลมไว้ในสเป็ค แต่ใหญ่ขึ้นแค่ไหนผมไม่มีข้อมูลที่เป็นตัวเลขชัดๆ ซึ่งJAS-39ของเรา RCSก็ไม่ได้ใหญ่นัก
APG-77 AESA ของ F-22 จะเจอ JAS-39 ที่ระยะราว 150km.

2. F-22 ก็ห้ามเปิดเรดาร์ด้วยเช่นกัน เพราะถ้าเปิดเมื่อไหร่ก็ตรวจพบได้ทันทีและสามารถโดนยิงได้จากสัญญาณเรดาร์ที่ปล่อยออกมานั่นแหละ
งานแบบนี้ของถนัด Meteor (BVRAAM)

3. ถ้าF-22 เปิดเรดาร์เองไม่ได้ก็อาจจะมาพร้อม AWAC ซึ่งเรดาร์ของเครื่องบินรบเห็นตั้งแต่ไก่โห่ หรือจะให้ Erieye นำทางให้ Meteor ก็ได้
ด้วยเรดาร์ของ Erieye ระยิงของ Meteor จะยืดออกไปเกินกว่า 350km ไกลกว่า AIM-120 (C-8) ที่ยิงมาจาก F-22 ร่วม100km.

4. เครื่องความคล่องแคล่ว F-22 ติดตั้งท่อท้ายปรับทิศทางได้ แต่ด้วยขนาดและนำหนักตัวรวมเชื้อเพลิงภายใน (ไม่รวมระบบอาวุธ)
มากกว่า JAS-39 ประมาณ 21,000Kg. น้ำหนักต่างกันขนาดนี้ความเฉื่อยในการเคลื่อนที่ก็ต่างกันแยะ JAS-39 กินขาดเรื่องความคล่องแคล่ว
ถ้าเข้าประชิดตัวได้เผลือๆ F-22 จะได้สวาปาม Mauser BK-27 Revolver cannon ของ JAS-39 เอาซะด้วย

5. Meteor (BVRAAM) ยิงได้โดยไม่จำเป็นต้องล๊อคเป้า สามารถระบุพิกัดลงไปว่าจะให้วิ่งไปตรงไหน พอถึงแล้วสั่งให้เรดาร์ของ Meteor หาเป้าเองได้
หรือจะใช้ดาตาลิงค์ส่งข้อมูลให้ไปทิ่มอะไรก็ได้ ระบบคล้ายกับอาวุธปล่อยระยะสุดเหยียด R-37 (AA-13 Arrow) และ Novator KS-172 AWACS killer ของฝั่งรัสเซีย
ต่างกันตรงที่ Meteor ออกแบบมาสำหรับยิงเครื่องบินรบจึงมีความแม่นยำมากกว่า

จากข้อมูลที่ผมทราบ F-22 มันไม่ได้ไร้เทียมทานแต่ก็มีจุดอ่อนให้เจาะได้ เพียงแต่ JAS-39 ก็มีจุดอ่อนเช่นกันก็คือเชื้อเพลิงน้อยกว่าระยะเวลาในการทำภารกิจสั้นกว่า
ถ้าปิดเกมในช่วงแรกไม่ได้ ช่วงท้ายที่เชื้อเพลิงใกล้หมดจะเสียเปรียบเป็นอย่างมาก อาจจะกลายเป็นเป้าให้ F-22 ไล่อัดเอา

ฉะนั้น เติมGripen E/Fให้กองบิน7อีก6ลำคือคำตอบสุดท้าย  

[SillyOldMan]

RED FLAG หรืออื่นๆมีข้อจำกัดที่ให้ Dog fight กันในระยะสายตา F-18 ยังเคยสอยเจ้า Rapter ในระยะสายตานี่ใครบินชำนาญกว่าได้เปรี่ยบ F-5 ของ Brazil ยังเคยสอยทั้งหมดรวมถึง Eurofighter มาแล้วที่ RED FLAG ผลรวมประมาณ 50:50 คือโดนสอยและสอยเขาพอๆกัน ส่วน Gripen ปีแรกน้องใหม่เรดาห์ตอนนั้นมองไกลกว่า แต่ปัจจุบันข้อมูลการรบคงถูกวิเคราะห์ไว้แล้ว ผ่ายบุกนีจะเสียเปรียบหน่อยเพราะต้องไปทำภารกิจเหนือที่หมายให้ได้ส่วนฝ่ายรับก็แค่หาฝ่ายบุกให้เจอ

เห็นด้วยครับ

ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายตั้งรับ/สกัดกั้น เราจะมี"ทั้งระบบ"เป็นตัวช่วย.....กับF22ผมเชื่อเหมือนคนทั้งโลกว่าJas 39เอาอยู่

ยิ่งกับพวกMIG29-Su30ของประเทศรอบๆเรา ถ้าเอาเหลี่ยมคู/ความช่ำชองของนักบินมาพิจารณาเพิ่ม ก็ยิ่งห่างชั้นกันไกลขึ้นไปอีก......ค่าใช้จ่ายในการฝึกมันผิดกันหลายเท่าเกินไป 

[SOAP47 รักในหลวง]

รุ่นนี้ใช่ไหมครับ ที่ถูกJAS 39C/Dของสวีเดนสอยร่วงระนาวเป็นหลายสิบ:0 ที่การฝึกร่วมRED FLAGของยุโรป

คลับคล้ายคลับคลาว่า F-22 เป็นฝ่ายบุก // JAS-39 ขึ้นสกัดกั้นครับ ผลก็น่าจะตามนั้น

จำลองสถานการณ์ตามที่คุณอั้มเพิ่มข้อมูลให้ได้ว่า

หากมีF22ไม่ยอมแสดงสัญชาติบินขึ้นจากฐานแถวๆมาเลเซีย(ประเทศสมมุติ) บังอาจติดอาวุธลอบเข้าพื้นที่อ่าวไทยโดยไม่ได้รับการยินยอม เพื่อผ่านไปร่วมปฏิบัติการถล่มกองเรือของใครซักชาติที่ทะเลจีนใต้

ก็จะโดนJAS 39ของไทยที่กองบิน7สอยเรียบไม่เหลือใช่ไหมครับ ?

ประการแรก F-22 Stealth Fighter ที่หลายคนเชื่อกันนักหนาว่าสุดยอดไร้เทียมทานก็ต้องมาดูเป็นประเด็นไป

1. เรื่องการตรวจจับได้ยากก็ต่อเมื่อบินตรงเข้าหาแหล่งสัญญาณเรดาร์ ถ้าหันข้าง ,มุดหัว ,เงยขึ้น หรือขณะกำลังเตรียมใช้อาวุธต้องเปิดประตูห้องเก็บ
ภาคตัดเรดาร์ก็จะใหญ่กว่าที่เคลมไว้ในสเป็ค แต่ใหญ่ขึ้นแค่ไหนผมไม่มีข้อมูลที่เป็นตัวเลขชัดๆ ซึ่งJAS-39ของเรา RCSก็ไม่ได้ใหญ่นัก
APG-77 AESA ของ F-22 จะเจอ JAS-39 ที่ระยะราว 150km.

2. F-22 ก็ห้ามเปิดเรดาร์ด้วยเช่นกัน เพราะถ้าเปิดเมื่อไหร่ก็ตรวจพบได้ทันทีและสามารถโดนยิงได้จากสัญญาณเรดาร์ที่ปล่อยออกมานั่นแหละ
งานแบบนี้ของถนัด Meteor (BVRAAM)

3. ถ้าF-22 เปิดเรดาร์เองไม่ได้ก็อาจจะมาพร้อม AWAC ซึ่งเรดาร์ของเครื่องบินรบเห็นตั้งแต่ไก่โห่ หรือจะให้ Erieye นำทางให้ Meteor ก็ได้
ด้วยเรดาร์ของ Erieye ระยิงของ Meteor จะยืดออกไปเกินกว่า 350km ไกลกว่า AIM-120 (C-8) ที่ยิงมาจาก F-22 ร่วม100km.

4. เครื่องความคล่องแคล่ว F-22 ติดตั้งท่อท้ายปรับทิศทางได้ แต่ด้วยขนาดและนำหนักตัวรวมเชื้อเพลิงภายใน (ไม่รวมระบบอาวุธ)
มากกว่า JAS-39 ประมาณ 21,000Kg. น้ำหนักต่างกันขนาดนี้ความเฉื่อยในการเคลื่อนที่ก็ต่างกันแยะ JAS-39 กินขาดเรื่องความคล่องแคล่ว
ถ้าเข้าประชิดตัวได้เผลือๆ F-22 จะได้สวาปาม Mauser BK-27 Revolver cannon ของ JAS-39 เอาซะด้วย

5. Meteor (BVRAAM) ยิงได้โดยไม่จำเป็นต้องล๊อคเป้า สามารถระบุพิกัดลงไปว่าจะให้วิ่งไปตรงไหน พอถึงแล้วสั่งให้เรดาร์ของ Meteor หาเป้าเองได้
หรือจะใช้ดาตาลิงค์ส่งข้อมูลให้ไปทิ่มอะไรก็ได้ ระบบคล้ายกับอาวุธปล่อยระยะสุดเหยียด R-37 (AA-13 Arrow) และ Novator KS-172 AWACS killer ของฝั่งรัสเซีย
ต่างกันตรงที่ Meteor ออกแบบมาสำหรับยิงเครื่องบินรบจึงมีความแม่นยำมากกว่า

จากข้อมูลที่ผมทราบ F-22 มันไม่ได้ไร้เทียมทานแต่ก็มีจุดอ่อนให้เจาะได้ เพียงแต่ JAS-39 ก็มีจุดอ่อนเช่นกันก็คือเชื้อเพลิงน้อยกว่าระยะเวลาในการทำภารกิจสั้นกว่า
ถ้าปิดเกมในช่วงแรกไม่ได้ ช่วงท้ายที่เชื้อเพลิงใกล้หมดจะเสียเปรียบเป็นอย่างมาก อาจจะกลายเป็นเป้าให้ F-22 ไล่อัดเอา

ฉะนั้น เติมGripen E/Fให้กองบิน7อีก6ลำคือคำตอบสุดท้าย 

เอา C/D อีก 6 ลำให้ครบก่อนดีกว่าครับ ฝูงที่จะแทน F5 กะ F16 ADF ค่อยเป็น E/F ก็ได้ครับ แล้วก็ค่อยอัพเกรดรุ่นC/D ไปเป็นมาตราฐานE/F

[SOAP47 รักในหลวง]

meteor มี no escape zone ประมาณ 100 ไมล์

[น้าเสก คนเดิม]

เอา C/D อีก 6 ลำให้ครบก่อนดีกว่าครับ ฝูงที่จะแทน F5 กะ F16 ADF ค่อยเป็น E/F ก็ได้ครับ แล้วก็ค่อยอัพเกรดรุ่นC/D ไปเป็นมาตราฐานE/F

อันนี้แหละใช่เลย...ไม่ไกลเกินเอื้อมครับ...จริง ๆ แล้วเครื่องอีรี่อายเขาจัดให้มาอยู่ในโครงการอยู่แล้ว...จึงอยากจะให้จัดเครื่องเติมน้ำมันมาด้วยเลยดีกว่าสักสามสี่ลำก็พอ

[Yut64]

ใช้บริการจาก ทอ. สิงค์โปร์ไปก่อนก็แล้วกัน Full tank OK lah

[พญาจงอาง +รักในหลวง+]

ผมว่าเราตบหน้าไอ้กันทางอ้อมเลยนะ กรณีที่มันตั้งใจนักหนาว่าจะเอาเจ้านกนักล่า F-22Raptor มาดวลกับ Jas-39 ของเราในการฝึก " Cope Tiger 2014 " แต่เรามีปัญหาการเมืองที่ต้องแก้ไขก่อน มันเคืองเลยเอานกนักล่าตัวนี้ไปฝึกกับเครื่อง Su-30MkM และ Mig-29N ของมาเลเซียแทน//ผมคิดแบบนี้จริงๆนะ เพราะปีก่อนๆที่สวีเดนส่งน้องยาสเข้าร่วมฝึกธงแดง(Red Flag) สวีเดนคงกักๆมัดเด็ดอะไรซักอย่างเกี่ยวกับน้องยาสไว้ คริคริ


ดีแล้วที่ไม่ได้ฝึกร่วม เพราะพลาดพลั้งมาเจอพญาแถนเราสอยร่วงเอา เจ้านกนักล่าหมดราคาเลยนะแบบนี้ คริคริ

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

เครื่องบินขับไล่ F-22 เดินทางถึงมาเลเซียแล้วเพื่อเข้าร่วมการฝึกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

- เมื่อ 6 มิ.ย.57 สำนักข่าว Jane’s รายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-22 Raptor ฝูงบินที่ 19 และฝูงบิน ที่ 199

ของกองบินที่ 154 จากฐานทัพอากาศ Harbor-Hickam ที่ฮาวาย และฐานทัพอากาศ Andersen ที่ Guam

ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งแห่งกองทัพสหรัฐอเมริกาได้ลงจอด ณ ฐานทัพอากาศ Butterworth

ของมาเลเซียแล้ว เพื่อเข้าร่วมการฝึก Cope Taufan 2014 นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังส่ง เครื่องบินขับไล่ Boeing F-15Cs

เครื่องบินขับไล่ C-17s เครื่องบินลำเลียง C-130s เข้าร่วมการฝึกครั้งนี้ด้วย โดยจะทำการฝึกร่วมกับเครื่องบินขับไล่

Su-30MKMs เครื่องบินขับไล่ Mikoyan MiG-29s เครื่องบิน Boeing F/A-18Ds และเครื่องบิน BAE Systems Hawks

ชองกองทัพอากาศมาเลเซีย การฝึกฯ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 9-20 มิ.ย.57 ณ ฐานทัพอากาศ Butterworth ฐานทัพอากาศ

Subang และฐานทัพอากาศ Kuantan ภายใต้รหัส “Teak Mint” และ “Balance Mint”/Jane’s

http://dtad.dti.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=506:defence-news-around-the-world-9-13jun2014&catid=3:defense-news&Itemid=3

[น้าเสก คนเดิม]

ผมดูแล้วเจ้าแรปเตอร์นี่มันใหญ่เทอะทะจริง ๆ  นะ...น่าจะเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลซะมากกว่าที่จะเป็นเครื่องบินขับไล่

[Yut64]

เชื่อเถอะไปฝึกกับมาเลย์ไม่สนุกหรอก แล้วพวกเขาจะคิดฮอด โคราช อุดร อุบล 

[มืด-รักในหลวง]

 

[อรชุน-รักในหลวง]

ผมดูแล้วเจ้าแรปเตอร์นี่มันใหญ่เทอะทะจริง ๆ  นะ...น่าจะเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลซะมากกว่าที่จะเป็นเครื่องบินขับไล่

ถ้าดูเรื่องน้ำหนักตัวอย่างเดียวไม่หนีพวก Heavy Weight Fighter ด้วยกัน(แต่ก็หนักกว่า)  เพียงแต่รูปร่างมันดูเทอะทะไม่ลู่ลม
เครื่องบินรบขออเมริกันก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ต่างจากฝั่งรัสเซียที่เน้นเรื่องอากาศพลศาสตร์มากว่าครับ

F-22A
Empty weight: 19,700 kg
Loaded weight: 29,300 kg
Max. takeoff weight: 38,000 kg
Maximum speed: Mach 2.25

Su-30
Empty weight: 17,700 kg
Loaded weight: 24,900 kg
Max. takeoff weight: 34,500 kg
Maximum speed: Mach 2.2

Su-35S
Empty weight: 18,400 kg
Loaded weight: 29,900 kg
Max. takeoff weight: 34,500 kg
Maximum speed: Mach 2.25

T-50 PAK/FA
Empty weight: 18,000 kg
Loaded weight: 25,000 kg (typical mission weight)
Max. takeoff weight: 35,000 kg
Maximum speed: Mach 2.3

[SillyOldMan]

Gripen C/Dสวีเดนเขาเลิกผลิต หันมาผลิตเป็นE/Fแทนแล้วไม่ใช่เหรอครับ

ดีลที่โดนสวิตฯยกเลิกไปก็เป็นE/Fนา 

[SOAP47 รักในหลวง]

ยังครับพี่