555555 โตไปแล้ว " อย่าโก๊งงงง " นะลู๊กกก ฮา 5555 https://www.isranews.org/investigative/investigate-procure/item/47935-report_teerachai_23659.html#.V2v0UjU_AAY.facebook
คดีใหม่!ลักลอบขายซากรถยนต์ 49 คัน
ทบ. พล.อ.ธีรชัยสั่งสอบหลัง สตง.พบหลายครั้งเปิดคำสั่ง พล.อ.ธีรชัย สอบปมลักลอบนำซากรถยนต์บรรทุก 49 คัน ขส.ทบ. ขายเอกชน
หลัง สตง.ตรวจพบตั้งแต่ปี 57 ระบุชัดทำผิดหลายหน ไม่มีใครลงโทษ
พ.ท.หญิง-จ.ส.อ. โยงพ่อค้ารับซื้อของเก่า เสียหายขั้นต่ำ 7.6 ล.
กรณีประมูลขายซากเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบ 47 หรือ ฮ.ล.47 (CH-47D-ชีนุก) จำนวน 6 ลำ (เครื่อง) พร้อมชิ้นส่วน
เครื่องมือซ่อมบำรุง และบริภัณฑ์ภาคพื้น ราคากลาง 420 ล้านบาท ซึ่งจัดประมูลไปแล้ว 3 ครั้ง
ขณะที่ กองทัพบก ชี้แจงว่า ดำเนินการอย่างโปร่งใส และรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม
และกรณีการแลกเปลี่ยนยานพาหนะชำรุด จำนวน 128 คัน ให้แก่ นายจิรภัทร วรรัฐกฤติกร นักธุรกิจใน จ.นครปฐม
(ผ่านนายธนโชติ ดูเบย์ ลูกน้อง) เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2558 ไม่ใช่เพียงแค่ 2 กรณีที่มีปัญหาถูกตรวจสอบ
จากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตามข้อมูลที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้
(อ่านประกอบ : ทบ.แจงยังไม่ทำสัญญาขายซาก ฮ.ชีนุก อยู่ในขั้นประกวดราคา)
ล่าสุด กรณีการลักลอบขายซากรถยนต์ของทางราชการ จำนวน 49 คัน เป็นอีกกรณีหนึ่งที่ถูก สตง. ตรวจพบ
และขอให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเอาผิดกับนายทหารอย่างน้อย 2 ราย ที่มีพฤติการณ์กระทำผิดหลายครั้ง แต่ไม่ถูกลงโทษ
ทั้งนี้ เมื่อ 14 พ.ย. 2557 พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.-ขณะนั้น)
ได้มีคำสั่งอนุมัติให้ กรมจเรทหารบก (จบ.) ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ตามรายงานข้อเสนอของ
พล.ท.สุรเดช เฟื่องเจริญ เจ้ากรมกำลังพล ทบ. (จก.กพ.ทบ.) ผ่านรอง เสธ.ทบ. (1) กรณี สตง.
ขอให้ ทบ. ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลในสังกัด
ลักลอบนำรถยนต์บรรทุกของทางราชการขาย ให้แก่ บุคคลภายนอก ในคำสั่งดังกล่าว
พล.อ.ธีรชัย ได้สั่งให้ กรมกำลังพล ทบ. แจ้งผลการดำเนินการให้ สตง. ทราบด้วย
สำนักข่าวอิศรา
www.isranews.org รายงานว่า กรณีนี้ สตง. ได้รับแจ้งข้อมูลว่า
มีข้าราชการกองคลังกรมการขนส่งทหารบก จำนวน 2 คน คือ พ.ท.หญิง (ขอปิดชื่อ) ตำแหน่งหัวหน้า
และ จ.ส.อ. เจ้าหน้าที่แผนกทะเบียน (ขอปิดชื่อ) ร่วมกันลักลอบนำรถยนต์ของทางราชการกว่า 20 คัน
ขายให้แก่บุคคลภายนอก ได้เงิน 2 ล้านบาท โดย บุคคลทั้งสองได้ทำผิดมาหลายครั้ง
แต่ไม่มีใครลงโทษ จึงขอให้ กองทัพบก แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
และขอให้ทบทวนการควบคุมภายในให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ
ในหนังสือขออนุมัติตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของเจ้ากรมกำลังพล ทบ. ที่เสนอ ผบ.ทบ.
ผ่าน พล.อ.ธีรชัย (ผช.ผบ.ทบ. 1 - ขณะนั้น) ได้อ้างรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ ขส.ทบ.
ว่า ขส.ทบ. ได้ตรวจสอบพบว่า มีการกระทำอันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการ
ขอให้ลงทัณฑ์ทางวินัยกับ เจ้าหน้าที่ 2 นาย พร้อมกับให้กองทัพบกพิจารณาสั่งการดำเนินการทางแพ่ง
และทางอาญากับผู้เกี่ยวข้อง
หนังสือขออนุมัติตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ฯ ระบุว่า รายงานผลสอบสวนของ ขส.ทบ. พบว่า
มีการลักลอบขายซากรถยนต์ ทั้งสิ้น 49 คัน คิดเป็นความเสียหายประมาณ 7.6 ล้านบาท
นอกจากนี้ หนังสือขออนุมัติตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ฯ ฉบับดังกล่าวได้อ้างความเห็นของ
สนธ. ทบ. (สำนักงานพระธรรมนูญทหารบก) ว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ทหาร 2 นาย และ เอกชน 1 ราย (ขอปิดชื่อ)
อาจเป็นความผิดอาญาฐานร่วมกันลักทรัพย์ แต่ผลการสอบสวน ไม่ชัดเจนว่า เป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานทุจริตหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม หลังจาก สตง.ส่งเรื่องให้ ทบ. สอบสวนข้อเท็จจริงเมื่อเดือนสิงหาคม 2557
จนถึงขณะนี้ ทาง สตง. ยังไม่ได้รับการแจ้งผลดำเนินการจากทาง กองทัพบก แต่อย่างใด