แนะรัฐดันรถไฟฟ้าระบบราง ประหยัดน้ำมันสูงสุดร้อยละ30 [27 ต.ค. 50 - 10:33] นายบัญชา คงนคร รองผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ด้านปฏิบัติการ 1 รักษาการ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าววันนี้ (27 ต.ค.) ว่า จากปัญหาภาวะราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นในปัจจุบัน ส่งผลให้ค่าโดยสารและต้นทุนการขนส่ง ภายในประเทศเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก หากประเทศไทยสามารถปรับเปลี่ยนนโยบายพร้อมผลักดันให้หันมาใช้รถไฟในแบบราง และระบบไฟฟ้ามากขึ้น จะมีส่วนช่วยลดต้นทุนและช่วยให้ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง หรือ น้ำมันภายในประเทศมากสุดถึงร้อยละ 30
รักษาการ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันแม้ระบบการเดินรถไฟแบบดีเซลราง และระบบไฟฟ้าในประเทศไทยอาจมีประสิทธิภาพไม่เทียบเท่ากับประเทศต่างๆ ในแถบยุโรป หรือประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งประเทศมาเลเซีย แต่หากรัฐบาลของไทย สามารถดำเนินนโยบายผลักดัน และลดการใช้พลังงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการเดินรถไฟได้ ในอนาคตระบบขนส่งคมนาคม จะมีส่วนช่วยลดพลังงานเชื้อเพลิงภายในประเทศ พร้อมขยายการลงทุนเพิ่มได้มากขึ้น http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=66060สาเหตุที่ไทยเป็นประเทศที่บริโภคน้ำมันวันละ เกือบ 1 ล้านบาร์เรล จากกำลังการผลิตประมาณ 30 ล้านบาร์เรลของโอเปค ไทยใช้น้ำมันเป็นลำดับต้นๆของโลก อัตราบริโภคน้ำมันของไทยมากกว่าประเทศพัฒนาแล้วหลายๆประเทศในยุโรป ซึ่งสาเหตุที่ระบบขนส่งทางรางเกิดได้ยากในประเทศไทย เนื่องจาก
1 บริษัทผลิตรถยนต์ ที่สนับสนุนนักการเมือง หรือเป็นนักการเมืองเสียเอง
2 โรงกลั่นน้ำมัน ที่สนับสนุนนักการเมือง หรือ นักการเมืองไทยถือหุ้น รวมทั้งข้าราชการเลวๆใน คณะกรรมการพลังงาน
3 บริษัทรับเหมาสร้างทางที่สนับสนุนนักการเมือง หรือนักการเมืองเป็นเจ้าของ(เยอะมากๆระดับหัวหน้าพรรคก็หลายคน)
เลือกตั้งคราวนี้ถ้ารากหญ้ายังสนใจ ว่า สส.คนนี้ตัดถนนเข้าหมู่บ้าน สส.คนนี้มางานบวชลูกฉัน ก็เองวังประเทศไทยล่ะครับ สมัยก่อนเรายังเช้าชามเย็นชามได้เพื่อนๆร่วมโลกเค้าก็ยังวิ่งได้ไม่เร็วเท่าไหร่ แต่ในปัจจุบัน ถ้าเราสะดุดนิดเดียวเค้าจะแซงเราไปไกลจนยากจะตามทัน
อีกไม่นานเกินรอเราจะได้เห็นเวียดนามเป็นประเทศในระดับเดียวกับมาเลย์และสิงค์โปร์ เหตุเนื่องจากการศึกษาเวียดนามสอนให้คนมีกระบวนการคิดที่ดี มีจิตสำนึกรับผิดชอบในการร่วมแรงร่วมใจในการพัฒนาประเทศ จงรักภักดีในชาติ เป็นเดือดเป็นร้อนเมื่อมีเรื่องไม่ถูกต้องในสังคมเกิดขึ้น ไม่ถือว่าธุระไม่ใช่ ผิดกับประเทศไทยที่มีการศึกษาสูงจบปริญญาตรี โท แต่เป็นปริญญาทางความรู้ในตัวหนังสือเท่านั้น ไม่ได้ยกระดับคุณภาพทางจิตใจแต่อย่างใด ขาดจิตสำนึกในการร่วมแรงร่วมใจกันในการทำงาน ไม่มีความเสียสละความสุขส่วนตนเพื่อแผ่นดินเกิดที่น่าอยู่ เด็กบางคนจบปริญญาโทหางานทำไม่ได้เพราะทำงานไม่เป็นก็มีครับ