ถ้าไม่เลือกปฏิบัติ กฎก็คือกฎ เมื่อใช้บังคับก็ต้องยอมรับ
แต่ แนว ความคิดเรื่อง .357 และ 11 ม.ม. เป็นความคิดของบุคคลที่ไม่เข้าใจในขีปนวิธีและอาวุธศึกษา
ยึดมั่นกับความเชื่อผิดๆที่ว่า .357ยิงรางรถไฟขาด, 11 ม.ม. เป็นอาวุธสงคราม.....
ชนิดและขนาดอาวุธปืนที่ให้ประชาชนครอบครองได้ มีการกำหนดเป็นกฎกระทรวงฉนับที่ ๑๑ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เป็นข้อกำหนดเดียวเรื่องชนิด-ขนาดอาวุธปืน ที่กำหนดโดยชอบด้วย."กฎหมาย"กำหนดว่า .......อาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้ตามมาตรา ๗ หรือมาตรา ๒๔ ต้องเป็นอาวุธปืน ชนิดและขนาด ดังต่อไปนี้
(๑) อาวุธปืนชนิดลำกล้องมีเกลียวที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางปากลำกล้องไม่เกิน ๑๑.๔๕ มม.
(๒) อาวุธปืนชนิดลำกล้องไม่มีเกลียว ดังต่อไปนี้
(ก) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางปากลำกล้องไม่ถึง ๒๐ มม.
(ข) ปืนบรรจุปาก ปืนลูกซอง และปืนพลุสัญญาณ
(๓) อาวุธปืนชนิดที่มีเครื่องกลไกสำหรับบรรจุกระสุนเองให้สามารถยิงซ้ำได้ ดังต่อไปนี้
(ก) ขนาดความยาวของลำกล้องไม่ถึง ๑๖๐ มม.
(ข) ปืนลูกซอง
(ค) ปืนลูกกรดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางปากลำกล้อง ไม่เกิน ๕.๖ มม.
(๔) อาวุธปืนชนิดไม่มีเครื่องบังคับเสียงให้เบาผิดปกติ
(๕) อาวุธปืนชนิดที่ไม่ใช้กระสุนเป็นที่บรรจุวัตถุเคมีที่ทำให้เกิดอันตรายหรือเป็นพิษหรือไม่ใช้เครื่องกระสุนปืนที่บรรจุเชื้อโรค เชื้อเพลิง หรือวัตถุกัมมันตภาพรังสี
ส่วนที่มีการกล่าวอ้าง.....ออกระเบียบ.... เรื่องขนาด 357 45 ว่าร้ายแรง.....ห้ามประชาชนครอบครอง......ล้วนแต่เป็น "กฎกู"ถ้ากระทรวงมหาดไทยจะแก้กฎกระทรวงห้าม 357 45 ก็ต้องออกกฎร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
คือต้องให้ผู้รู้จริงเรื่องอาวุธเอาด้วย
แม้จะออกกฎได้....ก็ต้องคำนึงถึงผลและการบังคับใช้....เพราะจะเป็นการผลักให้ปืนดีๆที่มีครอบครองกันอยู่........ กลายเป็น
ปืนเถื่อน