เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 07, 2024, 02:29:11 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 35 36 37 [38] 39 40 41 ... 77
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ฟ้องป.3ไม่อนุญาต คัดค้านคำให้การครั้งที่ 3 09/51  (อ่าน 247274 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 330 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เด็กเส้น
Jr. Member
**

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 80


« ตอบ #555 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2008, 05:51:42 PM »

เล่นชักเย่อ เพลินไปเลย   Grin
บันทึกการเข้า
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #556 เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2008, 10:59:14 AM »

เป็นกำลังใจให้ครับ

ผมฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าตามไปอีกหนึ่งคดีแล้วครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
Casper
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 2
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 36



« ตอบ #557 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2008, 11:58:42 PM »

เรื่องไปถึงไหนแล้วครับ ขออนุญาตติดตามความคืบหน้าครับ
บันทึกการเข้า
๏แก้วเดียวจุก๏รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 381
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2086



« ตอบ #558 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2008, 11:40:30 AM »

ตอนนี้ส่งคำคัดค้านคำให้การต่อศาลไปแล้วครับ

    อ้างถึงคำให้การ ที่ผมเองก็ยังสงสัยอยู่
ทางฝ่ายกรมปกครอง อ้างว่า ผมไม่มีสิทธิ์ฟ้อง เนื่องเพราะคำอุทธรณ์ที่ยื่นไปในวันที่  5 พ.ย. 2550
ไม่เป็นคำอุทธรณ์ตามมาตรา 44 แห่ง พรบ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ปี 2539

   

ซึ่งมาตรา44 บอกให้ยื่นอุทธรณ์ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ตนได้รับคำสั่งดังกล่าว
    มาวิเคราะห์คำว่า คำสั่งดังกล่าว  
    คำสั่งที่ว่านี้คือคำสั่งไม่ออกใบอนุญาต ป.3 ให้ ซึ่งผมอ้างเอาคำสั่งซึ่งเขียนแนบท้าย ป.1 ว่าไม่อนุญาต ในวันที่ 2พ.ย.2550
และอุทธรณ์ไปเมื่อ วันที่ 5 พ.ย.2550
 
    แต่กรมปกครองอ้างว่า ผมได้รับทราบคำสั่งว่าไม่อนุญาต ตามหนังสือราชการลงวันที่ 9 พ.ย. 2550 และไม่ได้อุทธรณ์ จึงไม่มีสิทธิฟ้อง

    ไม่รู้จะวิเคราะห์อย่างไร ต้องดูว่า บันทึกแนบท้าย ป.1 ว่าไม่อนุญาตถือเป็นคำสั่งหรือเปล่า
บันทึกการเข้า



สิ้นสุดด้วยความเจ็บปวด ดีกว่าเจ็บปวดไม่สิ้นสุด
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #559 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2008, 11:53:50 AM »

 อ๋อย อ๋อย
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
ตี๋
แม่กลอง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 29
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 478


G26 ,S&W M60


เว็บไซต์
« ตอบ #560 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2008, 11:54:04 AM »

สู้ต่อไป ครับ  เพื่อสิทธิของเรา
บันทึกการเข้า


โอ้ เกษตรของเราแต่ก่อนเป็นป่าดงดอนไร้ความงามตา
เหล่าพี่ชายของเราสร้างมาฝ่าฟันพงพี
ปลิดทิ้งซึ่งความปราชัย หากใครเข้ามาย่ำยีก่อกรรมมากมี ทุกคนพลีชีพตน
เกษตรครั้งก่อนยากแค้นตอบแทนแก่เราหมองหม่น
ตรากตรำ ลำเค็ญ ยากเข็ญ จำทน
boon(เสือไบ)
ความประพฤติบกพร่อง จะทำให้บิดามารดาอับอาย
Hero Member
*****

คะแนน 532
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6011



« ตอบ #561 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2008, 12:01:15 PM »

เป็นกำลังใจให้คุณแก้วจุกเดียวครับ

ถ้าฟ้องไม่ได้แล้วเราไปขอใหม่ได้หรือเปล่าครับ ขอแล้วเขาไม่ยอมให้เราก็ฟ้องใหม่อีกรอบ Grin
บันทึกการเข้า

If a man says he is not afraid of dying, he is either lying or is a Gurkha
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #562 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2008, 12:02:00 PM »

  แต่กรมปกครองอ้างว่า ผมได้รับทราบคำสั่งว่าไม่อนุญาต ตามหนังสือราชการลงวันที่ 9 พ.ย. 2550 และไม่ได้อุทธรณ์ จึงไม่มีสิทธิฟ้อง

เอ๋..........ผมพยามเข้าใจว่าทางกรมการปกครอง(โดยพนักงานอัยการ)คงจะต้องยกข้ออ้างแม่น้ำทั้งแปดขึ้นมาโต้แย้งน้าแก้วอยู่แล้วครับ

 ผู้ถูกฟ้องคดีคงให้การต่อสู้แบบนี้ เพื่อให้ศาลปกครองพิจารณาและวินิจฉัยว่า คำสั่งทางปกครองในเรื่องนี้ คือคำสั่งใด ระหว่างคำสั่งที่ระบุว่าไม่อนุญาตในเอกสาร ป. ๑ วันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๐  หรือคำสั่งตามหนังสือราชการที่แจ้งให้น้าแก้วทราบ ฉบับลงวันที่ ๙ พศจิกายน ๒๕๕๐
           ซึ่งหากตีความโดยเคร่งครัดรัดมากๆ คำสั่งที่ระบุว่าไม่อนุญาตในเอกสาร ป. ๑ วันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๐  ผู้ถูกฟ้องคดีคงให้การและตีความว่า คำสั่งนั้นเป็นเพียงคำสั่งจากนายทะเบียน แจ้งให้เจ้าหน้าที่งานธุรการหรือที่เกี่ยวข้อง รับทราบว่ารายนี้ไม่อนุญาตเท่านั้น และให้ทำหนังสือฉบับลงวันที่ ๙ พศจิกายน ๒๕๕๐ เพื่อแจ้งให้แก่ผู้ขอทราบต่อไป จึงถือว่าอุทธรณ์ฉบับลงวันที่ ๕ พศจิกายน ๒๕๕๐ เป็นหนังสือที่ยื่นมาก่อนนายทะเบียนมีคำสั่งทางปกครองและก่อนแจ้งคำสั่งนั้น ให้ผู้ขอทราบคำสั่งไม่อนุญาต  จึงไม่ถือว่าหนังสือดังกล่าวเป็นการอุทธรณ์ตามกฎหมาย
           


 
บันทึกการเข้า
๐๐๓
“กมฺมุนา วตฺตตีโลโก”
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 89
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 529



« ตอบ #563 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2008, 12:04:00 PM »

น่าสนใจครับ
ประเด็นจึงอยู่ที่่ว่า จะถือว่า ข้อความที่สลักลงในท้าย ป.๑ ว่า "ไม่อนุญาต" นั้น ถือเป็น "คำสั่งฯ" ตามความหมายในมาตรานี้หรือยัง?

ถ้าใช้ความรู้สึกของคนทั่วไป ก็เข้าใจได้ว่า นี่แหละคือ "คำสั่งฯ" ที่ตอบเรากลับมา จึงถือว่า เราได้รับแจ้งโดยชอบแล้ว จึงมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ได้นับแต่วันนั้น

แต่ก็อาจจะตีความได้เช่นกันว่า นั่นยังไม่ใช่คำสั่งฯ แต่เป็นเพียงข้อความสื่อสารกันระหว่างนายทะเบียนกับ จนท. ผู้มีหน้าที่ต้อง "ทำคำสั่งฯ"  อีกชั้นหนึ่ง

ผมเองก็จำหน้าตา ป.๑  ไม่ได้แล้วว่า หน้าตาเป็นอย่างไร?  ในนั้น ผู้ลงนามคือผู้ขออนุญาต หรือว่า เป็น จนท. ลงชื่อเสนอขึ้นไป 

รอพี่ๆ ที่มีความรู้เรื่องกฎหมาย และเชี่ยวชาญเอกสารราชการให้ข้อมูลอีกทีครับ   Huh Huh Huh
บันทึกการเข้า
๐๐๓
“กมฺมุนา วตฺตตีโลโก”
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 89
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 529



« ตอบ #564 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2008, 12:08:11 PM »

อ้าว...... ชนกับคุณ SingCring  Smiley

เป็นกำลังใจให้คุณแก้วเดียวจุกต่อไปครับ 
บันทึกการเข้า
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #565 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2008, 12:21:23 PM »

ตอนนี้ส่งคำคัดค้านคำให้การต่อศาลไปแล้วครับ
 

 เยี่ยม เยี่ยม

ข้อเท็จจริงและหลักฐานชัดแจ้งอยู่ ศาลท่านพิเคราะห์ได้  Wink ถ้าให้ถอดเสื้อก็จะเห็นสีข้างแดงเป็นเทือก
อีกทั้งคำคัดค้านฯที่แจงว่ามีการกล่าวความเท็จต่อศาล ...... ถ้าศาลวินิจฉัย .... ก็เป็นเรื่อง  Cheesy




บันทึกการเข้า
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #566 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2008, 12:27:29 PM »

อ้าว...... ชนกับคุณ SingCring  Smiley

เป็นกำลังใจให้คุณแก้วเดียวจุกต่อไปครับ 

เรียกประกันเลยครับ  Cheesy Cheesy

ถือเป็นการช่วยกันเสริมความรู้ในหลายๆด้าน หลายๆ มุมมองครับ Wink

สิ่งที่น่าคิดอีกต่อไปครับท่าน ๐๐๓ "รูปแบบของคำสั่งและวิธีการแจ้งคำสั่งทางปกครอง" จะถือว่าผู้ถูกฟ้องคดีมีคำสั่งทางปกครองเมื่อใด และผู้ฟ้องคดี รับแจ้งคำสั่งทางปกครองเมื่อใด

ส่วนที่ 4
รูปแบบและผลของคำสั่งทางปกครอง


มาตรา 34 คำสั่งทางปกครองอาจทำเป็นหนังสือหรือวาจาหรือโดยการสื่อความหมายในรูปแบบอื่นก็ได้ แต่ต้อง มีข้อความหรือความหมายที่ชัดเจนเพียงพอที่จะเข้าใจได้

มาตรา 35 ในกรณีที่คำสั่งทางปกครองเป็นคำสั่งด้วยวาจา ถ้าผู้รับคำสั่งนั้นร้องขอและการร้องขอได้กระทำโดย มีเหตุอันสมควรภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่มีคำสั่งดังกล่าวเจ้าหน้าที่ผู้ออกคำสั่งต้องยืนยันคำสั่งนั้นเป็นหนังสือ

มาตรา 36 คำสั่งทางปกครองที่ทำเป็นหนังสืออย่างน้อยต้องระบุ วัน เดือนและปีที่ทำคำสั่ง ชื่อและตำแหน่งของ เจ้าหน้าที่ผู้ทำคำสั่ง พร้อมทั้งมีลายมือชื่อของเจ้าหน้าที่ผู้ทำคำสั่งนั้น

มาตรา 37 คำสั่งทางปกครองที่ทำเป็นหนังสือและการยืนยันคำสั่งทางปกครองเป็นหนังสือต้องจัดให้มีเหตุผล ไว้ด้วย และเหตุผลนั้นอย่างน้อยต้องประกอบด้วย
(1) ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ
(2) ข้อกฎหมายที่อ้างอิง
(3) ข้อพิจารณาและข้อสนับสนุนในการใช้ดุลพินิจ
นายกรัฐมนตรีหรือผู้ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายอาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดให้คำสั่งทางปกครอง กรณีหนึ่งกรณีใดต้องระบุเหตุผลไว้ในคำสั่งนั้นเองหรือในเอกสารแนบท้ายคำสั่งนั้นก็ได้

บทบัญญัติตามวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับกับกรณีดังต่อไปนี้
(1) เป็นกรณีที่มีผลตรงตามคำขอและไม่กระทบสิทธิและหน้าที่ของบุคคลอื่น
(2) เหตุผลนั้นเป็นที่รู้กันอยู่แล้วโดยไม่จำต้องระบุอีก
(3) เป็นกรณีที่ต้องรักษาไว้เป็นความลับตามมาตรา 32
(4) เป็นการออกคำสั่งทางปกครองด้วยวาจาหรือเป็นกรณีเร่งด่วน แต่ต้องให้เหตุผลเป็นลายลักษณ์อักษรใน เวลาอันควรหากผู้อยู่ในบังคับของคำสั่งนั้นร้องขอ

มาตรา 38 บทบัญญัติตามมาตรา 36 และมาตรา 37 วรรคหนึ่ง มิให้ใช้บังคับกับคำสั่งทางปกครองที่กำหนดใน กฎกระทรวง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 39 การออกคำสั่งทางปกครองเจ้าหน้าที่อาจกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ได้เท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์ของกฎหมาย เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดข้อจำกัดดุลพินิจเป็นอย่างอื่น

การกำหนดเงื่อนไขตามวรรคหนึ่ง ให้หมายความรวมถึงการกำหนดเงื่อนไขในกรณีดังต่อไปนี้ ตามความ เหมาะสมแก่กรณีด้วย
(1) การกำหนดให้สิทธิหรือภาระหน้าที่เริ่มมีผลหรือสิ้นผล ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง
(2) การกำหนดให้การเริ่มมีผลหรือสิ้นผลของสิทธิหรือภาระหน้าที่ต้องขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ในอนาคตที่ไม่แน่นอน
(3) ข้อสงวนสิทธิที่จะยกเลิกคำสั่งทางปกครอง
(4) การกำหนดให้ผู้ได้รับประโยชน์ต้องกระทำหรืองดเว้นกระทำหรือต้องมีภาระหน้าที่หรือยอมรับภาระหน้าที่ หรือความรับผิดชอบบางประการ หรือการกำหนดข้อความในการจัดให้มี เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มข้อกำหนดดังกล่าว

มาตรา 40 คำสั่งทางปกครองที่อาจอุทธรณ์หรือโต้แย้งต่อไปได้ให้ระบุกรณีที่อาจอุทธรณ์หรือโต้แย้ง การยื่น คำอุทธรณ์หรือคำโต้แย้ง และระยะเวลาสำหรับการอุทธรณ์หรือการโต้แย้งดังกล่าวไว้ด้วย
ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนบทบัญญัติตามวรรคหนึ่ง ให้ระยะเวลาสำหรับการอุทธรณ์หรือการโต้แย้งเริ่มนับใหม่ตั้งแต่ วันที่ได้รับแจ้งหลักเกณฑ์ตามวรรคหนึ่ง แต่ถ้าไม่มีการแจ้งใหม่และระยะเวลาดังกล่าวมีระยะเวลาสั้นกว่าหนึ่งปี ให้ขยาย เป็นหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งทางปกครอง

มาตรา 41 คำสั่งทางปกครองที่ออกโดยการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ ไม่เป็นเหตุให้คำสั่ง ทางปกครองนั้นไม่สมบูรณ์
(1) การออกคำสั่งทางปกครองโดยยังไม่มีผู้ยื่นคำขอในกรณีที่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการเองไม่ได้นอกจากจะมี ผู้ยื่นคำขอ ถ้าต่อมาในภายหลังได้มีการยื่นคำขอเช่นนั้นแล้ว
(2) คำสั่งทางปกครองที่ต้องจัดให้มีเหตุผลตามมาตรา 37 วรรคหนึ่ง ถ้าได้มีการจัดให้มีเหตุผลดังกล่าว ในภายหลัง
(3) การรับฟังคู่กรณีที่จำเป็นต้องกระทำได้ดำเนินการมาโดยไม่สมบูรณ์ ถ้าได้มีการรับฟังให้สมบูรณ์ในภายหลัง
(4) คำสั่งทางปกครองที่ต้องให้เจ้าหน้าที่อื่นให้ความเห็นชอบก่อนถ้าเจ้าหน้าที่นั้นได้ให้ความเห็นชอบในภายหลัง
             เมื่อมีการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง (1) (2) (3) หรือ (4) แล้ว และเจ้าหน้าที่ผู้มีคำสั่งทางปกครองประสงค์ให้ผล เป็นไปตามคำสั่งเดิม ให้เจ้าหน้าที่ผู้นั้นบันทึกข้อเท็จจริงและความประสงค์ของตนไว้ในหรือแนบไว้กับคำสั่งเดิมและต้องมี หนังสือแจ้งความประสงค์ของตนให้คู่กรณีทราบด้วย
              กรณีตาม (2) (3) และ (4) จะต้องกระทำก่อนสิ้นสุดกระบวนการพิจารณาอุทธรณ์ตามส่วนที่ 5 ของหมวดนี้ หรือ ตามกฎหมายเฉพาะว่าด้วยการนั้น หรือถ้าเป็นกรณีที่ไม่ต้องมีการอุทธรณ์ดังกล่าวก็ต้องก่อนมีการนำคำสั่งทางปกครองไป สู่การพิจารณาของผู้มีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยความถูกต้องของคำสั่งทางปกครองนั้น

มาตรา 42 คำสั่งทางปกครองให้มีผลใช้ยันต่อบุคคลตั้งแต่ขณะที่ผู้นั้นได้รับแจ้งเป็นต้นไป คำสั่งทางปกครองย่อมมีผลตราบเท่าที่ยังไม่มีการเพิกถอนหรือสิ้นผลลงโดยเงื่อนเวลาหรือโดยเหตุอื่น
             เมื่อคำสั่งทางปกครองสิ้นผลลง ให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจเรียกผู้ซึ่งครอบครองเอกสารหรือวัตถุอื่นใดที่ได้จัดทำขึ้น เนื่องในการมีคำสั่งทางปกครองดังกล่าว ซึ่งมีข้อความหรือเครื่องหมายแสดงถึงการมีอยู่ของคำสั่งทางปกครองนั้น ให้ ส่งคืนสิ่งนั้นหรือให้นำสิ่งของดังกล่าวอันเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้นั้นมาให้เจ้าหน้าที่จัดทำเครื่องหมายแสดงการสิ้นผลของ คำสั่งทางปกครองดังกล่าวได้

มาตรา 43 คำสั่งทางปกครองที่มีข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือผิดหลงเล็กน้อยนั้นเจ้าหน้าที่อาจแก้ไขเพิ่มเติม ได้เสมอ
ในการแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งทางปกครองตามวรรคหนึ่งให้แจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบตามควรแก่กรณี ในการนี้ เจ้าหน้าที่อาจเรียกให้ผู้ที่เกี่ยวข้องจัดส่งคำสั่งทางปกครอง เอกสารหรือวัตถุอื่นใดที่ได้จัดทำขึ้นเนื่องในการมีคำสั่งทาง ปกครองดังกล่าวมาเพื่อการแก้ไขเพิ่มเติมได้

หมวด 4
การแจ้ง


มาตรา 68 บทบัญญัติในหมวดนี้มิให้ใช้บังคับกับการแจ้งซึ่งไม่อาจกระทำโดยวาจาหรือเป็นหนังสือได้หรือมี กฎหมายกำหนดวิธีการแจ้งไว้เป็นอย่างอื่นในกรณีคำสั่งทางปกครองที่แสดงให้ทราบโดยการสื่อความหมายในรูปแบบอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ให้มี ผลเมื่อได้แจ้ง

มาตรา 69 การแจ้งคำสั่งทางปกครอง การนัดพิจารณา หรือการอย่างอื่นที่เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ทราบอาจกระทำด้วยวาจาก็ได้ แต่ถ้าผู้นั้นประสงค์จะให้กระทำเป็นหนังสือก็ให้แจ้งเป็นหนังสือ
การแจ้งเป็นหนังสือให้ส่งหนังสือแจ้งต่อผู้นั้น หรือถ้าได้ส่งไปยังภูมิลำเนาของผู้นั้นก็ให้ถือว่าได้รับแจ้งตั้งแต่ใน ขณะที่ไปถึง
ในการดำเนินการเรื่องใดที่มีการให้ที่อยู่ไว้กับเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว การแจ้งไปยังที่อยู่ดังกล่าวให้ถือว่าเป็นการแจ้งไป ยังภูมิลำเนาของผู้นั้นแล้ว

มาตรา 70 การแจ้งเป็นหนังสือโดยวิธีให้บุคคลนำไปส่ง ถ้าผู้รับไม่ยอมรับหรือถ้าขณะนำไปส่งไม่พบผู้รับ และ หากได้ส่งให้กับบุคคลใดซึ่งบรรลุนิติภาวะที่อยู่หรือทำงานในสถานที่นั้น หรือในกรณีที่ผู้นั้นไม่ยอมรับ หากได้วางหนังสือ นั้นหรือปิดหนังสือนั้นไว้ในที่ซึ่งเห็นได้ง่าย ณ สถานที่นั้นต่อหน้าเจ้าพนักงานตามที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ไปเป็นพยานก็ ให้ถือว่าได้รับแจ้งแล้ว

มาตรา 71 การแจ้งโดยวิธีส่งทางไปรษณีย์ตอบรับให้ถือว่าได้รับแจ้งเมื่อครบกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันส่งสำหรับ กรณีภายในประเทศหรือเมื่อครบกำหนดสิบห้าวันนับแต่วันส่งสำหรับกรณีส่งไปยังต่างประเทศ เว้นแต่จะมีการพิสูจน์ได้ว่า ไม่มีการได้รับหรือได้รับก่อนหรือหลังจากวันนั้น

มาตรา 72 ในกรณีที่มีผู้รับเกินห้าสิบคนเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบตั้งแต่เริ่มดำเนินการในเรื่องนั้นว่าการแจ้งต่อ บุคคลเหล่านั้นจะกระทำโดยวิธีปิดประกาศไว้ ณ ที่ทำการของเจ้าหน้าที่และที่ว่าการอำเภอที่ผู้รับมีภูมิลำเนาก็ได้ ในกรณี นี้ให้ถือว่าได้รับแจ้งเมื่อล่วงพ้นระยะเวลาสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้แจ้งโดยวิธีดังกล่าว

มาตรา 73 ในกรณีที่ไม่รู้ตัวผู้รับหรือรู้ตัวแต่ไม่รู้ภูมิลำเนาหรือรู้ตัวและภูมิลำเนาแต่มีผู้รับเกินหนึ่งร้อยคน การ แจ้งเป็นหนังสือจะกระทำโดยการประกาศในหนังสือพิมพ์ซึ่งแพร่หลายในท้องถิ่นนั้นก็ได้ ในกรณีนี้ให้ถือว่าได้รับแจ้งเมื่อ ล่วงพ้นระยะเวลาสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้แจ้งโดยวิธีดังกล่าว

มาตรา 74 ในกรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนการแจ้งคำสั่งทางปกครองจะใช้วิธีส่งทางเครื่องโทรสารก็ได้ แต่ต้องมี หลักฐานการได้ส่งจากหน่วยงานผู้จัดบริการโทรคมนาคมที่เป็นสื่อในการส่งโทรสารนั้น และต้องจัดส่งคำสั่งทางปกครอง ตัวจริงโดยวิธีใดวิธีหนึ่งตามหมวดนี้ให้แก่ผู้รับในทันทีที่อาจกระทำได้ ในกรณีนี้ให้ถือว่าผู้รับได้รับแจ้งคำสั่งทางปกครอง เป็นหนังสือตามวัน เวลา ที่ปรากฏในหลักฐานของหน่วยงานผู้จัดบริการโทรคมนาคมดังกล่าว เว้นแต่จะมีการพิสูจน์ได้ว่า ไม่มีการได้รับหรือได้รับก่อนหรือหลังจากนั้น


บันทึกการเข้า
๐๐๓
“กมฺมุนา วตฺตตีโลโก”
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 89
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 529



« ตอบ #567 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2008, 12:50:41 PM »



มาตรา 34 คำสั่งทางปกครองอาจทำเป็นหนังสือหรือวาจาหรือโดยการสื่อความหมายในรูปแบบอื่นก็ได้ แต่ต้อง มีข้อความหรือความหมายที่ชัดเจนเพียงพอที่จะเข้าใจได้

มาตรา 35 ในกรณีที่คำสั่งทางปกครองเป็นคำสั่งด้วยวาจา ถ้าผู้รับคำสั่งนั้นร้องขอและการร้องขอได้กระทำโดย มีเหตุอันสมควรภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่มีคำสั่งดังกล่าวเจ้าหน้าที่ผู้ออกคำสั่งต้องยืนยันคำสั่งนั้นเป็นหนังสือ

มาตรา 36 คำสั่งทางปกครองที่ทำเป็นหนังสืออย่างน้อยต้องระบุ วัน เดือนและปีที่ทำคำสั่ง ชื่อและตำแหน่งของ เจ้าหน้าที่ผู้ทำคำสั่ง พร้อมทั้งมีลายมือชื่อของเจ้าหน้าที่ผู้ทำคำสั่งนั้น




ถ้าอย่างนี้ก็น่าจะชัดแล้วนะครับ
หนังสือคำสั่่งที่ออกตามมานั้น ไม่มีผลอะไร ถ้าจะมีก็เป็นผลดีคือย้ำน้ำหนักว่า คำสั่งฯที่ออกด้วยการสลักใน ป.๑ นั้นน่ะ  ของแท้แน่นอน
แบบนี้กองเชียร์น่าจะมีเฮครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 14, 2008, 12:54:41 PM โดย ๐๐๓ » บันทึกการเข้า
Prathet
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 56
ออฟไลน์

กระทู้: 596


« ตอบ #568 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2008, 12:57:48 PM »

ตอนนี้ส่งคำคัดค้านคำให้การต่อศาลไปแล้วครับ

    อ้างถึงคำให้การ ที่ผมเองก็ยังสงสัยอยู่
ทางฝ่ายกรมปกครอง อ้างว่า ผมไม่มีสิทธิ์ฟ้อง เนื่องเพราะคำอุทธรณ์ที่ยื่นไปในวันที่  5 พ.ย. 2550
ไม่เป็นคำอุทธรณ์ตามมาตรา 44 แห่ง พรบ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ปี 2539

   

ซึ่งมาตรา44 บอกให้ยื่นอุทธรณ์ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ตนได้รับคำสั่งดังกล่าว
    มาวิเคราะห์คำว่า คำสั่งดังกล่าว  
    คำสั่งที่ว่านี้คือคำสั่งไม่ออกใบอนุญาต ป.3 ให้ ซึ่งผมอ้างเอาคำสั่งซึ่งเขียนแนบท้าย ป.1 ว่าไม่อนุญาต ในวันที่ 2พ.ย.2550
และอุทธรณ์ไปเมื่อ วันที่ 5 พ.ย.2550
 
    แต่กรมปกครองอ้างว่า ผมได้รับทราบคำสั่งว่าไม่อนุญาต ตามหนังสือราชการลงวันที่ 9 พ.ย. 2550 และไม่ได้อุทธรณ์ จึงไม่มีสิทธิฟ้อง

    ไม่รู้จะวิเคราะห์อย่างไร ต้องดูว่า บันทึกแนบท้าย ป.1 ว่าไม่อนุญาตถือเป็นคำสั่งหรือเปล่า
-ผมทำงานในส่วนราชการ เคยได้รับมอบหมายให้ทำคำให้การแก้คดีในศาลปกครองอยู่หลายครั้ง  การแก้คดีแบบข้างๆคูๆ แบบนี้ก็เคยทำบ้างครับ เพื่อตั้งประเด็นให้ศาลพิจารณาเยอะๆ หน่อย  แต่ศาลไม่ค่อยรับฟังเท่าใดหรอกครับ
-การทำคำอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองในกรณีนี้ ผมว่าผู้ฟ้องคดีได้กระทำครบถ้วนตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้วครับ  มีการอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งทางปกครองฉบับไหนก็ตาม
-ถ้าถืออย่างที่ผู้ถูกฟ้องคดีกล่าวอ้างว่า คำสั่งทางปกครองตามหนังสือราชการลงวันที่ 9 พ.ย. 2550 เป็นคำสั่งทางปกครองที่ถูกต้อง(คำสั่งแรกที่อยู่ในเอกสารใบ ป.1 ไม่ใช่คำสั่งทางปกครองที่ถูกต้อง)   แต่ผู้ฟ้องคดีไม่ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว   ผลก็จะกลายเป็นว่า  วันดีคืนดี  ผู้ถูกฟ้องคดีก็ออกคำสั่งทางปกครองภายหลังจากคำสั่งฉบับแรก  มาอีกหลายฉบับ  แล้วก็มากล่าวอ้างว่าไม่ได้มีการอุทธรณ์คำสั่งทางปกครอง จึงไม่มีอำนาจฟ้อง  ตลกครับ
บันทึกการเข้า

A well regulated Militia, being necessary to the security of a free State, the right of the people to keep and bear Arms, shall not be infringed.(Second Amendment to the United States Constitution Article 2)
Egle
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #569 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2008, 01:23:04 PM »

  แบบ นี้ ถ้า จนท. พยายาม ดึง เรื่องประวิงเวลา  แล้วออก หนังสือราชการ ตอบไปว่าไม่อนุญาต ให้ช้าเข้าไว้ ให้ เกิน 15 วัน ก็จะอ้างว่า เกินกำหนด ไม่มีสิทธิ อุทธรณ์ แล้ว
         เพราะ ผู้ฟ้อง ทราบ อยู่แล้วว่า ไม่อนุญาต ใน ป.๑ ตั้งแต่ 2 พ.ย. ทำไมไม่ อุทธรณ์  มัวรอ อะไรอยู่จึงเกินกำหนด
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 35 36 37 [38] 39 40 41 ... 77
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.113 วินาที กับ 22 คำสั่ง