เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 30, 2024, 05:04:17 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 18 19 20 [21] 22 23 24 ... 82
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ในเมื่อใช้ชีวิตร่วมกันไม่ได้ ฝ่ายหนึ่งบาดเจ็บอีกฝ่ายหนึ่งกลับมาอีกครั้ง  (อ่าน 227257 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 69 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #300 เมื่อ: มีนาคม 17, 2008, 01:24:55 PM »

             ยังเห็น ID ของพี่ขึ้นมาก็แอบดูประจำ ขอให้สุขสบายดีนะครับยังแอบเอาใจช่วยอยู่ แม้นไม่ค่อยได้ตอบ ขอส่งกำลังใจช่วยครับ Grin Grin Grin Grin

ขอบคุณครับ

วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2551


ไปถึง รพ. 7.30 น. ลงทะเบียนแล้วไปที่ห้องตรวจได้บัตรคิวเบอร์ 11  ออกไปหาข้าวมื้อเช้ากินแถวบางรักแล้วซื้อดอกไม่กลับมาพร้อมจุดธูปกล่าวคำบูชาอธิษฐาน ท่านบรมครูหมอชีวก โกมารภัจจ์ เหมือนทุกครั้งที่มาตรวจ  9.30 น. ได้เข้าพบอาจารย์และแจ้งให้ทราบว่ายังมีเลือดออกเป็นช่วงๆ 
ท่านตรวจดูภายนอกแล้วสั่งอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในใบสั่งยาเรียบร้อย ให้นำปัสสาวะไปตรวจและให้ไปที่แผนกรังสีเพื่อนัดทำการฉีดสีทำเอ๊กซเรย์ หลังจากนำปัสสาวะไปส่งที่ห้องตรวจแล้วไปที่แผนกรังสีได้วันนัดทำวันที่ 27 เดือนนี้ กลับขึ้นไปพบอาจารย์ท่านบอกว่าไม่ต้องเครียดยังไงก็ต้องดูแลกันต่อไป
ให้มาดูผลกันอีกครั้งวันที่ 1 เมษายน ครับ

ทางแผนกรังสีสั่งยาตัวนี้มาให้ล้างท้องก่อนเอ๊กซเรย์เหมือนก่อนผ่าตัด หมดไส้หมดพุงอีกแล้วครับ Wink


คำสั่งที่ให้ไปติดต่อเพื่อทำเอ๊กซเรย์ครับ
บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
Major
ก็แค่.....?
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 255
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1636


ดวงชีวัน นั้นเรายอม พร้อมจะพลี


« ตอบ #301 เมื่อ: มีนาคม 17, 2008, 03:41:12 PM »

ขอขอบคุณสำหรับบทความเกี่ยวกับ โรคา พยาธิ

และ ขอเป็นกำลังใจให้ ได้รับชัยชนะจากโรคร้ายครับผม

ด้วยความเคารพครับ
 เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม
บันทึกการเข้า

ผิดหวังแล้วหวังใหม่ไม่ลดละ            หวังเพื่อจะผิดหวังในครั้งใหม่
แล้วเราก็ผิดหวังสมดังใจ                 เราจึงไม่ผิดหวังสักครั้งเดียว
RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #302 เมื่อ: มีนาคม 27, 2008, 12:58:31 PM »

ขอขอบคุณสำหรับบทความเกี่ยวกับ โรคา พยาธิ

และ ขอเป็นกำลังใจให้ ได้รับชัยชนะจากโรคร้ายครับผม

ด้วยความเคารพครับ
 เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม

ผมจะพยายามอดทนและต่อสู้ครับ
ขอบคุณครับพี่


วันนี้ออกจากบ้านสายได้เพราะแผนกเอ๊กซเรย์นัดไว้ 9.30 น.  ถึง รพ. ประมาณ 8.50 น. ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่โจ๊กมื้อเย็นเมื่อวานนี้ กินยาถ่ายเมื่อวานเพื่อล้างลำไส้เหมือนก่อนทำ ซีทีสแกน และ เข้าผ่าตัด
เข้าห้องเอ๊กซเรย์ 5 หลังจากเปลี่ยนชุดของ รพ. เจ้าหน้าที่ให้นอนบนเตียงของเครื่องเอ๊กซเรย์แล้วปรับระดับความสูง ปรับอุปกรณ์เหมือนหัวฉายแสงมาอยู่แถวทวารเทียมหน้าท้อง

ดูที่ทวารเทียมแล้วให้ผมแกะถุงเก็บปัสสาวะออก ผมจึงขอให้ช่วยนำกระดาษชำระที่เตรียมไปด้วยมาให้ ไม่อย่างนั้นเลอะหมดทั้งตัวผมและเตียงเอ๊กซเรย์ เจ้าหน้าที่ก็ฉีกและพับกระดาษให้พร้อมแล้วผมแกะถุงออกจากแป้นเอากระดาษวางไว้รอบทวารเทียม ผมถามว่าวันนี้ฉีดสีตรงไหน เธอก็บอกว่าอาจารย์สั่งไว้ให้ตรวจลำไส้ช่วงที่ต่อกับท่อไตพร้อมกับนำถุงใส่น้ำยาทึบแสงแล้วก็นำท่อนำน้ำยาขนาดท่ออากาศ (ท่ออ๊อกซิเจนตู้ปลา) เสียบเข้าไปจากลำไส้ที่เป็นทวารเทียมหน้าท้อง

ผมไม่รู้สึกเจ็บหรือมีอาการใดจนเธอพูดว่า ทนสักช่วงหนึ่งจนคุณหมอทำเอ๊กซเรย์เสร็จนะคะ แล้วก็เริ่มดันน้ำยาจากท่อฉีดยาผ่านลำไส้เข้าไปซึ่งผมก็เริ่มรู้สึกตึงและปวดบริเวณหน้าทองตามแนวจากขวาไปซ้าย  คุณหมอมาเริ่มขั้นตอนการเอ๊กซเรย์ด้วยการดูจอภาพซึ่งอยู่ด้านหล้ง (ผมมองไม่เห็น) แล้วก็ให้ผมตะแคงตัว กลั้นหายใจ และทำการเอ๊กซเรย์ แต่ก็พูดกับผเจ้าหน้าที่ว่า คอนทราสต่ำมาก มองไม่ค่อยเห็นให้ผสมน้ำยาทีบแสงมาเพิ่มแล้วฉีดเข้าไปอีก อาการปวดเพิ่มขึ้นจนไปถึงด้านหล้งของเอวซึ่งผมคิดว่าน้ำยาทึบแสงก็ไปถึงไตทั้งสองข้างแล้ว

คุณหมอให้ผู้ช่วยนำถุงที่แขวนไว้ลงต่ำกว่าเตียงที่ผมนอนและใช้ลูกยางที่ต่อกับท่อในระบบเพื่อปั้มน้ำยากลับออกมาจากลำไส้ อาการปวดลดลงไปทันทีแต่ผมก็รู้ว่าอีกสักพักผมคงปวดอีกเพราะเธอต้องปั้มกลับเข้าไป ประมาณนาทีเศษคุณหมอก็ให้ผู้ช่วยแขวนถุงไว้ที่เดิมแล้วก็ปั้มน้ำยากลับเข้าไปอีกครั้ง...ผมปวดครับ...คุณหมอได้ยินและบอกว่าทนอีกแป๊บนึงเห็นชัดขึ้นแล้ว ให้ผมกลั้นหายใจเป็นช่วงๆ และก็ทำเอ๊กซเรย์ต่อจนเสร็จ ผมนอนพักประมาณ 10 นาที ได้คุยกันต่อนิดหน่อยซึ่งผมก็ไม่ได้ถามอะไรเพราะจะมาดูผลอีกครั้งวันที่ 1 เมษายน ครับ

อ่านแล้วอย่าหวาดเสียวแทนผมนะครับพี่ๆ  Wink
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 30, 2008, 06:34:02 PM โดย RroamD » บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #303 เมื่อ: เมษายน 01, 2008, 09:57:44 PM »

ตามที่ตั้งใจไว้ว่าจะออกจากบ้านสายหน่อยสำหรับวันนี้....แต่

1 เมษายน 2551

เมื่อคืนเข้านอนดึกเหมือนเดิม (เที่ยงคืนกว่า) ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ 6.30 น. ทำอะไรพร้อมแล้วจะได้ออกจากบ้านสัก 8 โมง  แต่ลืมตาแล้วไม่หลับต่อดูเวลาแล้วกดสวิทซ์ปิดการปลุก ตี 5 ครึ่ง เปิดเครื่องวิทยุสมัครเล่นในห้องนอนฟังไปสักพักแล้วอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยไปนั่งดิ่มกาแฟกับน้ำเปล่าพร้อมกับดูข่าวจากโทรทัศน์ หมดกาแฟกับน้ำหนึ่งขวดใหญ่ออกไปเรียกรถแท๊กซี่ปากซอยบ้านเพื่อไป รพ. เลี้ยวเข้าถนนนราธิวาสราชนครินทร์ยังไม่ได้ครึ่งทางจากถนนจันทน์ไปยังแยกสาทรการจราจรก็เริ่มเคลื่อนตัวช้าสลับหยุดนิ่งเป็นช่วงๆ ครับ
ดูเวลา...เพิ่ง 7 โมงยังไม่ครึ่งทำไมรถเริ่มติดแล้ววันนี้จึงคิดว่าไม่ผิดหวังที่ออกจากบ้านเช้า ถ้าสายกว่านี้สักชั่วโมงมีหวังวันนี้อาจจะไม่ได้ตรวจแน่ จ่ายค่ารถ 51 บาทแล้วเดินไปยื่นใบนัดแล้วรอเรียกชื่อดูเวลาให้แน่ใจอีกครั้ง 7.40 น. (เช้าเหมือนเดิม) ได้ใบสั่งยา(เปล่า)แล้วขึ้นไปที่ห้องตรวจวันนี้ได้บัตรคิวเบอร์ 11 อีกแล้วแสดงว่าได้พบอาจารย์เร็วแน่ พยาบาลที่ห้องตรวจบอกว่าอย่าลืมไปขอฟิล์มเอ๊กซเรย์ที่แผนกรังสีมาด้วย ผมจึงไปยื่นบัตรผู้ป่วยที่ช่องขอฟิล์มเจ้าหน้าที่ถามว่าเอาอะไรบ้างผมบอกว่าเอาทั้งหมด ยืนรอแป๊บเดียวก็ได้รับซองฟิล์มเรียบร้อยครับ

เดินถือซองฟิล์มไปคิดไปแล้วสงสัยวันนี้ไม่ได้ออกไปกินเกาเหลาเลือดหมูที่ร้านข้าวแกงเก่าบางรักมื้อเช้าแน่ เพราะว่าผมเบิกฟิล์มมาแล้วคงถือออกไปนอก รพ. ไม่ได้แต่ไม่ลองก็ไม่รู้อย่างมากก็ถูกถาม  เดินตรงออกไปหน้า รพ. จนพ้นประตูก็ไม่มีใครว่าอะไร...ได้กินเกาเหลาเลือดหมูเหมือนเดิม อิ่มแล้วกลับไปที่ห้องตรวจ...อาการอยากเข้าห้องน้ำมาแล้วจึงต้องพาซองฟิล์มเข้าไปด้วย กลับไปที่ชั้นสองเดินเล่นอยู่พักหนึ่งเกือบ 9 โมงแล้ว เข้าไปที่ห้องตรวจ...โอ้โห...คนไข้มากผิดปกติวันนี้ขนาดยืนเบียดกันในบริเวณห้องตรวจผมจีงออกมาหาที่นั่งข้างนอกครับ
ได้ที่นั่งที่พอจะได้ยินเวลาเจ้าหน้าที่เรียกผ่านไมโครโฟน ในใจก็เริ่มคิดถึงตอนที่ผมรับฟิล์ม ซีที สแกน ครั้งแรกแล้วเป็นช่วงพักเที่ยงรอเข้าพบแพทย์ที่ รพ. แห่งแรก(ผมยกเลิกการผ่าตัด)ว่าเป็นอะไรขนาดไหนร้ายแรงหรือไม่ แล้วอีกความคิดหนึ่งก็แซงขึ้นมาแทนทำนึกถึงเจ้าก้อนเซลล์ที่อาจจะพบในระบบทวารเทียมจากฟิล์มในซองหลังจากพบและอาจารย์ชี้ให้ดูวันนี้เป็นเหตุทำให้มีเลือดออกมากับปัสสาวะร่วมเดือนแล้ว ผมพยายามข่มใจตัวเองไม่ให้คิดแต่ก็ทำไม่สำเร็จเพราะมันวนเวียนอยู่ตลอดเวลาจนได้ยินเสียงคุ้นๆ เรียกชื่อและนามสกุล ผมจึงหยุดคิดครับ


พี่ศรี(พยาบาล)เรียกนี่หว่า...รีบลุกแล้วเดินเข้าไปในห้องตรวจ...แกบอกว่าคิว 11 ฟิล์มพร้อมแต่อาจารย์ยังไม่ลง opd เลยวันนี้สงสัยจะนานกว่าทุกครั้งแน่ คนไข้นัดก็เกือบ 60 คน ให้ผมหาที่นั่งที่สามารถนั่งยาวได้ไว้เลย ผมก็กล่าวขอบคุณแกแล้วออกไปหาที่นั่งอีกรอบแต่ก็ไม่ยากนั่งๆ เดินๆ อีกอย่างผมต้องเข้าห้องน้ำเป็นช่วงๆ เนื่องจากต้องปล่อยน้ำออกจากถุงที่ติดหน้าท้องด้วย ความคิดที่เรียนให้ทราบก็กลับมาวนเวียนจนผมต้องหยิบน้ำมันทาหอมขวดเล็กในกระเป๋าเสื้อมาทาเป็นระยะเผื่อช่วยผ่อนคลาย(อย่าถือสาคนแก่นะครับ)
10 โมงกับอีก 20 นาที พี่ศรีเรียกผมอีกครั้ง...เดินไปหน้าห้องตรวจได้พบคนไข้หลายคนได้ทักทายกันตามประสาคนป่วย(มีผมคนเดียวที่เป็นมะเร็งและอายุน้อยที่สุดต่างหาก) พี่ศรีขอบัตรคิวผมแล้วบอกว่ารอนักศึกษาชุดใหม่(3 คน)ที่มาเรียนกับอาจารย์เรียกชื่อ ผมคุยกับน้า ลุง พี่อีกท่านหนึ่ง(เป็น่ต่อมลูกหมากโต อายุน้อยกว่าผม)เพิ่งเข้ามาก็ทักทายผมคุยกันเบาๆ อยูทั้งกลุ่มประมาณ 15 กว่านาทีทำให้ผมลืมความคิดที่หลอนไปอย่างอัตโนมัติ ต่างคนต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกันและบอกว่าผมดูอ้วนขึ้นกว่าเดิมมากพอควร

เข้าพบอาจารย์ได้เห็นนักศึกษาแพทย์ที่เรียนเฉพาะทางอีก 3 คนนั่งอยู่ด้วย ผมสวัสดีทั้งหมดแล้วส่งซองฟิล์มให้แล้วนั่งลง อาจารย์เปิดแฟ้มการตรวจรักษาและพูดให้ นศพ. ทราบถึงขั้นตอนการรักษาผมตั้งแต่เริ่มต้น นำฟิล์มตั้งแต่ก่อนผ่าตัด หลังผ่าตัดติดที่บอร์ดไฟชี้นให้ดูถึงตำแหน่งของโรค เสร็จแล้วก็หยิบฟิล์มชุดล่าสุดออกมาพร้อมพูดว่า ผ่านมา 5 เดือน ตอนนี้มีปัญหาเลือดออกอีกครั้งมาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น ความกลัวกลับมาที่ผมอีกครั้งแต่ก็ดูฟิล์มอยู่สักพักแล้วก็บอกให้ นศพ.อ่านรายงานผลของรังสีแพทย์ซึ่งก็ปรากฏว่า ไม่พบอะไรเพิ่มในระบบที่สั่งให้ตรวจ ผมโล่งใจทันทีแต่ก็ถามอาจารย์ว่าขั้นตอนต่อไปของผมจะเป็นอย่างไรบ้างผมเป็นไข้มาสองสามวันหลังจากฉีดสีสองรอบ ท่านก็บอกว่าขอดูอาการอีกสามอาทิตย์หากยังไม่ดีขึ้นจะส่งไปตรวจด้วยการส่องกล้อง ช่วงนี้ให้พักผ่อนก่อนเพราะไม่อยากให้กระทบกับระบบทวารเทียม ให้ผมขึ้นนอนที่เตียงตรวจแล้วขออนุญาตให้ นศพ.ดูทวารเทียมที่หน้าท้องพร้อมอธิบายถึงข้อดีเทียบกับการฝังลำไส้แทนที่กระเพาะปัสสาวะแล้วใช้ระบบขับถ่ายแบบเดิม

สั่งยาพร้อมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ให้แล้วถามผมว่าต้องการอุปกรณ์ตัวใดเพิ่มหรือไม่ ผมก็เรียนท่านว่าที่เบิกให้เพียงพอกับการใช้ ท่านก็บอกว่าอย่าเครียด
นัดครั้งต่อไป 29 เมษายน ครับ




ขอบคุณพี่ๆ ที่สละเวลาเข้ามาอ่านครับ
ด้วยความเคารพทุกท่าน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 01, 2008, 11:37:28 PM โดย RroamD » บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
รัตตรา
"อร่อย..อารมณ์"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 506
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6849


08-21491911 08-59591911


« ตอบ #304 เมื่อ: เมษายน 02, 2008, 11:00:32 AM »

ยังเป็นกำลังใจให้อยู่นะครับ... เยี่ยม
บันทึกการเข้า


"จงคิดว่า มีใคร ได้มองอยู่...เฝ้ามองดู ตัวเรา อย่างเฝ้าจ้อง
ทำสิ่งใด รู้ได้ สายตามอง...อย่างน้อยต้อง รู้ละอาย ในหมายทำ"
อ้วน 008 รักในหลวง
ปืนดี คือปืนที่อยู่ในมือคนดี
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 120
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2249



« ตอบ #305 เมื่อ: เมษายน 02, 2008, 01:02:34 PM »

กำลังใจจากผมด้วยอีกคนครับ
บันทึกการเข้า

สนับสนุนการใช้ชีวิต ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง พอกิน พออยู่ พอใช้ พอที่จะแบ่งปัน
RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #306 เมื่อ: เมษายน 04, 2008, 02:23:59 PM »

ยังเป็นกำลังใจให้อยู่นะครับ... เยี่ยม

ขอบคุณพี่รัตตรามากๆ ที่ให้กำลังตลอดเวลาครับ ไหว้

กำลังใจจากผมด้วยอีกคนครับ

ขอบพระคุณครับพี่อ้วน  008 ไหว้

ตั้งแต่วันพฤหัสช่วงสายๆ หลังจากตื่นนอนแล้วทำกิจวัตรประจำวันที่เพิ่มมาอีกหนึ่งอย่างคือเทปัสสาวะจากถุงพ่วง สังเกตุว่าสีเริ่มจางและเปลี่ยนจากสีโค๊กอ่อนมาทางสีเขียวทำให้ผมสบายใจขึ้น ช่วงกลางวันทำงานและเข้าห้องน้ำเพื่อปล่อยน้ำออกจากถุงติดหน้าท้องก็ดูว่าเลือดจางลงเกือบมองไม่ออกแล้ว ยาที่อาจารย์สั่งมาให้ถึงวันนี้นับแล้วเพิ่งกินไป 5 เม็ด แต่ก็ต้องกินให้หมด 28 เม็ดตามคำสั่ง ถ้าอาการทุเลาลงจนไม่มีเลือดออกมาปนกับปัสสาวะที่พบ วันที่ 29 เดือนนี้ผลจากการตรวจปัสสาวะคงเป็นปกติและผมคงจะไม่ต้องเข้ารับการตรวจเพิ่มด้วยการสอดกล้องผ่านทวารเทียมหน้าท้องเพื่อตรวจอีกครั้งครับ


จากเรื่องของมะเร็งชนิดต่างๆ มาอ่านต่อครับ
อาหารเพื่อสุขภาพ

โภชนบำบัดสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม

มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยในสตรี โดยสาเหตุที่เกิดมีหลากหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม อาหารที่มีไขมันสูง ฮอร์โมน ความอ้วนและกัมมันตภาพรังสี เป็นต้น โดยสตรีควรทำการตรวจคลำเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำทุกเดือนเพื่อสำรวจความผิดปกติ ในปัจจุบันทางการแพทย์เชื่อว่ามะเร็งเต้านมไม่ใช่โรคเฉพาะที่ แต่เป็นโรคทั้งระบบของร่างกาย ดังนั้น การรักษาด้วยการผ่าตัดจึงไม่เพียงพอ อาจต้องได้รับเคมีบำบัด และยาต้านฮอร์โมนร่วมด้วย โดยการผ่าตัดจะมีทั้งแบบผ่าตัดเลาะเต้านมออกทั้งหมด และผ่าตัดบางส่วนในกรณีที่ก้อนเนื้อมีขนาดเล็ก ผู้ป่วยสามารถเก็บรักษาเต้านมไว้ได้ แต่หลังผ่าตัดอาจต้องรับการฉายแสงเพื่อควบคุมส่วนที่เหลือ

ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมส่วนใหญ่มักจะต้องได้รับการรักษาทั้งเคมีบำบัดและการฉายรังสี ดังนั้นผลข้างเคียงจึงมีมาก นอกจากนี้ ยังพบได้บ่อยที่มะเร็งเต้านมมักจะกลับมาเป็นซ้ำ เช่น เป็นข้างขวารักษาจนไม่พบมะเร็งแล้วแต่ต่อมาพบการกลับมาเป็นข้างซ้ายอีก เพราะฉะนั้นหากดูแลตนเองไม่ดีทั้งเรื่องของอาหารและการปฏิบัติตัว ก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดมาเป็นซ้ำอีกได้สูง การดูแลน้ำหนักตัวถือเป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ และการป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านม เนื่องจากเซลล์ไขมันสามารถส่งเสริมการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจนได้

โภชนบำบัด

ข้าวแป้ง

รับประทานข้าวแป้งโดยได้รับคาร์โบไฮเดรต 50-55% ของพลังงานที่ร่างกายต้องการทั้งหมดต่อวัน ควรรับประทานข้าวแป้งเป็นอาหารหลักทั้ง 3 มื้อ ในผู้ที่อยู่ในภาวะเจ็บป่วยควรได้รับข้าวอย่างน้อยมื้อละ 2-3 ทัพพี พบว่าการได้รับธัญพืช โดยเฉพาะธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ถั่วเมล็ดแห้ง เป็นต้น จะช่วยให้ร่างกายได้รับโฟเลทซึ่งสามารถให้ผลดีต่อผู้ป่วยมะเร็งได้

เนื้อสัตว์

เนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูงควรหลีกเลี่ยง อีกทั้งเนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนการปิ้งย่างจนเกิดเขม่าควันควรหลีกเลี่ยง รวมไปถึงเนื้อสัตว์ที่ผ่านการแปรรูป เช่น ไส้กรอก กุนเชียง ควรหลีกเลี่ยง นอกจากนี้การรับประทานเต้าหู้หรือน้ำนมถั่วเหลืองวันละ 1 แก้วสามารถให้ผลดีต่อการป้องกันการเกิดมะเร็งและลดอัตราการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่รับประทานในปริมาณมากเกิน เพราะการได้รับถั่วเหลืองในปริมาณมากเกิน ก็สามารถส่งผลให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตขึ้นจากฤทธิ์ที่คล้ายคลึงกับฮอร์โมนเพศหญิงของถั่วเหลืองได้

ไขมัน

ควรได้รับไขมันวันละ 30% ของพลังงานที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน และไม่รับประทานไขมันอิ่มตัว รวมไปถึงอาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันแฝง เช่น เบเกอร์รี่ ไอศกรีม เนื่องจากจะเสี่ยงต่อการได้รับพลังงานมากเกินทำให้เกิดโรคอ้วน ซึ่งเป็นสาเหตุส่งเสริมการเกิดโรคมะเร็งได้ สำหรับไขมันชนิดไม่อิ่มตัว โอเมก้า-3 จะมีผลในการลดการเสี่ยงการเกิดมะเร็ง แต่บางงานวิจัยก็ไม่มีผล ดังนั้นการรับประทานไขมันจึงควรรับประทานแต่พอดี

ผัก

ผู้ที่เป็นมะเร็งเต้านมหากได้รับผักเป็นปริมาณมาก จะดีกว่าการได้รับผลไม้ในปริมาณมาก เพราะในผลไม้จะมีน้ำตาลสูงทำให้เกิดไขมันสะสมได้ โดยหากรับประทานพวกผักใบเขียวจะไม่จำกัดจำนวนในการรับประทาน แต่ในผู้ป่วยบางกลุ่มที่ได้รับยาต้านฮอร์โมนกลุ่ม Tamoxifen ควรได้รับแครอทและดอกกะหล่ำเพิ่มบ้าง เพื่อลดอาการร้อนๆ หนาวๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างได้รับยา

ผลไม้

เลือกรับประทานผลไม้ที่ไม่มีรสหวานจัด และควรเลือกรับประทานผลไม้ที่มีเส้นใยสูง เช่น ฝรั่ง ชมพู่ ผลไม้ที่มีสีแดงสดและมีสีออกแดงหรือสีส้ม ที่สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือกเพราะให้สาร flavonoid ลดการเกิดมะเร็งได้



ตัวอย่างรายการอาหาร
เช้า
ข้าวสวย 2-3 ทัพพี
แกงจืดกะหล่ำปลีพันเต้าหู้ โดยใส่เต้าหู้ขาวชนิดอ่อน 1-2 หลอด)
ผัดผักรวม 

กลางวัน
ข้าวต้ม 1 ถ้วย
ต้มยำปลากระพง ใส่เห็ด ใส่ปลากระพง 5-6 ชิ้น
ไก่ผัดขิง ใส่ขิงซอย และใช้น้ำมันรำข้าว 1-2 ช้อนชา 

เย็น
ข้าวสวย 2-3 ทัพพี
ยำไก่ฉีก รสเผ็ดน้อย เลือกใช้เฉพาะเนื้ออกไก่
ซุปบร็อคโคลี่ ใส่แครอท น้ำผลไม้ 1 แก้ว 
บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #307 เมื่อ: เมษายน 14, 2008, 11:48:03 PM »

โภชนบำบัดสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว

มะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือ Leukemia หมายถึง ภาวะที่ร่างกายสร้างเซลล์เม็ดเลือดชนิดใดชนิดหนึ่งมากกว่าปกติหลายเท่า ยังผลให้เซลล์เม็ดเลือดชนิดอื่นๆ ถูกสร้างลดน้อยลง สาเหตุการเกิดโรคยังไม่ทราบแน่ชัด อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ การได้รับสารเคมีบางชนิด หรือการติดเชื้อไวรัส เป็นต้น อาการที่บ่งบอกว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว คือ เลือดจาง ซีด หน้ามืด เวียนศีรษะ เหนื่อยง่าย เลือดออกง่ายบริเวณผิวหนัง เหงือกเป็นจ้ำ ตามตัวอาจพบต่อมน้ำเหลืองโต ติดเชื้อง่าย เป็นไข้บ่อยๆ และอาจพบก้อนในท้องเนื่องจากตับ ม้ามโต ด้วย

มะเร็งเม็ดเลือดขาวแบ่งเป็นสองชนิดคือ Acute leukemia จะเกิดขึ้นเฉียบพลัน เกิดรอยจ้ำขึ้นตามตัว เม็ดเลือดแดงต่ำ ภายในระยะเวลา 1 เดือน ชนิดที่สอง Chronic leukemia เกิดจากเซลล์ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดขาวโครงสร้างผิดปกติ ทำให้อายุของเม็ดเลือดขาวยืนนานกว่าปกติ แต่เม็ดเลือดขาวในชนิดนี้ยังพอทำงานได้บ้าง ผู้ป่วยมักจะมีอาการซีดร่วมด้วย แต่ก็ไม่รุนแรงเท่าชนิดแรก การรักษามีทั้งใช้เคมีบำบัด รังสีรักษาและการใช้การปลูกถ่ายไขกระดูก

เนื่องจากโรคมะเร็งชนิดนี้เกี่ยวข้องกับเม็ดเลือดทำให้การได้รับอาหารไม่ดี อาจส่งผลต่อการสร้างเม็ดเลือดที่แย่ลงและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย 

โภชนบำบัด
ข้าวแป้ง

รับประทานได้ตามปกติโดยควรรับประทานอย่างน้อยมื้อละ 2-3 ทัพพี แต่ถ้าหากได้รับรังสีรักษาหรือเคมีบำบัดแล้วเกิดอาการไม่อยากอาหาร สามารถให้ขนมปังหรือแครกเกอร์(ขนมปังกรอบ) แทนข้าวได้ หรืออาจจะลดส่วนข้าวลงแล้วเพิ่มน้ำผลไม้ให้ผู้ป่วยแทน แต่น้ำผลไม้ที่เลือกใช้ควรผ่านการพลาสเจอไรซ์เป็นอย่างดีเพื่อป้องกันการติดเชื้อ เช่น น้ำส้ม พลาสเจอร์ไรซ์บรรจุกล่อง น้ำผักผลไม้รวมชนิดกล่อง เป็นต้น

เนื้อสัตว์

ควรได้รับโปรตีน 1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยเน้นโปรตีนจากเนื้อสัตว์คุณภาพดีไม่ติดมันมากจนเกินไป สามารถรับประทานได้ทุกชนิด หากรับประทานเป็นไก่ก็ควรเลือกเฉพาะเนื้อหน้าอกไม่เอาหนัง และควรรับประทานไข่ไก่สัปดาห์ละ 2-3 ฟอง หรือดื่มนมพร่องมันเนย

ไขมัน

ยังสามารถรับประทานได้ แต่ไม่แนะนำให้รับประทานมาก และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีการใช้น้ำมันทอดซ้ำๆ 

ผัก

ผักใบเขียวต้องรับประทานอย่างสม่ำเสมอเพื่อกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง และควรได้รับผักที่ปรุงสุกแล้ว เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นได้ สัดส่วนของผักจะไม่จำกัดปริมาณสามารถรับประทานได้ตามต้องการ ผักที่มีสี เช่น มะเขือเทศ แครอท สามารถลดการก่อตัวของเซลล์มะเร็งได้

ผลไม้

สามารถรับประทานได้ทุกชนิด โดยเฉพาะผลไม้ที่เป็นแหล่งของวิตามินซี เช่น ฝรั่ง ส้ม เป็นต้น นอกจากผลไม้รูปแบบสดยังสามารถรับประทานผลไม้รูปแบบน้ำผลไม้ได้อีกด้วย ข้อควรระวังผลไม้ควรล้างให้สะอาด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค เพราะผู้ป่วยโรคนี้มักจะติดเชื้อง่ายกว่าคนปกติ ผลไม้ประเภทแอปเปิ้ลควรรับประทานเป็นประจำ เพราะมีสาร flavonoid ลดการเกิดมะเร็งได้ และยังมีงานวิจัยถึงการได้รับผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย ร่วมกับผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงจะสามารถลดการเกิดความรุนแรงของลูคิเมียได้


ตัวอย่างรายการอาหาร
เช้า
น้ำส้มคั้น 1 แก้ว
แครกเกอร์รสจืด 3-5 แผ่น 

กลางวัน
ข้าวสวย 2-3 ทัพพี
ส้มตำไทยรสไม่จัด ใส่เมล็ดมะม่วงหิมพานต์แทนถั่วลิสง 1 ช้อนโต๊ะ
ลาบเต้าหู้ไม่เผ็ด ใช้เต้าหู้แผ่น

เย็น
ข้าวสวย 2-3 ทัพพี
ผัดบร็อคโคลี่ ใส่น้ำมันน้อย
แกงข่าไก่ใช้น้ำเต้าหู้แทนกะทิ
กล้วยหอม 1-2 ผล 
บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #308 เมื่อ: เมษายน 15, 2008, 12:53:32 AM »

เรียนพี่ RroamD ครับ...

พี่ใจเย็นและอดทนดีมากครับ...

ต้องถือเป็นคนไข้ตัวอย่างครับ...

ยังเอาใจช่วยอยู่เสมอครับ...Cheesy

บันทึกการเข้า
CT_Pro4
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 537
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4869



« ตอบ #309 เมื่อ: เมษายน 15, 2008, 11:36:30 AM »

...ช่วงนี้ไม่ได้เข้ามาบ่อยนัก แต่ขอเป็นกำลังใจให้พี่ RroamD ครับ ขอให้หายเร็วๆ นะครับพี่...
บันทึกการเข้า

Every problem contains the seeds of its own solution.- Stanley Arnold
ไพโรจน์
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1556



« ตอบ #310 เมื่อ: เมษายน 15, 2008, 12:08:44 PM »

ผมก็ีอีกคนครับ   ขอให้พี่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ครับ    ไหว้
บันทึกการเข้า

cylinder
Sr. Member
****

คะแนน 104
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 566



« ตอบ #311 เมื่อ: เมษายน 15, 2008, 10:19:31 PM »

หลงรัก มาเป็นกำลังใจให้ครับพี่...

กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญทั้งเรื่องการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ เรื่องงานและเรื่องต่างๆ อีกมากมายครับ
ขอบคุณพี่วัฒน์ครับ

ร่วมเป็นกำลังใจให้พี่อารมณ์ดีครับ.....

ไม่เครียด มีชัยไปกว่า ครึ่ง ...ยิ่งกว่า ครึ่ง ครับ.. เยี่ยม

ครับพี่ เพราะเท่าที่ทราบผู้ที่เครียดไม่ว่าจะด้วยเรื่องใดก็ตามร่างกายจะหลั่งสารที่เรียกว่า อะดรินาลีน ออกมาซึ่งเป็นการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติ มะเร็ง (เท่าที่ได้ยินมา) ครับ
ขอบคุณพี่สิงห์บ้าครับ

คนที่เป็นมะเร็งนี่ ทรมานนะคะ
เพราะว่าพ่อก็เป็นค่ะ เป็นมะเร็งลำไส้ค่ะ
รักษาและทรมานอยู่ เป็นปี ก็หมดเวรหมดกรรมค่ะ  หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน

อาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากการเป็นมะเร็งในอวัยวะต่างๆ จะมากน้อยขึ้นอยู่กับระยะของโรค ตัวอย่างของผมที่ได้เรียนให้ทราบในกระทู้นี้จากเริ่มมีอาการปวดและอั้นฉี่ไม่ได้แล้วอาการก็หายไปเพราะดิ่มน้ำมากๆ แต่พบอีกครั้งคือปวดถี่ขึ้นและ นอนไม่ได้เพราะต้องเข้าห้องน้ำทุกชั่วโมงในเวลากลางคืน มีเลือดออก  การวินิจฉัยก่อนผ่าตัดคือ ระยะลุกลามรุนแรง (stage 4) ซึ่งโอกาสหายเป็นปกติเกือบไม่มีแล้ว  ต้องตัดอวัยวะที่ตรวจพบและที่อยู่ใกล้ออกหมด ต้องใช้เคมีหรือรังสีบำบัดร่วมด้วย แต่ก็จัดว่าโชคดีที่ผลจากการตรวจ อวัยวะที่ตัดออก (ต่อมลูกหมาก, ไส้ติ่ง, ก้อนเนื้อในท่อไต, ต่อมน้ำเหลือใกล้เคียง) พบมะเร็งทีผนังด้านในของกระเพาะปัสสาวะเท่านั้น (ไม่ต้องเพิ่มการบำบัด) แต่ยังต้องตรวจละเอียดทุก 3 เดือนในช่วงปีนี้ครับ

ขอบคุณที่ให้ข้อมูลครับพี่ cylinder

หลังจากได้ทราบราคาจากเพื่อนทีอยุ่ใกล้ รพ.ศิริราช ไปถามให้และแจ้งว่ามีของ เมื่อวานจึงไปหาซื้ออุปกรณ์ที่ต้องใช้ไปตลอดชีวิตเพราะ  เข้าไปที่ร้านขายยาและอุปกรณ์ตามที่เพื่อนบอกพร้อมกับลูกสาว คนขายหยิบให้ดูผมเห็นแล้วว่าไม่เหมือนกัน (60 บาท) จึงไม่ได้ซื้อ พาลูกสาวเดินดูและซื้อขนมที่วางขายบนทางเท้าตรงข้าม รพ. ระหว่างเดินกลับไปที่รถ (จอดอยู่ริมถนนอรุณอัมรินทร์ใหม่และแฟนนั่งรออยู่) เดินเข้าร้านขายยาอีกหลายร้านก็ไม่มีของ

ความคิดที่จะซื้อสำรองไว้หากทาง รพ. ที่ผมไปตรวจตามนัดทุกเดือนไม่มีเพราะของขาดตลาดจะได้ไม่หงุดหงิดและต้องใช้แบบประหยัดซึ่งมีโอกาสติดเชื้อของข้างสูง  ลูกสาวทักผมว่ายังเหลืออีกร้านลองเข้าไปดู ผมหยิบตัวอย่างที่เอาไปด้วยให้ เธอเดินนำหน้าเข้าไปถามคนในร้านซึ่งในใจผมก็คิดว่าคงไม่มีเหมือนร้านที่ถามมาทั้งหมด  คนขายดูตัวอย่างแล้วให้รออยู่สักครู่หนึ่งถือกล่องยี่ห้อเดียวกับที่ผมใช้อยู่ 

มีเป็นรุ่นนี้ขนาดเดียวกับที่พี่ถามใช้กับแป้นติดหน้าท้อง 45 ม.ม. ราคา 135 บาทครับ


ผมถามว่าลดได้มั้ย ก็ได้รับคำตอบว่าเป็นราคาส่งแล้วซื้อกี่ใบก็ได้ไม่ต้องยกกล่อง (กล่องละ 10 ใบ) ตอนแรกคิดว่าจะซื้อสักกล่องหนึ่ง คนขายถามผมว่ายังมีเหลือและพอเอาไว้ใช้กี่ใบ ผมก็เกิดอาการ งง ครับ ไม่อยากให้ซื้อไปเก็บนานเกินไปเพราะวัสดุที่ใช้ผลิตเป็นแบบย่อยสลายตามเวลา
ผมจึงซื้อมาเพียง 5 ใบเพื่อสำรองไว้เพราะที่บ้านยังมีอยู่ 6 ใบ ต้นเดือนหน้าไปตรวจตามที่อาจารย์นัด ท่านก็จะเบิกให้อีก (เดือนละ 5 ชุด แป้น+ถุง) 

ความแตกต่าง
แป้นติดอยู่คนละด้าน แต่ก็ใช้ได้เพราะขนาดเท่ากัน


ท่อปล่อยทิ้งแบบลูกบิดกับจุกอุด


อุปกรณ์เหล่านี้คือสิ่งที่ผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินปัสสาวะที่ได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดต้องใช้และมีค่าใช้จ่ายไปตลอดที่ยังมีลมหายใจอยู่

อยางน้อยเดือนละ 5 ชุดคิดเป็นเงิน 1300 บาท (แป้น 125 + ถุง 135 บาท) ปีละ 15600 บาท ซึ่งอาจจะไม่มากสำหรับผมถ้าต้องจ่าย

ผมได้รับการดูแลรักษาโรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง เป็นอย่างดีด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ค่าอุปกรณ์ ค่าผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาล ค่าเวชภัณฑ์ นับจากวันที่เข้ารับการตรวจครั้งแรกจนถึงขณะนี้ (ยกเว้นค่าห้องพักพิเศษเดี่ยว+ปรับอากาศ)
ขอขอบพระคุณ ไหว้
โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ท่านผู้อำนวยการ
ศัลยแพทย์ (ท่านอาจารย์และแพทย์ประจำบ้าน)
วิสัญญีแพทย์
เจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัด ชั้น 4 ตึกกาญจนาภิเษก 
พยาบาลและเจ้าหน้าที่ประจำหอผู้ป่วยศัลยกรรมพิเศษชาย ward 4
แผนกพยาธิวิทยา
แผนกรังสี
ห้องตรวจคนไข้นอก (204) แผนกระบบทางเดินปัสสาวะ
แผนกเวชระเบียน
แผนกเภสัชกรรมและห้องจ่ายยา
และที่ขาดไม่ได้   
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)


ทั้งนี้ขอบพระคุณ ท่าน วมต. RO ทุกท่าน
พี่ๆ และทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านกระทู้นี้ ไหว้
“อโรคา ปรมา ลาภา”
“การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ”

ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพร่างกายและจิตใจสมบูรณ์แข็งแรงครับ


ผมจะนำข้อมูลที่มีประโยชน์และเกี่ยวข้องกับเรื่อง โรคมะเร็ง มาให้ทุกท่านอ่านอีกครั้งถ้าอ่านพบครับ

อีกหนึ่งทางเลือก
http://www.nhso.go.th/NHSOFront/FrontWebIndexAction.do;jsessionid=0a0302a730d54324b7f3b99e4cd1b911ef7647869c81.e3uTaN4RchaOe38Ka3iMa3iMb3j0n6jAmljGr5XDqQLvpAe

ที่พี่เอารูปมาลง  พ่อใช้มาหมดแล้วค่ะ จากที่กินไม่ได้
ต้องให้ทางอาหารทางจมูก โดยการสอดสายยางลงไป
จากนั้นร่างกายไม่รับ  ต้องเปลี่ยนมาให้ทางท้องนี่แหละค่ะ
แล้วถุงนี้ก็ไว้เก็บกากอาหารที่ขับถ่าย  เห็นแล้วสงสารค่ะ
ทรมาน  หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

..ปัญหาเป็นเครื่องทดสอบความรู้..
..ศัตรูเป็นเครื่องทดสอบกำลัง...
..ผิดหวังเป็นเครื่องทดสอบจิตใจ..
BADBOY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #312 เมื่อ: เมษายน 17, 2008, 11:43:22 AM »

เข้ามาร่วมเป็นกำลังใจให้พี่ อารมณ์ดี อีกครั้งครับ... เยี่ยม
บันทึกการเข้า
RroamD
Colt 1911 Semi Auto & Single Action Only
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 205
ออฟไลน์

กระทู้: 4102



« ตอบ #313 เมื่อ: เมษายน 17, 2008, 01:41:43 PM »

เรียนพี่ RroamD ครับ...

พี่ใจเย็นและอดทนดีมากครับ...

ต้องถือเป็นคนไข้ตัวอย่างครับ...

ยังเอาใจช่วยอยู่เสมอครับ...Cheesy



ผมก็ีอีกคนครับ   ขอให้พี่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ครับ    ไหว้

เข้ามาร่วมเป็นกำลังใจให้พี่ อารมณ์ดี อีกครั้งครับ... เยี่ยม


ขอบพระคุณพี่หมอรุตมากๆ ที่ให้คำปรึกษากับผมมาตลอดหลังการผ่าตัดจนถึงทุกวันนี้ ผมใจเย็นและอดทนมากขึ้นส่วนหนึ่งจากกำลังใจของพี่หมอและพี่ๆ ทุกท่านที่เว๊บบอร์ด อวป. แห่งนี้ อีกส่วนหนึ่งจากครอบครัวและพี่น้องของผมด้วยครับ
ขอบพระคุณพี่ๆ ทุกท่านอีกครั้งครับ


ที่พี่เอารูปมาลง  พ่อใช้มาหมดแล้วค่ะ จากที่กินไม่ได้
ต้องให้ทางอาหารทางจมูก โดยการสอดสายยางลงไป
จากนั้นร่างกายไม่รับ  ต้องเปลี่ยนมาให้ทางท้องนี่แหละค่ะ
แล้วถุงนี้ก็ไว้เก็บกากอาหารที่ขับถ่าย  เห็นแล้วสงสารค่ะ
ทรมาน  หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน

เป็นทางที่ผมเลือกตั้งแต่แรกเรื่องการผ่าตัดทำทวารเทียมเพื่อถ่ายปัสสาวะทางหน้าท้องแทนการทำระบบลำไส้ฝังในแทนที่กระเพาะปัสสาวะที่ถูกตัดออก ทำให้ผมไม่เครียดนักเมื่อมีอาการเลือดออกปนกับปัสสาวะอย่างที่พบอยู่เพราะอาจารย์ท่านตรวจแล้วบอกว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมาก วันที่ 29 เดือนนี้จะตรวจปัสสาวะแล้วรอดูผลอีกครั้งว่าจะต้องตรวจเพิ่มด้วยการส่องกล้องหรือไม่หลังจากที่การฉีดสีเอ๊กซเรย์ไม่พบอะไรผิดปกติครับ

ส่วนของคุณพ่อของพี่ก็เป็นการผ่าตัดใหญ่เพื่อบำบัดรักษาโรคนี้ซึ่งคุณแม่ผมไม่ได้ทำการผ่าตัดลำไส้ใหญ่แต่ใช้เคมีบำบัดได้เพียงครั้งเดียวท่านก็มีอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว (อายุ 72 ปี เมื่อปี พ.ศ.2542) และจากไปหลังจากการให้เคมีสองเดือนครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

โภชนบำบัดสำหรับมะเร็งกระเพาะอาหาร

มะเร็งกระเพาะอาหารสามารถเกิดขึ้นที่ส่วนใดของกระเพาะอาหารก็ได้ โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นเซลล์ชนิด adenocarcinoma ปัจจัยเสี่ยงเกิดจาก การสูบบุหรี่ การติดเชื้อ Helicobacter pyroli การมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง เพศชายจะเสี่ยงมากกว่าเพศหญิง 2 เท่า การป่วยเป็นโรคโลหิตจางชนิด Pernicious anemia Hereditary nonpolyposis (HNPCC หรือ lynch syndrome) , familial adenomatous polyposis (FAP) และโรคอ้วน เหล่านี้จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร

อาการของโรคบางครั้งผู้ป่วยอาจไม่มีอาการใด หรือมีอาการท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียนก็ได้ การวินิจฉัยอาจทำการส่องกล้องหรือกลืนแป้งเพื่อดูชิ้นเนื้อที่เป็นอยู่ การรักษามะเร็งกระเพาะอาหารขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของก้อนเนื้อร้าย การกระจายไปอวัยวะอื่นๆ หรือไม่ และสุขภาพทั่วไปของผู้ป่วย ในหลายกรณี คณะแพทย์ซึ่งประกอบด้วยแพทย์ระบบทางเดินอาหาร ศัลยแพทย์ อายุรแพทย์โรคมะเร็ง และแพทย์รังสีรักษา ต้องปรึกษากันเพื่อวางแผนการรักษาที่ดีที่สุด

โภชนบำบัด
ข้าวแป้ง

ผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารคงต้องหันมาให้ความสำคัญต่อการควบคุมคาร์โบไฮเดรตร่วมด้วย เนื่องจากพบว่า หากคาร์โบไฮเดรตมากไปอาจทำให้เกิดผลเสียต่อโรคมะเร็งที่เป็นอยู่ได้ พลังงานจากอาหารหมู่นี้ยังคงได้รับเท่าเดิม คือ  55-60% ของพลังงานทั้งหมด แต่การได้รับนั้นควรกระจายให้มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตเท่ากันทุกมื้ออาหาร ยกเว้นในกรณีที่เพิ่งผ่าตัดกระเพาะออกไปบางส่วน ควรแบ่งมื้ออาหารและลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตให้น้อยเท่าที่ทำได้ เพื่อลดอาการไม่สบายท้องรวมไปถึงคลื่นไส้อาเจียน ควรรับประทานอาหารที่หลากหลาย วันไหนเบื่ออาหารประเภทข้าวอาจจะเปลี่ยนเป็นขนมปัง หรือก๋วยเตี๋ยวราดหน้าบ้างก็ได้

เนื้อสัตว์

การรับประทานเนื้อสัตว์มากจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเนื้อสัตว์ที่ติดมันมาก หรือในกรณีที่มีการปนเปื้อนของสารเคมี เช่น ในเนื้อหมูอาจจะมีไขมันอยู่เยอะ และมีการปนเปื้อนของสารเร่งเนื้อแดง ดังนั้น ควรเลือกเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำและจากแหล่งหรือร้านที่เชื่อถือได้ว่าไม่มีการปนเปื้อนสารเคมี  ควรได้รับโปรตีนวันละ 15% ของปริมาณพลังงานที่ร่างกายต้องการแต่ละวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งโปรตีนที่ดีที่สุด คือ ไข่ไก่ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่มีกรดอะมิโนครบทุกชนิด

ไขมัน

ไขมันยังคงเป็นสิ่งที่ควรจำกัด และดูแลเป็นพิเศษ ควรงดเว้นของทอด กะทิ และอาหารอื่นๆ ที่มีส่วนประกอบไขมันสูง การปรุงประกอบอาหารโดยใช้น้ำมันมะกอกจะสามารถส่งผลดีต่อผู้ป่วยมะเร็งได้ ดังมีรายงานของการรับประทานอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งจะใช้น้ำมันมะกอกปรุงอาหาร พบว่าอัตราเสี่ยงต่อมะเร็งกระเพาะอาหารลดลง  แต่อย่างไรก็ตาม ถึงมีข้อมูลว่าน้ำมันมะกอกให้ผลดีต่อผู้ป่วย แต่ไม่ได้หมายถึงการรับประทานไขมันมากๆ และจะส่งผลดีต่อร่างกายดังนั้นควรลดการรับประทานไขมันเท่าที่เป็นไปได้

ผัก

พืชในกลุ่มผักที่มีสาร Isoflavone มีรายงานทั้งช่วยควบคุมเซลล์มะเร็งและไม่มีผลต่อการควบคุมมะเร็ง แต่อย่างไรก็ตาม สารเหล่านี้ก็ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ จึงถือว่าการรับประทานผักกลุ่มกะหล่ำ บร็อคโคลี่ ยังให้ผลดีในการต้านอนุมูลอิสระอยู่ ควรรับประทานผักให้ได้วันละ 5 ทัพพี ขึ้นไป และมีรายงานถึงเห็ดหัวลิง ว่าสามารถให้ผลดีในการลดการเกิดมะเร็งกระเพาะรวมไปถึงแผลในกระเพาะอาหารได้

ผลไม้

ผลไม้สามารถรับประทานได้ทุกชนิด แต่ให้ระมัดระวังในกรณีของการผ่าตัดกระเพาะแล้วเท่านั้น หลังจากนั้นสามารถเลือกรับประทานผลไม้ที่ไม่มีเนื้อหยาบเกินไปได้ตามต้องการ อาทิ มะละกอสุก ส้ม เป็นต้น


ตัวอย่างรายการอาหาร
เช้า
ข้าวต้มทรงเครื่อง 1 ถ้วยใส่ไก่สับ
น้ำเต้าหู้ 1 แก้ว

กลางวัน
ข้าวสวย 2-3 ทัพพี แกงจืดผักกาดขาวใส่อกไก่สับ
ผัดเห็ดหัวลิงน้ำมันหอย
ส้ม 1 ผล
น้ำผัก 1 แก้ว

เย็น
ข้าวสวย 2-3 ทัพพี
ต้มจับฉ่ายโดยไม่ต้องนำผักไปผัดก่อนต้ม
น้ำพริกอ่องใช้เนื้อไก่สับแทนหมูบด
น้ำผลไม้ 1 แก้ว
บันทึกการเข้า

ปลายทางของการปะทะกันด้วยปืนคือเชิงตะกอนกับเรือนจำ
rockguns
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #314 เมื่อ: เมษายน 17, 2008, 01:48:09 PM »

          ขึ้นเวป เห็นชื่อก็ดีใจกับชายสู้ชีวิต คนนี้ครับ เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 18 19 20 [21] 22 23 24 ... 82
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.114 วินาที กับ 22 คำสั่ง