สวัสดีครับ ท่านนายอำเภอ......
ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาตอบคำถามแสดงความคิดเห็น
บางครั้งพี่น้องที่นี่ก็อาจจะได้ทราบว่า เจ้าหน้าที่ก็อาจมีเรื่องอึดอัดใจ เช่นเดียวกับประชาชนผู้มาติดต่อเหมือนกับ
เป็นการสะท้อนต่างมุมครับ
สวัสดีครับ
ในกรณีที่มีอาวุธปืนอยู่แล้วมากกว่า2กระบอก
ท่านจะพิจารณาอย่างไร ว่าจะให้หรือไม่ให้อีกครับ
ขอบคุณ คุณหงส์ซิ่ง ที่เข้าใจ ในการพิจารณาอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน นายทะเบียนอาวุธปืนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ก็ต้องคำนึงถึงหนังสือสั่งการให้ปฏิบัติ
การใช้ดุลพินิจ จะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบหลายอย่าง นายทะเบียนจะต้องมีพิ้นฐานความเฃื่อที่ว่า
1.คนที่มาขออนุญาต ป.3 เป็นคนดี (คงไม่มีใครมาขอปืนไปปล้นนะ)
2.คนมีเงินซื้อปืนย่อมมีทรัพย์สินที่จะต้องปกป้อง
ถ้าเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย มีวุฒิภาวะ มีความพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อปืน (ต้องไม่ให้ทำร้ายใครโดยมิชอบ) มีแล้ว 2 กระบอก ขออีกก็อนุญาต ที่ผมพบคำที่สมาชิกมักจะเจอในตอนขอปืน เป็นประจำ ผมขออธิบายในเข้าใจ คือ
1. นโยบายให้สั้น 1 ยาว 1 เท่านั้น
เป็นเพียงการกำหนดแนวทางในการใช้ดุลพินิจของนายทะเบียนเท่านั้น นายทะเบียนสามารถใช้ดุลพินิจที่จะพิจารณาว่าผู้ขอมีเหตุผลและความจำเป็นที่จะได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุฒิปืนหรือไม่
2. มีสั้น 1 กระบอก ก็เพียงพอต่อการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินแล้ว
ตามความเห็นของผม กฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ ขึ้นอยู่กับความจำเป็นและเหตุผล
3. มี 9 มม. แล้ว 1 กระบอก จะขอ 9 มม. อีกไม่ได้ นโยบายไม่ให้มีซ้ำขนาด
ปืนขนาดเดียวกันก็จริง แต่ความเหมาะสมที่ใช้งานต่างกัน ขึ้นอยู่กับความจำเป็นและเหตุผล
4. .45 .357 เป็นอาวุธสงคราม ออกให้ประชาชนธรรมดาไม่ได้
กฎกระทรวงฉบับที่ 11 ไม่ได้ห้ามไว้ สามารถออกใบอนุญาตได้
สรุปก็คือ ถ้ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย มีเงินซื้อ มีปืนขาย (เพราะมีการจำกัดการนำเข้า) ก็สามารถขออนุญาตได้