- อัดตรากระสุนมูลฐาน 140 นัด / คน ทราบว่าเป็นของทหารราบครับ
ขอโทษท่านสมาชิกด้วยเรื่องกระสุนมูลฐานครับ ที่จริง 380 นัด ตามที่ ท่าน แมวบ้า กล่าวถูกต้องแล้วครับ
โดยแบ่งตามนี้ครับ
- ติดตัว 140 นัด
- สัมภาระกองร้อย 120 นัด
- กองพัน 120 นัด
ตามนี้ครับ
เรื่อง ความแตกต่าง A 1 กับ A 2 นี่ ขอเวลาหน่อยนะครับ
ผมไม่ได้เป็นคนบอกว่า 380 นัด
วุ๊ยยยยเรื่องปืนธรรมดาผมยังแทบไม่มีความรู้ เรื่องปืนทหารผมจะไปรู้ได้ไง
ผมมาถามเพราะผมไม่มีความรู้ เห็นคุณบอก a1 a2 ใช้แม๊กร่วมกันไม่ได้แม๊กพัง ก็เลยอยากรู้เลยถามดู
ซองกระสุนปืน M16 ขนาด 20 นัด แบบตรง ............กำเนิดขึ้นครั้งแรกพร้อมๆกับปืน M16 .........ใช้งานได้ดี ส่วนใหญ่จะใส่กระสุนในซอง 18 นัด เพื่อป้องกันสปริงล้า เมื่อใส่กระสุนไว้นานๆ ...........สำหรับประสิทธิภาพการป้อนกระสุนในการยิงแบบ Full-Auto .............เป็นซองกระสุนรุ่นที่ดีมากๆรุ่นหนึ่ง
ซองกระสุนแบบโค้ง 30 นัด ................เริ่มจาก การนำเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. แบบ M203 เข้ามาติดตั้งในปืน M16A1 ................เพื่อเป็นอาวุธยิงสนับสนุนในชุดยิง ในหมู่ปืนเล็กทหารราบ ทดแทนปืนยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. แบบ M79 ...............
ซึ่งการติดตั้ง M203 นั้น ทำการติดตั้งใต้ลำกล้องของ M16A1 ..............ในลักษณะถอดเปลี่ยนกระโจมปืนเดิมออก..........ทำการติดตั้งศูนย์ยิง สองแบบ โดยศูนย์ยิงแบบเร่งด่วน...........จะใช้ศูนย์หน้าร่วมกับปืน M16A1 ส่วนศูนย์หลัง ซึ่งมีลักษณะเป็นใบสูง มีบากระยะยิงแบบขั้นบันได ติดตั้งตรงกลางหลังกระโจมปืน..............ส่วนศูนย์ยิง M203 แบบประณีต จะติดตั้งที่บริเวณด้านซ้ายของหูหิ้วปืน M16A1 ..........ลักษณะเป็นเรือนศูนย์หน้า-หลัง.....ปรับระยะยิงแบบการตั้งระยะเลียนแบบวงเวียนที่มีบรรทัดระยะ เป็นวงแล้วมีเข็มเป็นตัวตั้งระยะ..........
จากการที่นำ M203 เข้ามาติดตั้งใต้ลำกล้อง M16A1 ................โกร่งไกของ M203 จะอยู่บริเวณหน้าช่องใส่ซองกระสุนของ M16A1 ..............จึงต้องใช้ซองกระสุนแบบโค้ง 30 นัด แทน เพื่อใช้สำหรับทำเป็นด้ามจับ(มือซ้าย) และเหนี่ยวไกยิง M203 .................ดังนั้นในเริ่มแรกของการเข้าประจำการของ M203 ....พลยิงเครื่องยิงลูกระเบิด ในชุดยิง จะเป็นผู้ที่ได้รับแจกซองกระสุนโค้ง 30 นัดให้ใช้.........
ซองกระสุน 30 นัด รุ่นแรกๆ มีปัญหาพอควรในการป้อนกระสุน............จึงกำหนดให้บรรจุกระสุน 28 นัด เพื่อลดการกดให้น้อยลง................รวมทั้งต้องทำการเคาะซองกระสุนขณะทำการบรรจุให้ท้ายกระสุนเรียงตัวสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้การป้อนกระสุนดีขึ้น
ปัจจุบันซองกระสุนโค้งแบบ 30 นัด ได้รับการปรับปรุงดีขึ้นมาก...สามารถบรรจุกระสุนได้เต็ม 30 นัดได้นานๆ โดยทำการยิงได้อย่างไม่ติดขัด....................รวมทั้งเมื่อใส่กระสุนเต็ม 30 นัดแล้ว สามารถนำไปตบกบาลข้าศึกให้หมอบได้อย่างไม่ยากเย็น(ถ้ามีโอกาส)............
ในเรื่องอัตรากระสุนมูลฐานของปืนเล็กยาวทหารราบ ..............มีจำนวน 380 นัด/ปืน 1 กระบอก
การนำติดตัวของทหารนั้น ขึ้นอยู่กับการ"สั่งการ"ของผู้บังคับหน่วยทหาร............ไม่มีการกำหนดตายตัวว่า อยู่กับตัวกี่นัด อยู่ที่ขบวนสัมภาระกองกองร้อยกี่นัด ของกองพันกี่นัด.................ทั้งนี้ขึ้นอยู่กัยสถานการณ์
ปกติ ทหารราบที่ใช้ปืนเล็กยาวโจมตีแบบ M16 จะได้รับแจกซองกระสุนให้ใช้งาน 7 ซอง/ปืน 1 กระบอก.............ไม่ว่าจะเป็นซองขนาด 20 หรือ 30(อาจเหลือ 5 หรือ 6)................การบรรจุกระสุนลงในซองทั้ง 7 ซอง ส่วนใหญ่จะโหลดไปได้แค่ 140 นัด หรือ หนึ่งสายกระสุน(เป็นสาย 7 ช่อง ๆละ 20 นัด) .................หากที่เหลืออีกตามจำนวนที่กำหนด ...........ทหารผู้นั้นต้องแบกไปด้วยในเป้หรือ กระเป๋ากระสุนสนาม..................
การที่กองพันทหารราบหรือกองร้อยทหารราบออกสนาม.................นอกจากระสุนจะแจกจ่ายติดตัวทหารแล้ว................ที่เหลือ(อาจจะอีกหลายอัตรายิง) จะอยู่ที่ ขบวนสัมภาระรบของกองร้อย ซึ่งควบคุมโดย รอง ผบ.ร้อย............และอีกส่วนหนึ่งอยู่ที่ขบวนสัมภาระพักของกองร้อย ซึ่งควบคุมโดย จ่ากองร้อย.............
ในส่วนของกองพัน จะมีขบวนสัมภาระพักของกองพัน ซึ่งควบคุมโดย นายทหารส่งกำลังบำรุงกองพัน(ฝอ.4) และ ผบ.ร้อย สนับสนุนการช่วยรบ ..................ขบวนสัมภาระพักของกองพันนี้ จะเป็นที่รวมรวบ เบิก-จ่าย ยุทธภัณฑ์ทั้งปวง ไปตามกองร้อยรบต่างๆ ในการปฏิบัติงาน.............
จบแค่นี้ครับ.................เผอิญนั่งกินเหล้าอยู่กับเพื่อนที่เป็นทหารราบอยู่หน้าคอม
เขาเลยบอกให้พิมพ์ตอบ
ขอบพระคุณพี่มะขิ่นมากครับ