เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 19, 2024, 09:45:41 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 8 9 10 [11] 12 13 14 ... 17
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ซื้อปืนในอเมริกาง่ายจริงหรือ?  (อ่าน 52675 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 32 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #150 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2007, 10:29:49 PM »

เมื่อก่อนตอนที่ยังอยู่ San Bernardino ก็อยู่ติดกับ Riverside 
San Bernardino เป็น County ที่ใหญ่ืั้สุดใน เมกา อาณาเขตจาก L.A. County ไปยัน Navada
เวลาขับรถไป Las Vegas ตามทางเป็นช่วงๆ  จะบอกให้ปิดแอร์ในรถ  เพื่อป้องกันรถ over heat ในหน้าร้อน 
สมัยก่อนตามบ้านบางบ้านจะมี swamp cooler ใช้แทน แอร์  ผมชอบแบบนี้มากกว่าเย็นแบบชุ่มฉ่ำ  แต่ทุกวันนี้เพื่อนบอกว่า  ใช้ไม่ได้แล้วเพราะอากาศชื้นขึ้นกว่าเดิม 
Callifornia จำได้ว่าหน้าร้อน กลางวันจะร้อนจัดแต่ร้อนแห้ง  พอตกเย็นพระอาทิตย์ตกดิน  อากาศจะเย็นลงไม่ร้อนมาก   เหมือนอากาศในทะเลทราย
ที่จริงแล้วผมชอบ California แต่ต้องตัดสินย้าย  เพราะช่วงนั้นอาชญกรรมสูงมาก  และลูกชายก็เพิ่งเกิดมา  เลยปรึกษากันสองคนผัวเมียว่าย้ายดีกั่ว
ดีใจที่ย้ายแต่ก็ยังคิดถึง California อยู่คิดถึงเพื่อนเก่าๆ   คิดถึงอาหารไทยที่หากินง่ายๆ จากขนมครกทำสดๆ ยันน้ำพริกปลาร้าหรือแกงไตปลา
อีกอย่างที่ทำให้คิดถึง California คือ วัด  ทุกวันนี้เวลาจะไปวัดไปทำบุญต้องขับกันเป็น ชม.ๆ 
ก่อนจะย้ายมาอยู่ทางใต้  พวกเพื่อนฝรั่งที่หวังดีเตือนว่า เฮ้ยจะย้ายไปอยู่ทางโน้นทำไม  ทางโน้นมันไม่ชอบคนผิวอื่น   แต่ผมก็ย้ายพอมาอยู่ๆไป ถึงได้รู้ว่าจริง  คนทางนี้ไม่ชอบคนผิวอื่นที่ไม่ดี   ถ้าเป็นคนดีทำมาหากินไม่ก่อเรื่อง  เค้าก็คบและให้เกรียติเหมือนคนของเค้า 
มีคนไทยเคยพูดว่าพวก red neck นี่น่ากลัว มันเกลียดคนชาติอื่น   จากที่ผมได้สัมผัสมา  คนที่ถูกเรียกว่า red neck กลับเป็นพวก ใจจริงและจริงใจ
เพื่อนผมหลายคนก็ red neck   เป็นการเข้าใจผิดระหว่าง white trash กับ red neck
White trash คนผิมขาวด้วยกันเองยังไม่คบเลย    คนที่ดูถูกผิวหรือรังเกลียดชาติอื่นจริงๆก็มีครับ  ไอ้พวกนี้มันเกลียดหมด  เป็นพวกปัญญาอ่อน
การถูกดูถูกหรือแสดงให้เห็นว่ารังเกลียดเพราะสีผิว   ผมและเมียก็เคยเจอ  แต่ไม่สนใจมัน  ไม่ได้ขอมันกิน  พวกนี้เป็นส่วนน้อย   เทียบกับคนดีส่วนใหญ่ไม่ได้   

บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #151 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2007, 10:49:00 PM »

ส่วนตัวผมคิดว่า...

สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนไทยบางคนไม่ชอบฝรั่งคือการที่ฝรั่งมักพูดตรงๆ มากกว่าคนไทย ซึ่งในบางครั้งเวลาฝรั่งถามข้อมูลต่างๆ เพราะอยากรู้จริงๆ คนไทยมักคิดว่าคำพูดจะต้องมีความหมายแฝง คิดตีความในใจว่าคนถามต้องประเมินค่าไปแล้ว "พูดยังงี้ มันกวนนี่หว่า"

และในทางกลับกันคนไทยสงสัยแล้วไม่ค่อยถาม คิดไปเองก่อน เวลาใครถามอะไรก็นึกกว่ากวน ในบอร์ดนี้ก็เห็นบ่อยๆ

คนไทยชอบให้บอกอะไรอ้อมๆ ชอบให้คนพูดคิดก่อนว่าคนฟังจะชอบคำถามหรือไม่ เพราะคนไทยมักไม่สบายใจกับคำว่า "ไม่ชอบอย่างนั้น อย่างนี้" ถ้าการสนทนามีคำนี้จะเริ่มเครียด ส่วนฝรั่งยอมรับคำว่า "ไม่ชอบ" "ไม่เห็นด้วย" "ผมคิดอย่างอื่น" ได้ง่ายกว่าคนไทย

อิ อิ อย่างข้อความนี้ ไม่เห็นจำเป็นต้องมีคำว่า "ส่วนตัวผมคิดว่า" ขึ้นต้น มีไปให้ดูเหมือนว่า ผมคิดของผมเอง ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใครที่คิดไม่เหมือนกันนะครับ" ที่จริงถ้าผมไม่คิดแล้วจะโพสทำไม? และที่โพสมาก็เป็นความเห็นส่วนตัวอย่แล้วเพราะไม่ได้ตอยในนามองค์กร หรืออยู่ในตำแหน่งอะไร
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
มืออ่อน หมัดแข็ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 857
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6569


เตสาหัง สิรสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตเม


« ตอบ #152 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2007, 11:23:34 PM »

คนไทยไม่ชอบฝรั่งที่พูดตรงๆ

แต่คนไทยไม่ชอบคนไทยที่พูดตรงๆมากกว่า

อิอิ

บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า
เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป
      
ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย
อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3988



« ตอบ #153 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2007, 11:59:14 PM »

อเมริกา นอกจาก รัฐ ต่าง ๆ ที่มีอำนาจในการปกครอง ออกระเบียบในการบริหารแล้ว ยังมีพื้นที่ ๆ นอกเหนือกฎ ระเบียบของ รัฐ คือ ที่ดินของ อินเดียนแดงครับ ไม่ไช่อยู่เหนือ กฎหมาย รัฐ แต่ เหนือ กฎระเบียบ ของ รัฐ เพราะ เป็นดินแดนที่ สามารถ ตั้ง คาสิโน ได้ โดย ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อก่อน ชาวอินเดียนแดง เป็น ประชาชน ชั้น 2 ที่ยากจน ไร้การศึกษา แต่เดี๊ยวนี้ ที่ดินของ ชาวอินเดียนแดง กลายเป็นทองไปแล้ว เพราะ ข้อตกลงกับ รัฐบาลกลาง ในอดีต ทำให้ ที่ดินของ อินเดียนแดง ไม่ตกอยู่ใน กฎระเบียบ ของ รํฐไปด้วย (รายละเอียด ต้องให้ คุณ USP40 หรือ คนที่รู้มาขยาย ครับ)

ใน รัฐ แคลิฟลอเนีย มีกฎหมาย ห้ามตั้ง คาสิโน แต่ ในที่ดินของ อินเดียนแดง อยู่นอก กฎหมายนี้ นักลงทุน ต่างรุมกันจีบ เจ้าของที่ดินที่เป็นของ ชาว อินเดียนแดง

ไม่ไช่แต่เฉพาะ รัฐ แคลิฟลอเนียเท่านั้น แต่รวมถึง ทุกรัฐ ในอเมริกา เลย ยกเว้น เนวาด้า ที่กฎหมาย รัฐ อณุญาติให้มี คาสิโน กับ โสเภณีได้ แต่ทุกอย่าง ต้อง ทำอย่างถูกกฎหมายด้วย อย่าง ถ้าคุณ ไปเที่ยว โสเภณี คุณต้อง เสียภาษี ให้รัฐด้วย

ในอเมริกา มีคำพูดหนึ่งที่ เป็นจริงมาตลอดคือ " คุณจะหนีอะไรก็ได้ แต่คุณจะหนี ภาษี กับ ความตายไม่ได้"

สหรัฐ อเมริกา มี กฎหมาย อยู่ 2 ระดับครับ คือ กฎหมาย รัฐบาลกลาง กับ กฎหมายรัฐ โดย กฎหมาย รัฐ จะขัดกับกฎหมาย รัฐบาลกลางไม่ได้

กฎหมาย รัฐ จะใช้ปฎิบัติ ในเขตรัฐ นั้น ๆ เท่านั้น จะเอาไปใช้กับรัฐอื่นไม่ได้ เหมือนกับคนละประเทศเลยครับ เรื่อง VAT หรือ ภาษี มูลค่าเพิ่ม ก็เช่นเดียวกัน ที่แต่ละรัฐ ตั้งไม่เท่ากัน แล้ว สินค้าบางอย่าง ก็ไม่ต้องเสียภาษีในบางรัฐ แต่บางรัฐ ต้อง เสีย อย่าง อาหารสด ที่ แคลิฟลอเนีย ไม่ต้องเสีย VAT แต่ โอกลา ต้องเสียหมดทุกอย่าง

เรื่อง การซื้อปืน ในอเมริกา ก็เหมือนกัน แต่ละ รัฐ ต่างก็มีกฎหมาย ในการอณุญาติซื้อปืนแตกต่างกันไป บางรัฐก็ ซื้อง่าย บางรัฐ อย่าง แคลิฟลอเนีย ถ้าซื้อปืนพก ซื้อได้ครั้งละ 1 กระบอก เมื่อซื้อแล้ว ต้องรอ 10 วัน หลังจากนั้น ถ้าต้องการซื้ออีกกระบอก ต้อง รออีก 30 วันอย่างนี้เป็นต้น

ส่วนกฎหมาย รัฐบาลกลาง จะออกมา เพื่อ ให้ใช้กับทุกรัฐ นำไปใช้ อย่าง กฎหมาย เกี่ยวกับ การก่อการร้าย และ กฎหมายเกี่ยวกับ ความมั่นคง

อีกเรื่องที่สำคัญคือ กฎหมาย เกี่ยวกับ กีดกัน เชื้อชาติ ศาสนา เพศ และ วัย หรือ Discrimination Law ที่เมืองไทยไม่มีครับ แล้ว ที่นี่ เคร่งมากด้วย อย่าง เราไปเรียก คนดำ ว่า นิกเก้อ หรือ นิกโกร ไม่ได้ เพราะ ถือว่า ดูถูก อาจเรียก ตำรวจ จับเราได้ ต้องเรียก Black People
บันทึกการเข้า
Sundance
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 123
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2609



« ตอบ #154 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 12:01:02 AM »

เรียนคุณ Zenith ... อยากทราบว่าโรงเรียนที่คุณเรียนชื่ออะไรครับ อยากทราบ โรงเรียนที่ผมเรียนไม่มีโรงเรียนไหนติดอันดับเลย

อาหารที่ผมอยากกินที่สุดตอนอยู่อเมริกา คือ เยนตาโฟ

ผมไปเรียนด้วยทุนส่วนตัว (ทุนพ่อ) เรียนอย่างเดียว ไม่เคยเที่ยวไหน ไม่มีสตางค์ครับ อยู่ในความดูแลของ กพ. เพื่อความสดวกในการส่งเงิน ได้เดือนละ $150 รับผิดชอบเองหมด ที่อยู่ อาหาร ยกเว้น ค่าเล่าเรียน ถ้าให้ กพ. รับผิดชอบหมด จะได้แค่ $50 ไม่มีเงินซื้อรถหรอกครับ มีรถก็มีรายจ่ายเพิ่ม

ผมทำงาน 17 ปี ใน New York City 3 ปี ใน Los Angeles ก็ไม่มีสตางค์อีกครับ เคยเช่ารถไป Florida กับภรรยาและลูกชายครั้งเดียว

ผมมาได้เที่ยวเมื่อกลับมาเมืองไทยแล้ว ได้กลับไป 4 ครั้งด้วยกัน ได้ขับรถข้ามทวีปที่ไฝ่ฝันในปี 1995 จาก Los Angeles ไป New York City พัก Motel ตลอด ใช้เวลา 2 เดือน ผมไปอีก 1997 1999 และ 2002
ไม่ได้เหยียบอยู่ 2 รัฐ คือ Maine และ Michigan รัฐ Florida ผมได้ลงไปถึง Key West รัฐ Hawaii และ Alaska เหยียบแค่สนามบิน ผมชอบขับรถครับ ขับคนเดียวตลอด ไม่ยอมให้ใครช่วย

ปี 1997 ผมขึ้นไป Alberta, Canada คนเดียว ไปดู Shopping Center ที่ Edmonton เห็นเขาว่าใหญ่ที่สุดในโลก (เห็นใหญ่ที่สุดในอเมริกา ที่ Bloomington, Minnesota แล้ว) และ Canadian Rockies ให้ภรรยามาทีหลังและมาพบกันที่ Los Angeles แล้วไปต่อ เทียวนี้ไปแค่ครึ่งทวีป จบที่ New Orleans และมาขึ้นเครื่องที่ Chicago กลับ

ปี 1999 ได้ข้ามทวีปอีกครั้ง ภรรยาชอบ Shopping ผมชอบภูเขา ทะเลทราย ทะเลาะกันครับ

ปี 2002 ไปคนเดียว และแค่เดือนเดียว อยู่แต่ทางตวันตก ลงต่ำลงไปแค่ Texas ได้เห็นดวงตวันลงต่ำใกล้ๆ Yuma, Arizona ไม่เคยเห็นดวงตวันใหญ่เท่านี้มาก่อน

ผมเคยเห็นดาวเต็มฟ้า สุกปลั่ง มากจนถึงขอบฟ้า ต่ำจนแทบเอามือไปจับได้ กลางทะเลทรายใน Nevada

ผมได้ไปที่ Four Corners ที่ Utah, New Mexico, Colorado และ Arizona มาบรรจบกันเป็นกากะบาด ลงนอนกางแขนกางขาให้ได้ชื่อว่าได้อยู่ใน 4 รัฐในเวลาเดียวกัน
บันทึกการเข้า
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #155 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 12:23:10 AM »

พวกผิวดำเรียกกันเองว่า nigger ได้แต่ถ้าผิวอื่นเรียกล่ะก้อได้เรื่อง  ตำรวจไม่จับแต่ได้พะบู๊แน่
สรรพนามที่เรียกแบบดูถูกเหยียดหยามก็ยังมี  Gooks , slop , slant , chink ทั้งหมดไว้เรียกคนเอเชีย  แต่ gook นี่เจาะจงชาวเวียตนามโดยเฉพาะ  เริ่มแรกจากสงครามเวียตนาม
สำหรับพวกแม็กซิกันก็จะเรียกว่า wetbacks , beaners
ผมเคยโดนคนผิวขาวเรียกว่า Mother fucker เหอะ เหอะ เหอะ ตอนนั้นยังเพิ่งมาใหม่ๆ  เพิ่งออกจากทหารมา ร่างกายยังฟิตปั๋ง  ผมเลยบอกว่า I never did that but you must have , How did you like it? Did she give you a blow job too?  หลังจากได้เลือดได้แผลกันแล้ว   อธิบายให้ฟังว่าคนไทยรับไม่ได้  ทุกวันนี้เป็นเพื่อนกัน 20ปีแล้ว  คำนี้พวกพี่มืดชอบใช้มาก  
เรื่อง American Indian เป็นเรื่องเศร้าที่รัฐบาลและคนเมกันอับอายและต้องการจะลืม
อีกครั้งคือเรื่อง Japanese American ที่เกิดและอยู่อาศัยในเมกาช่วงสงครามโลก  ถูกตอนส่งไปอยู่ค่ายกักกัน  สูญเสียทุกอย่าง  หลังสงครามแล้วต้องมาเริ่มต้นใหม่หมด  เป็นเรื่องอับอายที่ต้องจดจำไปอีกนานแสนนาน  และจะไม่เกิดขึ้นอีก
กฏหมาย Affirmative action ออกมาใช้ปกป้องสิทธิของบุคคลที่ไม่ใช่ผิวขาว   ในสมัยก่อนมีประโยชน์และดี  แต่สมัยนี้พวกผิวดำจะเอามาเป็นข้ออ้างให้เข้าข้างตัวเองซะโดยมาก    โดยส่วนตัวผมอยากให้ยกเลิกไปซะที
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 13, 2007, 03:34:15 AM โดย USP40 » บันทึกการเข้า
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3988



« ตอบ #156 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 12:54:31 AM »

swamp cooler ที่คุณ USP 40 ว่า คือ แอร์ น้ำ คือ จะเป็นเครื่อง ทำความเย็นด้วยน้ำ โดนจะติดตั้ง เจ้า swamp cooler ใว้บนหลังคาบ้าน ภายในจะมีพัดลมดูดอากาศ ที่ผ่าน เส้นไย คล้าย เส้นฟาง ซ้อน ๆ กัน โดยมี น้ำฉีดเลี้ยงใว้ ตลอด เข้าไปในบ้าน

อากาศ ที่แห้งมาก ๆ ของ ทะเลทราย ถ้าใช้ แอร์น้ำ จะเย็น แบบ ชุ่มชื่นครับ ไม่เหมือน แอร์ ที่บ้านเราใช้กัน จะเย็นแบบ แห้ง ๆ ถ้าไปจากเมืองไทย ใหม่ ๆ พอเจอกับอากาศ ทะเลทราย จะทำให้เลือดออกทาง จมูกได้

คนไทย ที่อยู่เมืองไทย ตั้งแต่เกิด โพลงจมูกจะ แห้ง เพราะ อากาศ ในเมืองไทย มีความชื้นอยู่สูง เมื่อเดินทางไปที่แห้งแล้งอย่าง ทะเลทราย ที่อากาศแห้ง จะทำให้หายใจติดขัด และ เลือดไหลได้ ทางแก้คือ หาผ้าชุบน้ำมาป้องใว้ที่จมูก แล้วหายใจผ่านผ้าเปียกจะช่วยได้ครับ แต่ แคลิฟลอเนีย ไม่แห้ง ขนาดนั้น แต่ รัฐ ทะเลทราย อย่าง อริโซน่า เป็น เพราะ อากาศแห้งมาก
บันทึกการเข้า
'por
Failure is not an Option
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 24
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490


« ตอบ #157 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 02:49:10 AM »

ขอขอบพระคุณพี่ๆ ทุกท่านที่ช่วยแชร์ประสบการณ์และความรู้ใหม่ๆ ที่โรงเรียนไหน หรือปริญญาใบไหนก็ให้ไม่ได้ นอกจากประสบการณ์จากการได้ใช้ชีวิตจริง
คนที่เก่งแต่ตำรา หากขาดประสบการณ์จริง ก็เปรียบเสมือนหนังสือดีๆเล่มหนึ่งในห้องสมุดที่วางอยู่เฉยๆ อาจไม่มีประโยชน์ใดๆ หากแต่เมื่อได้อ่านและนำมาคิดและนำไปใช้พร้อมกับประสบการณ์ที่สั่งสมมาทั้งทางตรงและทางอ้อม ก็จะเป็นประโยชน์สูงสุด แต่หากผู้อ่านหนังสือเล่มนั้นไม่ยอมเปิดใจกว้างยอมรับเนื้อหาของหนังสือเล่มนั้น ก็คงไม่มีประโยชน์อันใดที่จะเสียเวลาอ่านความคิดของผู้เขียนหนังสือเล่มนั้นที่อุตส่าห์เพียรพยายามหาข้อมูลที่แปลกใหม่นอกกรอบและแตกต่างนอกเหนือจากความคิดของคนอื่นมาบรรจงสรรสร้างเป็นผลงานให้เราได้ชื่นชมกัน

ขอบคุณครับ
 ไหว้ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า

boon(เสือไบ)
ความประพฤติบกพร่อง จะทำให้บิดามารดาอับอาย
Hero Member
*****

คะแนน 532
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6011



« ตอบ #158 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 04:53:47 AM »

เรื่องแอร์น้ำ ผมเองก็พึ่งมีประสพการณ์ การใช้งานที่แอลเอนี้เอง
ซื้อบ้านหลังแรกเมื่อ20ปีที่แล้ว มีแอร์น้ำแบบที่ว่า เปิดแอรฺ์ต้องเปิดหน้าต่างด้วย
ถึงจะได้ผลดีเพราะไอความร้อนจะได้ออกไป หลังจากหมดหน้าร้อน ก็ต้องขึ้นไปเปิดน้ำทิ้ง
และปิดก๊อกน้ำ ล้างฝุ่นทำความสะอาด มัดด้วยพลาสติก ผมเองไม่รู้เรื่องพวกนี้ ปล่อยผ่านไปเกือบสิ้นปี
โดยไม่ได้ทำอะไร ปรากฎว่าผุ น้ำรั่วลงหลังคาบ้าน ต้องเรียกช่างมาซ่อม ถือว่าเป็นความรู้ใหม่ ที่ต้องซื้อหามาด้วยเงิน Grin
บันทึกการเข้า

If a man says he is not afraid of dying, he is either lying or is a Gurkha
นาจา™รักในหลวง
คุณธรรม...นำสู่ยุติธรรม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 268
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11147



เว็บไซต์
« ตอบ #159 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 07:03:08 AM »


ได้ฟังที่เล่าๆ มา เหมือนไปเที่ยวไปอยู่เลยครับ
ขอบคุณหลายๆ เด้อ.... หลงรัก
บันทึกการเข้า

อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #160 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 08:36:45 AM »

ผมก็เด็กทุน ก.อ. เหมือนกันครับ ไปพร้อมกันกับแฟน เรียนไป ทำงานไป เที่ยวไป ยิงปืนไป ใช้ชีวิตคุ้มครับ แต่เพื่อนเยอะ ช่วยงานคนไทยบ้างเป็นครั้งคราวครับ

เด็กทุนรัฐบาลบางคนเรียนแต่ในห้อง กลับหอ อ่านหนังสือ ไม่คบเพื่อน ไม่มีสังคม แบบนี้เรียนที่เมืองไทยก็ได้ครับ เสียดายภาษีประชาชน น่าจะไปเปิดหูเปิดตานำสิ่งดีๆของประเทศเขาไปพัฒนาบ้านเราบ้าง เพราะนี่คือเหตุผลที่ทุนเขาส่งมาเรียนเมืองนอกเมืองนา กลับกลายเป็นตั้งกำแพงกั้นตัวเองไม่รับรู้ความแตกต่างในด้านที่ดีๆ

ขออนุญาตครับ... พอดีเข้ามาอ่านแล้วไม่สบายใจกับคำว่า "เสียดายภาษีประชาชน" ของคุณ เพราะผมก็นักเรียนทุนรัฐบาล
ประเภทไม่ค่อยเที่ยว (สมัยที่เรียนโท มีเที่ยวบ้าง) ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากเที่ยวหรือปิดกั้นตัวเอง แต่เนื่องจากสภาพแวดล้อม
และองค์ประกอบบางอย่างบีบบังคับให้ต้องเป็นแบบนี้  ผมอยู่เมืองที่ค่าครองชีพสูงมากๆ เรียนอยู่ U. ที่ติดในอันดับ Top-5
คงไม่ต้องอธิบายว่าสภาพสังคม และการแข่งขันเรื่องเรียนของนักศึกษาที่นี่เป็นยังไง เวลาว่างแทบไม่มี  ส่วนเงินค่าใช้จ่าย
ที่ได้รับก็แทบไม่พอใช้ ทั้งที่อยู่แบบประหยัดแล้ว จะไปเปรียบเทียบกับแถวๆ Texas คงไม่ได้  ถ้าให้เที่ยวหรือสังคมมากๆ
คงหมดตัวแน่ ผมไม่ได้มีพื้นฐานที่ร่ำรวยครับ ก็ต้องคิดวางแผนเผื่ออนาคตไว้บ้าง...

เรื่องทุนรัฐบาลฯ จุดประสงค์หลักคือให้มาเรียนครับ (ส่วนเรื่องการเที่ยวเปิดหูเปิดตา ก็คงมีบ้างตามแต่โอกาสจะอำนวย
และไม่กระทบการเรียนด้วย)  ในฐานะนักเรียนทุนฯ คงต้องบอกว่าส่วนใหญ่ก็จะมีความกดดัน ซึ่งต่างจากนักเรียนทุนส่วนตัว
เหมือนกับเป็นเดิมพันอย่างหนึ่งคือ เอาทุนมาเรียนก็ต้องเร่งรีบเรียน ทำให้ดีที่สุด และโดยส่วนผมก็ไม่เคยคิดหนีทุนด้วย...
อยากให้เปลี่ยนทัศนคติ และเข้าใจนักเรียนทุนหลายๆ คนด้วยครับ...

อ่ะ...

นายสมชายกับเมียก็นักเรียนทุนรัฐบาลอีกสองคนครับ... ทั้งนายสมชายกับเมียก็ไม่ค่อยคบกับคนไทย แต่ขับรถเที่ยวไกลครับ ขับเลาะขอบทวีปข้ามแผ่นดินไกลแบบจาก OKC อ้อมเท็กซัสเลาะขอบล่างไปขึ้นเหนือด้วยเส้นทาง I-101 เลียบชายทะเลแคลิฟอร์เนีย ทริปนี้ 21 วัน กว่าสองหมื่นกิโล... เลาะขอบทวีด้านขวาตั้งแต่หลุยส์เซียน่า ฟลอริด้าแล้วขึ้นเหนือไปดูมิสกรีน ทริปนี้อีกเกือบสองหมื่นกิโลครับ(ทะเลาะกับเมีย โดนเมียดุตลอดทางและครับ... ฮา)... อีกทริปวิ่งผ่าทะเลทรายเนวาด้าตรงดิ่งไป CA (ทริปนี้ที่คุณ 686 เจอนายสมชายกำลังเตรียมรถยนต์อยู่หลังอพาร์ตเม้นของมหาลัยฯ - เลยไม่ได้คุยกันมาก จนถึงบัดนี้... ฮา)

นายสมชายเป็นนักเรียนทุนฯ ที่ OCU, เวลาเรียนก็ไม่ได้เรียนอย่างเดียว แต่มีรายงานของหลวงต้องให้ทำด้วย เป็นการรวบรวมข้อมูลสถิติต่างๆ ด้านเศรษฐกิจ ที่ไม่สามารถค้นได้จากห้องสมุด... นักเรียนทุนสมัยนี้ไม่ได้ทำรายงานคงเป็นเพราะว่าสมัยนี้สามารถค้นได้จาก Internet แต่สมัยนายสมชายปี 1993 ทุกอย่างต้องเก็บข้อมูลจากสนามฯ และขอบางส่วนจากทางการ USA โดยสถานทูตประสานเอาไว้ก่อน ถึงแม้ในเวลาไม่กี่ปีหลังจากนั้นจะกลายเป็นของไร้ค่าก็ตามครับ...

เมียนายสมชายเรียนที่ OCU ด้วยทุนตัวเอง แล้วไปเรียนที่ McGeorge School of Law ที่แคลิฟอร์เนียด้วยทุนเล่าเรียนหลวง(เป็นโรงเรียนกฏหมายหนึ่งใน 33 แห่ง ในรายชื่อสถานศึกษาที่ กต. ให้การรับรอง)... จากประสบการณ์ของทั้งคู่พบว่านักเรียนทุนมักไม่ค่อยคบกับนักเรียนไทยคนอื่น เป็นเพราะไปไหนไปด้วยกันแต่กระเป๋าไม่เท่ากันครับ... และเบื่อสภาพจับกลุ่มเพื่อนแยะ นินทากัน อวดร่ำอวดรวย ยืมหนังสือ ลอกการบ้าน ลอกข้อสอบ ไปไหนไปกันเป็นกลุ่มใหญ่จับกลุ่มแน่นทำให้ไม่ได้ฝึกภาษา นักเรียนไทยหลายท่านกลับมาเมืองไทยยังพูด ฟัง อ่าน ภาษาอังกฤษไม่ค่อยคล่อง ตัว R ตัว L ตัว Th ยังแยกการออกเสียงไม่ได้... ซึ่งอย่างนี้ไม่ควรเกิดครับ...

ขอยืนยันว่านักเรียนทุนส่วนใหญ่ถูกใช้งานคุ้มค่าภาษีครับ... แต่หลายอย่างบอกใครไม่ได้ถึงแม้จะเป็นข้อมูลประหลาดๆ เช่นจำนวนและที่อยู่ของอู่ซ่อมรถยนต์ที่เป็นเจ้าของโดยคนไทย เวียตนาม และลาว... ฮา
บันทึกการเข้า
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3988



« ตอบ #161 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 10:34:46 AM »

อิอิ
 
นายสมชาย อ่านแล้ว มีอารมณ์ อยากโม้แล้วหล่ะสิ   น้ำลายหก น้ำลายหก น้ำลายหก

นักเรียนไทย ที่ไปเรียน อเมริกา หรือ ประเทศอื่น ที่ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาหลัก มักไม่ได้ไปเรียนตั้งแต่ มัธยม หรือ ปริญญา ตรี ส่วนมาก ไปเรียน ปริญญาโท และ เอก มีบ้าง ที่พ่อ แม่ ส่งให้ไปเรียน ตั้งแต่ เด็ก หรือไปเรียน ปริญญา ตรี และ ส่วนมากอีกเช่นกัน ที่ไปถึงแล้ว เรียนภาษาเพื่อปรับตัวแค่ไม่กี่เดือน ทำให้เรื่อง การ พูด หรือ การปฎิสัมพันธ์ กับคนอื่นไม่ดีนัก โดนเฉพาะ เรื่อง การพูด และ การถามคำถามในห้องเรียน

ห้องเรียนที่มีนักเรียน เอเซีย มักเป็นห้องเรียน ที่ อาจารย์ ที่สอน เป็นคนพูดคนเดียว มักไม่ค่อยมีใครถามคำถามระหว่างการบรรยาย ไม่ไช่เพราะ อาจารย์สอนเก่งจนนักเรียนเข้าใจหมดทุกอย่าง แต่เป็นเพราะ นักเรียนเหล่านั้น ไม่รู้ว่า จะถามอะไร พอคิดคำถามเสร็จ อาจารย์ ก็สอนบทอื่นไปแล้ว แต่ที่สำคัญคือ คนเอเซีย ส่วนใหญ่ กลัวอับอายต่อหน้าคนอื่น กลัวถามด้วยคำพูดที่ไม่ถูกไวยกรณ์  กลัวถามไปแล้วเหมือนกับแสดงความโง่ต่อหน้าคนอื่น กลัวไปหมด ซึ่งผิดกับ ชั้นเรียนที่มี คนอเมริกัน หรือ พวก แขกเรียนอยู่ เพราะ ชั้นเรียนนั้นจะเป็นชั้นเรียนที่มีเสียงถามตอบตลอดเวลา เป็นการพูดคุยเสียมากกว่า

บันทึกการเข้า
Zenith
Jr. Member
**

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 21


« ตอบ #162 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 10:45:45 AM »

เรียนคุณ Zenith ... อยากทราบว่าโรงเรียนที่คุณเรียนชื่ออะไรครับ

ผมขออนุญาตตอบเป็นข้อความส่วนตัวไปแล้วนะครับ  ขอบพระคุณครับ...
บันทึกการเข้า
Sundance
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 123
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2609



« ตอบ #163 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 11:21:27 AM »

เรียนคุณสมชาย (ฮา)

อีกทริปวิ่งผ่าทะเลทรายเนวาด้าตรงดิ่งไป CA

คงจะเป็น US 50 ... The Loneliest Road in America ... เส้นทางนี้ตลอดทางแทบไม่เห็นใครเลย ผมมาจาก Reno เข้าเส้นทางที่ Fernley ไปหา Utah วิ่งได้ไม่นานก็โดนหาว่าบ้า โกรธมากจนเสียสติ นอนที่ Ely ระหว่างทาง  

"มิสกรีน" หรือ "ดูมิสกรีน" นึกไม่ออก อยู่ที่ไหนครับ

ดูเหมือนจะเคยเล่าให้คุณสมชายฟังว่า เคยถูกรถที่สวนมาวิ่งตรงเข้าใส่ ตอนใต้ของ Utah ในเขต Indian Reservation (ผมกำลังจะไป Four Corners) ถนนแบบสวนกัน ผมคิดว่าเขาหลับ ผมเห็นเขานานพอสมควร ดูรูปการณ์แล้ว เขาชนแน่ แม้ผมจะจอดก็ตาม ผมน่าจะบีบแตร หรือเปิดไฟใส่ ก็ไม่ได้ทำ จวนตัว ผมออกซ้าย ใจไม่ดีเลย เพราะผิดเต็มประตู เขาก็ตรงเข้ามาและลงข้างทางไปเลยครับ ดินอ่อน ลงไปแล้วล้อจมดิน หยุดเลย ผมอยากหยุดลงไปช่วย ภรรยาไม่ยอม กลัวโดนแย่งรถ บอกว่าถ้าเขาฆ่าเรา ก็คงอีก 2 อาทิตย์กว่าจะพบศพ

ถ้าภรรยาคุณสมชายได้คุยกับภรรยาผมคงสนุก เราสองคนได้นั่งหัวเราะ ฟังเขาคุย

เรียนคุณ 686 .... ยังระลึกถึงความกรุณาที่ได้ให้ Works ฉบับสุดท้ายกับผม

เรียนคุณ USP 40 .... คำว่า MF'er นี้ไม่เคยได้ยินกับหูครับ ได้ยินแต่ F_you เพื่อนรุ่นพี่ที่ Waco, Texas บอกเหมือนคุณ USP 40 ว่าคนดำใช้  เป็นยิวชื่อ Greenberg ครอบครัวมีโรงเรียนสอนบินที่ Modesto, California เมื่อผมพบเขาที่ YMCA เขาเป็นช่างแก้นาฬิกา เขามียศทหารเป็น Captain (เห็นจาก Foot Locker) เรียนหนังสือเปะปะ แบบสนใจอะไรก็เรียน พอตั้งใจจะเอาปริญญา เจอ English ได้ F แปลกครับ เวลาพูดก็ดีหรอก แต่ภาษาเขียนไม่เอาไหน

มีวงดนตรีคนดำชื่อ MFSB เล่นดีครับ ผมชอบ ผมติดใจ Soul Train สงสัยว่าจะย่อจาก Mother F'ers Son of Bitches ก็แบบ SOB ที่เขต North Carolina ติดกับ South Carolina บน Interstate 95 เขาบอกว่าเขาย่อมาจาก South of the Border ผมว่าเขาตั้งใจ

ครั้งแรกที่ได้ยิน F_You ผมไม่โกรธครับ เห็นว่าตลก แต่คนที่ด่ามันก็เพื่อนกัน สมัยเล่นรักบี้กับ Sports Club ฝรั่งด่า "เย็กพ่อ เย็กแม่" ... ครับ ... "เย็ก" ... ผมไม่ได้พิมพ์ผิด หัวเราะกันครืน ไม่มีใครโกรธ

Sports Club สมัยนั้นมีแต่ฝรั่ง คนไทยน้อยคน สมัยนี้มีแต่คนไทย ไม่มีฝรั่ง
บันทึกการเข้า
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #164 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 11:47:13 AM »

เรื่องแอร์น้ำ ผมเองก็พึ่งมีประสพการณ์ การใช้งานที่แอลเอนี้เอง
ซื้อบ้านหลังแรกเมื่อ20ปีที่แล้ว มีแอร์น้ำแบบที่ว่า เปิดแอรฺ์ต้องเปิดหน้าต่างด้วย
ถึงจะได้ผลดีเพราะไอความร้อนจะได้ออกไป หลังจากหมดหน้าร้อน ก็ต้องขึ้นไปเปิดน้ำทิ้ง
และปิดก๊อกน้ำ ล้างฝุ่นทำความสะอาด มัดด้วยพลาสติก ผมเองไม่รู้เรื่องพวกนี้ ปล่อยผ่านไปเกือบสิ้นปี
โดยไม่ได้ทำอะไร ปรากฎว่าผุ น้ำรั่วลงหลังคาบ้าน ต้องเรียกช่างมาซ่อม ถือว่าเป็นความรู้ใหม่ ที่ต้องซื้อหามาด้วยเงิน Grin
รุ่นใหม่เป็นไฟเบอร์กลาสครับพี่   คุณ 686 ตั้งชื่อได้ดี แอร์น้ำ     แอร์น้ำต้องเปิดหน้าไว้นิดนึง  สมมุติว่าถ้าอยู่มนห้องนอนก็เปิดหน้าต่างไว้ซักสองสามนิ้ว   อากาศที่ถูกดูดจากข้างนอกบ้านผ่านตัวฟิลเตอร์   จะอัดลงเข้าไปในบ้านพอแง้มหน้าต่างไว้  อากาศก็จะวิ่งไปออกทางช่องที่แง้มไว้  ห้องนั้นก็จะเย็นกว่าห้องอื่น  แต่อากาศร้อนข้างนอกจะเข้ามาไม่ได้  
หน้าต่างตามบ้านในเมกา 90% จะเป็นแบบหน้าต่างกระจกเลื่อนขึ้นลง   ก็แค่ยกเลื่อนค้างไว้ซักหน่อยก็พอ
พูดถึง American Indian หรือที่เรียกว่าอีกชื่อว่า Native American  ที่อยู่ใน Reservations จะมีตำรวจของเค้าเองเรียกว่า Tribal Police
ตำรวจธรรมดาไม่มีอำนาจจับใครใน Reservations ยกเว้นตำรวจทางหลวง และเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลาง Federal Law enforcement agencies ( FBI , ATF , DEA etc.)
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 8 9 10 [11] 12 13 14 ... 17
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.075 วินาที กับ 22 คำสั่ง