เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 19, 2024, 11:46:55 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 9 10 11 [12] 13 14 15 ... 17
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ซื้อปืนในอเมริกาง่ายจริงหรือ?  (อ่าน 52828 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 33 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3988



« ตอบ #165 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 11:54:52 AM »

คุณ ลุง Sundance ครับ มีรถ ไม่ไช่มีแต่ค่าใช้จ่ายครับ ผมมีรถ ก็เอารถไปทำงานหาเงินมากินอยู่ เพราะ ทางบ้าน ส่งให้เฉพาะ ค่าเรียน ค่าเช่าบ้าน กับ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ผม ส่งไก่ KFC หาเงินเอามาใช้จ่ายเอง

รถยนต์ ที่ผมใช้ ก็เป็น ปิคอัพ เก่า ๆ แต่ผมถือว่า ผมซ่อมรถเองได้ เลยซื้อ คนที่เห็น ต่างถามว่า ผมซื้อทำไม รถกระบะ ทำไมไม่ซื้อรถเก๋ง แต่พอพวกเค้าจะย้ายบ้าน ต่างก็มายืมรถผมกันทั้งนั้น เพราะ ผมเป็น คนไทย คนเดียว ที่มีรถกระบะ

รถกระบะคันนี้ ผมใช้เกินคุ้มอีกครับ คือ นอกจากใช้เดินทางไปยังที่ต่าง ๆ แล้ว ยังใช้ส่ง ไก่ หาเงิน ถ้าว่าง ก็ไปตะเวณ เก็บ ขยะ กับ เพื่อน ๆ

ขยะตามถัง ขยะ ไม่ไช่จะมีแต่ของที่ใช้ไม่ได้เท่านั้น ยังมีของดี ๆ ที่ยังใช้ได้แต่ถูกทิ้งอีกมาก ยิ่งช่วงที่นักเรียนต่างชาติกลับประเทศ ส่วนมาก มักจะไม่เอาของติดตัวกลับไปด้วย มีสารพัด ทั้ง หม้อ ทีวี เตียงนอน เครื่องดูดฝุ่น ฯลฯ. นอกจากเอามาใช้แล้ว ผมกับ เพื่อน ยังเอาไปขายด้วย หาเงินเอามาซื้ออาหารมากินกัน

บางทีก็มี ออเดอร์ ครับ อย่าง เพื่อนอยากได้อะไร ก็ฝากผมมองหาตามถังขยะด้วย เวลาผมไปส่ง ไก่ ตามอพาตเม้น ก็จะมองตามถังขยะด้วยว่า มีของที่สั่งหรือไม่ อย่าง เตียง เครื่องดูดฝุ่น ทำนองนี้

แต่พอย้ายมา ทำงานที่ San Jose ผม ไม่สามารถเอาอะไรที่ใช้ได้จากถังขยะอีกเลย เพราะ ทุก ๆ วัน จะมีคนคอยมาเดินดู และ คุ้ยหาของในถังขยะ ของ อพาตเม้น ตลอด

ผมเลยกลับมาสงสัยว่า รัฐ แคลิฟลอเนีย รวยกว่า รัฐ โอกลาโฮม่า จริงหรือ? เพราะ ไปที่ไหนผมก็เห็น คน จรจัด (Homeless) ส่วน โอกลาโฮม่า เห็นเฉพาะ ตาม แยกที่มาขอเงิน กับข้างร้านเหล้า ไม่มากอย่างที่เห็นในแคลิฟลอเนีย ที่เห็นตามสวนสาธารณะ และ ข้างถนน ที่คนเหล่านี้จะเดิน เข็นรถ ช๊อปปิ้ง ของซุปเปอร์มาเก็ต เดินกันทั่วไปหมด ตามเมือง ใหญ่ ๆ อย่าง LA, San Fransico หรือแม้กระทั้งเมืองหลวง ของ รัฐ อย่าง Scamanto ผมก็เห็นพวก Homeless แต่น้อยกว่า ซานฟราน

เมือง San Fransico เป็นเมืองที่น่าเที่ยว แต่ไม่น่าอยู่ครับ ที่ว่า น่าเที่ยว เป็น เพราะ อากาศ ที่เย็นตลอดปี แม้ในหน้าร้อน ก็ไม่ร้อนมาก ไม่ร้อน ทารุณ เพราะ มีกระแสน้ำเย็น จากขั้วโลกเหนือ ไหลผ่านลงมา พอหน้าหนาว ก็มีกระแสน้ำอุ่นจากทางใต้ไหลขึ้นมา ทำให้ อุณภูมิของที่นี่ เย็นทั้งปี ส่วนเมืองก็สวย ดูดี แม้ในที่เก่า แต่ที่นี่ก็บำรุงรักษาตลอด มีการทาสีบ้านเรือน ให้น่าดู ถนนหนทางก็สะอาด (ไม่มีขยะเกลือนเหมือนอย่าง ซิคาโก) ถนนในซานฟราน ก็ตัดเป็นเส้นตรง แม้ทางขึ้นเขา คือ ถนน เค้าตัดแบ่งเป็น บล๊อก ๆ เดินเที่ยวเพลินครับ โดยเฉพาะ ท่าเรือ โดยท่าเรือ 39 (Peer39) ที่มีสิงโตทะเลอาศัยอยู่ แล้ว ก็มีสินค้าของที่ระลึกขายตามข้างทางตลอดเส้นทางเรื่อยไปไปจนถึง สถานีรถราง ซึ่ง เป็น รถรางเคเบิ้ล ขึ้นเขา ส่วนรถเมล์ที่นี่ ก็เป็นรถไฟฟ้า โดยจะมีเสายื่นขึ้นไปสัมผัสกับสายไฟที่ขึงเหนือถนน ตลอดเส้นทาง

ซานฟราน แบ่งเขตย่อย ๆ ตามชื้อชาติด้วย มีไชน่า ทาวน์ กับ อิตาเลี่ยน ทาวน์ ถ้าคุณ เดินไปในถิ่น ไชน่า ทาวน์ ป้ายหน้าร้าน จะเป็นภาษา จีน และ ผู้คนในเขตนี้จะพูดภาษาจีน หาคนพูดภาษา อังกฤษ ยาก เหมือนกับอยู่ในเมืองจีนเลยทีเดียว ไม่ว่า มองไปทางไหน ก็เห็นแต่คนจีน มีของขายแบบวางกับพื้น ร้านอาหารก็มี เป็ดย่าง หมูย่าง แขวนเหมือนกับร้าอาหารจีนในเมืองไทย พอเดินไปย่าน อิตาเลี่ยน ทาวน์ ก็จะมองไม่ค่อยออก เพราะ จะคล้าย ๆ กับ ส่วนอื่น ๆ ของเมือง

ยังมีจุดชมวิว และ สถานที่ท่องเที่ยวอีกมาก ทั้ง สะพาน โกลเด้นเกจ สวนสาธารณะ และ ท่าจอดเรือ ยอชท์ ที่เที่ยวทั้งวันก็ไม่หมด พอตกค่ำ ก็ ไปเดิน ถนน มาเก็ต ที่มีร้านอาหารไทย หลายร้าน รวมถึง วิหาร และ สถานที่ทำการของ รัฐ ที่สร้างอย่าง สวยงาม

ที่บอกว่า ไม่น่าอยู่ คือ คน ครับ เพราะ ถ้ามองไปตามถนน จะเห็นพวก โฮมเลส และ พวกขี้เหล้าเมายา เดินปะปนไปกับคนทั่วไป เดินเซไปเซมา แต่งตัวซอมซ่อ ทำให้เสน่ห์ของเมืองลดลงไปอย่างมาก พอไปสวนสาธารณะ ก็เห็น คนเหล่านี้ เอากล่องกระดาษ มาห่มนอนตามเก้าอี้ พอไปดูตามใต้สะพานข้ามถนน หรือ อุโมง ก็จะเห็นคนเหล่านี้นอนข้างรถเข็นที่ใส่ของใว้เต็ม ทำให้ไม่กล้าเดินคนเดียวในเวลากลางคืนเลยครับ
บันทึกการเข้า
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #166 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 11:56:48 AM »

เรียนป๋า  F you นี่ผมเฉยๆ  ไม่มีความหมายอะไร  ไอ้พวกยกนิ้วกลางให้นี่ก็อีก   ผมเคยบอกว่า I'm gonna break that finger off and shove it up your ass. อิอิอิ    เจอครั้งแรกที่ Fort worth ลงเครื่องบินคนไทยมารับ  ผมก็นั่งรถแบบตื่นตา  พี่ที่ขับก็ขับไปอยู่ดีๆ  เห็นฝรั่งขับรถแซงขึ้นหน้าไปแล้วยกนิ้วชี้ให้
ผมก็สงสัยมันคืออะไร   ถามพี่เค้า แกอธิบายให้ฟังก็ยังไม่เข้าใจ  จนอยู่มานานถึงจะเข้าใจ  อย่างคำว่า F you ผมยังนึกไม่ออกว่า  เทียบกับคำด่าไทยว่าอะไรครับ  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 13, 2007, 12:07:42 PM โดย USP40 » บันทึกการเข้า
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #167 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 12:05:01 PM »

คุณ 686 เคยเข้าไปใน L.A. ย่านที่ขายของ whole sale ไหมครับ  ผมจำชื่อถนนไม่ได้แล้ว  คิดว่าแถวๆ 3rd st ไปถึง 12th st หรือไงนี่แหละ   เป็นแหล่งขายของมีแต่ชาวจีนกับเกาหลีเป็นเจ้าของ   แถวนั้น homeless เพียบ  ตามถนนเหม็นฉี่มากๆ  สกปรก อันตรายอีกต่างหาก  ถ้าจอดรถพวกนี้จะมาขอตังค์บอกว่าจะเฝ้ารถให้  ที่จริงมันก็ไม่ได้เฝ้าหรอก  แต่ถ้าไม่ให้กลับมารถอาจจะเสียหายได้  ก็ต้องให้มัน
ตามเมืองใหญ่ๆจะเป็นเหมือนๆกัน  homeless เต็ม  เคยเห็นที่ยืนถือป้าย I'll work for food ไหมครับ
บันทึกการเข้า
Sundance
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 123
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2609



« ตอบ #168 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 12:34:51 PM »

ยกนิ้วกลาง ... เพือนฝรั่งคนหนึ่งจะบอกว่า "What's that? Number of your IQ?"
บันทึกการเข้า
'por
Failure is not an Option
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 24
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490


« ตอบ #169 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 01:28:34 PM »

เรียนป๋า  F you นี่ผมเฉยๆ  ไม่มีความหมายอะไร  ไอ้พวกยกนิ้วกลางให้นี่ก็อีก   ผมเคยบอกว่า I'm gonna break that finger off and shove it up your ass. อิอิอิ    เจอครั้งแรกที่ Fort worth ลงเครื่องบินคนไทยมารับ  ผมก็นั่งรถแบบตื่นตา  พี่ที่ขับก็ขับไปอยู่ดีๆ  เห็นฝรั่งขับรถแซงขึ้นหน้าไปแล้วยกนิ้วชี้ให้
ผมก็สงสัยมันคืออะไร   ถามพี่เค้า แกอธิบายให้ฟังก็ยังไม่เข้าใจ  จนอยู่มานานถึงจะเข้าใจ  อย่างคำว่า F you ผมยังนึกไม่ออกว่า  เทียบกับคำด่าไทยว่าอะไรครับ  


มีเรื่องตลกจากรุ่นน้องมาเล่าให้ฟังครับ จาก Dallas เมืองใกล้ๆ ที่พี่ USP 40 ลงเครื่องครับ

รุ่นน้องคนนี้ เป็นสาวชาวใต้ครับ ทำงานร้านอาหารเหมือนผม เก็บตังเรียนเองเช่นกัน
เธอเจอลูกค้าแขกอินเดีย เรื่องมาก ไม่ให้ทิป (มารู้ภายหลังว่า พวกนี้รุ่นเก่าๆไม่รู้ว่าตามธรรมเนียมจะต้องให้ทิปกัน แต่ถ้าเป็นว) มาบ่อยๆ เรื่องก็มาก ตังก็ไม่ได้

เวลาเธอตอบลูกค้าเรื่องมากว่า Yes, Ma'am เธอใช้สำเนียงชาวใต้ ลากเสียงยาวๆ ว่า ......เหยดดดดด แม้มมมมมมมม (ขออภัยถ้าคิดว่าไม่สุภาพนะครับ) ทำให้เพื่อนๆ ได้หัวเราะกันทุกครั้งทุกครา

ขออนุญาตครับ และขออภัยในภาษาครับ ไหว้
บันทึกการเข้า

686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3988



« ตอบ #170 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 01:33:58 PM »

คุณ 686 เคยเข้าไปใน L.A. ย่านที่ขายของ whole sale ไหมครับ  ผมจำชื่อถนนไม่ได้แล้ว  คิดว่าแถวๆ 3rd st ไปถึง 12th st หรือไงนี่แหละ   เป็นแหล่งขายของมีแต่ชาวจีนกับเกาหลีเป็นเจ้าของ   แถวนั้น homeless เพียบ  ตามถนนเหม็นฉี่มากๆ  สกปรก อันตรายอีกต่างหาก  ถ้าจอดรถพวกนี้จะมาขอตังค์บอกว่าจะเฝ้ารถให้  ที่จริงมันก็ไม่ได้เฝ้าหรอก  แต่ถ้าไม่ให้กลับมารถอาจจะเสียหายได้  ก็ต้องให้มัน
ตามเมืองใหญ่ๆจะเป็นเหมือนๆกัน  homeless เต็ม  เคยเห็นที่ยืนถือป้าย I'll work for food ไหมครับ


I'll work for food ที่โอกลาก็มีครับ แต่ยืนอยู่ ตาม สี่แยก ไม่ค่อยเห็นตามท้องถนน แต่ใน L.A., San Fran เห็นเกลื่อนถนนเลยครับ

พวก โฮมเลส อเมริกา ไม่น่าสงสารเลยครับ เพราะพวกนี้มีเงินช่วยเหลือจากรัฐ แต่ได้เป็น คูปอง แลกอาหาร บางครั้งยังเอามาขายแลกเหล้า บางครั้งผมยังอิจฉาเลยครับ ไม่ต้องทำงาน แต่ก็มีกิน ผมทำงานไปเรียนไปยังแทบไม่พอกิน เพราะ ทำงานได้ไม่กี่ชั่วโมง ทำเยอะไม่ได้ เพราะ กฎหมายให้ทำได้ไม่เกิน 15 ชั่วโมงต่อ สัปดาห์ เลยแค่พอกินพออยู่ ตอนผมจบ ผมทำงานได้เต็มเวลา ทำได้สัปดาห์ละ 60 ชั่วโมง เดือนนึง ได้กว่า 3 พันเหรียญ หรือ กว่า แสนบาท ซึ่งถ้าส่งไก่ เมืองไทยไม่มีทางได้

L.A. ผมเข้าไป ไม่กี่ครั้งครับ แต่ที่ไปบ่อยคือ ไทยทาวน์ หรือ N. Holliwood Blvd. กับ Sunset Blvd.ไป ตลาดบางรัก กับไปกินข้าว ที่ สนามหลวง คาเฟ่ แล้วไปซื้อนิตยสารไทยที่ ร้าน ดอกหญ้า ชั้นล่างของ สีลม พลาซ่า

ไทยทาวน์ ใน L.A. เป็นสังคมคนไทยที่ใหญ่ที่สุด นอก ประเทศไทย เพราะ มีทั้ง วัด ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาเก็ต และ กิจการที่เจ้าของเป็นคนไทยอยู่ที่นี่ บนถนนสายนี้ ถ้าคนพูดภาษาอังกฤษ ไม่ได้ ไม่อดตายครับ เพราะ ร้านไทยตั้งอยู่ ติด ๆ กันเกือบทั้งถนน เข้าไปในร้าน พูดหรือ สั่ง อาหาร เป็น ภาษาไทยได้เลย ส่วน เรื่องงานก็หาได้ตามร้านอาหารไทย แต่ ค่าจ้างจะต่ำกว่าทำงานข้างนอกมาก โดย ร้านอาหารไทย ส่วนมากจะเลี่ยง ภาษี (คนไทยเก่ง) โดยแจ้งว่า คนที่ทำงาน เป็น ญาติ ไม่ได้จ้าง (ญาติ เปลี่ยนหน้าบ่อยจัง) โดยให้ค่าจ้าง แค่ เหรียญเดียวต่อ ชั่วโมงหรือ บางร้านไม่ให้เลย เพราะ เด็กเสริฟ จะได้ทิพ เป็นกอบเป็นกำ โดยบางคนได้วันละกว่า 100 เหรียญ ก็มี โดยมากมักจะแย่งกันเป็นเด็กเสริฟ ส่วน คนล้างจานจะได้ค่าชั่วโมงมากกว่า โดยได้ ราว ๆ 5 เหรียญ ต่อชั่วโมง ทั้งๆ ที่อัตตราค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่กว่า 6 เหรียญ หรือบางที ก็เหมาเอาไปรายเดือน แบบไม่ต้องเสียภาษีก็มี
บันทึกการเข้า
'por
Failure is not an Option
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 24
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490


« ตอบ #171 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 08:07:14 PM »

เคยเจอ Homeless ถือป้าย "I'll work for beer and cigarette" ในDallasครับ เห็นแล้วขำกลิ้งเลยครับ คิดไปคิดมาโดนเข้าจังจังเลยครับ Grin Grin Grin

เคยดูสารคดีพวกนี้บางคนเรียนจบปริญญาเอก แล้วเบื่อโลก ก็มีครับ บางคนตายไป มีเงินเก็บเป็นล้านเหรียญครับ

ระหว่างเรียนผมกับแฟน ทำงานกันสัปดาห์ละ 40+ ชั่วโมง เนื่องจากปี 40 รัฐบาลเมกันอนุญาตให้เด็กจากประเทศที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจขออนุญาตทำงานนอกมหาวิทยาลัยได้ ทำงานร้านอาหารกันเป็นทุกอย่างตั้งแต่เด็กล้างจาน ล้างห้องน้ำ เด็กเสิร์ฟ พ่อครัวทำอาหารญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งเป็นผู้จัดการร้านเวลาเจ้าของไม่อยู่ไปเที่ยวเป็นเดือน ก็เลยมีโอกาสได้ทำงานมีเงินเป็นกอบเป็นกำ จ่ายค่าเรียน ค่ากินอยู่ได้ครับ แต่ต้องมีวินัยในตนเองสักนิด ทั้งเรียน ทำงาน สังคม พอว่างก็ขับรถเที่ยวเล่นไปทั่วเมกา จบมาก็ทำงานกันสัปดาห์ละมากกว่า 60 ชั่วโมงต่อคนทั้งงานออฟฟิซ, Executive Chef-Japanese Restaurant, Bartender, Golf Course-Wait Staff เดือนนึง ได้กว่า 4พันเหรียญ หรือ กว่า แสนสองหมื่นบาท ต่อคน ก็ไม่เลวครับ (ขอลอกครับ)
บันทึกการเข้า

686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3988



« ตอบ #172 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 09:16:13 PM »

ผม พาเที่ยว อเมริกา บนตัวหนังสือ ดีกว่า

ตอนปี 39 ก่อน วิกฤติ ต้มยำกุ้ง ผมได้ไปเที่ยว กับเพื่อนที่เรียนอยู่ San Diago อีก 5 คน โดยเช่ารถ แวน ไปเที่ยวกัน เริ่มออกจากซานดิเอโก้ วิ่งไปตามเส้นทาง I-215 แล้ว เลี้ยวขวา ออกเส้น I-10 มุ่งไปยัง เมือง ฟีนิกซ์ ( Phoenix) รัฐ อริสโซน่า ระหว่าง ทาง ผ่าน Out let  Kabazon ที่เป็นแหล่งช๊อปปิ้งที่เพื่อน ๆ ผม นิยมกันมา เพราะ ที่นี่ มีของแบรนด์ ดังมาลดราคา แล้ว นักท่องเที่ยวก็มักมา ช๊อปปิ้งที่นี่กันด้วย เห็นได้จากการขยายพื้นที่ขายออกไปอีกกว่าเท่าตัว

ที่ คาบาซอน ยังมีร้านอาหาร จีน ที่เจ้าของเป็นคนไทย ด้วย พอไปถึง ฟีนิกซ์ ก็ขึ้นเหนือโดยใช้เส้นทาง I-17 ตลอดเส้นทาง จาก ริเวอร์ไซด์ ไปอริสโซน่า สอง ข้างทาง เป็นพื้นที่ กึ่งทะเลทราย ไปตลอดเส้นทาง ที่กึ่งทะเลทราย ทางตอนใต้ของ แคลิฟลอเนีย ไม่แห้งแล้งขนาดไม่มีต้นไม้ขึ้นเลย มองไปทางไหนก็เห็น ต้นไม้ทะเลทราย ทรงพุ่มกลม เต็มไปหมด พอเข้าเขต อริสโซน่า ก็จะเห็น ต้นกระบองเพรช ขึ้นมา ซึ่งต้นกระบองเพรช อริสโซน่า มีลักษณะ ไม่เหมือนกับ ต้นกระบองเพรชที่เราเห็นกันในเมืองไทย เพราะ กระบองเพรช ที่ขึ้นในแถบนี้จะมีลำต้นเดียว ตรงขึ้นไป แล้วไปแยกออกเป็น 3 แฉก เหมือน กับมือคนยื่นออกมาทั้ง 2 ข้างลำตัว แล้วยกขึ้น

 พอขึ้นไปตอนบนของ อริสโซน่า ทิวทัศน์ ก็เปลี่ยนไป จากทะเลทรายที่แห้งแล้ง กลับเป็น ป่าสนที่ขึ้นอยู่อย่าง หนาแน่น และ ผมกับเพื่อน ๆ ก็เห็น หิมะ ครั้งแรกของ ทริปนี้ ก็ที่ตอนบนของ อริสโซน่า นี่แหล่ะ (ใครบอกว่า อริสโซน่า มีแต่ทะเลทราย อย่าไปเชื่อครับ) พอเจอป่าสน สักพักก็เจอทางแยกที่ แฟล๊ก สต๊าฟ (Flagstaff) ผมก็ใช้เส้นทาง ไฮเวย์ 180 ขึ้นเหนือ ขึ้นไปยัง แกรนแคนย่อน
บันทึกการเข้า
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #173 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2007, 10:18:11 PM »

ท่านพี่ 686 มีภาพประกอบไหมครับ...

อ่านแล้วได้อารมณ์ดี ชักอยากเห็นภาพประกอบครับ...Cheesy
บันทึกการเข้า
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3988



« ตอบ #174 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 12:06:17 AM »

รูป ผมเก็บอยู่ที่ไหน ไม่รู้ครับ เดี๊ยวหาก่อนครับ

พอถึงแกรนแคนย่อน ก็ไปหาที่พักครับ เพราะขับรถมาทั้งคืน กับ ทั้งวัน ลืมบอกไปว่า ออกรถตอนเย็น พอฟังราคา อึ้งเลยครับ 139 เหรียญ ต่อห้อง ต่อคืน (แพงโคตร )

อัดกันอยู่ 6 คน ห้อง เดียวครับ เอาแบบ ประหยัดสุด ๆ

พอรุ่งขึ้น ก็ขับรถตระเวณ เที่ยว แกรนแคนย่อน ไปถ่ายรูป เรื่อยไป อากาศ หนาวมาก เพราะ ไปตอนปลายเดือน ตุลาครับ  ขับไปเรื่อย ๆ ตามแผนที่ พอลงมาข้างล่าง ตกเย็นก็เข้าพัก โรงแรม พอถามราคา ที่พัก เค้าคิดแค่ 39 เหรียญ เอง ห้องก็ดีกว่า พวกผมก็แอบทำกับข้าว กินกันในห้องพัก โดยเอาถ่าน สัญญาณ เตือนไฟไหม้ออกก่อน พอตื่นเช้า ออกมาเห็น รถเต็มไปด้วย หิมะ แต่ผมไม่มีที่ขูดน้ำแข็งจากกระจก เลยเอาถังใส่น้ำร้อนในห้องน้ำมาราดกระจก (ทีที่กระจกไม่แตก ไม่ควรทำครับ แต่ตอนนั้นไม่รู้) พอลงมา เจอกับ นักท่องเที่ยว ชาว เยอรมัน บอกว่า มาจาก ซอลท์ เลค ซิตี้ (Salt Lake City) บอกว่า หิมะที่ โน่น ตกหนัก ก็เลยเปลี่ยนใจ ไปยัง Bryce Canyon โดนใช้ ไฮเวย์ 89  ขับผ่าน ขับผ่าน ถ้ำเล็ก ๆ ที่เจาะตรงเข้าไปในเขา แต่ถ้ำที่ผ่านมัน ตื้นมาก ถ้าเป็นเมืองไทย คงระเบิดทิ้งจนราบไปแล้ว แกรนแคนย่อน เป็น สิ่งที่ ธรรมชาติสร้างขึ้นมา โดยส่วนใหญ่ เกิดจากการกัดเซาะของ น้ำ, หิมะ, ธารน้ำแข็ง แสงแดด และ ลม ที่ผ่านการเวลามานาน นับล้าน ๆ ปี ผมไปหน้าหนาวครับ ทางบางแห่งก็ปิด อย่าง Bryce Canyon ก็ดูอยู่ ข้างบน

บันทึกการเข้า
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #175 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 12:12:48 AM »

อ้างถึง
อัดกันอยู่ 6 คน ห้อง เดียวครับ เอาแบบ ประหยัดสุด ๆ
ขอถามหน่อยครับ โรงแรมที่นี่ไม่ว่าอะไร  แต่ที่เมืองไทยให้แค่ห้องละ 3 คนเกินนั้นต้องเช่าอีกห้อง ทำไมถึงแบบนั้นครับ
บันทึกการเข้า
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3988



« ตอบ #176 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 12:25:09 AM »

อ้างถึง
อัดกันอยู่ 6 คน ห้อง เดียวครับ เอาแบบ ประหยัดสุด ๆ
ขอถามหน่อยครับ โรงแรมที่นี่ไม่ว่าอะไร  แต่ที่เมืองไทยให้แค่ห้องละ 3 คนเกินนั้นต้องเช่าอีกห้อง ทำไมถึงแบบนั้นครับ

จะได้เงินเยอะขึ้นไงครับ

เดี๊ยวพรุ่งนี้ มาโม้ต่อครับ
บันทึกการเข้า
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #177 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 12:28:11 AM »

อ้างถึง
อัดกันอยู่ 6 คน ห้อง เดียวครับ เอาแบบ ประหยัดสุด ๆ
ขอถามหน่อยครับ โรงแรมที่นี่ไม่ว่าอะไร  แต่ที่เมืองไทยให้แค่ห้องละ 3 คนเกินนั้นต้องเช่าอีกห้อง ทำไมถึงแบบนั้นครับ

จะได้เงินเยอะขึ้นไงครับ

เดี๊ยวพรุ่งนี้ มาโม้ต่อครับ
อ้อครับ มีเหตุผลดี เวร...
บันทึกการเข้า
'por
Failure is not an Option
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 24
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 490


« ตอบ #178 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 01:03:55 AM »


พอถึงแกรนแคนย่อน ก็ไปหาที่พักครับ เพราะขับรถมาทั้งคืน กับ ทั้งวัน ลืมบอกไปว่า ออกรถตอนเย็น พอฟังราคา อึ้งเลยครับ 139 เหรียญ ต่อห้อง ต่อคืน (แพงโคตร )

อัดกันอยู่ 6 คน ห้อง เดียวครับ เอาแบบ ประหยัดสุด ๆ

พอรุ่งขึ้น ก็ขับรถตระเวณ เที่ยว แกรนแคนย่อน



ผมชอบใช้วิธีจอดรถนอนตาม ที่พักริมทาง ครับ Rest Area แต่ต้องดูที่ที่มีรถเทรลเลอร์จอดเยอะ จะดูปลอดภัยหน่อย หรือถ้าเข้าไปเที่ยวใน อุทยานแห่งชาติพวก National Park, State Park ผมจะไปเช่าที่กางเต็นท์นอนครับ ถ้าไม่ได้เอาเต็นท์ไป ก็นอนในรถครับ ที่พาร์คเหล่านี้มีที่อาบน้ำ ห้องน้ำพร้อม จ่ายค่าที่กางเต็นท์ประมาณ 10-20 เหรียญครับ ได้อากาศดีๆ เสียงสัตว์จำพวก กระต่ายป่า แรคคูน เม่น อมาดิลโล่ หรือ กวาง มาเดินข้างๆ ที่นอนประจำครับ ที่น่าโมโห คือครั้งแรกที่ไปแค้มปิ้ง เอาของกินวางไว้ข้างนอก ทั้งของสดของแห้ง ว่าจะทำปิ้งย่างกันตอนกลางคืน ปรากฎว่าไปพายเรือเล่นกลับมา แรคคูนประมาณครึ่งโหลมารุมทึ้งของกินที่เราสะเพร่าะวางเอาไว้ไปซะ

ที่สำคัญ จุดไฟทำอาหารได้ด้วยครับ ไม่ต้องถอดถ่านสัญญาณเตือนไฟไหม้ออก อิ อิ อิ  Grin Grin Grin (เคยทำเหมือนกันแหละครับ Grin) แต่คงทำผัดเผ็ด ผัดกระเพราะไม่ได้กระมัง เดี๋ยวฝรั่งเรียกรถดับเพลิงมากันซะ ได้แค่ปิ้งๆย่างๆ ครับ
บันทึกการเข้า

USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #179 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 04:33:15 AM »


พอถึงแกรนแคนย่อน ก็ไปหาที่พักครับ เพราะขับรถมาทั้งคืน กับ ทั้งวัน ลืมบอกไปว่า ออกรถตอนเย็น พอฟังราคา อึ้งเลยครับ 139 เหรียญ ต่อห้อง ต่อคืน (แพงโคตร )

อัดกันอยู่ 6 คน ห้อง เดียวครับ เอาแบบ ประหยัดสุด ๆ

พอรุ่งขึ้น ก็ขับรถตระเวณ เที่ยว แกรนแคนย่อน



ผมชอบใช้วิธีจอดรถนอนตาม ที่พักริมทาง ครับ Rest Area แต่ต้องดูที่ที่มีรถเทรลเลอร์จอดเยอะ จะดูปลอดภัยหน่อย หรือถ้าเข้าไปเที่ยวใน อุทยานแห่งชาติพวก National Park, State Park ผมจะไปเช่าที่กางเต็นท์นอนครับ ถ้าไม่ได้เอาเต็นท์ไป ก็นอนในรถครับ ที่พาร์คเหล่านี้มีที่อาบน้ำ ห้องน้ำพร้อม จ่ายค่าที่กางเต็นท์ประมาณ 10-20 เหรียญครับ ได้อากาศดีๆ เสียงสัตว์จำพวก กระต่ายป่า แรคคูน เม่น อมาดิลโล่ หรือ กวาง มาเดินข้างๆ ที่นอนประจำครับ ที่น่าโมโห คือครั้งแรกที่ไปแค้มปิ้ง เอาของกินวางไว้ข้างนอก ทั้งของสดของแห้ง ว่าจะทำปิ้งย่างกันตอนกลางคืน ปรากฎว่าไปพายเรือเล่นกลับมา แรคคูนประมาณครึ่งโหลมารุมทึ้งของกินที่เราสะเพร่าะวางเอาไว้ไปซะ

ที่สำคัญ จุดไฟทำอาหารได้ด้วยครับ ไม่ต้องถอดถ่านสัญญาณเตือนไฟไหม้ออก อิ อิ อิ  Grin Grin Grin (เคยทำเหมือนกันแหละครับ Grin) แต่คงทำผัดเผ็ด ผัดกระเพราะไม่ได้กระมัง เดี๋ยวฝรั่งเรียกรถดับเพลิงมากันซะ ได้แค่ปิ้งๆย่างๆ ครับ
เมื่อซัก 7-8 ได้หรืออาจจะนานกว่านั้นหน่อย  ที่ Folrida มีคนร้ายปล้นฆ่า นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน  ทางรัฐต้องหาตำรวจและ รปภ ติดอาวุธมาเป้าตาม rest area ให้นักท่องเที่ยว   ที่ทำแบบนั้นเพราะกลัวเศรษฐกิจของรัฐตก
แต่ผมชอบที่ Florida อย่างนึงคือ ในร้านอาหารห้ามสูบบุหรี่ 
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 9 10 11 [12] 13 14 15 ... 17
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.068 วินาที กับ 22 คำสั่ง