พอดีได้อ่านกระทู้เรื่องปืนลั่น...ทำให้นึกถึงการถือปืนที่ผิดหลักความปลอดภัยจากการแสดงตัวอย่างโดยดารา(ในละครน้ำเน่า)..ดาราแทบทุกคนมักถือปืนโดยใส่นิ้วชี้ไว้ในโกร่งไกแถมแตะไว้ที่ไกอีกต่างหาก เด็กๆที่ได้ดูก็เลยคิดว่าเป็นการถือปืนที่ถูกต้อง..หากเด็กแอบเอาปืนของผู้ปกครองมาเล่นก็ถือปืนแบบดาราอันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปืนลั่นใส่กันจนถึงชีวิต....ผมยังเคยสงสัยเลยว่าผู้กำกับหนัง-ละคร เคยได้ศึกษาเรื่องปืนมาบ้างหรือเปล่าโดยเฉพาะบัญญัติ 10 ประการ
ดีใจทีมีคนตั้งกระทู้นี้
เล่นปืนกันมาทั้งเวป ชอบปืนกันมาตั้งนาน แต่ละท่าน ถามจริงๆ เหอะ ครูสอนยิงปืนคนแรกของท่านคือใคร
.......ผมขอตอบเลย 80 เปอร์เซนต์ของคนเล่นปืน ชอบปืน อย่างพวกเรา มี ครู สมบัติ เมทะนี มิตร ไชยบัญชา
กรุง ศรีวิไล สรพงษ์ ชาตรี ...เป็นครูสอนยิงปืนคนแรกในชีวิตกันทั้งนั้นแหละครับ ถ้าเป็นแนวฝรั่ง บางเรื่องก็ยังโอเค
แต่บางเรื่อง(หนังฮ่องกง) ดูแล้วคนเล่นปืนอย่างเรา อยากเป็นลม
ดังนั้น มันก็เป็นการไม่ผิดเท่าไหร่ ที่คนเล่นปืนใหม่ๆ พอจับปืนปุ๊บ มือก็เข้าเหนี่ยวไกปืนปั๊บ เลย........เล่นเอาคนสอน ครูฝึกตามสนามกระโดด กันโหยงเหยงเลย
......จะมีสักกี่คน ที่เริ่มเล่นปืน แล้วเข้าสนามยิงปืน มีครูฝึกสอนยิงปืน เหมือนการเข้าโรงเรียน...ในเมืองไทยคงยังมีน้อย ส่วนใหญ่ ก็เล่น จำ จากภาพยนต์ทั้งนั้น
เอาเรื่องการบรรจุซองกระสุน (แม็กกาซีน) ปืนพก ก็แล้วกัน ใครดูหนังมากๆ อย่าเอาปืนไปให้เขาเล่นนะครับ
เวลาเขาเอาแม็กกาซีนยัดเข้าปืนไปได้ซักครึ่งทาง เขาจะไม่มองปืนแล้ว ตาเขาจะมองเป้า ปากคาบบุหรี่ จากนั้น ใช้มือข้างที่ไม่ได้จับปืน ตบแม็กกาซีนเข้าไปในปืนดัง "แช๊ะ" .....ประทานโทษ เราเจ้าของปืนน้ำตาจะร่วง
นี่แหละครับ แอ็คชั่นจากภาพยนต์ มันถูกจารึกลงในสมองของคนชอบปืนไปโดยไม่รู้ตัว
ปัญหานี้ อย่าไปคิดแก้เลยครับ หนัง ก็คือหนังครับ เอาเป็นว่า เวลามีใครเข้าสนามฯ แล้วมีอาการแบบคล้ายๆ ในภาพยนต์ อยู่ในช่องยิงข้างๆ เรา เราก็ยิ้มให้งามๆ หนึ่งครั้ง แล้วเก็บกระเป๋าปืนเดินออกจากช่องยิงดีกว่า เดี๋ยวจะโดนลูกหลง ........