Ha Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่" จานโฉมชาย อ่ะ ฮา
เมื่อวาน ยาย "เสียศูนย์" ขาเป๋ เดินเข้ามุม ไม่ถูกเลยอ่ะ ฮา
หลงเชื่อ ทฤษฎี "ดูแท่ง ดูเทียน" ของจาน อ่ะ ฮา
จานบอก ให้ซื้อเวลามัน " วิ่ง " ฮา
วิ่งไป ยี่จิบ แล้วทำมัยมัน " หล่นเผละ " อ่ะ ฮา
5555 วันนี้ "ทิศทาง" มันจะเป็นอย่างไร อ่ะ ฮา
ยายบ๊าบกลับไปอ่านใหม่ครับ...
นายสมชายไม่เคยบอกให้เชื่อแท่งเทียนแล้วซื้อ แต่บอกให้ซื้อเมื่อเกิด New High แบบตัดไส้เทียนทิ้ง+ยืนพ้นเส้นค่าเฉลี่ย 7 วัน+Macd ตัดขึ้น... แล้วคุณลักษณะที่ว่านี้ต้องเกิดที่ Set ซึ่งหมายถึง 1) ตัวตลาดเอง และเกิดขึ้นกับ 2) หุ้นรายตัวด้วยครับ...
เรื่องเล่นหุ้นมันมีแค่นี้จริงๆ เอาแค่นี้ก็รวยได้แล้ว แต่ต้อง"ตัดใจทิ้งของ"เมื่อรู้ตัวว่าเข้าผิดทาง... ตรงนี้สำคัญ!!!...
เมื่อวานนี้ตลาดบวกเกือบทั้งวัน มาติดลบพรวดเดียวเอาเมื่อประมาณ 15.30 น. แล้วก็ดิ่งลงข้างล่างจนปิดตลาด... อธิบายได้ 2 แบบคือ 1) ใครๆก็รู้ว่าผู้คนที่เล่นหุ้นด้วยเทคนิคนั้นต่างจ้องจะเข้าตลาดเอาเมื่อเงื่อนไขครบถ้วนตามที่บอกย่อหน้าข้างบน ดังนั้นก็เลย"ชิงจังหวะ"กันแย่งซื้อของถูกหวังจะได้หุ้นที่จุดก้นเหวพอดีเป๊ะ นั่นคือก่อน Macd ของ Set ตัดขึ้น ซึ่งเมื่อวานมันเป็นแบบนี้จนกระทั่งเมื่อ 15.30 น. ก่อนที่จะโดนถล่มขาย ดังนั้นพวกที่จ้องจะขาย(เช่นฝรั่ง หรือสถาบันฯ ไม่ว่าจะปอบหรือกองฯ) มันก็เลยชิงจังหวะขายเอาตอนนั้นแหละครับ(แต่แปลกใจเหมือนเดิมว่าทำไมมันนัดกันขายได้พร้อมๆกัน - ซึ่งคาดว่ามันจ้องชิงเหลี่ยมกันด้วยสัญญาณทางเทคนิคกราฟ ที่ใครขายก่อนก็ได้ ส่วนเปรียบที่เหลือก็ตามน้ำ)...
หรือ 2) หากดูกราฟทางเทคนิคล้วน จะพบว่าตลาดยืนเส้นค่าเฉลี่ย 7 วันก็จริง แต่ MACD ยังไม่ตัดขึ้น และเส้นค่าเฉลี่ยระยะอื่นที่ยาวกว่าเช่น 15 25 50 75 100 150 และ 200 วันยังไม่เข้ามารวมกัน ดังนั้นอธิบายได้ว่ายังมีผู้คนส่วนหนึ่ง(ซึ่งมีแยะ) ยังคงถือหุ้นในราคาเฉลี่ยที่สูงกว่าราคาปัจจุบันซึ่งคาดว่าเป็นรายย่อย เพราะฝรั่งซื้อมานานตั้งแต่ราคาต่ำ ถัวแล้วต้นทุนเฉลี่ยต่ำกว่ารายย่อย... ดังนั้นเมื่อใดที่ราคาต้นทุนของคนในตลาดยังมีความแตกต่างกันมากอยู่ ก็ยังมีคนที่ขายแล้วได้กำไร คนกลุ่มนี้ก็จะขายออกมาอีก จนกว่า"ทั้งตลาด"จะถือหุ้นราคาใกล้เคียงกัน จึงจะเริ่ม"ขึ้นรอบใหม่"...