ไม่รู้อะไรได้ไกลหรอกยายบ๊าบ... รู้แต่ว่าเมื่อไหร่มันทะลุแนวต้านก็ซื้อ หลุดแนวรับก็ขายทิ้ง, Set กระโดดสูงเกินก็จ้องว่าเมื่อไหร่เลิกแทงยอดใหม่ก็ขายทิ้ง รอรับข้างล่าง เมื่อมันลงมาข้างล่างอย่างเช่นวันนี้มันลงเพลินไปหน่อยหลุดแนวรับ ก็ปล่อยให้มันลงไปตามเรื่องตามราวมัน อาทิตย์หน้ามันจะไปยังไงก็ช่างมันเพราะพอร์ตว่าง...
เมื่อไหร่กราฟมันทำท่าจะไปข้างบนก็ซื้อดื้อๆแหละ, คราวล่าสุดนี่ไม่รู้เสียด้วยซ้ำไปว่ามันจะกระโดดตั้ง 50 จุด, รู้แต่ว่ากราฟมันจะหักขึ้นก็ซื้อไปเรื่อยแหละ... สัปดาห์หน้ามันจะไปยังไงก็ไม่รู้หรอก, แต่ถ้ากราฟมันบอกว่าจะขึ้นก็ซื้ออีกนั่นแหละ จะขึ้น 10 จุดหรือ 50 จุดก็จะซื้อ แล้วแผ่วเมื่อไหร่ก็จะขายทิ้งอีกแหละ...
พวกที่วิเคราะห์คุณค่า(VI)นั่นเขาจะมีเหตุผลมากกว่าสายเทคนิคฯ พวกนั้นอาจตอบได้ว่าสัปดาห์หน้าจะเป็นเช่นไร... ที่จริงนั่งอ่านรายงานวิเคราะห์ของสาย VI ก็สนุกดี ได้ความรู้แยะ แต่มาสะดุดเอาอีตรงสมมติฐานเบื้องต้นของสาย VI ที่ว่า"ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าราคาหุ้นจะไปไหน แต่ในที่สุดราคาจะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของกิจการ", ตรงนี้อ่านแล้วบอกตัวเองว่าเลยไม่ใช่ตัวเรา...
ก็เพราะสมมติฐานที่ว่า"เป็นการพ้นวิสัยที่จะรู้ราคาหุ้นล่วงหน้า"นั้น หากเจอกับคนใช้เทคนิคกราฟที่"เล่นเป็น" เขาจะรู้ล่วงหน้าครับ... อย่างน้อยกระทู้นี้ก็พิสูจน์มาให้เห็นมาตลอดว่ารู้ล่วงหน้า ถึงไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เรโชเกิน 80 ขึ้นไปนั้นเกินพอหาเงินใช้ไม่รู้จักจบ โดยที่พลาด 20 เปอร์เซ็นต์ก็มีก๊อกสองขายทิ้งเมื่อหลุดเส้น 7 วัน...
กฎเหล็กของกราฟหุ้นคือหากขายทิ้งเมื่อปิดตัดเส้น 7 วันลงมา ถ้าขายได้ทุกครั้งไม่มีทางติดดอยอย่าง 100 เปอร์เซ็นต์ครับ(และจะโดนกินไม่เกิน 2 - 3 ช่อง - กรณีเข้าผิดทาง)... ดังนั้นสรุปว่าสัปดาห์หน้าจะไปข้างบนหรือข้างล่างนั้น ไร้ความหมายสำหรับนายสมชายครับ...