สวัสดีครับ ขอถามพี่สมชายเป็นความรู้ครับ ว่าการสแกนหุ้นในแต่ละวัน เซตค่าอย่างไรครับ
ตามข้างล่างครับ... เรื่องอินดิเคเตอร์นี่มันมีหลักๆ อยู่แค่นี้จริงๆ เล่นหุ้นใหม่ๆนายสมชายดูเทียบหลายตัวให้คอนเฟิร์มกัน ดูหลายไทม์เฟรมให้มันคอนเฟิร์มัน แม้กระทั่งโปรมแกรมมิ่ง Artificial Intelligence ให้มันหาค่า Optimized ที่ดีที่สุดให้ แต่ในที่สุดมันเหมือนพยายามกรองเอาตะกอนออกจากน้ำกลั่นครับ คือไร้ค่า...
จะเห็นว่าคำถามยอดนิยมตามเว็บบอร์ดหุ้น หรือแม้แต่ในกระทู้นี้ก็ตาม จะวนเวียนอยู่กับอินดิเคเตอร์ แล้วนายสมชายก็บอกเหมือนเดิมทุกครั้งว่ามีแค่ตามข้างล่างครับ... โดยเฉพาะเส้นค่าเฉลี่ย 7 วันนี่สำคัญที่สุด เพราะกฎเหล็กมีอยู่ว่าหุ้นขึ้นทุกตัวจะอยู่บนเส้น 7 วัน และหุ้นตกทุกตัวจะอยู่ใต้เส้น 7 วัน, แล้วใครก็ตามที่จะไล่ซื้อหุ้น/ถล่มขาย ก็จะดำเนินการตรงแนวเส้น 7 วัน...
หุ้นที่สูงกว่าเส้น 7 วันมากจะโดนขายทำกำไรจนลงมาชิดเส้น 7 วันแล้วขึ้นใหม่(หรือหลุดลงไป), หุ้นที่ต่ำกว่าเส้น 7 วันมากๆ ก็จะมีแมงเม่าช้อนซื้อจนขึ้นมาเกาะเส้น 7 วัน... มือใหม่มักจะเล่นหุ้นขาลง ชอบช้อนซื้อเพราะคิดว่าของราคาถูก แล้วเมื่อติดหุ้น ก็จะหาเหตุผลอื่นสนับสนุน เช่นกลายเป็น VI ไป...
ตั้งค่า Macd เป็นค่า Default ครับ คือเอาค่าเฉลี่ย 12 วันตั้งแล้วลบด้วยค่าเฉลี่ย 26 วันออกมาเป็นเส้นหลัก แล้วเอาเส้นหลักมาเฉลี่ย 9 วันเป็เส้นสัญญาณครับ... แต่ Macd ดูได้เฉพาะแนวโน้มระยะยาว กับเวลามันจะหมดรอบจะเกิด Divergence เท่านั้น, ตัวหลักคือเส้นค่าเฉลี่ย 7 วันครับ หรือหากท่านใดเล่นระยะสั้นแบบตีหัวเข้าบ้าน ก็ใช้ 5 วัน...
อินดิดเคเตอร์ทั้งหมดเป็นเรื่องหลอกเด็ก คือมันดูเหมือนว่าจะใช้ทำนายราคาหุ้นได้ แต่เมื่อเราเอาเข้าจริง มันจะมีข้อผิดพลาดต้องตามแก้ไขอยู่เรื่อย แล้วก็ไม่มีวันแก้ได้หมด เพราะหากปรับตัวเลขให้เร็วขึ้นมันก็ซื้อเร็ว แต่ขายเร็วเกิน แปลว่าขายหมู... ครั้นเราปรับตัวเลขให้มันช้าลง มันก็จะเข้าซื้อช้าเสียจนจวนจะหมดรอบแล้วค่อยซื้อ แล้วมาสั้่งขายเอาตอนจวนจะขึ้น ขายปุ๊บขึ้นปั๊บ...
ที่ใช้ได้ผลมีแค่ 2 อย่างคือ New High กับหุ้นต้องยืนบนค่าเฉลี่ย 7 วันให้ได้, และหากจะเล่นรอบใหญ่ ต้องรอให้เส้นค่าเฉลี่ยรวมกันแล้วบานออกเป็นพัดคลี่ ซึ่ง 1 ปีมักจะมีแค่ครั้งเดียวเป็นรอบใหญ่ประจำปี... รอบใหญ่ประจำปีไม่แนนอนว่าเกิดต้นปี ปลายปี หรือกลางปี, อย่างรอบที่กำลังเกิดอยู่นี่ก็จวนกลางปีแล้ว...
แล้วเส้นค่าเฉลี่ยรวมกัน/บานออกเป็นพัดคลี่ฯ นี่ก็เป็นไม่พร้อมกันทุกตัวในตลาด บางปีก็เกิดเฉพาะบางกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งที่มันเกิดไม่พร้อมกันนี่จะลาก Set ให้ยิ่งผันผวนอ่านยากขึ้นไปอีก... ตรงนี้เขาถึงบอกว่าให้ดูที่นิสัยหุ้นเฉพาะตัว...