เช้านี้ ที่บ้านผมก็มีสมาชิกมาส่งเสียงเช่นเคย เหมือนกันครับ นกเขา นกปรอด นกกางเขน
ยังมีเจ้าตัวเล็กจิ๋วปากแหลมยาว แต่เสียงจิ๊บดังเกินตัว ไม่รู้ว่าชื่ออะไร เวียนดูดน้ำหวานตามดอกไม้
ลูกไทรที่บ้านผมยังไม่สุกไม่มาก ยังออกขาว-ชมพูเรื่อๆ ยังไม่แดง นกปรอด จึงเพียงมาสำรวจแล้วก็ไป
มาขุ่นใจเล็กๆตอนที่เห็นพรานนก หน้าใหม่เพิ่งเคยเห็น เดินพาอุปกรณ์ตระเวณหาที่แขวนนกต่อ
อุปกรณ์พัฒนาไปอีก ไม่เป็นไม้ไผ่ยาวให้เป็นที่สังเกตุ แต่เป็นท่อนอลูมิเนียมไว้ต่อเป็นท่อนๆยกกรงนกต่อไปแขวน
เสร็จแล้วปลดท่อนส่งออก คนผ่านไปมาก็จะไม่เห็นถ้าไม่สังเกตุ
ผมรับว่า การต่อนกเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน เป็นปกติในชนบท หรือตามทุ่งตามป่าเขา
แต่มันเบียดเบียนคนสังคมเมือง ที่พยายามปรับสิ่งแวดล้อม ดึงธรรมชาติมาใกล้ตัว ปลูกต้นไม้ ทำที่ให้อาหารนก
รางวัลที่ได้ ก็มีไม่กี่วันที่ได้อยู่บ้านตอนเช้า จิบกาแฟ ดูและฟังเสียงนก
จากนั้น...ผมโทรแจ้งจนท.ตร. ให้ช่วยว.แจ้งสายตรวจ ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาอีกถึง 40 นาที ตามวงรอบของสายตรวจปกติ
มันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่จนท.ต้องไปถึงโดยเร็ว เพราะเป็นเรื่องมโนสาเร่
เกิดการแจ้งเหตุเพราะมีคน(อย่างผม)ที่มุ่งหวังการแก้ไขข้อขัดแย้งของการอยู่ร่วมในสังคมด้วยวิถีทางอารยะ
ในมุมกลับ......การเพิกเฉยของจนท. ทำให้บุคคลใช้วิธีการของตนเอง เพื่อยุติการก้าวล่วงรบกวนกัน
จนท.สายตรวจคงเปลี่ยนเส้นทางในทันที ถ้าเหตุกลายเป็นพบพรานนกเป็นศพอยู่ริมถนน
หรือแจ้งข้อสงสัยว่า อุปกรณ์ที่พรานนกถือไปอาจเป็นปืนสไนเปอร์ มุ่งไปท้ายซอยนวมินทร์ 81
