มีเพื่อนสมาชิกบางท่านโทรมาขอ เรื่องสั้นว่าเดี๋ยวนี้ไม่ลงแล้วหรือ รออ่านอยู่
ก็พอดีวันนี้คุณ sakda โทรมาทวงเรื่องสั้นเหมือนกัน หลังจากวางหูกันแล้ว
ผมก็รีบเปิดโน๊ตบุ๊คปั่นต้นฉบับส่งให้เพื่อน สมช ปอล ทันที เสร็จตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
แต่เพิ่งนึกขึ้นได้ เลยเอามาโพสให้อ่านฆ่าเวลารอปืนกันนะครับ
เรื่องนี้ขอย้อนอดีตไปหลายวันนะครับ
วันนี้ผมตืนแต่เช้า มันเป็นเช้าของวันที่ 4 พฤศจิกายน ผมเดินออกมาสนามหญ้าหน้าบ้าน
พร้อมกับกระเป๋าปืนอัดลม ภายในกระเป๋าเป็นปืนอัดลมรุ่น HW100T ที่อัดลมไว้ความแรง 90 บาร์
อา...า..า...า อากาศสดชื่นเหลือเกิน ผมสูดอากาศสดชื่นยาว ๆ เข้าเต็มปอดหลายครั้ง
พลันความคิดในอดีตก็ผ่านวูบเข้ามา ผมจำได้ว่า เขาพูดกันว่าตัวผมมีลางสังหรณ์ที่สามารถใช้
ทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำ ขอใช้ลางสังหรณ์ทำนายอนาคตอีกสักครั้งเถอะ
ผมขอทำนายว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ 5 พฤศจิกายน และวันมะรืนก็ต้องเป็นวันที่ 6 พฤศจิกายนอย่างแน่นอน
ไม่เชื่อไปดูปฏิทินที่แขวนอยู่สิ เลขวันที่เรียงตามกันตรงเป๊ะ ๆ อย่างที่ผมทำนายไว้ ใช่ปะ
เอ เริ่มต้นก็ชักไม่สวยซะแล้วเพราะรู้สึกกวนทีนผู้อ่านเหลือเกิน ฮิ ฮิ
ขณะกำลังสูดอากาศสดชื่นเพลิน ๆ ทันใดนั้นสมองก็ประมวลกับอะไรบางอย่างที่วูบเข้าในความคิดอีกรอบ
ผมจำได้ว่า กลิ่นที่กำลังสูดมันกลิ่นขี้แมวนี่หว่า เมื่อคืนฝนตกพร่ำ น้ำค้างแรง ทำให้ขี้แมวทำปฏิกริยากับความชื้น
ส่งกลิ่นเหม๊นเปรี้ยวฉุนจมูก "ย้ายตำแหน่งดีกว่า ตรงนี้อยู่ใต้ลมเดี๋ยวกลิ่นขี้แมวก็จะมารบกวนอีก"
ผมคิดในใจเพราะตรงนั้นไม่มีใครสักคน ขืนพูดออกมาดัง ๆ เดี๋ยวจะหาว่าผมบ้า
ยกนาฬิกาข้อมือดูเวลา มันบอกเวลา 05.45 น. ท้องฟ้ายังไม่สว่างพอมองลายมือตัวเองได้
ผมทำนายอนาคตอีกรอบว่า อีก 15 นาที ต้องเป็นเวลา 6 นาฬิกาอย่างแน่นอน เมื่อท่านผู้อ่าน
อ่านมาถึงตรงนี้ ในวันนี้ ความจริงก็คงจะเปิดเผยแล้วว่าสิ่งที่ผมทำนายมันได้เป็นจริงขึ้นมาแล้ว....
ทำไมผมต้องออกมาสนามหญ้าหน้าบ้านแต่เช้ามืดแบบนี้ ก็เพราะว่าเหงาเหลือเกิน ใส่กระสุนไว้ 5 นัด
ในแมกกาซีนผ่านมา 1 สัปดาห์แล้วยังไม่ได้ยิงสักนัด กระเป๋าปืนชักหนักขึ้น ผมวางกระเป๋าปืนบน
สนามหญ้าที่ยอดหญ้ายังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำค้าง กระเปียกไม่เป็นไรปืนอย่าเปียกก็แล้วกัน
พอวางกระเป๋าปืนเสร็จผมก็ปลดล๊อกฝากระเป๋าทั้ง 4 เพื่อให้พร้อมเปิดกระเป๋าหยิบปืนใช้งานทันที
ใช่แล้วครับ ผมมาดักรอกระรอกหรือนกพิราบในตอนเช้า เพราะทุกวันก่อนหน้านี้ผมใช้เวลาสายกว่านี้
ผมจึงคาดว่ามันจะต้องมีกระรอกและนกพิราบบางตัวที่ชอบออกจากรังในช่วงแสงพระอาทิตย์
กำลังโผล่พ้นขอบฟ้า
ระหว่างรอ ผมก็ทำโยคะดัดหน้า หลัง ก่อนรำมวยจีนตามตำราวิชาการต่อสู้ สูโด เคยได้ยินไหม
ถ้าไม่เคยได้ยินก็ปล่อยมันผ่านไปเถอะไม่ต้องไปค้นหาเพราะผมคิดคำนี้ขึ้นมาเอง จำไม่ได้เหมือนกันครับ
ขณะกำลังร่ายรำเพื่อเป็นการวอร์กล้ามเนื้อเหี่ยว ๆ พลันก็ได้ยินเสียงสวดให้พร อยู่ข้าง ๆ รั้ว
ผมรีบหยุดแล้วนั่งลงหันไปยังทิศที่เสียงสวดให้พรดังมา พร้อมประนมมือไหว้แต้ หลับตาพริ้มเพื่อรับ
เอาบุญกับเขาบ้าง ในใจก็ฉุกคิดได้ว่า เออ ดีเหมือนกันวะ ประหยัดดี บาตรก็ไม่ต้องใส่แถมได้บุญมาฟรี ๆ อิ อิ
พอเสียงสวดจบ ผมรีบพลิกนาฬิกาข้อมือกดปุ่มให้หน้าปัดเรืองแสง จากเข็มนาฬิกาบอกเวลา 05.50 น.
"ทำไมหลวงพ่อมาเช้านัก" ผมคิดในใจ ก็ทุกทีหลวงพ่อจะมาตอน 6.30 น. ผมจำได้แม่น
หรือว่าที่วัดเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ หลวงพ่อจึงต้องขยันมากกว่าเดิม อะไรกันวะไอ้ระบบรีเอนจิเนียริ่ง
มันลามเข้าไปถึงวัดแล้วหรือ นานเป็นปีมาแล้วผมจำได้ว่าผมเคยประทับปืนเล็งสูงข้ามรั้วไปยัง
กระรอกที่เดินอยู่บนสายไฟฟ้า แต่ยิงไม่ได้เพราะใต้กระรอกมีเสียงสวดมนต์ให้พรแก่ผู้ตักบาตร
กว่าเสียงให้พรจะจบกระรอกก็เดินผ่านจุดยิงไปแล้วแต่ยังไปไม่ไกล ตอนนั้นผมก็ยังสอยได้
แต่ก็ยังยิงไม่ได้อยู่ดี เพราะหลังให้พรเสร็จก็ยังคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันต่ออีกสักพัก พอคุยจบ
กระรอกก็หายไปจากสายตาแล้ว
มาวันนี้เสียงให้พรเงียบแล้ว ผมนิ่งใช้หูที่ตึงดักฟังเสียงผิดปกติจากนอกรั้ว ว่ายังมีเสียงกระแอม
ของหลวงพ่อหรือเปล่า ทุกอย่างเงียบหมด คิดว่าคนตักบาตรคงกลับไปนอนต่อแล้ว
ผมกดไฟดูนาฬิกาอีกที 05.55 น. ท้องฟ้าสว่างรำไรแล้ว ผมมองสูงข้ามรั้วไปตามแนวสายไฟ
ที่ยาวหายไปหลังซอยตัน พลันสายตาก็เห็นจุดขาว ๆ เล็กอยู่บนสายไฟ ผมเพ่งมองจึงเห็นว่า
จุดขาว ๆ เล็ก ๆ ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้ามาหา ใช่แน่แล้วกระรอก
ไวเท่าความคิดผมรีบกลับมาหน้าเทอเรส มือซ้ายคว้าขาตั้งปืนและกลับมายังกระเป๋าปืนที่วาง
อยู่กลางสนามหญ้า ค่อมตัวลงใช้มือขวาเปิดกระเป๋าปืนให้แบบหงายแล้วคว้ากระโจมปืนติดมือ
ดิ่งไปที่ริมรั้วข้างต้นมะพร้าว วางขาตั้งปืนก่อนแล้วเอาปืนพาดบนรางทีทำไว้รับหน้าที่พาดปืนโดยเฉพาะ
ยังมีเวลาอีกมาก ระยะยิงไกลมากราว 50 เมตร ตอนนี้พบว่าปืนสูงไปต้องเขย่งยิง คงเพราะครั้ง
สุดท้ายยิงใกล้กว่านี้มาก ผมรีบหมุนก้านปรับความสูงของที่พาดปืนให้ต่ำลงจนประทับได้สะดวก
ไม่ต้องเขย่งเท้าเหมือนเมื่อสักครู่อันจะทำให้ปืนสั่นได้
ประทับปืนเล็งไปยังจุดขาวบนสายไฟ ต่อมาใช้มือซ้ายเอื้อมปรับหมุนปุ่มโฟกัสไปที่ 70 หลา
ภาพชัดแจ๋วตามสภาพ ราคากล้อง แต่ถ้าเอาไปเทียบกับ กล้องราคาหมื่นความใสของภาพต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
ผมหมุนปรับโฟกัสลดระยะมาที่ 50 หลา ดักกระรอกล่วงหน้า พยักหน้าหงึก ๆ เพื่อเช็คพาราแลกกับสายไฟ
ปรับละเอียดจนพาราแลกไม่มี สายไฟไม่กระดิก จึงละมือขวาดึงก้าน side level ให้สุดและผลัก
ดันกลับที่เดิมอย่างแผ่นเบา เกรงกระรอกจะได้ยิง
รอไม่นานกระรอกสีขาวก็โผล่เขามาในเลนส์ มันหยุดเหมือนรอให้ผมยิง เอาไงดี ผมคิดในใจ
ระยะ 50 หลาแรงดันลม 90-100 บาร์
ผมปรับศูนย์เล็งไว้ที่ระยะ 26 เมตร แต่นี้เป็นการยิงระยะ 45 เมตร ทำไงดีจะต้องเล็งเผื่อสูงไหม
ดูหลังกระรอกเป็นหลังคาบ้านชั้นเดียวทำด้วยสังกะสี ความแรงกระสุนถ้ายิงพลาดก็ไม่น่าจะทะลุสังกะสีได้
เพราะแนวกระสุนไม่ได้วิ่งเข้าหาแบบตั้งฉากกระสุนก็คงจะแฉลบและหมดแรงก่อนถึงสันหลังคา
สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อย ๆ ผ่อน มือขวาดึงปืนแนบแน่นกับซอกไหล่ ผ่อนลมหายใจจนรู้สึกว่า
ไม่แรงกดดันในอกก็กลั้นแล้วนิ่งปรับกากะบาทให้อยู่ระดับเหนือลำตัวกระรอกครึ่งดอท นิ้วขวาเหนี่ยวลากไก
จนปืนลั่นออกไปเอง สิ้นเสียงปืนอัดลมตัวแรง ก็มีเสียงกระสุนกระทบตัวกระรอก คิดว่าความแรง
กระสุนคงไม่พอกระรอกจึงสามารถเกาะสายไฟได้สักพักแล้วก็หมดแรงปล่อยตัวร่วงหล่นจากสายไฟ
ลับตาหายไปหลังสันกำแพง
ขณะกำลังเดินถือปืนมาที่กระเป๋าเพื่อจะเก็บก่อนออกไปซื้อหาอาหารให้ภรรยากับลูกสาว ด้วยความเคยชิน
ก็มองสูงไปยังต้นพยุงริมรั้วสุดเขตบ้านที่ห่างออกไประยะ 27 เมตร พลันก็เห็นเงาสีดำวูบวาบไปตามกิ่ง
ต้นพยุงใหญ่หน้าบ้าน แม้ว่าจะเห็นไม่ชัดแต่ก็ค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นกระรอกแน่นอน
ผมรีบค่อมตัววิ่งย้อนไปคว้าขาตั้งกล้อง ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะค่อมตัวไปทำไมก็ไม่รู้
ของมันเคยนะครับ สงสัยเคยตัวตอนเวลามีจานบินตามหลังต้องค่อมตัววิ่งหลบหลีก หลังคว้าขาตั้งกล้องได้
ก็นำมาตั้งกลางสนามในจุดที่สามารถมองเห็นต้นไม้ใหญ่ทั้งต้น ผมรีบพาดปืนหมุนโฟกัสเลย 25 เมตร
หรือราว 30 หลา ไม่มีเวลาเช็กพาราแลกแล้วตอนนี้ต้องรีบแข่งกับเวลา ผมจึงหมุนวงแหวนขยายจาก 10
มาเป็น 5 เท่า เพื่อลดพาราแลกให้เหลือน้อยที่สุดในเวลาเร็วที่สุดและได้ภาพมุมกว้างกว่าปกติ
เพราะกระรอกตัวนี้ไม่อยู่นิ่ง หลังปรับแล้วประทับปืนจึงพบว่าปลายปืนกดต่ำลงไปเพราะเมือตะกี้เป็น
การยิงระยะไกลจึงลดความสูงของที่พาดลง แต่ถ้าต้องหมุนปรับให้สูงขึ้นคงต้องเสียเวลาอีกอาจทำให้พลาด
โอกาสไปได้
รูปต้นไม้ใหญ่ที่กระรอกชอบมากินเปลือกและเวะมากัดสายพ่นน้ำกล้วยไม้จนเสียหายหมด
ตั้งแต่นั้นมาเลยเก็บสายน้ำเลิกเลี้ยงกล้วยไม้แล้วซื้อปืนอัดลมมายิงกระรอกกับนกพิราบ
คิดได้จึงรีบยกปืนออกจากที่พาดแล้ว บรรจุกระสุน 1 นัดก่อนนั่งลงกับสนามหญ้า หันหน้าไปทางต้นไม้ใหญ่
เอื้อมมือซ้ายออกไปด้านหน้ากำนิ้วทั้งสี่จับขาตั้งปืนไว้แล้วเอาปืนพาดง่ามหัวแม่มือ หากแนวปืนต่ำไปก็เลือนมือซ้ายขึ้น
หากแนวปืนสูงไปก็ลดมือซ้ายลง เล่นเอาเถิดกับกระรอกดำตัวนี้
กากะบาทกล้องเลื่อนตามกระรอกไปทุกที บางครั้งมันก็หลายไปจากเลนส์กล้องทำให้ผมต้องละสายตาจาก
จากกล้องเล็งมองสำรวจดูกระรอกในมุมกว้างด้วยตาเปล่า พอเห็นก็ประทับเล็งจี้เข้าไปหาเป้าหมายที่วิ่งไปมา
จากกิ่งโน้นมากิ่งนี้ หากกระรอกไปกิ่งพุ่มไหนก็จะมีนกที่อาศัยเกาะต้นไม้ใหญ่นี้เป็นรังนอนร้องส่งเสียง
เจี๊ยวจ๊าวไปหมด ผมก็อาศัยนกแตกรังเป็นตัวช่วยให้รู้ว่ากระรอกน่าจะอยู่ในพุ่มนั้นพุ่มนี้
จากการรอให้เป้าหยุดนิ่งเป็นเวลานานเช่นนี้ หากเป็น hw97k ผมคงต้องยิงกระสุนทิ้งไปก่อนที่จะเส้นสปริง
จะมีแรงเค้นเกินจุดวิกฤตจนไม่อาจคืนยืดตัวได้อย่างเต็มที่เช่นเดิมของมัน
ในที่สุดการรอคอยของผมก็มาถึง กระรอกดำตัวนี้หยุดวิ่งและเกาะด้านหลังลำต้นไม้ใหญ่
ระดับความสูงประมาณ 3 เมตรกว่า ผมมองไม่เห็นลำตัวมัน แต่บริเวณด้านขวาริมขอบลำไม้
ผมเห็นส่วนใต้คางกระรอกที่ผลุบโผล่ไม่นิ่งอยู่หลังลำต้นไม้ มันโผล่คางออกมาหนึ่งครั้งแล้ว
ผลุบเข้าไปคิดว่าน่าจะโผล่ออกมาอีก
แล้วก็เป็นดังคาด กากะบาททาบกลางคางกระรอกดำ ผมดึงปืนให้พานท้ายกระชับซอกไหล่
มือซ้ายกำขาตั้งและนิ้วหัวแม่มือบีบกระโจมปืนอัดแน่นกับขาตั้ง หัวกระรอกผลุบหายไปหลังต้นไม้ใหญ่อีกแล้ว
ผมประทับปืนเช่นเดิม หายใจเข้าและผ่อนออกช้า ๆ จัดกากะบาทไว้ที่เส้นขอบผิวไม้ตรงจุดที่คางกระรอกโผล่
ในเสี้ยววินาทีนั้นคางกระรอกดำก็โผล่มาที่เดิม ผมเลื่อนกากะบาทกล้องเล็งให้ออกห่างขอบไม้ไปทางขวาอีกนิด
แต่ยังอยู่ในคางกระรอก เป็นการเล็งเผื่อหากกระสุนกินซ้ายจะได้ไม่กระทบไม้ และถ้าหากกระสุนกินขวาก็ยัง
มีสิทธิโดนปลายปากกระรอก แต่ถ้าเข้าจุดกลางกากะบาทก็ยังหยุดเป้าหมายได้เหมือนเดิม ถ้ากระสุนพลาด
ก็ยังไปโดยลำต้นใหญ่ด้านหลัง ปลอดภัยแน่นอนมุมยิงตรงนี้
พอกากะบาทเลื่อนออกมานิ่งห่างขอบไม้ประมาณ 1 เซนติเมตร ด้านหลังกากะบาทเป็นคางกระรอก ผมก็เหนี่ยวไก
ค่อนข้างเร็ว ด้วยไกถูกเซทมาเบาปืนจึงไม่มีอาการกระตุก เสียงปืนอัดลมดังทำลายความเงียบ พร้อมกับเสียง
กระสุนกระทบคางกระรอกดังติด ๆ กัน แสดงว่าความเร็วกระสุนในระยะ 25 เมตรยังมีแรงสังหารอยู่มาก
จากความสูงประมาณ 3 เมตรกว่า หลังลำต้นไม้ใหญ่ที่เอียงสูงขึ้นไป มีร่างขนปุยสีดำหล่นลอยละลิ่ว
ลงมายังพื้นดิน ผมเดินไปสำรวจร่างที่ไร้วิญญานของกระรอก พบว่ากระสุนเข้าใต้คางตรงบริเวณ
ตำแหน่งที่เล็งไว้ แรงกระสุนเจาะทะลุกระโหลกหายไป คิดว่ากระรอกตัวนี้คงไม่ทันเจ็บและอาจ
ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไปว่าตัวมันได้หมดลมหายใจไปแล้ว....
บนแท่งเหล็กปลายเสาไฟฟ้า มักจะมีเหยี่ยวถลาลมมาเกาะรอโฉบเอาลูกไก่ไปทาบบ่อย ๆ
ผมมีเรื่องเหยี่ยวถลาลมอีกตอน เอาไว้จะหาเวลามาเล่าให้ฟังนะครับ
เล็บน่ากลัวไหมครับ สมัยตอนเด็กผมเคยโดนเล็บแบบนี้จิกไข่ เอาไว้จะพลอตเรื่องมาเล่าให้ฟังกันสนุก ๆ นะครับ