หวัดดีครับ พี่ๆทุกท่าน
ถ้าผมจะซื้อปืนลม เบอร์ 2(ปืนยาว) งบประมาณ 1.5 k - 3kควรเลือกอย่างไรดี(ขอคำแนะนำครับ)
1. ยี่ห้ออะไรดีครับ ขอมีทางเลือกซัก 3 ยี่ห้อ 1......2......3.......
2. Operation System ควรเป็นแบบไหน เช่นหักลำกล้อง หรือ Fixed barrel - Under lever หรืออื่นๆ
3. ร้านที่บ้านเรา(อาจจะหลังวังหรือที่อื่นๆ) มีร้านอะไรขายบ้าง และมียี่ห้อและรุ่น อะไรบ้าง เนื่องจากผมดูบางยี่ห้อบาง รุ่น ในWeb แต่ไม่รู้บ้านเรามีขายหรือเปล่า
_/|\_ขอบคุณมากครับ
11mmman
ถ้าจะซื้อปืนอัดลมที่ราคาอยู่ในระดับ 15k - 30k ที่ใช้เอามายิงเล่นซ้อมเป้าหรือไล่สัตว์ ผมมียี่ฮ่อนึงครับน่าจะเหมาะดีครับเเละมีขายตามแถววังบรูพา รุ่น Diana M52 นับว่าเป็นปืนอัดลมที่ทนทานแข็งแรงมาก Diana M 52 กระบอกนี้จัดอยู่ในระดับปืนอัดลมแม็กนั่มได้อย่างไม่ขัดเขินแต่อย่างใด เพราะความเร็วปากลำกล้องของ M 52 เบอร์ 2 อยู่ที่ระดับ 900 ฟุต/วินาที ซึ่งคำนวณเป็นพลังงานได้ถึงกว่า 20 ฟุต-ปอนด์เลยทีเดียว
Diana M 52 จัดเป็นปืนลมสำหรับผู้ใหญ่อย่างแท้จริง โครงสร้างแข็งแรงบึกบึน พานท้ายทำด้วยไม้เนื้อแข็ง
เต็มไม้เต็มมือ น้ำหนักปืนปาเข้าไปถึง 8.5 ปอนด์ (3.8 กิโลกรัม) หนักกว่าปืนไรเฟิลขนาดใหญ่บาง
กระบอกซะอีก ฝีมือในการทำถือว่าอยู่ในระดับสุดยอดกระโจมมือและคอปืนมีการอัดลายเช็คเกอร์
เรียบร้อยสันพานท้ายมียางรองราวกับไรเฟิล .375 เอชแอนด์เอช แม็กนั่ม
ศูนย์หน้าตั้งอยู่บนฐานอย่างแข็งแรง สามารถเลื่อนปรับสูงต่ำได้ศูนย์หลังแบบไมโครมิเตอร์แบบมี
คลิกสามารถปรับสูงต่ำและซ้ายขวาได้
ผมว่าถ้าจะซื้อ m52ตอนนี้ น่าจะไม่ต่ำกว่า35000นะครับตอนผมไปซื้อกะว่าจะเอาเหมือนกันแต่ไม่มีมีแต่ m48 ราคา35000ครับเลยต้องเอา m34 มา 25000เขาบอกตอนนี้m34 28000 แล้วครับไม่รู้จริงหรือปล่าวลองโทรไปถามดูต่อนิดครับผมเคยไปจองฮัทซันไว้ที่ร้านม.อะ..เหมือนกันลองจับลองยิงดูมันหนักมากครับและคนขายก็พูดดีมากครับบอกว่าความแม่นเป็นลองเดียน่าดังนั้นผมจึงเลือกเดียน่าทั้งๆที่ถูกกว่ากันเกือบหมื่นบาท
ครับที่มีขายปืนลมก็มีไม่กี่ร้านที่รู้ก็มี
ห้างฯ ปืนรัตนา
เลขที่ 105 สี่แยกอุณากรรณ ถ.เจริญกรุง เขตพระนคร กทม.10200
Tel. 0-2221-4638, 0-2222-3054, 0-2222-0314 Fax. 0-2226-2938
ร้านปืนพรมีลาภ 02-225-8799 / 02-621-2908-9
ข้อมูล Hatsanครับมีคนส่งไปให้ผมตอนหาข้อมูลซื้อปืนอัดลมสงสัยจะเป็นอ.ผณิศวร เขียนครับ
ฮัทซาน อัดลมยาวแบบสปริงลูกสูบ Hatsan M.75, M.100
ยี่ห้อใหม่จากแหล่งผลิตใหม่ ด้วยคุณภาพระดับโลก
ผณิศวร ชำนาญเวช รายงานการทดสอบ
ด้วย เหตุผลทางเศรษฐกิจ (ค่าเงิน) และสังคม (กฎข้อบังคับ) ทำให้ปืนแพงขึ้นไปเรื่อย ลูกกรดยาว "ซีแซด" ที่ขายกันกระบอกละหมื่นต้นๆ มาหลายปี ขยับขึ้นเป็นหมื่นกลางๆ เมื่อปีกลาย และทะลุสองหมื่นจนถึงสองหมื่นกลางๆ ในปีนี้เองครับ ลองคิดย้อนกลับไปเมื่อสมัยผมเรียนจบใหม่ๆ เงินเดือนวิศวกร ปริญญาตรีสามพันกว่าบาท ราคาปืนยาวซีแซดสองพันต้นๆ มาถึงวันนี้เงินเดือนบัณฑิตจบใหม่ต้องสองเดือนถึงจะพอซื้อปืนลูกกรดรุ่นยอด นิยมนี้ได้ จะว่าปืนแพงขึ้นไปมากก็ไม่เชิง เพราะเมื่อเทียบราคาทองคำแล้วยังเท่าๆ เดิมครับ คือประมาณทองคำหนักสามบาทกว่านิดหน่อย แสดงว่าคนไทยได้เงินเดือนน้อยลง ซึ่งแปลต่อไปได้อีกว่าระบบเศรษฐกิจไทยสร้างคุณค่าสินค้าและบริการได้ต่ำ จึงจ่ายเงินเดือนคนไทยได้น้อยลงตามส่วน
ความจริงแล้ว ราคาปืนลูกกรดซีแซดจัดว่าถูกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับปืนยุโรปยี่ห้ออื่น และเจ้าซีแซดลูกกรดนี่แหละครับ เป็นคำตอบหนึ่งสำหรับท่านที่สงสัยว่าทำไม่บ้านเราจึงไม่ค่อยนิยมปืนยาวอัด ลม เนื่องจากปืนยาวอัดลมระดับที่คุณภาพใช้ได้จากเยอรมันมักจะแพงเท่าๆ หรือแพงกว่าลูกกรดยาวจากเช็คยี่ห้อนี้ เมื่อปืนอัดลมก็ต้องขออนุญาตทำทะเบียนเหมือนกัน คนไทยจึงหันไปเล่นลูกกรดกันหมด
สมมุติว่า มีปืนอัดลมที่คุณภาพ "ระดับโลก" อย่างที่ผมจั่วหัวเรื่องไว้ เข้ามาขายบ้านเราในราคาที่ถูกกว่าซีแซดลูกกรดเกือบครึ่ง.... อย่างนี้พอจะมีทางทำตลาดได้บ้างหรือไม่ รอดูอีกไม่นานคงทราบครับ เพราะปืนอัดลมที่ว่านี้ มีตัวจริงแล้วไม่เพียงสมมุติ ถ้าการขออนุญาตไม่ยุ่งยากจนเกินไปนักน่าจะพอเป็นทางเลือกใหม่ให้นักนิยมปืน บ้านเราได้
ปืนยี่ห้อใหม่ที่ว่านี้ คือ "ฮัทซาน" (Hatsan) จากตุรกี ครับ ผมกล้าเริ่มเรื่องว่าเป็นปืนคุณภาพระดับโลก เพราะก่อนหน้าจะได้รับปืนมาทดสอบนี้ มีโอกาสสัมผัสตัวจริง ยิงเล่นมาบ้างแล้ว ปืนยี่ห้อนี้เข้าขายในสหรัฐฯ ติดยี่ห้อ "เดซี" (Daisy) ซึ่งชื่อนี้เชื่อได้ว่านักยิงปืนอเมริกันทุกคนต้องคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะเป็นผู้สนับสนุนการยิงปืนลมตั้งแต่ระดับประถม โดยผนวกไปกับการฝึกลูกเสือ
ห้างฯ ม.ฮะกีมี ส่งปืนฮัทซานมาให้ทดสอบสองรุ่นครับ เป็นปืนสปริงลูกสูบใช้กระสุนเบอร์สองทั้งคู่ ตัวแรกโมเดล 75 คาโม แบบหักลำกล้อง โลหะสเตนเลสส์ พานท้ายไฟเบอร์ลายพราง อีกตัวหนึ่งโมเดล 100 แบบใช้คันง้างใต้ลำกล้อง พานท้ายไม้วอลนัท มีกล้องสำหรับปืนอัดลมของบุชแนลส่งมาให้พร้อมขารัดกล้องหนึ่งชุด ซึ่งเมื่อพิจารณาดูแล้ว ตัดสินใจว่าติดทดสอบกับโมเดล 100 เหมาะกว่าเนื่องจากเป็นปืนที่ลำกล้องติดตั้งกับโครงปืนอย่างมั่นคง โอกาสจะเกิดปัญหาน้อยกว่าแบบหักลำกล้องครับ
ดูตัวกันก่อนครับ โมเดล 75 คาโม จัดว่าเป็นปืนอัดลมสำหรับผู้ใหญ่ ความยาวพานท้าย 35 ซม. ก็เกือบๆ 14 นิ้วครับ ที่น่าสนใจคือส่วนโลหะเป็นเหล็กปลอดสนิม ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นปืนลมใช้โลหะนี้ และเมื่อมาประกอบกับพานท้ายไฟเบอร์ทำให้เป็นปืนที่ดูแลง่ายมาก น้ำหนักตัวปืน ในคู่มือบอกไว้ 3000 กรัม ชั่งจริงได้เกินมาขีดครึ่ง คือ 3150 กรัม จัดว่าเบาครับ คอปืนแกะลายกันลื่น กระโจมเสริมด้านล่างเป็นปีกออกมาหนา ช่วยให้จับได้ถนัดและเสริมความแข็งแรงเพราะกระโจมของปืนลมลักษณะนี้ต้องผ่า เพื่อให้ขายันลูกสูบทำงานได้เมื่อหักลำกล้อง
ลองประทับเล็งดู ศูนย์หลังมีจุดเขียวสองข้าง ศูนย์หน้ามีจุดแดง ซึ่งชุดศูนย์นี้เป็นของ "ทรูโกล" (Tru-Glow) เล็งได้ง่าย แนวสันพานท้ายไม่สูงเกินไปสำหรับศูนย์เปิด ศูนย์หลังปรับซ้ายขวาสูงต่ำได้ ศูนย์หน้ามีครอบศูนย์กลมเพื่อช่วยในการจับปลายลำกล้องหักขึ้นลำ โดยะด้านหน้าของครอบศูนย์ปาดออกให้แสงกระทบเส้นพลาสติกรวมแสงได้เต็มที่ ศูนย์หลังติดตั้งที่ท้ายลำกล้อง เมื่อหักลำจะติดไปด้วยกันไม่ต้องปรับแก้เมื่อยางซีลท้ายลำกล้องสึกและปลาย ลำกล้องเริ่มชี้สูงขึ้น
ทดลองหักลำขึ้นสปริง เมื่อหักลำกล้องลงสุดแล้ว ปืนจะเข้าห้ามไกอัตโนมัติ หลังจากบรรจุกระสุนเข้าท้ายลำกล้องและปิดลำกล้องเข้าที่แล้ว ต้องปลดห้ามไกโดยง้างกลับเหมือนปืนลูกซองเดี่ยวนกนอกปืนจึงจะพร้อมยิง การทำงานของห้ามไกมีจุดที่ต้องตั้งข้อสังเกตไว้ คือ ไม่สามารถจะผ่อนสปริงกลับโดยไม่ยิงได้ ตามปกติปืนอัดลมสปริงลูกสูบแบบหักลำ ถ้าง้างแล้วไม่ต้องการยิงสามารถหักลำกล้องลงมาจนสุด จับลำกล้องไว้ให้มั่นคงแล้วเหนี่ยวไก ค่อยๆ ผ่อนลำกล้องกับเข้าที่ได้เป็นการคลายสปริง แต่สำหรับฮัทซาน เมื่อหักลำกล้องเข้ามาสุดจะไม่สามารถปลดห้ามไกได้ ทำให้เหนี่ยวไกเพื่อผ่อนสปริงไม่ได้ ต้องบรรจุกระสุน ปลดห้ามไกแล้วยิงออกไปจริง ห้ามยิงโดยไม่บรรจุกระสุนนะครับ หน้าลูกสูบจะชำรุดได้
ยิงนัดแรก... โอ้โห เสียงดังยิ่งกว่าลูกกรดพร้อมกับควันออกฉุย ซึ่งแสดงอาการ "ดีเซล" คือมีน้ำมันในกระบอกสูบ เมื่อเกิดแรงดันสูงถึงจุดชวาลจึงระเบิดเหมือนในกระบอกสูบเครื่องดีเซลครับ เป็นนัดแรกนัดเดียวหลังจากนั้นไม่พบอีก ปืนลมสปริงแรงสูงระดับนี้ กระแทกแรงกว่าลูกกรดครับ มีคำแนะนำคือ ถ้าจะพาดยิงต้องหาผ้าหรือวัสดุนุ่มๆ มารองกระโจม อย่าพาดกับผิวแข็งๆ นะครับ สำหรับ โมเดล 75 กระบอกนี้ หลังจากยิงทดสอบแล้วมีจุดเดียวที่อยากขอปรับแก้คือ น้ำหนักไกครับ จากโรงงาน 7 ปอนด์หนักไปหน่อย ปรับให้เบาลงเหลือสัก 4 ปอนด์ จะดีมาก
ด้าน ความประณีตของฝีมือผลิต มีสองจุดที่ดูขัดกันอยู่ คือ โกร่งไกกับตัวไกที่เป็นพลาสติก ทำให้เสียความรู้สึกเล็กน้อย แต่อีกจุดหนึ่งที่ต้องยกย่อง คือการเซาะร่องสอดรับกันที่สลักของขายันสปริงใต้ลำกล้องครับ จุดนี้เพิ่มต้นทุนการผลิตพอสมควร แต่ผลที่ได้คืออายุใช้งานที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวสำหรับสลักที่รับแรงมาก ตรงตำแหน่งนี้ เพราะการเซาะร่องเพิ่มเท่ากับเป็นการเพิ่มพื้นที่หน้าตัดของสลักรับแรงอีก เท่าตัวครับ ถ้าไม่เซาะร่องที่ขายันสปริง ตัวสลักจะต้องรับแรงเฉือนสองจุด แต่เมื่อเซาะร่องสอดรับกันแบบนี้แล้ว ตำแหน่งรับแรงเฉือนจะเพิ่มเป็นสี่จุดครับ
ลองมาดูโมเดล 100 กันบ้าง เปรียบเทียบกันแล้ว 75 คาโม เหมือนรถกระบะพร้อมลุยทางลูกรัง ส่วนโมเดล 100 เหมือนรถเก๋งระดับหรูครับ ผิวโลหะรมดำเรียบร้อยดี เนื้อไม้สวย คอปืนไม่แกะลาย ระยะศูนย์ยาวกว่าเล็กน้อย ตัวศูนย์เป็นแบบเดียวกันคือมีจุดเรืองแสงเขียวที่ศูนย์หลัง แดงที่ศูนย์หน้า แนวพานท้ายต่ำกว่าโมเดล 75 น้ำหนักตัวมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อติดกล้องเล็งเพิ่มเข้าด้วย
ระบบคันง้างของฮัทซาน จัดว่าทำได้ดีมากครับ เบาแรงกว่าหักลำกล้อง ส่วนปลายคันง้างมีตัวล็อก ปลดโดยดึงเข้ามาทางโคนลำกล้อง ง้างคันง้างลงมาสุดแล้วปืนเข้าห้ามไกอัตโนมัติเหมือนโมเดล 75 และเหนี่ยวไกคลายสปริงไม่ได้เหมือนกัน หลังจากง้างสุดแล้วปิดคันง้างเข้าที่ได้เลย อย่าเพิ่งปลดห้ามไกนะครับ เปิดท้ายลำกล้องโดยปลดล็อกตัวปิดท้ายที่ด้านซ้าย ยกแท่งปิดท้ายลำกล้องขึ้นด้านบน บรรจุกระสุนเข้าที่ท้ายลำกล้องโดยตรง ระวังขอบเหลี่ยมหน้าลูกสูบบาดนิ้ว บรรจุกระสุนแล้วปิดท้ายลำกล้องลงมา ค่อยปลดห้ามไกพร้อมยิง
ในด้านความแรงของปืนคู่นี้ เท่ากันครับ ตามคู่มือสำหรับกระสุนเบอร์สองความเร็วต้น 700 ฟุต/วินาที ที่ถือว่าแรงมากแล้วครับ คิดพลังงานได้ประมาณ 16 ฟุต-ปอนด์ ถ้าขายในอังกฤษต้องขออนุญาตเพราะเกินพิกัด 12 ฟุต-ปอนด์ครับ ปืนที่ฮัทซานส่งเข้าไปขายในอังกฤษจะใช้สปริงอ่อนกว่านี้ โดยทำความเร็วได้ 570 ฟุต/วินาที เพื่อให้พลังงานไม่เกิดกำหนด สำหรับความแม่นยำ ในระยะ 10-15 เมตร เป้าขนาดผลมะนาวไม่พลาดครับ ปืนสปริงลูกสูบที่ไม่มีระบบเก็บแรงกระแทกยิงค่อนข้างยาก ต้องทำความคุ้นเคยพอสมควร
ด้านการดูแลรักษา นอกจากเช็ดผิวภายนอกแล้ว โรงงานแนะนำให้หยอดน้ำมันทุกๆ 250 นัดครับ ในกระบอกสูบใส่แค่หยดเดียวพอ
ของ แถมสำหรับการทดสอบเดือนนี้ ขั้นตอนการติดกล้องครับ ใช้โมเดล 100 เป็นนายแบบ เริ่มจากตรวจปืนให้มั่นใจว่าปลอดภัยไม่มีกระสุน ติดขากล้องตัวหลังเข้าที่หน้าแป้นกันเคลื่อน (กล้องจะเคลื่อนถอยหลัง คล้ายรูเกอร์ 10/22 แต่กลับทางกับปืนลูกเลื่อน) ทดลองวางกล้องให้แน่ใจว่าไม่ติดขัดส่วนหน้าส่วนหลัง สามารถเลื่อนตัวกล้องหน้าหลังได้พอสมควรแล้วจึงขันสกรูยึดขากล้องตัวหลัง นี้ให้แน่นกับโครง วางขากล้องตัวหน้า ปรับโฟกัสเลนซ์ตาของกล้องโดยยกส่องไปที่ผนังเรียบ จากนั้นวางกล้องลง ค่อยๆ ขยับสกรูรัดแหวนหน้าหลัง ตรวจสอบระยะห่างตา เมื่อประทับปืนต้องเห็นภาพเต็มจอกล้องนะครับ ในขั้นตอนนี้ก็หมุนกล้องให้เส้นกากบาทอยู่ในแนวดิ่งแนวระนาบถูกต้องจึงขัน สกรูให้แน่น และสำหรับปืนที่ไม่สามารถเล็งผ่านรูลำกล้องแบบปืนลูกเลื่อนได้ สามารถปรับกล้องคร่าวๆ ก่อนเริ่มยิงโดยมองย้อนจากด้านหน้า (ขออนุญาตไม่ลงรูปนะครับ) ให้เห็นเส้นกากบาทอยู่กลางภาพกลมของเลนซ์กล้องเล็งเมื่อมองในแนวขนานกับลำ กล้อง ถ้ากากบาทอยู่เยื้องข้างไปมากให้ปรับกล้องจนกากบาทเข้ามาอยู่ตรงกลางครับ จากนั้นจึงเริ่มยิงทดสอบศูนย์ กล้องบุชแนลรุ่นนี้ ปรับโฟกัสเลนซ์ด้านหน้าได้ด้วย ใช้กับปืนลูกกรดก็เหมาะมากครับ
สรุป สำหรับฮัทซาน อัดลมยาวแรงสูงคู่นี้ ในด้านคุณภาพสอบผ่านสบายๆ สำหรับปืนยี่ห้อใหม่ครับ ท่านที่บริเวณบ้านมีสนามกว้าง กำแพงมิดชิด สามารถใช้ยิงเล่นได้ไม่ต้องไปสนามยิงปืน ความแรงเหลือเฟือสำหรับสัตว์รบกวนระดับนก/หนู ใช้ฝึกเด็กได้โดยผู้ใหญ่ต้องควบคุมและช่วยขึ้นสปริงให้นะครับ ดูตัวจริงได้ที่ ม.ฮะกีมี
*************
ข้อมูลจำเพาะ
- Hatsan Model 75 หมายเลข 01060 (นม. ๐๑/๔๘๕๐๐๔๒)
- Hatsan Model 100 หมายเลข 05063 (กท. ๔๗๕๒๗๖๖)
ลักษณะทั่วไป ปืนอัดลมขนาดใหญ่ สำหรับใช้งานสนาม
ระบบการทำงาน สปริงลูกสูบ : (M.75) หักลำกล้อง, (M.100) คันง้างใต้ลำกล้อง
ขนาดกระสุน เบอร์ 2 (.22 นิ้ว, 5.5 มม.)
ความจุ 1 นัด
ลำกล้อง 450 มม. 12 เกลียว เวียนขวา
ยาวตลอด (M.75) 1140 มม., (M.100) 1150 มม.
ศูนย์หน้า แบบแท่ง มีตุ่มกลมสอดแท่งรวมแสงสีส้ม เฉพาะ M.75 มีครอบศูนย์
ศูนย์หลัง รูป U ปรับซ้ายขวาสูงต่ำ ติดแท่งรวมแสงสีเขียวสองจุด
ระยะห่างศูนย์ (M.75) 400 มม., (M.100) 540 มม.
ความยาวพานท้าย 350 มม. จากส้นพานท้ายถึงหน้าไก
แนวสันพานท้าย (M.75) 53 มม., (M.100) 60 มม. จากแนวศูนย์
แรงเหนี่ยวไก 7 ปอนด์
น้ำหนักปืนเปล่า (M.75) 3150 กรัม, (M.100) 3900 กรัม
ระบบความปลอดภัย ห้ามไกอัตโนมัติ (ปลดห้ามไกเหมือนง้างนก)
วัสดุ (M.75) เหล็กปลอดสนิม พานท้ายไฟเบอร์, (M.100) เหล็กดำ ไม้วอลนัท
อื่นๆ ติดรางรับแหวนรัดกล้อง พร้อมแป้นกันเคลื่อน
ผู้ผลิต Hatsan Arms, Turkey (
www.hatsan.com.tr)
ผู้นำเข้า ห้างฯ ม.ฮะกีมี
*******************
